คำสอนของสมเด็จโต(สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี)

คำสอนของสมเด็จโต(สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี)

อนิสงส์ของการสวดมนต์

ทำไมเราจึงสวดมนต์ วันละ 3 เวลา ทำไมจานวาจึงสวดมนต์เป็นบ้าเป็นหลัง และขอให้แฟนบทความทุกคนหันมาสวดมนต์กัน
“หมั่นสร้างบารมีไว้ แล้วฟ้าดินจะช่วยเจ้าเอง จงจำไว้นะ เมื่อยังไม่ถึงเวลาเทพเจ้าองค์ใดก็ช่วยเจ้าไม่ได้ ครั้นเมื่อถึงเวลา ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่ จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย แล้วจะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้าได้” เป็นคำสั่งสอนของสมเด็จโตที่ตกทอดมายังลูกหลาน ในหลายๆยุคหลายๆสมัย แต่จะมีสักกี่คนที่เห็นคุณค่าของทุกตัวอักษรที่สมเด็จทรงจารึกไว้ …
สมเด็จโตยังทรงสอนไว้อีกว่า “ การสวดมนต์ ด้วยความตั้งใจจนจิตเป็นสมาธิ แล้วใช้สติพิจารณาจนเกิดปัญญาและความรู้ความเข้าใจ เพราะประโยชน์ สูงสุดของการสวดมนต์ นั่นคือจะทำให้ท่านบรรลุผลจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ที่อาตมากล่าวเช่นนี้ มีหลักฐานปรากฏในพระธรรมคำสอนที่กล่าวไว้ ว่า โอกาสที่จะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ มี 5 โอกาสด้วยกันคือ
1 เมื่อฟังธรรม (สมัยพุทธกาล บางคนแค่ฟังธรรมจากพระตถาคต ครั้งเดียว ได้อรหันต์เลย มีเยอะมาก ชั่วช้างกระดิกหูงูแลบลิ้น บรรลุเป็นอรหันต์แล้ว)
2 เมื่อแสดงธรรม (คือธรรมทาน การให้ธรรมะชนะการให้ทั้งปวง คือไม่ใช่เป็นผู้ฟังธรรม แต่เป็นผู้เผยแพร่ธรรมะของพระตถาคตทางใดทางหนึ่ง เช่น เขียน หรือพูดทางวิทยุออกอากาศ) พระสงฆ์ต้องแสดงธรรมโปรดญาติโยมอยู่แล้วเป็นหน้าที่ แต่ถ้าพระสงฆ์ทำอย่างอื่น นอกเหนือจากนี้จนเป็นอาชีพหลัก เช่น ดูดวงเสดาะห์เคราะห์ หาเงินรายได้ จากเครื่องลางของขลัง …เรียกว่า พระสมมุติ

3 เมื่อสาธยายธรรม นั่นก็คือการสวดมนต์นั่นเอง
4 เมื่อตรึกตรองธรรม หรือเพ่งธรรมอยู่ในขณะนั้น (คือต่อเนื่องมาจากข้อ 1 ฟังธรรมนั่นเอง)
5 เมื่อเจริญวิปัสสนาญาณ
จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตามทุกข้อเราทำอยู่ในชีวิตประจำวัน…จนเป็นกิจวัตร…อยู่แล้ว
พระคาถาชินบัญชร แปลว่า กรง หรือเกราะป้องกันภัยของพระพุทธเจ้า มาจากคำว่าชิน หมายถึงพระชินสีห์ คือพระพุทธเจ้า บัญชร แปลว่ากรง หรือเกราะ
