พระวรธรรมคติ
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ประทานคณะพระราชสุทธิญาณมงคล (หลวงพ่อจรัญ)
เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี วัดอัมพวัน เข้าเฝ้าฯ
ณ สว.ธรรมนิเวศ วันที่ ๒๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๒
เป็นพระคุณยิ่ง ที่วันนี้ ท่านเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี ท่านเจ้าคุณพระราชสุทธิญาณมงคล หลวงพ่อจรัญ แห่งวัดอัมพวัน ได้กรุณานำศิษย์มาถึงวัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อนำพุทธศาสนิกผู้เป็นศิษยานุศิษย์ ให้มาร่วมแสดงกัลยาณจิตพร้อมกับท่าน ต่ออาตมภาพผู้เป็นเพื่อนสหธรรมิก อันการได้มีโอกาสใกล้ชิดติดตามครูบาอาจารย์ผู้งดงามด้วยศีลด้วยธรรมวินัยนั้น นับว่าเป็นบุญอย่างยิ่ง จะไม่ถูกนำไปผิดทาง ผู้มีปัญญาจะไม่แนะนำทางที่ไม่ควรแนะนำ ตรงกันข้ามกับผู้มีปัญญาทรามที่ย่อมแนะนำทางที่ไม่ควรแนะนำ ผู้เดินตามคำแนะนำนั้นชื่อว่าเป็นผู้ประมาท เป็นผู้กำลังเดินไปตามทางแห่งความตาย พระพุทธภาษิตบทหนึ่งมีความว่า “ผู้มีปัญญาทรามย่อมทำความประทุษร้าย” นั่นก็คือผู้มีปัญญาทรามย่อมทำร้ายใครทั้งนั้นได้ ทั้งโดยรู้ตัว หรือไม่รู้ตัวก็ตาม ทุกคนจึงไม่ควรละเลยพระปัจฉิมโอวาท คือ คำสั่งสุดท้ายก่อนจะเสด็จปรินิพพานของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ให้เราทั้งหลายพึงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม
ไทยมีคำพังเพยว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” คือม้าดีมีกำลังจริง ย่อมีฝีเท้าวิ่งได้ดีในระยะทางไกล คนดีย่อมดีทุกเวลา ไม่ว่าต่อหน้าคนหรือลับหลังคน คนดีย่อมเป็นคนดี คนดีไม่ใช่จะดีแต่ต่อหน้าคน ลับหลังคนแล้วไม่ดี คนที่ทำดีแต่เมื่อมีคนเห็น คนไม่เห็นทำชั่วทำไม่ดี นอกจากจะไม่ใช่คนดีแล้ว ยังถือว่าเป็นคนไม่ดีก็ไม่ผิด เป็นคนหลอกลวงให้เกิดความหลงผิด และการทำให้หลงผิดนั้นเป็นธรรมดาจะให้หลงทำความชั่วความไม่ดี และความชั่วนั้นสมเด็จพระบรมครูของพวกเราทรงชี้ให้เห็นว่า “ความชั่วย่อมเผาผลาญในภายหลัง” แน่นอน
กาลเวลาได้พิสูจน์หลวงพ่อจรัญของพวกท่านแล้ว จงภูมิใจในความมีบุญของพวกท่าน ทั้งที่ได้มาพบพระพุทธศาสนา และได้มาพบครูอาจารย์ที่มีปัญญา จึงเห็นค่าสูงสุดของพระพุทธศาสนา อัญเชิญมาสั่งสอนท่านทั้งหลาย ให้ได้รับความปกปักพิทักษ์รักษา ไม่ให้ไปนรก ทั้งเมื่อละโลกนี้ไปแล้ว และทั้งจักไม่พบนรกในโลกนี้ด้วย นรกเป็นที่ของอสัตบุรุษ คือ คนไม่ดี ที่ของสัตบุรษ คือ คนดี คือ สวรรค์ นรกเป็นที่ให้ความทุกข์ทรมาน ส่วนสวรรค์เป็นที่ให้ความรื่นเริงบันเทิงใจ น่าเสียดายที่ไม่ค่อยจะเชื่อกันเช่นนี้ ถ้าเชื่อเสียบ้าง ก็จะไม่มีผู้ทำบาปทำชั่วมากมายนักเช่นทุกวันนี้ ที่น่ากลัวมากกว่าสวรรค์จะว่าง นรกจะแน่น ความชั่วจะเผาผลาญเมื่อถึงเวลานั้น ใครก็ช่วยไม่ได้ ผลของกรรมยิ่งใหญ่เหนืออำนาจทั้งปวง เมื่อกรรมส่งผลแล้วไม่มีอำนาจใดจะทัดทานได้ จงกลัวกรรมเถิด อย่ากลัวจะยากจนเลย ความกลัวจนจะทำให้โลภ และความโลภจะทำให้ฆ่าได้ ทั้งฆ่าตัวเองและฆ่าผู้อื่น มีพระพุทธภาษิตบทหนึ่ง ซึ่งขอฝากไว้คือ “ผู้มีปัญญาทรามย่อมฆ่าตัวเอง เหมือนฆ่าผู้อื่น เพราะอยากได้โภคทรัพย์” ข้อสำคัญ “ชีวิตนี้น้อยนัก” และเมื่อชีวิตนี้สิ้นไปแล้ว ละโลกนี้ไปแล้ว ทรัพย์สักนิดก็จะติดตัวไปไม่ได้ บาปและบุญเท่านั้นที่จะตามไป ให้เกิดชั่วหรือเกิดดี ให้ตกนรกหรือขึ้นสวรรค์
อัญเชิญพระธรรม คำทรงสอนของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ามากล่าวในวันนี้ เพื่อสนองน้ำใจศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อจรัญท่าน ขอจงรับไว้ด้วยดี เพื่อให้ชีวิตสวัสดีตลอดไป ไม่เสียทีที่มีครูอาจารย์เช่นหลวงพ่อจรัญท่าน
ขอบคุณข้อมูลจาก ; http://palipage.com/watam/buddhology/42-04.htm