ครูบาอริยชาติ อริยจิตโตสร้างครูบาศรีวิชัยองค์ใหญ่

ครูบาอริยชาติ อริยจิตโตสร้างครูบาศรีวิชัยองค์ใหญ่

ประเทศไทยหากจะพูดถึงพระสงฆ์ ที่ผู้คนให้ความเคารพศรัทธามากในภาคกลาง คงจะเป็นเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธาจารย์โต พรหมรังสี วัดระฆังโฆสิตาราม และหากจะ

พูดถึงพระสงฆ์ ที่มีคนเคารพศรัทธามากในภาคใต้ คงหนีไม่พ้นหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด วัดช้างให้ แต่หากจะพูดถึงพระภิกษุที่มีจริยวัตรงดงาม คอยเผยแผ่พระพุทธ

ศาสนารวมไปถึงการสร้างและบูรณะถาวรวัตถุและศาสนสถานต่างๆ ชื่อของพระครูบาศรีวิชัย เจ้าตนบุญแห่งล้านนาไทย คงจะเป็นชื่อที่รู้จักกันดีของสาธุชนคนดีทั้งหลาย โดย

เฉพาะทางเหนือของประเทศไทย
พระครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นลูกศิษย์ สายครูบาศรีวิชัย จึงมีความคิดที่จะทำการจัดสร้างครูบาศรีวิชัย เนื้อโลหะองค์

ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ขนาดหน้าตักกว้าง 9 เมตร สูง 12 เมตร ให้ศรัทธาจากทั่วสารทิศ ได้กราบไหว้เคารพบูชาเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว โดยก่อนที่จะ

สร้างท่านได้นิมิตเห็นถึงพระครูบาศรีวิชัย ซึ่งในนิมิตนั้นพระครูบาศรีวิชัย นั่งอยู่บนดอกบัว ซึ่งผุดขึ้นมารอบตัวท่านเป็นพันๆ ดอก จนมองไม่เห็นพื้นดินและมีแสงสว่างเรือง

รองออกมารอบๆ ตัวท่าน เมื่อพยายามจะเดินเข้าไปหาใกล้ๆ ทำอย่างไรก็ไม่ถึงสักที ได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆ

แต่ก็เห็นชัดเหมือนได้อยู่ใกล้ๆ จึงตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าตัวเรานั้นมีบุญต่อกันก็ขอให้ได้เห็นท่านใกล้ๆ สักครั้งหนึ่งเถิด สิ้นความคิดนั้นองค์ของครูบาศรีวิชัย ก็ค่อยๆ ขยายจนใหญ่

โตมโหฬารหาประมาณขนาดมิได้ หลังจากนั้นอีกอึดใจเดียวเท่านั้น ท่านก็ค่อยๆ หายไปช้าๆ พอตกใจตื่นจึงคิดอยากจะสร้างครูบาศรีวิชัย มาประดิษฐานไว้ที่วัด เพื่อให้ผู้คนได้

มากราบไหว้โดยที่จะต้องมีองค์ที่ใหญ่เหมือนในนิมิต มองมาจากทิศไหนก็เห็นเป็นสง่าราศี ผู้คนที่มากราบไหว้ก็จะเหนือคนเหนือชัย มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่เหมือนองค์พระและจะต้อง

เป็นโลหะเท่านั้น เพื่อที่องค์ท่านจะได้อยู่คุ้มครองศรัทธาญาติโยมที่มากราบไหว้ตลอด ถึงคุ้มครองผู้ที่ได้ร่วมทำบุญสร้างท่านขึ้นมาไปตลอดจนชั่วลูกสืบหลาน

ซึ่งเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต ได้เดินทางมาทำพิธีเททองหล่อครูบาศรีวิชัย เนื้อโลหะองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่โรงงานปฏิมากรรมประทาน

พร อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ทุนในการสร้าง เฉพาะส่วนขององค์พระประมาณ 20 ล้านบาท ถ้ารวมฐานด้วยพร้อมค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งจะประกอบพิธี

