บำเพ็ญต่อในโลกวิญญาณ
หลวงปู่ทวด(เหยียบน้ำทะเลจืด) เคยอธิบายให้สานุศิษย์ที่กราบเรียนไต่ถามทราบว่า ตอนที่ท่านมีสังขารอยู่นั้น การบำเพ็ญของท่าน ท่านยังไม่ได้ตั้งความปรารถนาอะไร ท่านตั้งใจปฏิบัติในจุดของเมตตาเป็นส่วนใหญ่ เมื่อทิ้งสังขารจากโลกมนุษย์แล้ว ท่านไปบำเพ็ญต่อในโลกวิญญาณ เข้าซึ้งถึงคำว่า พุทธะ พุทธะแห่งยุค พุทธปัญญา ทั้งสองอย่างนี้ต้องมีความปรารถนา ท่านจึงได้ตั้งความปรารถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้า บนสวรรค์ท่านเคยอยู่หมดทุกชั้น
แต่ที่อยู่ในขณะนี้ ตามที่ท่านเทศน์โปรดเมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๑๘ คือ สวรรค์ชั้นดุสิต ท่านอธิบายว่าผู้ที่เตรียมตัวเป็นพระพุทธเจ้าก็ดี ผู้ที่จะเข้ามารับผิดชอบเหตุการณ์ในโลกมนุษย์ก็ดี ถึงแม้ว่าจะเป็นพรหมเป็นอะไรก็ตาม ก็ต้องมาอยุ่ชั้นดุสิต เพราว่าชั้นดุสิตนี้เป็นจุดที่เตรียมจะขึ้นสูงและลงต่ำ ชั้นดุสิตนี้เป็นชั้นที่ใกล้มนุษย์ ทำให้ทราบเหตุการณ์ของโลกมนุษย์ได้ง่าย ไม่ใช่เป็นสวรรค์ชั้นที่เจาะจงให้เทวดาเท่านั้นที่อยู่ชั้นนี้ได้ และท่านบอกด้วยว่าพระศรีอริยเมตไตรยเวลานี้ก็อยุ่ชั้นดุสิต
มาช่วยโกยสัตว์โลก
การที่หลวงปู่ทวด (เหยียบน้ำทะเลจืด) ลงมาทำงานที่สำนักปู่สวรรค์ในโลกมนุษย์นั้น ท่านเทศน์อธิบายว่า ท่านเดินตามแนวโพธิสัตว์ คือทำทุกวิถีทางที่จะให้สัตว์โลกมีความสุข ท่านจึงลงมาช่วยบำบัดทุกข์ทั้งกาย (รักษาโรค) และทางใจ (เทศนาสั่งสอน) ให้แก่มนุษย์
ถ้าท่านจะมาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อช่วยมนุษย์ยุคนี้ย่อมเติบโตไม่ทันการ จึงใช้วิธีมาผ่านร่าง และการที่ท่านมาผ่านร่างอาจารย์สุชาติ โกศลกิติวงศ์ ก็เพราอดีตชาติมีกรรมพัวพันกันมา การที่ท่านลงมาในโลกมนุษย์นี้ ท่านไม่ได้มาหากินกับมนุษย์ หากแต่สืบเนื่องมาจากภาวะกลียุค ที่จะเกิดขึ้นในแผ่นดินรัตนโกสินทร์ จึงทำให้พระเถระแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ คือ สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)พรหมรังสี ผู้ที่มีเชื้อสายแห่งราชวงศ์จักรีต้องดิ้นรนลงมาตั้งสำนักปู่สวรรค์ในโลกมนุษย์ขึ้น และด้วยเหตุแห่งการตั้งนี้เอง จึงทำให้ท่านซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ สำนักปู่สวรรค์ในโลกวิญญาณ ต้องมาเป็นประธานดูแลสำนักปู่สวรรค์ในโลกมนุษย์นี้ด้วย
สำนักปู่สวรรค์ในโลกวิญญาณอยุ่ที่สวรรค์ชั้นที่ ๕ เป็นที่พำนักของบรมครูของสวรรค์คือปู่ครูที่สวรรค์ หรือพวกมีวิชาความรู้บนสวรรค์ เทพพรหมทุกชั้นฟ้า ที่เป็นพวกมีวิชาความรู้ เอาที่นั่นเป็นที่ที่พบปะกันบนสวรรค์
ฉะนั้นการทำงานของสำนักปู่สวรรค์ซึ่งดำเนินการราว ๑๕ ปี ตลอดมานี้ (ถึงวันที่เทศน์) จึงไม่เหมือนใคร เป็นการทำงานกันอย่างมีระเบียบ และทำงานกันอย่างเปิดเผย ไม่มีการซ่อนเร้นใดๆทั้งสิ้น
