มนุษย์กับบุญกุศล
พระธรรมเทศนาโดย หลวงปู่จันทร์โสม กิตติกาโร
วัดป่านาสีดา จ.อุดรธานี
๖ มีนาคม ๒๕๔๓ ณ ศาลากาญจนาภิเษก
เกิดเป็นมนุษย์ เป็นลาภ เป็นบุญกุศลอันประเสริฐ การได้เกิดมาเป็นมนุษย์นั้นยากนักหนา เพราะว่าวาสนาบารมียังไม่ถึงที่จะได้มาเป็นมนุษย์มักต้องไปเกิดอยู่ในภพภูมิที่ต่ำกว่าคือเป็นสัตว์เดรัจฉาน เปรตอสุรกายหรือสัตว์นรกอยู่นานและมากมายกว่าจะได้หวนมาเป็นมนุษย์แต่ละครั้ง ยากนักยากหนา
เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว บ้างก็มั่งมีศรีสุข ร่ำรวย ผิวพรรณวรรณะผ่องใส บ้างก็เกิดในตระกูลต่ำทราม วรรณะผิวพรรณไม่ผ่องใส แล้วแต่บุญกุศลที่สร้างสมอบรมมา ถ้าบุญประกอบ คิดนึกอะไรก็จะเป็นได้ตามปรารถนา
มนุษย์มี ๒ แบบ แบบแรก สะสมวัตถุต่างๆ เพื่อให้กายอยู่เย็นเป็นสุข แบบสอง สะสมบุญกุศล ทั้งมีสร้างสมมาแต่ปางก่อน มาชาตินี้ นิสัยปัจจัยก็ตามมาอีก “ความสะสมบุญนำสุขมาให้” บุญกุศลที่ทำไว้แต่ชาติที่แล้ว ติดตามเรามาอยู่ บุญกุศลเป็นของละเอียด ถ้าบุญกุศล ไม่รักษา จะไม่สุขเท่า บุญกุศลนั้นจะพร้อมทุกอย่างทั้งสมบัติภายนอกและสมบัติภายใน คนที่เกิดมาร่วมกัน ก็เคยสร้างสมบุญกุศลมาคล้ายๆ กัน
หากสร้างสมบาปอกุศล ก็จะไม่สมบูรณ์ทั้งกายและใจและทรัพย์สมบัติ เพราะว่าอกุศลที่สร้างไว้แต่ชาติก่อนโน้นก็จะมาย่ำยี อกุศลย่ำยี สุขภาพย่ำแย่ การเงินก็ไม่ดี ถ้าสร้างสมบุญกุศลไว้มากๆ ชาติหน้าชาติต่อไปก็จะดี หมั่นสะสมบุญกุศลไว้เรื่อยๆ เพราะว่านอกจากในความเป็นมนุษย์แล้ว ก็จะไม่มีโอกาสได้ทำบุญทำกุศลมนุษย์สะสมอะไรได้บ้าง สิ่งที่มนุษย์สะสมได้คือ การทำทาน – การรักษาศีล และการเจริญเมตตา ภาวนา
เป็นมนุษย์เท่านั้น ถึงจะมีโอกาสได้ทำทาน ในอัตภาพอื่นไม่มี โอกาสแล้ว ถ้าเราทำไว้มาก ความปรารถนาที่ดีก็จะสำเร็จสมดังหวัง ในเทวโลกมีปริมาณมากกว่าจำนวนมนุษย์ มนุษย์มีนิดเดียวเพราะกายหยาบ อยู่กันนิดเดียวก็แออัดแล้ว ส่วนเทพเจ้าแม้จะอยู่เป็นโกฏิๆ ก็ไม่อัดแอกันเพราะท่านมีกายอ่อนกายละเอียด แต่เทพหรือสัตว์เดรัจฉาน ทำบุญกุศลไม่ได้ มนุษย์ทำบุญกุศลได้ตามความปรารถนา ทั้งทำทาน รักษาศีลและเจริญเมตตา ภาวนา ได้ทั้งสิ้น เทพเจ้านั้นถ้าบังเอิญไปอยู่บนเทวโลก ในช่วงเวลาที่มีพระพุทธเจ้ามาบังเกิด ก็จะมีโอกาสได้ฟังธรรมเพราะพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ เมื่อตรัสรู้แล้วก็จะเสด็จไปโปรดพุทธมารดาบนเทวโลก
มนุสสเทโว – ได้มาจากความเป็นมนุษย์ ต้องสร้างความเป็นมนุษย์ให้เป็นเทโวคือเป็นมนุษย์เทวดาเสียก่อน