วางศิลาฤกษ์วันที่ 24 ตุลาคม 2552 ณ วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย โดยใช้เวลาสร้าง 1 ปี 6 เดือน ซึ่งจะนำไปประดิษฐานไว้ที่ลานกลางแจ้งวัดแสงแก้วโพธิญาณ

จ.เชียงราย
ประวัติครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต ในวัยเยาว์ ท่านมีผิวพรรณผุดผ่องมีสติเฉลียวฉลาดกว่าเด็กในวัยเดียวกัน เรียนหนังสือเก่งมีผลการเรียนอยู่ในระดับดีเด่น มีนิสัยสงบรัก

สันโดษไม่เบียดเบียนสัตว์ และมักจะนำดินเหนียวมาปั้นเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ องค์เล็กอยู่เสมอ จนเพื่อนล้อท่านเล่นว่าเป็นตุ๊เจ้าบ้างก็มี ท่านชอบไปวัดฟังธรรม การชอบไป

วัดนี่เองทำให้ครูบาจันทร์ติ๊บ ญาณวิลาโส อดีตเจ้าอาวาสวัดชัยชนะ ต.ประตูป่า อ.เมือง จ.ลำพูน ได้มองเห็นแววของเด็กชายอริยชาติ ว่าเป็นผู้มีบุญบารมีวาสนาดี สมควร

สืบสานต่ออายุพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองสถาพรในวันข้างหน้า ท่านจึงถ่ายทอดวิชาความรู้ต่างๆ ให้ โดยเฉพาะอักษรล้านนาและท่านก็สามารถเรียนอ่านเขียนได้อย่างรวด

เร็วเพียง 1-2 วันเท่านั้น สร้างความดีใจยิ่งนัก
ครูบาจันทร์ติ๊บ ซึ่งเป็นผู้สืบทอดวิชาเวทมนต์รคาถาอาคมอยู่ยงคงกระพันต่างๆ จากครูบาชุ่ม โพธิโก อดีตเจ้าอาวาสวัดชัยมงคล (วังมุย) ต.ประตูป่า อ.เมือง จ.ลำพูน จึง

ถ่ายทอดวิชาเวทย์มนตร์อาคมต่างๆ ให้ เด็กชายอริยชาติ ก็สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและสามารถจารอักขระเลขยันต์แทนครูบาจันทร์ติ๊บ ต่อมาเมื่อครูบาจันทร์ติ๊บ

ชราภาพลงมากการทำตะกรุด วัตถุมงคลต่างๆ เด็กชายอริยชาติ ได้เป็นผู้ทำเอง ปรากฏว่าเกิดประสบการณ์ต่าง ๆ ในความแคล้วคลาด ปลอดภัยเป็นที่อัศจรรย์ใจเป็นอย่าง

ยิ่ง เมื่อท่านอายุได้ 17 ปี ขณะศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ท่านก็ได้ตั้งแรงปรารถนาที่แรงกล้า หันหน้าเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ในพระพุทธศาสนา จึงมาปรึกษากับพ่อ-แม่ แต่

ทางพ่อ-แม่ของท่านอยากให้ท่านเรียนหนังสือต่อไป เพื่อเมื่อเรียนจบออกมาจะได้ทำงาน ทำคุณประโยชน์ให้กับโลกให้กับสังคมต่อไป

อย่างไรก็ตามดังความปรารถนาที่ท่านมีอยู่ จึงตัดสินใจครั้งสุดท้ายเข้าไปกราบเท้าพ่อ-แม่ผู้ให้กำเนิด พร่ำพรรณนาว่าบุญคุณของแม่นั้น ใหญ่กว่าฟ้า ล้นเลิศกว่ามหาสมุทร อัน

คุณพ่อนั้นเล่ามีคุณมากกว่าพื้นพสุธา เป็นผู้ให้กำเนิดเกิดมาให้เลือดเนื้อและชีวิต แต่ตามแนวความคิดของตนเองปรารถนาความสงบสุขอยู่ในร่มเงาของพระพุทธศาสนา เมื่อ

