ช้างรับศีล ….หลวงปู่ขาว อนาลโย

ช้างรับศีล ….หลวงปู่ขาว อนาลโย

ช้างรับศีล

หลวงปู่ขาว อนาลโย แห่งวัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู เป็นศิษย์คนสำคัญของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตะเถระ แม้ท่านจะล่วงลับดับขันธ์ไปแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๖ แต่ท่านก็ยังเป็นที่เคารพนับถือ ในหมู่ผู้ใฝ่ธรรมอย่างไม่เสื่อมคลาย

ท่านเป็นพระปฏิบัติที่ใฝ่ในธุดงควัตรมาตั้งแต่ยังหนุ่ม เมื่อท่านได้ยินกิตติศัพท์พระอาจารย์มั่นก็บุกป่าฝ่าดงตามหาท่าน และเที่ยวติดตามท่านจนภายหลังได้รับเมตตาเข้าไปจำพรรษากับท่านอาจารย์ใหญ่

คืนหนึ่งในพรรษา ขณะที่ท่านกำลังนั่งภาวนาอยู่ในกุฏิ ช้างบ้านใหญ่เชือกหนึ่งได้พลัดตรงเข้ามายังกุฏิท่าน แต่เผอิญกุฏิด้านหลังมีม้าหินใหญ่ก้อนหนึ่งบังอยู่ ช้างจึงไม่สามารถเข้ามาถึงตัวท่านได้ แต่กระนั้นก็เอางวงสอดเข้ามาในกุฏิจนถึงกลดและมุ้ง เสียงสูดลมหายใจดมกลิ่นท่านดังฟูดฟาดๆ จนกลดและมุ้งไหวไปมา แต่ท่านเองไม่ไหวติง นั่งภาวนาบริกรรมพุทโธๆ ตลอด ๒ ชั่วโมง ช้างใหญ่ตัวนั้นไม่ยอมหนีไปไหนราวกับจะคอยทำร้ายท่าน ต่อมาก็เคลื่อนไปทางตะวันตกของกุฏิ แล้วล้วงเอามะขามมากิน

ท่านเห็นว่าหากนิ่งเฉยคงไม่ได้การ จึงตัดสินใจออกไปพูดกับมันให้รู้เรื่อง เพราะเชื่อว่าช้างนั้นรู้ภาษาคน หากพูดกับช้างดีๆ มันคงจะไม่พุ่งมาทำร้ายเป็นแน่

เมื่อตกลงใจแล้ว ท่านก็ออกจากกุฏิมายืนแอบโคนต้นไม้หน้ากุฏิ แล้วพูดกับช้างว่า “พี่ชาย น้องขอพูดด้วยสักคำสองคำ ขอพี่ชายจงฟังคำของน้องจะพูดเวลานี้” ท่านว่าพอช้างได้ยินเสียงท่านก็หยุดนิ่งเงียบ แล้วท่านก็พูดต่อไปว่า

“พี่ชายเป็นสัตว์ของมนุษย์นำมาเลี้ยงไว้ในบ้านเป็นเวลานานจนเป็นสัตว์บ้าน ความรู้สึกทุกอย่างตลอดจนภาษามนุษย์ที่เขาพูดกันและพร่ำสอนพี่ชายตลอดมานั้น พี่ชายรู้ได้ดีทุกอย่างยิ่งกว่ามนุษย์บางคนเสียอีก ดังนั้นพี่ชายควรจะรู้ขนบธรรมเนียมและข้อบังคับของมนุษย์ ไม่ควรทำอะไรตามใจชอบ เพราะการกระทำบางอย่างแม้จะถูกใจเรา แต่เป็นการขัดใจมนุษย์ก็ไม่ใช่ของดี เมื่อขัดใจมนุษย์แล้วเขาอาจทำอันตรายเราได้ ดีไม่ดีอาจถึงตายก็ได้ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์ฉลาดแหลมคมกว่าบรรดาสัตว์ที่อยู่ร่วมโลกกัน สัตว์ทั้งหลายจึงกลัวมนุษย์มากกว่าสัตว์ด้วยกัน ตัวพี่ชายเองก็อยู่ในบังคับของมนุษย์ จึงควรเคารพมนุษย์ผู้ฉลาดกว่าเรา ถ้าดื้อดึงต่อเขาอย่างน้อยเขาก็ดี เขาเอาขอสับลงที่ศรีษะพี่ชายให้ได้รับความเจ็บปวด มากกว่านั้นเขาฆ่าให้ตาย พี่ชายจงจำไว้อย่าได้ลืมคำที่น้องสั่งสอนด้วยความเมตตาอย่างยิ่งนี้”

แล้วท่านก็ขอให้ช้างรับศีลห้า และกำชับให้รักษาให้ดี เมื่อตายไปจะได้สู่ความสุข มีชาติที่สูงขึ้น จากนั้นท่านก็สรุปว่า “เอาละน้องสั่งสอนเพียงเท่านี้ หวังว่าพี่ชายจะยินดีทำตาม ต่อไปนี้ขอให้พี่ชายจงไปเที่ยวหาอยู่หากินตามสบาย เป็นสุขกายสุขใจเถิด น้องก็จะได้เริ่มบำเพ็ญภาวนาต่อไป และอุทิศส่วนกุศลแผ่เมตตาให้พี่ชายเป็นสุขทุกๆ วัน และไม่ลดละเมตตา เอ้าพี่ชายไปได้แล้วจากที่นี่”

ท่านว่าขณะที่ท่านกำลังให้โอวาทสั่งสอน ช้างยืนนิ่งราวก้อนหินไม่กระดุกกระดิกหรือเคลื่อนอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งแม้แต่น้อย ต่อเมื่อท่านให้ศีลให้พรเสร็จและบอกให้ไปได้ มันจึงเริ่มหันหลังกลับออกไปจากที่นั้น

เมตตาและปิยวาจานั้นไม่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้น แม้ช้างก็ซาบซึ้งและสัมผัสได้ด้วยใจ

……..

ที่มา หนังสือลำธารริมลานธรรม
เกร็ดชีวิตและปฏิปทาของพระดีพระแท้
พระไพศาล วิสาโล รวบรวมและเรียบเรียง

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://muangput.com/webboard/index.php/topic,69.0.html

. . . . . . .