สิ่งที่พึงได้จากการอบรมจิต หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม
ทุกคนไม่ทราบว่า เราสร้างเวรกรรมอะไรไว้กี่ชาติกี่อย่าง…นานาประการ เวียนวนตลอดรายการแล้ว
ไหนเลยเล่าเราจะได้ความสุขที่มันถูกต้อง และแน่นอนที่สุด…ไม่เท่ากับการเจริญพระกรรมฐาน
ที่เราได้มาฝึในวัดนี้ หรือไปฝึกที่วัดไหนๆ ก็เหมือนกันหมด ขอให้ฝึกได้สามประการ
1. ระลึกชาติของชีวิตได้ไหม?
2. รู้กฏแห่งกรรมมแล้วรึยัง?
3. แก้ปัญหาได้ไหม?
ปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าอย่างนี้ จะระลึกกฏแห่งกรรมว่าเราทำเวรกรรมอะไรไว้
จะได้แก้กรรมได้จากตัวเราเท่านั้น ไม่ใช่คนอื่นไปแก้ให้เรา เราเป็นคนผูก เราก็ต้องแก้เอง
ไม่ใช่คนอื่นมาแก้ บางคนก็ขอให้หลวงพ่อแก้กรรม แผ่เมตตา อย่างนี้เป็นไปไม่ได้…
กรรมต้องแก้ด้วยผู้ทำกรรมเอง ท่านทั้งหลายเอ๋ย…เราต้องแก้เอง…มานั่งเจริญกรรมฐาน….
ต้องการให้รู้เวร รู้กรรม ถ้าจิตท่านสงบระลึกเหตุการณ์ได้….ชีวิตนี้จะมีความสุข
ที่เราทุกข์มาก่อน….
ขอเจริญพรในเบือ้งต้นว่า ความสุขได้มาจากความทุกข์ คนที่จะมีความสุขแท้….
ต้องผ่านทุกข์ระทม ขมขื่น ตลอดรายการถึงจะรู้จริง มันยังไม่รู้กันซึ้งนัก รู้สั้นๆ รู้แค่หัวบันได
ไม่มีการรู้ตลอดไปอันยาวนานแต่ประการใด ถึงอนาคตวันข้างหน้านั้น นี่แหละท่านสาธุชนทั้งหลาย…
เรามาบวชเนกขัมมะฯ ไม่ใช่บวชชีพราหมณ์ เนกขัมมะปฏิบัติ แปลว่า มาหาความสงบของชีวิต
ถึงจะมีมามากมายก่ายกองเป็นร้อยเป็นพัน เราสงบจิตของเรา อย่าไปสนใจคนอื่นเขา
อย่าไปสนใจเรื่องที่มันเลวร้ายในชีวิตที่แร้นแค้น มันไม่แม้นเหมือน มันจะแชเชือนตลอดรายการ
ชีวิตท่านจะเป็นหมัน ทรัพยากรชีวิตท่านจะหมดพลัน อันนี้มีความหมายมาก
แค่สมบัติมนุษย์….ยังรักษาไว้ไม่ได้ การเจริญกรรมฐาน…ต้องการเอาบุญมาใส่ที่จิตของโยม
ไม่ต้องไปวุ่นวาย ตัดกังวล มาฝึกให้อดทน ฝึกให้ฝืนใจ คนเราถ้าฝืนใจไม่ได้….
ปล่อยไปตามอารมณ์ ตามใจตน ตามใจตัวเองแล้ว ชีวิตท่านจะแร้นแค้น
ชีวิตท่านจะไม่มีแปลนและแผนผังว่า….จะทำอะไร จะไม่มีหน้าที่การงาน ไม่รับผิดชอบด้วยประการทั้งปวง
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.b.yimwhan.com/board/show.php?user=kobkob&topic=109&Cate=9