ชีวประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺตเถร ๕

ชีวประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺตเถร ๕
เรียบเรียงโดย
พระอริยคุณาธาร (เส็ง ปุสฺโส)

ปฏิปทา

เมื่อแรกอุปสมบท ท่านพำนักอยู่วัดเลียบ เมืองอุบล เป็นปกติ ออกไปอาศัยอยู่วัดบูรพา เมืองอุบล บ้างเป็นบางคราว ในระหว่างนั้น ได้ศึกษาข้อปฏิบัติเบื้องต้นอันเป็นส่วนแห่งพระวินัย คือ อาจาระ ความประพฤติมารยาท อาจริยวัตร และ อุปัชฌายวัตร ปฏิบัติได้เรียบร้อยดี จนเป็นที่ไว้วางใจของพระอุปัชฌายาจารย์ และศึกษาข้อปฏิบัติอบรมจิตใจ คือ เดินจงกรม นั่งสมาธิ กับสมาทานธุดงควัตรต่าง ๆ

ในสมัยต่อมา ได้แสวงหาวิเวกบำเพ็ญสมณธรรมในที่ต่าง ๆ ตามราวป่า ป่าช้า ป่าชัฏที่แจ้ง หุบเขา ซอกห้วย ธารเขา เงื้อมเขา ท้องถ้ำ เรือนว่าง ทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงบ้างทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงบ้าง แล้วลงไปศึกษากับนักปราชญ์ทางกรุงเทพฯ จำพรรษาอยู่ที่วัดปทุมวัน หมั่นไปสดับธรรมเทศนากับเจ้าพระคุณพระอุบาลีฯ (สิริจนฺทเถร จันทร์) ๓ พรรษา แล้วออกแสวงหาวิเวกในถิ่นภาคกลาง คือ ถ้ำสาริกา เขาใหญ่ นครนายก ถ้ำไผ่ขวาง เขาพระงาม และถ้ำสิงห์โต ลพบุรี จนได้รับความรู้แจ่มแจ้งในพระธรรมวินัย สิ้นความสงสัยในสัตถุศาสนา จึงกลับมาภาคอีสานทำการอบรมสั่งสอนสมถวิปัสสนาแก่สหธรรมมิก และอุบาสก อุบาสิกาต่อไป มีผู้เลื่อมใสพอใจปฏิบัติตามมากขึ้นโดยลำดับ มีศิษยานุศิษย์แพร่หลายกระจายทั่วภาคอีสาน

วัดสระปทุม หรือวัดปทุมวนาราม กุฏิวัดสระปทุม ที่ท่านพระอาจารย์มั่นอยู่จำพรรษา
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๑

เขาพระงาม วัดสิริจันทรนิมิตรวรวิหาร จ.ลพบุรี
สถานที่ที่พระอาจารย์มั่นฯ จาริกแสวงหาวิเวก ปฏิบัติธรรม

ถ้ำสาริกา เขาใหญ่ จ.นครนายก เป็นถ้ำที่ท่านพระอาจารย์มั่นฯ ได้จาริกมาปฏิบัติธุดงคกัมมัฏฐาน
ภายในถ้ำสาริกา ซึ่งหลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน ได้แวะเยี่ยมสถานที่ปฏิบัติธรรม ที่ท่านพระอาจารย์มั่นได้เคยมาพักปรารภความเพียร

กุฏิพระอาจารย์มั่น มาพักจำพรรษาที่เสนาสนะป่า
บ้านนามน ปัจจุบันคือ วัดป่านาคนิมิตต์ อ.โคกศรีสุพรรณ
จ.สกลนคร

กุฏิพระอาจารย์มั่น มาพักจำพรรษาที่เสนาสนะป่าบ้านโคก
ปัจจุบันคือ วัดป่าวิสุทธิธรรม อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร

วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ เป็นวัดที่พระอาจารย์มั่นเคยอยู่จำพรรษา และได้รับแต่งตั้งให้เป็น “พระครูวินัยธร”

วัดป่าโนนนิเวศน์ อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นวัดที่พระอาจารย์มั่นมาจำพรรษาหลังจากกลับจากเชียงใหม่ โดยท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) เป็นผู้ประสานงานกับหลวงปู่เทสก์ เทสรํสี กราบอาราธนานิมนต์ท่านกลับภาคอีสานจนเป็นผลสำเร็จ ครั้งนี้เป็นการเปิดเผยตัวของท่านอีกครั้งหนึ่ง หลังจากท่านได้ปลีกตัวอยู่ในป่า ถ้ำ ภูเขา เพื่อบำเพ็ญสมณธรรมอยู่จังหวัดทางภาคเหนือ เป็นเวลา ๑๑ ปี

เสนาสนะป่าบ้านหนองผือ ปัจจุบันคือ วัดป่าภูริทัตตถิราวาส (วัดป่าบ้านหนองผือ) อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

ศาลาที่พักอาพาธท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถร
พ.ศ. ๒๔๙๒ ณ วัดป่ากลางโนนภู่ บ้านกุดก้อม ต.ไร่
อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

ในกาลต่อมาได้ลงไปพักจำพรรษาที่วัดปทุมวัน กรุงเทพฯ อีก ๑ พรรษา แล้วไปเชียงใหม่กับเจ้าพระคุณพระอุบาลีฯ (สิริจนฺทเถร จันทร์) จำพรรษาวัดเจดีย์หลวง ๑ พรรษา แล้วออกไปพักตามที่วิเวกต่าง ๆ ในเขตภาคเหนือหลายแห่ง เพื่อสงเคราะห์สาธุชนในที่นั้นๆ นานถึง ๑๑ ปีจึงได้กลับมาจังหวัดอุดรธานี ตามคำอาราธนาของเจ้าพระคุณพระธรรมเจดีย์ พักจำพรรษาอยู่ที่วัดโนนนิเวศน์ เพื่ออนุเคราะห์สาธุชนในที่นั้น ๒ พรรษา

แล้วมาอยู่เขตจังหวัดสกลนคร จำพรรษาที่วัดป่าบ้านนามน ตำบลตองโขบ อำเภอเมืองสกลนคร ๓ พรรษา จำพรรษาที่วัดป่าหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม ๕ พรรษา เพื่อสงเคราะห์สาธุชนในถิ่นนั้น มีผู้สนใจในธรรมปฏิบัติได้ติดตามมาศึกษาอบรมจิตใจมากมาย ศิษยานุศิษย์ของท่านได้แพร่กระจายไปทั่วทุกภาคของประเทศไทย ยังเกียรติคุณของท่านให้ฟุ้งเฟื่องเลื่องลือไป

http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-mun/lp-mun-hist-01-05.htm

. . . . . . .