มส.ตั้ง “หลวงพ่อจรัญ” เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี
นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่ประชุมมหาเถรสมาคมได้พิจารณาเรื่องเสนอขอแต่งตั้งพระสังฆาธิการเป็นที่ปรึกษา ตามที่เจ้าคณะภาค 3 รายงานว่า พระธรรมสิงหบุราจารย์ หรือ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม สิริอายุ 80 พรรษา 59 วัดอัมพวัน ต.บ้านแป้ง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี ได้ปฏิบัติหน้าที่มาด้วยดีจนอายุครบ 80 ปีบริบูรณ์ สมควรได้รับยกย่องเชิดชูเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี ตามความในข้อ 34 วรรคสอง แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 28 (พ.ศ.2546) จึงเสนอรายงานมาเพื่อให้คณะกรรมการมหาเถรสมาคมพิจารณา ทั้งนี้ ที่ประชุมมหาเถรสมาคมพิจารณาเห็นชอบแต่งตั้งพระธรรมสิงหบุราจารย์ ให้ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป
นายอำนาจกล่าวต่อว่า พระธรรมสิงหบุราจารย์ หรือหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม ถือเป็นพระนักวิปัสสนาจารย์ และนักเทศน์ชื่อดังที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธา ทั้งจากชาวเมืองสิงห์บุรีและพุทธศาสนิก ชนทั่วประเทศ และท่านยังมีตำแหน่งปกครองในคณะสงฆ์ ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี แต่ในระยะหลังเมื่อท่านมีอายุมากขึ้นทำให้การปฏิบัติศาสนกิจคณะสงฆ์และการฝึกสอนอบรมปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐานให้กับญาติโยมไปพร้อมกัน กลายเป็นภาระหนักสำหรับท่าน เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้เข้าไปกราบสักการะท่าน และท่านได้ปรารภว่าตอนนี้อายุมากแล้ว ต้องการจะขอวางมือจากการงานด้านการปกครองคณะสงฆ์ ให้พระเถระรุ่นหลังได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตรงนี้แทน ส่วนการฝึกอบรมปฏิบัติธรรมจะยังคงดำเนินต่อไปตลอดชีวิต
อัตโนประวัติ หลวงพ่อจรัญเกิดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2471 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ท่านได้พัฒนาปรับปรุงวัดวัดอัมพวันจนเป็นสถานปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐานที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง พระคุณเจ้ายึดหลักสร้างคน สร้างเหตุดี ตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาและเพื่อสืบทอดแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาโดยแท้จริง พระเดชพระคุณท่านเป็นพระนักพัฒนา พระนักเทศน์ และวิปัสสนาจารย์ จนเป็นที่รู้จักกันทั่วไป ได้รับพระราชทานโล่เกียรติคุณนักสังคมสงเคราะห์ดีเด่นในสาขาสังคมสงเคราะห์อาสาสมัครฝ่ายกิจการพระศาสนา พ.ศ.2528 จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จนได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมสิงหบุราจารย์
ที่มา: ข่าวสด
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.phrathai.net/node/2025?page=116