สำนักปู่สวรรค์ในโลกมนุษย์ตั้งขึ้นโดยมติของโลกวิญญาณอันมีพรหมโลก เทวโลกและนรกโลก จึงเป็นการทำงานของโลกวิญญาณโดยตรง เพื่อช่วยสัตว์โลกที่กำลังตกอยู่ในทะเลแห่งความบ้าคลั่งในยุคแห่งกลียุคนี้ สำนักปู่สวรรค์มีหน้าที่แก้เรียกว่ามีหน้าที่ปิดทองก้นพระ
ส่วนปัญหาว่ามนุษย์จะมีความเข้าใจเรื่องของจิตวิญญาณ หรือการทำงานของสำนักปู่สวรรค์หรือไม่นั้น ท่านได้ให้ทัศนะเมื่อตอนเทศน์โปรดชาวลำปาง ที่ไปเยือนสำนักปู่สวรรค์ เมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๘ กล่าวถึงปัญหาข้อนี้ว่า
“ความเชื่อก็ดี ความยึดถือก็ดี ความศรัทธาก็ดี แล้วแต่ท่านพิจารณา แล้วแต่ท่านจะยึดถือ เพราว่าทุกคนเขาเรียกว่าสวรรค์สร้างให้เรามีมนุษย์สมบัติแห่งการมีสติสัมปชัญญะ แห่งการมีสมองในการคิด ในการทำ ในการพูด ท่านต้องใช้วิจารณญาณแห่งการเป็นมนุษย์พิจารณา ”
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ทรงกล่าวถึงพระประวัติสมเด็จพระสังฆราชคูรูปาจารย์
กำเนิดสำนักปู่สวรรค์
อังคารที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๘ วันนี้เป็นวันทำพิธีตั้งสำนัก โดยใช้ชื่อสำนักว่า “สำนักปู่สวรรค์ “ ซึ่งเป็นชื่อที่หลวงปู่ทวดตั้งขึ้นตามมติของสามโลก สำนักนี้ตั้งขึ้นเพื่อรับสถานการณ์โลก ซึ่งกำลังย่างเข้าสู่กลียุค เพื่อช่วยมนุษย์โลก โปรดสัตว์ รักษาผู้เจ็บป่วยด้วยโรคาพยาธิทุกชนิดเป็นการเจริญตามพุทธดำรัสที่ว่า “อโรคยา ปรมาลาภา “และเพื่อเป็นที่เผยแผ่สัจธรรม ธรรมอันประเสริฐและแท้จริง เจริญรอยตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๘
พระโพธิสัตว์แห่งกรุงสยาม
เมื่อภาวการณ์นั้นแหล่ เกิดความยุ่งเหยิงในการทั้งหลายองค์หลวงปู่ทวด (เหยียบน้ำทะเลจืด) แห่งกรุงสยามที่มนุษย์สมมติตั้งเป็นฉายา ถ้าว่าตามหลักแห่งการนามจริงก็คือ พระภิกษุปูคูรูปาจารย์แห่งสมัยนั้น ในการเป็นสังฆราชในราชวงศ์ของพระเจ้าอู่ทอง ณ กรุงศรีอโยธยา ได้ตั้งสัจอธิษฐานให้ทั้ง ๓ โลกเข้าใจว่า เมื่อหลังจากยุคแห่งศรีอริยเมตไตรยจุติมาในโลกมนุษย์ เพื่อสืบต่อศาสนาขององค์สมณะโคดมแล้วไซร้ ผู้ที่ปรารถนาแห่งการเป็นพุทธะแห่งยุค สืบต่อยุคพระศรีอริยเมตไตรย ก็คือพระโพธิสัตว์แห่งกรุงสยามได้อธิษฐานก่อนคนอื่น
ในภาวการณ์เช่นนี้ ในการที่จะสร้างอาณาจักรแห่งการเป็นพุทธะสืบต่อแล้ว การจะเป็นเจ้ากรุงครองเมืองจำเป็นที่จะต้องมีประชาชนให้ปกครอง ถึงจะได้เป็นเจ้า ถ้าอยู่คนเดียวแล้วจะไปเป็นเจ้าอะไร เมื่อภาวการณ์นี้แหล่ จึงว่า สภาวการณ์เช่นนี้ ควรจะทำ ก็ได้ตั้งสำนักปู่สวรรค์ขึ้น โดยการ
หนึ่ง เพื่อบำบัดทุกข์ในด้านของกายและใจในโลกมนุษย์ยุคปัจจุบันนี้
สอง เพื่อหาสาวกแห่งการสืบต่อแห่งการที่จะเป็นผู้นำศาสนายุคสืบต่อพระศรีอริยเมตไตรย
