ประวัติ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม “พระราชวุฒาจารย์” หรือ”พระอาจารย์ดูลย์ อตุโล”
“… ไฟมันทำตามหน้าที่ของมัน ธรรมะไม่ได้ช่วยใครในลักษณะนั้น หมายความว่า ความอันตรธาน ความวิบัติ ความเสื่อมสลาย ความพลัดพรากจากกันนั้น สิ่งเหล่านี้มีประจำโลกอยู่แล้ว ทีนี้ผู้มีธรรมะ เมื่อประสบกับภาวะเช่นนั้นแล้วจะวางใจอย่างไรจึงไม่เป็นทุกข์ อย่างนี้ต่างหาก ไม่ใช่ธรรมะช่วยไม่ให้แก่ไม่ให้ตาย ไม่ให้หิว ไม่ให้ไฟไหม้ ไม่ใช่อย่างนั้น…” ธรรมโอวาท “พระราชวุฒาจารย์” หรือ”หลวงปู่ดูลย์ อตุโล” วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ พระวิปัสสนาจารย์สายอีสาน ที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากสาธุชนเป็นอย่างมาก
ประวัติหลวงปู่ดูลย์ อตุโล “พระราชวุฒาจารย์” หรือ”พระอาจารย์ดูลย์ อตุโล”
อัตโนประวัติ หลวงปู่ดูลย์ มีนามเดิมว่า ดูลย์ ดีมาก เกิดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2430 ตรงกับวันแรม 2 ค่ำ เดือน 11 ที่บ้านปราสาท อ.เมือง จ.สุรินทร์ โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายแดง และนางเงิน ดีมาก มีพี่น้องรวม 5 คน ท่านเป็นคนที่ 2 ในวัยเด็ก การศึกษาเล่าเรียนของ ด.ช.ดูลย์ อาศัยวัดเป็นสถานศึกษา โดยมีพระในวัดเป็นผู้อบรมสั่งสอน ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับการศึกษาในสมัยนั้น วิชาที่เล่าเรียนประกอบไปด้วยการเรียนการสอนทางโลกที่พอให้อ่านออกเขียนได้ และศีลธรรมจรรยามารยาทอันควรประพฤติปฏิบัติ
ครั้นเมื่ออายุ 22 ปี นายดูลย์ได้รับเข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดจุมพลสุทธาวาส ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีพระครูวิมลสีลพรต (ทอง) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูบึก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูฤทธิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายานามว่า “อตุโล” อันหมายถึง ผู้ไม่มีใครเทียบได้ นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา พ.ศ. 2461 พระอาจารย์ดูลย์ มีอายุ 30 ปี ได้ญัตติมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุในคณะธรรมยุต ณ พัทธสีมาวัดสุทัศนาราม จ.อุบลราชธานี โดยมีพระมหารัฐ เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระศาสนดิลก (เสน ชิตเสโน) เจ้าคณะมณฑลอุดร เป็นพระกรรมวาจาจารย์
เมื่อแรกบวช ได้ปฏิบัติกัมมัฏฐานกับหลวงปู่แอก วัดคอโค ซึ่งอยู่ชานเมืองสุรินทร์ ท่านก็พากเพียรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด จนครบไตรมาสโดยไม่ลดละแต่ก็ไม่ปรากฏเห็นผลอันใดแม้เล็กน้อย นอกจากนี้ ยังใช้เวลาที่เหลือท่องบ่นเจ็ดตำนานบ้าง สิบสองตำนานบ้าง แต่ไม่ได้ศึกษาพระวินัยแต่อย่างใด ท่านไปจังหวัดอุบลฯ พยายามมุมานะศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมอย่างเต็มสติกำลัง จนกระทั่งประสบผลสำเร็จ คือสามารถสอบไล่ได้ประกาศนียบัตรนักธรรมชั้นตรี นวกภูมิ เป็นรุ่นแรกของจังหวัดอุบลราชธานี และยังได้เรียนบาลีไวยากรณ์ (มูลกัจจายน์) จนสามารถแปลพระธรรมบทได้
เมื่อครั้งที่หลวงปู่มั่น ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดบูรพา จ.อุบลราชธานี ท่านกับพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม พากันไปฟังธรรมเทศนาของพระอาจารย์มั่น กันเป็นประจำ ทำให้ พระอาจารย์ดูลย์เกิดความซาบซึ้งถึงใจ คำพูดแต่ละคำมีวินัยแปลกดี ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน จึงเพิ่มความสนใจใคร่ประพฤติปฏิบัติทางธุดงค์กัมมัฏฐานมากยิ่งขึ้นทุกที ครั้นออกพรรษาแล้ว พระอาจารย์มั่นได้ออกธุดงค์จึงตัดสินใจออกธุดงค์ติดตามพระอาจารย์มั่นไป หลวงปู่ดูลย์ อตุโลท่านปฏิบัติตามปรารภความเพียรอย่างอุกฤษฏ์แรงกล้า ปฏิบัติตามคำอบรมสั่งสอนของท่านปรมาจารย์อย่างสุดขีด จนแสงแห่งพระธรรมก็บังเกิดขึ้น ปรากฏแก่จิตของท่านรู้ชัดว่าอะไรคือจิต อะไรคือกิเลส จิตปรุงกิเลสหรือกิเลสปรุงจิต และเข้าใจสภาพเดิมของจิตที่แท้จริงได้ จนรู้กิเลสส่วนไหนละได้แล้ว ส่วนไหนยังละไม่ได้
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ท่านเป็นผู้มีอุปนิสัยเยือกเย็น พูดน้อย สงบ อยู่เป็นนิตย์ มีวรรณะผ่องใส ท่านรักความสงบจิตใจใฝ่ในความวิเวกมาก ท่านประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีงามของชาวพุทธตลอดเวลา เป็นเนื้อนาบุญของโลกอย่างแท้จริง ได้บำเพ็ญประโยชน์แก่ผู้อื่นอย่างสมบูรณ์บริบูรณ์
ธรรมโอวาทของ พระอาจารย์ดูลย์ อตุโล “…หลักธรรมที่แท้จริงก็คือ จิต นั่นเอง ซึ่งถ้านอกไปจากนั้นแล้วก็ไม่มีหลักธรรมใดๆ จิตนั่นแหละคือหลักธรรม ซึ่งถ้านอกไปจากนั้นแล้วมันก็ไม่ใช่จิต จิตนั้นโดยตัวมันเองก็ไม่ใช่จิต แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่ใช่ มิใช่จิต การที่จะกล่าวว่าจิตนั้นมิใช่จิต ดังนี้นั่นแหละ ย่อมหมายถึง สิ่งบางสิ่งซึ่งมีอยู่จริง สิ่งนี้มันอยู่เหนือคำพูด ขอจงเลิกละการคิดและการอธิบายเสียให้หมดสิ้น เมื่อนั้น เราอาจกล่าวได้ว่า คลองแห่งคำพูดก็ได้ถูกตัดขาดไปแล้ว และพฤติของจิต ก็ถูกเพิกถอนขึ้นสิ้นเชิงแล้ว…”
“พระอาจารย์ดูลย์ อตุโล” วัดบูรพาราม มรณภาพลงอย่างสงบ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2526 สิริอายุ 96 ปี พรรษา 64
ที่มาหนังสือพิมพ์ข่าวสด คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6 http://www.khaosod.co.th/
http://www.tumsrivichai.com/