พ่อ-แม่ไม่อาจทัดทานได้ ้จึงอนุญาตให้บวชตามความปรารถนา ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรกับครูบาเทือง นาถสีโล วัดเด่นสลีเมืองแกน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

ครูบาอริยชาติ ท่านก็ยังไปหาความรู้ด้านวิชาคาถาอาคมเพิ่มเติมจากครูบาอินตา วัดห้วยไทร อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ซึ่งท่านมีเมตตาสูงและเก่งในเรื่องโภคทรัพย์-โชคลาภ ท่าน

มักจะบอกญาติโยมเสมอว่า ให้มานมัสการครูบาอริยชาติ เพราะถือว่าท่านมีวิชาคาถาอาคม ที่แก่กล้าไม่เป็นรอง จนกระทั่งชื่อเสียงของท่านดังกระฉ่อนไปทั่วภาคเหนือ จึงมี

ศิษยานุศิษย์จาก จ.น่าน มานิมนต์ ให้ท่านไปโปรดญาติโยม และที่ จ.น่าน นี่เองได้สร้างเกียรติคุณให้ท่านเป็นอย่างมาก ในการใช้สรรพวิชาทั้งหลายแก่บรรดาญาติโยมผู้ได้

รับความทุกข์ร้อน จนชื่อเสียงกว้างไกลและมีผู้ยกย่องขนานนามว่า “หลวงพ่อเณร”

วัตถุมงคลที่ท่านสร้างและมีชื่อเสียงมาก เช่น ตะกรุดและปรอท มีผู้ประสบเหตุทะเลาะกัน ผู้เป็นพ่อบันดาลโทสะจึงเอามีดฟันตรงหลังลูกชาย ปรากฏว่าฟันถึง 3 ที ก็ไม่เข้า

สืบไปสืบมาพบว่ามีปรอทศักดิ์สิทธิ์ของครูบาอริยชาติ ที่ท่านสร้างรุ่นแรกอยู่ ทำให้มีชื่อเสียงทางด้านคงกระพันดังขจรไกลทั่วไป

ต่อมาเมื่ออายุครบ 20 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุและจำพรรษาอยู่ ณ วัดพัทธสีมาชัยมงคล (วังมุย) ต.ประตูป่า อ.เมือง จ.ลำพูน มีพระครูภัทรปัญญาธร วัดศรีสุพรรณ

อ.เมือง จ.ลำพูน เป็นอุปัชฌาย์ ได้รับฉายานามว่า “อริยจิตฺโต” หลังจากที่ท่านได้อุปสมบทแล้วท่านได้มุ่งเน้นในการปฏิบัติธรรมเป็นหลักสำคัญ ญาติโยมผู้ที่ได้รับ

ประสบการณ์ในวิชาคาถาอาคมความแคล้วคลาด ปลอดภัยเมตตามหานิยมก็หลั่งไหล มาเป็นลูกศิษย์ไม่ขาดสาย จึงมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ต่อมาท่านได้รับอาราธนาจากญาติ

โยม อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ให้มาจำพรรษา ณ วัดพระธาตุดงสีมา ต.แม่พริก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เมื่อครูบาอริยชาติ ได้มาจำพรรษาอยู่ ท่านก็ได้นำการบูรณะก่อ

สร้างอย่างรุดหน้า
ในปัจจุบันท่านได้มาสร้างวัดแห่งใหม่ ชื่อว่าวัดแสงแก้วโพธิญาณ บนพื้นที่เนินเขาที่สวยงามที่บ้านป่าตึง ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นเนินเขาที่สามารถมอง

เห็นตัว อ.แม่สรวย เกือบ 180 องศา ห่างจากถนนสายเชียงใหม่-เชียงรายประมาณ 2 กิโลเมตร เหมาะสำหรับเป็นที่ปฏิบัติธรรม บำเพ็ญภาวนาตามความตั้งใจ ของครู

บาอริยชาติ โดยวางศิลาฤกษ์และเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ตรงกับเดือนแปดเป็งของล้านนา ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา วันเพ็ญเดือนหก

http://www.ryt9.com/s/bmnd/733209

. . . . . . .