การไหว้พระสวดมนต์ คือการอัดฉีดพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ เข้าสู่จิตใจเพื่อหล่อเลี้ยงและเสริมสร้างจิตใจให้เกิดธรรมคุณ เป็นการปิดโอกาสความชั่วร้ายต่างๆ มิให้ออกมาอาละวาด ยังก่อให้เกิดผลดีอื่นๆอีกนานัปการ ยังเป็นการเอาพลังแห่งพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ มาเสริมสร้างขวัญและกำลังใจในการดำเนินชีวิต ด้วยความสำนึก และตระหนักรู้ในหลักธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้า เพื่อนำมาปฏิบัติเป็นหลักชัยของชีวิต พลังอำนาจที่เกิดจากการสวดมนต์นั้น นอกจากจะทำให้จิตใจสงบเยือกเย็นแล้ว พลังแห่งความศรัทธาในการสวดมนต์นั้น ยังสามารถเยียวยารักษาความเจ็บป่วยทางกายและใจได้อย่างน่าอัศจรรย์ ดังเช่นในสมัยพุทธกาลพระมหากัสสปะและพระมหาโมคัคลลานะอาพาธหนัก พระพุทธเจ้าเสด็จไปเยี่ยมและเจริญมนต์ให้ฟัง จนท่านทั้งสองหายจากอาพาธในบัดนั้น แม้นในคราวที่พระพุทธองค์ทรงพระประชวรทรงรับสั่งให้ พระจุนทะสวดบทโพชฌังคปริตร ให้สดับจนหายจากพระอาการประชวร พลังแห่งพระพุทธมนต์นั้นมีอานุภาพยิ่งใหญ่ เพราะพระพุทธมนต์ทุกบทล้วนมีคุณานุภาพแห่งการขจัดทุกข์ โศกโรค ภัย และอันตรายทั้งหลาย ไม่ให้เข้ามากล้ำกรายได้ ขอเพียงผู้สวด สวดด้วยความตั้งใจ เมื่อจิตนิ่งสงบย่อมทำให้เกิดพลังจิต จิตที่มีพลังนี้จะคอยต่อต้านป้องกันอันตรายได้ นอกจากนี้ยังเป็นการขออำนาจจากพระตถาคตท่านมาเป็นกำแพงคุ้มครอง 7 ชั้น เพราะพระพุทธมนต์อันหมายถึงคำสวดอันศักดิ์สิทธ์ที่พรรณนาคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ย่อมทำให้สัมฤทธิ์ผลดังที่ท่านกล่าวไว้ว่า “สมบูรณ์พูนผล เจริญก้าวหน้า ได้รับการคุ้มครองรักษาชีวิตให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง”
กรงหรือเกราะที่พระตถาคตท่านใช้ป้องกันพระองค์และทรงสอนให้ชาวพุทธท่องบ่นนั้นไม่ใช่ อิทธิปาฏิหาริย์ แต่คือคุณงามความดี คือพลังแห่งความเชื่อมั่น ในความดี จักเป็นเกราะกันภัยให้ชีวิต แม้ยามที่พระพุทธองค์เผชิญกับอันตรายหรือความเจ็บป่วยก็ทรงระลึกถึงคุณความดี ทำให้ผ่านไปได้ การสวดมนต์หรือการอัดฉีดพลังแห่งพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ เข้าสู่จิตใจเพื่อหล่อเลี้ยง หรือเสริมสร้างจิตใจให้มีความมั่นใจ เข้มแข็ง ให้จิตใจมีฤทธิ์ คำว่าฤทธิ์ ในที่นี้แปลว่า ความสำเร็จในกิจการน้อยใหญ่ ดังนั้นคนที่สามารถเสกใจตนเองให้มีฤทธิ์ได้ ย่อมเป็นผู้มีอำนาจวาสนา คิดทำอะไรมักประสบความสำเร็จทุกครั้งไป การสวดมนต์ไหว้พระเป็นการปฏิบัติเบื้องต้นอย่างหนึ่งในการทำให้ใจมีฤทธิ์ ถ้าได้ตั้งใจทำอย่างสม่ำเสมอ ทำอย่างถูกวิธีก็จะประจักษ์เห็นผลด้วยตัวของเราเอง นอกจากจะเสกด้วยพลังแห่งพุทธคุณแล้ว คนที่จะเจริญก้าวหน้าได้ต้องเสกตนให้ตั้งอยู่ในคุณธรรม เช่นรักษาศีล มีเมตตากรุณาต่อสรรพสัตว์ ไม่คิดเบียดเบียนทำร้ายซึ่งกันและกัน หมั่นไหว้พระสวดมนต์ ย่อมทำให้ผู้นั้นเป็นผู้องอาจ กล้าหาญ สง่าผ่าเผย ทุกย่างก้าว เต็มไปด้วยความมั่นใจ และความเชื่อมั่น คนที่คิดอาฆาตมาดร้ายกลับกลายเป็นมิตร ปราศจากอันตรายทั้งปวง จำไว้ว่า ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม ไม่มีสิ่งอื่นใดที่จะเป็นที่พึ่งของเราได้ดีเท่า ธรรมะ หากใครมีธรรมะ ชีวิตจะร่มเย็นเป็นสุขตลอดไป กับเป็นหลักรับประกันเพียงอย่างเดียวว่า การไปเกิดภพภูมิหน้า ย่อมขึ้นสู่ที่สูง ไม่มีทางตกต่ำลงอบายภูมิ
ใครที่ชีวิตย่างเข้าเลข 4 ไปแล้ว มาดแม้ยังไม่เคยพบกับความสุขความสำเร็จในทางใดๆเลย …เราแนะนำให้มาลองลงทุน ด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด เพียงใช้เวลาแค่วันละ 15 นาทีด้วยการสวดมนต์ แต่ขอให้มีตัวศรัทธากันจริงๆถ้าใครไม่มี ..อย่าเสียเวลาทำ เพราะผลที่จะตามมาสามารถพลิกชีวิตจาก คุณบุญทิ้ง ให้กลายเป็นเจ้าบุญทับได้ ละครจากชีวิตจริงของเรา การใช้ชีวิตของเรา หน้าที่การงานง่ายๆสบายๆได้เห็นโลกกว้าง สิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเราที่น้อยคนจะทำได้ เราปลูกฝั่ง กับได้มาจากการสวดมนต์ทั้งสิ้น โดยมีตัวศรัทธาอย่างแรงกล้า ในพระพุทธคุณ กับใช้เวลาตลอดเวลาที่อยู่ในเมกา จนแม้นจะย้ายกลับเมืองไทยมาแล้ว ยังปลูกฝั่งให้แฟนบทความหันมาเห็นคุณประโยชน์อย่างเอนกอนัต ของการสวดมนต์ อันยังไม่รวมกับคุณประโยชน์ 10 ข้อที่ได้จากการสวดมนต์ ซึ่งเราเคยเขียนลงมานานแล้ว ในบท อนิสงส์ ของการสวดมนต์ ดังนั้น ใครที่ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง ยังไม่สายเกินไปที่จะเปลี่ยนใจมาทำเป็นกิจวัตรทุกวัน ใครที่ยังไม่เคยทำ จงคิดทำแล้วทำจริงๆได้แล้ว อย่าเสียเวลาต่อไป เราพูดมาหลายร้อยไมล์จนน้ำลายจะกลายเป็นสายเลือด ก็จะไม่หยุดพูดจะพูดต่อไป เราจะทำหน้าที่ของเราจนวันสุดท้ายด้วยความอดทนและซื่อสัตย์ที่ได้รับปากจากเบื้องบนมา จนกว่าโลกจะแตกสลายมลายไปต่อหน้า ถ้าหากว่าเรายังมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย ก็จะขอน้อมนำเอาธรรมะของพระพุทธองค์มาเผยแพร่ต่อ อย่างไม่หยุดยั้งหรือมีสิ่งใดมาขวางกั้นการกระทำของเราได้ แม้นว่าจากผู้อ่านจำนวนหลักพัน จะมีคนหันมาปฏิบัติได้เพียงหลักสิบ ก็ตาม