มนุสสเปโต – คือมนุษย์ที่ไม่มีโอกาสได้สร้างบุญกุศล มีแต่ความทุกข์ยากตลอดเวลา
ดังนั้น เร่งสร้างกุศลดีกว่า อย่าให้กาลเวลาล่วงไปๆ ความเป็นมนุษย์ทำได้ทุกอย่าง อย่าให้เสียเวลาที่เกิดเป็นคน เป็นมนุษย์
มี สามี ภรรยา สองคนอุ้มลูกน้อยเดินทางไป ทั้งสามอดอาหารมาหลายวัน เดินทางไปได้สามวันพบนายโคบาลเอาอาหาร ให้สุนัขกิน คนที่เป็นสามีคิดว่าสุนัขนี้กินดีกว่าตน คิดว่าเกิดเป็นสุนัขก็ดีพอดีอาหารไม่ย่อย ผู้เป็นสามีตายลงก็ไปเกิดเป็นสุนัขตัวผู้ในท้องแม่หมาตัวที่ตนเห็นนั่นเอง ใกล้บ้านนายโคบาล มีพระปัจเจกพุทธเจ้ารูปหนึ่งท่านพำนักอยู่ สุนัขตัวผู้ตัวนี้เติบโตไปพร้อมกับมีหน้าที่เดินตามนายโคบาลเพื่อนิมนต์พระ ปัจเจกพุทธเจ้ามาฉันภัตตาหาร เดินตามนายโคบาลไปๆ มาๆ วันละหลายๆ เที่ยว เป็นวัน เป็นเดือน บางวันก็ถูกใช้ให้ไปตามพระปัจเจกพุทธเจ้าด้วยการไปเห่าเรียก (นิมนต์) ให้พระปัจเจกพุทธเจ้าเดินตามมาฉันอาหารก็มี อยู่มาวันหนึ่งมีคนเอาผ้ามาบังสุกุล พระปัจเจกพุทธเจ้าจึงบอกกับนายโคบาลว่าตั้งแต่วันนี้จะไม่อยู่แล้วเพราะจะ ต้องไปตัดผ้าเนื่องจากจีวรเก่าขาดแล้ว นายโคบาลนิมนต์ไว้ว่าเมื่อเสร็จแล้วก็นิมนต์ท่านกลับมาอีก สุนัขตัวนี้ก็ได้ยินด้วย แล้วพระปัจเจกพุทธเจ้าก็เหาะไปแล้วไม่กลับมา สุนัขเกิดความห่วงใยพระปัจเจกพุทธเจ้ามากจนอกแตกตาย ไปเกิดในเทวโลก และอานิสงส์ที่เห่าหอนคอยนิมนต์พระปัจเจกพุทธเจ้านี้เอง ก็ทำให้เมื่อไปจุติบนเทวโลกแม้จะพูดเพียงเสียงกระซิบก็จะเสียงดังได้ยินไป ทั่วเทวโลกจนได้ชื่อว่า “โฆษกเทวบุตร” (คือ ผู้มีเสียงดัง) เพราะอานิสงส์นั้น เมื่อสิ้นอายุขัย ก็ลงมาเกิดในโลกมนุษย์ เป็นเศรษฐีชื่อโฆษกเศรษฐิ ต่อมาก็ลามารดาบิดาไปบวชและได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ในชาตินั้นเอง
ดังนั้น สร้างสมบุญกุศลไว้ให้เยอะๆ ขนาดเป็นเพียงสุนัขที่ให้ทาน รักษาศีลและเจริญภาวนาไม่เป็น ยังเป็นขนาดนี้เพราะ “การได้เห็นสมณะแล้วเกิดความยินดี ก็เป็นบุญกุศล” พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ก็มาสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าในโลกมนุษย์ ในอัตภาพที่เป็นมนุษย์ทั้งสิ้น ไม่มีที่อื่นๆ ไม่มีในอัตภาพอื่น
คัดลอกจาก ประตูธรรม http://www.dharma-gateway.com/monk/p…-chansom_1.htm
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://muangput.com/webboard/index.php/topic,310.0.html