ก่อนเป็นสมเด็จ ลีลาวาทะสมเด็จโตฯ (Somdej Toh)#1

ก่อนเป็นสมเด็จ ลีลาวาทะสมเด็จโตฯ (Somdej Toh)#1

สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องชาวไทย กระผม ผู้ให้เสียงทั่วไป นามไมโครโฟนว่า “ฟ้าทะลายโจร” วันนี้ภูมิใจนำเสนอ ซีรี่ย์ เรื่องยาว ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับประวัติของเกจิผู้โด่งดังที่เราคนไทย และประชาชนทั่วโลกรู้จัก นั่นก็คือ
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)

มารับรู้เรื่องราวธรรมะ พุทธประวัติ และสิ่งที่ท่านสอนลูกสอนหลานไว้กันเลย ณ บัดนี้ :)

ผมต้องขออธิบายจุดประสงค์ และต้องขออภัยหากมีข้อผิดพลาดบางประการ

ซึ่งอันตัวผมเองนั้นก็ไม่ทราบว่าทำไมจึงเคารพ และนับถือท่านยิ่งนักอาจเป็นเพราะกระผม คงมักท่องพระคาถาชินบัญชร เป็นประจำก็เป็นได้

ตอนนี้ผมกำลังรวบรวมเรื่องราวน่าสนใจของ สมเด็จโตฯ เพื่อจัดทำเป็นพุทธบูชาเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก และพี่น้องชาวไทยถ้าหากใครมีเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับท่านได้โปรด ส่งข้อความหรือโพสต์มาที่กระทู้นี้ได้เลยนะขอรับ ขอเรื่องที่เป็นประวัติ และบทความที่ท่านได้เทศนาไว้นะขอรับ

โดยกระผมจะนำไปเผยแพร่ด้วยการอ่านออกเสียง เพื่อที่จะให้พุทธศาสนิกชนที่สนใจ รวมทั้งเด็กๆ รุ่นใหม่ได้รับรู้กัน เพราะตามที่ผมทราบ ขรัวโตท่านเป็นพระที่มีประวัติค่อนข้างน่าสนใจ เรื่องราวของท่านก็สนุก และฉลาดยิ่งนัก ซึ่งสามารถสร้างเป็นนิทานก่อนนอนให้ลูกหลานฟังได้ เพื่อปลูกฝังให้คนรุ่นหลัง และลูกหลานของเรายึดมั่นถือมั่นในศีลธรรม

ดั่งตัวอย่างตาม link นี้เลยขอรับที่ผมได้ทำไว้แล้วเป็นเหมือนกับนิทาน และเรื่องเล่าเผยแพร่ไปทางอินเตอร์เน็ต

Playlist;

ดังนั้นผมจะขอกล่าว 1 ตอนวิดีโอต่อ 1 โพสต์บน Blog นะครับเพื่ออรรถรส จะได้ไม่เป็นการรบกวนเวลามากนัก

เรื่อง ลีลาวาทะสมเด็จโตฯ
เรียบเรียงโดย ร้อยเอกประชุม สุขสำราญ
ให้เสียงโดย ฟ้าทะลายโจร

ลีลาวาทะสมเด็จโตฯ ตอนที่ 1 ก่อนจะเป็นสมเด็จโตฯ ช้างเผือกกินพระไตรปิฎก

เนื้อเรื่องตอนที่ 1
– ก่อนจะเป็นสมเด็จโตฯ
– ช้างเผือกกินพระไตรปิฎก

ก่อนจะเป็นสมเด็จโตฯ

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เป็นพระเถระที่ทรงคุณวิเศษอยู่หลายประการ ยังผลให้ “พระสมเด็จ” ที่ท่านสร้างได้รับความนิยมอย่างสูง แม้นคาถา “ชินบัญชร” ก็ยังเป็นที่นิยมสวดภาวนา จนเป็นคาถาที่เชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์ สามารถบันดาลผลที่ปรารถนาได้สารพัด ทั้งนี้ก็ด้วยบารมีแห่งคุณวิเศษของท่านนั่นเอง

เจ้าประคุณสมเด็จฯ โต มีอายุยืนยาวถึง 5 รัชกาล คือ เกิดใน พ.ศ. 2331 (รัชกาลที่ 1) และสิ้นใน พ.ศ. 2415 (รัชกาลที่ 5) และเชื่อกันว่า เจ้าประคุณเป็นเชื้อพระวงศ์ด้วย

ผมเคยได้ยินผู้หลักผู้ใหญ่ พูดถึงประวัติของท่านโดยสรุปว่า

“เกิดที่ไชโย โตที่วัดอินทร์ สิ้นที่วัดระฆัง”