แม้นว่าเราจะไม่ประสบความสำเร็จเสียทั้งหมด แต่เราก็ไม่ได้ผิดหวังเสียทีเดียว…. Right!!!! หลักของการสวดมนต์มีดังนี้ ใครสวดบ้างไม่สวดบ้าง เขาข้างบนก็จะให้บ้างไม่ให้บ้าง ใครสวดบทสั้นๆเขาก็ให้สั้นๆ ใครสวดบทยาวๆเขาก็ให้เยอะๆ ใครสวดวันเว้นวัน เขาก็ให้วันเว้นวัน ใครสวดทุกวันเขาก็ให้ทุกวัน ใครรักเขา เขาก็รักตอบ ใครรักเขามากแค่ไหน เขาก็รักเรามากแค่นั้น ..นี่เขียนภาษาไทยเป็นไทยตรงจุดไม่มีการแปล สำหรับตาสีตาสีที่เขียนไม่ได้อ่านไม่ออก ทำไมจึงไปสวรรค์ได้ ..เพราะเขามีตัวศรัทธาให้พระตถาคตอย่างหนักแน่น เขาพูดเพียงคำว่าพุทธโธๆๆ ทุกวัน อาศัยตัวศรัทธาหล่อหลอมจิตเขาก็ไปสู่สุขคติสุขได้
สำหรับบทสวดมนต์ที่จานวา จะฝากมาเป็นของดีก่อนสิ้นปี 2011-2012 คือบท พระคาถามหาเมตตาหลวง หรือ อิติปิโสรัตนมาลา 108 ที่เราเคยมอบให้ชาวไทยในเมกาไปแล้ว ขอยืนยันว่า บทนี้บทเดียว สามารถ แก้ไขเวรกรรมของตนเอง แก้ไขโรคภัยไข้เจ็บให้หายขาด ป้องกันภัยธรรมชาติ ปรับเปลี่ยนนิสัยของลูกหลานที่เลวทรามต่ำช้าให้เป็นคน แก้ไขปัญหาชีวิตทุกเรื่อง ถ้าในหมู่บ้านเดียวกันมีคนสวดทุกคน หมู่บ้านนั้นจะรอดปลอดภัยจากภัยธรรมชาติทุกชนิด กับในชีวิตที่ผ่านมาสวดมนต์มาหลายสิบปี หลายสิบบท มีบทนี้เพียงบทเดียว ที่พอเริ่มสวดไปได้แค่ 4 วัน สวดบทดั่งเดิมที่ยังไม่แปล สวดด้วยความลำบากมากผิดๆถูกๆ เพราะเป็นต้นฉบับดั่งเดิมภาษาบาลีหรืออะไรจำไม่ได้ นัยว่าหลวงปู่มั่น ท่านคงเวทนา กับมักจะจับตาดูเราตลอดทุกขณะจิตแม้แต่ความคิดของเราท่านก็ตามรู้หมด หลวงปู่มั่นท่านคงจะดูว่า มันสวดผิดๆถูกๆ สวดด้วยความลำบาก แต่มันก็สวดมาได้ 3 คืนแล้ว พอคืนที่ 4 ขณะนั่งอ่านหนังสือธรรมะอยู่ เสียงอะไรหล่นปุลงมากลางหนังสือ คืออรหันต์พระธาตุของหลวงปู่มั่นหนึ่งองค์ ท่านโยนมาจากไหน ทางไหน ใครรู้บ้าง อยู่บ้านเช่าที่ North Hollywood แอลเอ ชั้นล่างด้วย เสด็จข้ามน้ำข้ามทะเลมาจงใจให้จานวาโดยตรง… ขณะนั่งอ่านหนังสือธรรมะอยู่ เสียงอะไรหล่นปุลงมากลางหนังสือ คืออรหันต์พระธาตุของหลวงปู่มั่นหนึ่งองค์ ท่านโยนมาจากไหน ทางไหน ใครรู้บ้าง อยู่บ้านเช่าที่North Hollywood ชั้นล่างด้วย เสด็จข้ามน้ำข้ามทะเลมาจงใจให้จานวาโดยตรง…บทนี้บทเดียวจริงๆ เราจึงขอแนะนำบทนี้ค่ะ เอาไว้ใช้กับภัยธรรมชาติที่กำลังจะหนักขึ้นทุกปีติดต่อกันไปจากนี้อีก 5 ปีข้างหน้า จะสวดควบคู่กับบทอื่นๆดีทั้งนั้น หรือค้นหาเองทางกูเกิลก็ได้
อมิตรพุทธ

ขอขอบคุณ : http://www.siammedia.org/articles/varunee/20111028.php

. . . . . . .