เพราฉะนั้นก็ได้ตั้งสำนักปู่สวรรค์ขึ้น โดยการบรรจุเทพพรหมทั้งหลายที่จะมาร่วมปฏิบัติในที่นี้ ก็คือมาในรูปของการที่ว่า ผู้ถวายตัวเป็นศิษย์จะได้เทวดาในปัจจุบันชาติไปคุ้มครองหนึ่งองค์ อนาคตชาติยุคพระศรีอริยเมตไตรย อาจจะมาเกิดในยุคนั้นด้วยกัน ยุคสืบต่อพระศรีอริยเมตไตรย พระโพธิสัตว์แห่งกรุงสยามผู้นั้นก็จะมาเป็นพระพุทธเจ้า แต่ต้องจำเอาไว้ว่า ในยุคแห่งศาสดายุคนั้น ไม่ใช่เกิดในกรุงสยาม
ทีนี้ภาวการณ์ทั้งหลาย เมื่อตั้งแล้ว ในหลักแห่งความเป็นจริงอาตมานี้เป็นผู้ที่เรียกว่า แต่ไหนแต่ไรมาตั้งแต่มีสังขารถึงเวลานี้เหลือแต่จิตวิญญาณที่อยู่ในรูปพรหมชั้นที่ ๑๖ ตามหลักอาตมาจะเข้าอรูปพรหมแล้ว แต่อาตมายังไม่เข้า เพราะยังมีกิเลส ที่ห่วงในมนุษยชาติทั้งหลายที่มีกรรมหนาอยู่และห่วงในสายใยแห่งการครองเมืองของอาตมาด้วย ภาวการณ์อันนี้แหล่อาตมาจึงได้อาสาเข้ามาร่วมงานในครั้งนี้ โดยรับอาสาเป็นผู้เทศน์ธรรมะในการเพื่อขัดเกลาจิตใจของมนุษย์ แต่ในการมาสำนักนี้แล้ว เทศน์ไปมากแล้ว หาคนปฏิบัติจริงในยุคนี้ยากเต็มทน พอจะเข้าใจไหม มีอะไรอีกไหม
๑๔ กันยายน ๒๕๑๒
ประธานดูแลโลกมนุษย์
เวลานี้เขาเรียกว่า ผู้ที่ได้รับสิทธิพิเศษในการติดต่อถึงจดหมายแห่งห้องรวมกรรมของพรหมโลก เทวโลก นรกโลก ก็มีหลวงปู่ทวดแห่งกรุงสยาม ในขณะซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์ อาวุโสที่กำลังเตรียมตนเป็นพระพุทธเจ้าสืบต่อพระศรีอริยเมตไตรย ได้ตั้งความปารถนาแห่งความเป็นสัมมาสัมมาพุทธเจ้าแห่งยุคมาเป็นกัปๆ กัลป์ ๆ ในขณะนี้ได้รับเลือกจากแดนโพธิสัตว์ ซึ่งมีพระโพธิสัตว์สิบหมื่นแปดพันสี่ร้อยสามสิบสององค์ในขณะนี้ ให้เป็นประธานดูแลความทุกข์สุขในโลกมนุษย์ในยุคกลียุค แห่งยุคกลางนี้ ยุคปลายจะเปลี่ยน แล้วก็เป็นการเตรียมตนแห่งการเกิดเป็นพระสัมมาสัมมาพุทธเจ้าแห่งยุค
เพราะฉะนั้นโลกวิญญาณมีกฎ มีระเบียบของการอยู่ของโลกอีกโลกหนึ่งที่มนุษย์ไม่ศึกษาไม่ค้น ไม่ปฏิบัติ แล้วมักจะปฏิเสธว่าไม่จริง เพราอะไรเล่า เพราว่าเสมือนหนึ่งคนที่ไม่ยอมเข้าไปดูว่า ในโรงงานที่เขาทำน้ำตาลนั้นมีน้ำตาลอยู่อย่างไง อยู่ข้างนอกแล้ววิจารณ์แต่เรื่องน้ำตาล ฉันใดก็ฉันนั้น เหมือนสันดานมนุษย์ในยุคนี้
๑๗ ตุลาคม ๒๕๑๓
พระโพธิสัตว์แห่งยุค
ทำไมอาตมาจึงใช้คำว่าพระโพธิสัตว์แห่งยุค เพราะว่าในขณะนี้ พระโพธิสัตว์ที่มาเกี่ยวข้องกับโลกมนุษย์มากที่สุดก็คือหลวงปู่ทวด ซึ่งขณะนี้ได้รับเป็นผู้ดูแลความทุกข์สุขของมนุษย์ในยุคแห่งกลียุคกลางนี้ พระโพธิสัตว์ศรีอริยเมตไตรยนั้น มีแต่กำลัง เตรียมญาณในการที่จะจุติมาเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลที่จะถึง หลังจากพุทธศาสนาของศากยะราชโคตรมะสิ้นสุด
๓๑ ตุลาคม ๒๕๑๓
http://dhamma-free.blogspot.com/2011/08/blog-post.html