เพราะฉะนั้น ท่านจึงสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ๆ ในสถานที่ที่ท่านเกี่ยวข้องอยู่นั้น นัยว่าเพื่อให้สมกับชื่อ “โต” ของท่าน เช่นที่วัดเกตุไชโย อ่างทอง, หลวงพ่อโต วัดอินทร์ บางขุนพรหม กทม. เป็นต้น

เจ้าประคุณสมเด็จฯ โต ท่านประพฤติปฏิบัติแปลกๆ ซึ่งพระรูปอื่นไม่ทำหรือทำไม่ได้ และเมื่อท่านทำแล้ว แทนที่จะถูกตำหนิ ติเตียนกล่าวโทษท่าน แต่กลับได้รับความนิยมนับถือยิ่งขึ้น แม้พระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งเป็นสมมติเทวดาก็ยังยินยอม ไม่ถือโทษ พระราชทานอภัย ทั้งนี้เพราะท่านทรงอภินิหารเป็นวิสามัญบุคคล เรียกว่าเป็นบุคคลประเภท “ปาปมุติ” ทำอะไรก็น่ารัก น่านับถือไปหมด ว่างั้นเถอะ

เจ้าประคุณสมเด็จฯ เองก็เคยพูดถึงความประพฤติของท่านอยู่เสมอว่า

“ที่เขาชมว่าขรัวโตดี นั่นแหละคือ ขรัวโตบ้า ที่เขาติว่านั่นแหละคือ ขรัวโตดี”

หรือท่านพูดว่า “ทีขรัวโตบ้า ก็ว่าขรัวโตดี, ทีขรัวโตดี ก็ว่าขรัวโตบ้า” เป็นงั้นไป

**************** **************** **************** ****************

ช้างเผือกกินพระไตรปิฎก

ความเป็นอัจฉริยะของท่านนั้น มีมาแต่เยาว์วัย เมื่อครั้งเป็นสามเณรโต ก่อนจะย้ายไปอยู่วัดระฆัง พระอาจารย์ที่วัดระฆังยังฝันไปว่า มีช้างเผือกเชือกหนึ่ง เข้ามากินหนังสือพระไตรปิฎกในตู้ของท่านหมด ซึ่งพระอาจารย์ตื่นขึ้น ก็เกิดความมั่นใจว่าฝันนั้นจะเป็นนิมิตว่าท่านจะได้ศิษย์ที่ฉลาดหลักแหลมคน หนึ่ง

วันรุ่งขึ้น สามเณรโตก็ถูกนำตัวมาฝาก ท่านจึงรับไว้ด้วยความยินดี สามเณรโตเป็นช้างเผือกจริงขนาดไหนก็ลองฟัง สมเด็จพระสังฆราช (สุก) วัดมหาธาตุ ท่านพูดถึงสามเณรโตดูก็ได้ว่า ก่อนจะเรียนหนังสือ (สมัยนั้นเขาแปลหนังสือจากคัมภีร์ภาษามคธ เป็นภาษาไทย) ท่านก็ทูลสมเด็จพระสังฆราชว่า “วันนี้จะเรียนตั้งแต่บทนี้ ถึงบทนี้นะขอรับ”

เสร็จแล้วเวลาเรียนก็เปิดหนังสือออกแปลจนตลอดตามที่กำหนดไว้ ท่านทำอย่างนี้ทุกครั้ง จนสมเด็จพระสังฆราชผู้เป็นอาจารย์ว่า “ขรัวโตเขามาแปลหนังสือให้ฉันฟัง เขาไม่ได้มาเรียนหนังสือกับฉันดอก”

**************** **************** **************** ****************

Somdej Toh (1788-1872; B.E. 2331-2415), known formally as Phra Buddhacharn Toh Phomarangsi, was one of the most famous Buddhist monks during Thailand’s Rattanakosin Period.
Biography

Somdej Toh was born in Kamphaeng Phet Province, possibly the son of King Rama I. He studied the Buddhist scriptures of the Pāli Canon with several Buddhist masters. After becoming a well-known monk, he became the preceptor for Prince Mongkut, later King Rama IV, when Mongkut became a monk. During Rama IV’s reign Somdej Toh was given the ceremonial name Phra Buddhacharn Toh Phomarangsi.
He was noted for the skill of his preaching and his use of Thai poetry to reflect the beauty of Buddhism, and for making amulets call Somdej. The amulets were blessed by himself and other respected monks in Thailand. He also appears in many versions of the story of the ghost Mae Nak Phra Khanong.

ขอขอบคุณ : http://itotoxp.blogspot.com/2013/02/1.html

. . . . . . .