จิตตภาวนาในพระพุทธศาสนา โดย ท่าน พุทธทาส
หน้าที่ 1 – จิตตภาวนา
ท่านเห็นว่ามันดับทุกข์ไม่ได้ อย่างนี้มันไม่ได้จริงมันเพียงหลอกๆ อาตมาจึงสรุปความว่า ไสยศาสตร์เหล่านั้นเก็บไว้เพียงเพื่อประโยชน์ของคนปัญญาอ่อนเท่านั้น ยิ่งคนปัญญาอ่อนในโลกนี้มากเท่าใดก็เก็บไสยศาสตร์ประเภทเหล่านั้นไว้ให้คนปัญญาอ่อนไปพลางก่อน ไปพลางก่อนก็หมายความว่าจนกว่าเขาจะมีปัญญาแก่กล้าจึงสามารถรับเอาสิ่งปฏิบัติตามพระพุทธศาสนาได้โดยถูกต้อง ถ้าเป็นเรื่องของไสยศาสตร์ มันก็ไม่ใช่เรื่องของพุทธศาสนา ไสยศาสตร์เนี่ยชื่อก็บอกอยู่แล้ว ไสย แปลว่า หลับ ไสยศาสตร์ ก็ศาสตร์ของคนที่ยังหลับอยู่ มีพุทธศาสตร์ พุทธะ แปลว่าตื่น ตื่นนอน ตื่นจากหลับ เมื่อพุทธศาสตร์ ก็แปลว่า ศาสตร์ของคนที่ตื่นแล้ว ซึ่งต่างกันถึงขนาดนี้ก็ลองคิดดู ไสยศาสตร์เป็นศาสตร์สำหรับคนหลับ หลับก็ไม่มีสติปัญญาเป็นเครื่องตื่น ก็ต้องถือไปแบบหนึ่งและจะต้องมากพวกถือไสยศาสตร์นี้จะต้องมากกว่าพวกที่ถือพุทธศาสตร์เป็นธรรมดา เพราะว่าพวกที่ไม่มีความรู้เพียงพอ ไม่มีสติปัญญา ภายหลังมันมีมากกว่าพวกที่จะลืมหูลืมตาตื่นขึ้นมา เป็นพุทธบุคคล คนที่ตื่นแล้ว ดังนั้น จึงมีวิธีการปฏิบัติ ที่เหมาะสมสำหรับคนที่ตื่นแล้ว มิใช่สำหรับคนที่ยังหลับอยู่ การอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การทำพิธีรีตอง เพื่อกำจัดความทุกข์หรือเพื่อจะให้หมดบาปหมดกรรม ให้หมดทุกข์นั้น มันเป็นเรื่องของคนหลับ ที่ยังหลับอยู่ เพราะไม่รู้ตามที่เป็นจริงว่า ความทุกข์นั้นเกิดมาจากอะไร ไม่รู้ตามที่เป็นจริงว่าไอ้สิ่งที่เรียกว่