ธรรมะกับปัญหาปากท้อง โดย ท่าน พุทธทาส ภิกขุ

ธรรมะกับปัญหาปากท้อง โดย ท่าน พุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – ปัญหาปากท้อง
อาตมาก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่จะพูดกันในหัวข้อนี้เพราะว่ามันกำลังเป็นสิ่งที่มีปัญหาอย่างยิ่งในปัจจุบันคนส่วนมากในปัจจุบันนี้เขาพูดกันว่าถ้าปากท้องยังไม่อิ่มก็ไปสนใจธรรมะไม่ได้หรือจะพูดอีกทีหนึ่งว่าค่อยสนใจธรรมะปากท้องอิ่มแล้วถ้าพูดอย่างนี้มีมากที่สุดจะเป็นความรู้สึกจริงใจของเขาหรือว่าเป็นคำแก้ตัวก็ดูจะได้ทั้งนั้นบางพวกก็อาจเป็นเรื่องแก้ตัวบางพวกอาจจะรู้สึกเช่นนั้นก็เป็นอย่างนี้แหละคนสมัยนี้จึงไม่ค่อยสนใจธรรมะ ไปสนใจแต่เรื่องปากท้องก็เขาไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าธรรมะนั้นเป็นอย่างไรเมื่อพูดถึงคำว่าปัญหาปากท้องก็ดูจะมีความหมายแคบเกินไปคือเพียงแต่เรื่องทำมาหากินเกิดเป็นปัญหาไม่พอกินขึ้นมาหรือว่าทำไม่ได้ขึ้นมาก็เรื่องว่าปัญหาปากท้องอย่างนี้รู้สึกกันเป็นส่วนใหญ่คงไม่ใกล้ไปถึงหลอกว่าปากท้องนี่ถ้ามันกินเอาไปมากมันก็เป็นปัญหาเหมือนกันหรือว่าแค่เห็นแก่ปากท้องมากมันทำคอรัปชั่นเป็นแน่นอนนี่ก็เรียกเป็นปัญหาเกี่ยวกับปากท้อง

ธรรมะในความหมายที่ 2 ก็คือกฎของธรรมชาติคือความจริงอันตายตัวเฉียบขาดของธรรมชาติมีอยู่อย่างไรนี่เรียกว่าเป็นกฎของธรรมชาติมันมีอำนาจทำให้เกิดสิ่งนั้นสิ่งนี้หรือเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นสิ่งนี้หรือควบคุมสิ่งนั้นสิ่งนี้อยู่ทั่วๆไปเรียกว่ากฎของธรรมชาติก็เรียก โดยธรรมะในภาษาบาลีหรือธรรมโดยภาษาไทยความหมายที่ 3 คือหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติที่สิ่งมีชีวิตจะต้องประพฤติปฏิบัติให้ถูกตรงตามกฎของธรรมชาติเฉพาะนั้นมันมีความดับทุกข์หรือว่าตาย ธรรมะความหมายที่ 3 นี้สำคัญมากที่เราสนใจมากหน้าที่ถูกต้องตามกฎของธรรมชาติเราจะต้องประพฤติปฏิบัติส่วนความหมายที่ 4 นั้นไม่ค่อยมีปัญหาอะไรคือผลที่เกิดมาจากการปฏิบัติหน้าที่แต่ละผลเป็นอย่างไรเป็นสุขเป็นทุกข์หรือว่าดีขึ้นๆไปจนบรรลุมรรคผลนิพพานทั้งหมอนั้นก็เรียกว่าผลของการปฏิบัติทั้งนั้นเป็นความหมายที่ 4 ขอให้ท่านทั้งหลายช่วยจำหลักเกณฑ์อันนี้ไว้ให้ดีจะมีประโยชน์ที่สุดที่ศึกษาสิ่งที่เรียกว่าธรรมะหรือพระพุทธศาสนาต่อไปข้างหน้าขอทบทวนอีกอย่างหนึ่งว่าธรรมะมีอยู่ 4 ความหมายคือหมายถึงธรรมชาติอย่างหนึ่ง หมายถึงกฎของธรรมชาติ หมายถึงหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติถึงผลที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ นี่คือธรรมะในความหมายในภาษา โดยเอาภาษาเป็นหลัก ทีนี้จะพูดถึงธรรมะที่มีบทนิยามจำกัดความตามความรู้สึกของบุคคลที่รู้ธรรมะเป็นอย่างดีเขาก็ได้ให้จำกัดความสำหรับคำนี้ไว้ว่าธรรมะคือระบอบปฏิบัติที่ถูกต้องสำหรับมนุษย์ทุกขั้นทุกตอนแห่งวิวัฒนาการของเขา ขอให้ฟังอีกทีว่าธรรมะคือระบอบปฏิบัติไม่ใช่คำไม่ใช่ความรู้ไม่ใช่หนังสือไม่ใช่อะไรอื่นอย่างที่กล่าวมาแล้ว 4 ความหมายระบอบปฏิบัติหมายถึงหน้าที่ความหมายที่ 3 หมายถึงหน้าที่ธรรมะคือระบอบปฏิบัติที่ถูกต้องกับความเป็นมนุษย์คือเพื่อเป็นมนุษย์ที่ถูกต้องทุกขั้นตอนของวิวัฒนาการของเขา ตั้งแต่เกิดจนเน่าเข้าโลงไปแล้วเรียกว่าทุกขั้นตอนแห่งวิวัฒนาการมันเป็นความหมายที่กว้างท่านทั้งหลายลองทบทวนรู้สิว่าความถูกต้องที่เป็นตัวกลางปฏิบัติตลอดชีวิตเรียกว่าธรรมะในความหมายนี้ต่อให้ทำในใจถึงสิ่งๆนั้นให้แจ่มแจ้งให้ชัดเจนแน่นอนลงไปเขาว่าการประพฤติทีทำที่ถูกต้องแต่ความเป็นมนุษย์ของเราทุกขั้นตอนแห่งวิวัฒนาการคือตั้งแต่เกิดจนตายแล้วก็ถามตัวเองดูทุกคนเสียว่าเดี๋ยวนี้เราได้มีสิ่งนี้แล้วหรือยังการประพฤติปฏิบัติที่ถูกต้องแก่ความเป็นมนุษย์ของเราในทุกขั้นตอนเป็นลำดับมา ตั้งแต่เกิดจากท้องแม่จนมานั่งอยู่ที่นี่จนมีการประพฤติปฏิบัติถูกต้องแก่ความเป็นมนุษย์ของท่านทุกขั้นตอนจนมาถึงวันนี้เดี๋ยวนี้ก็เรียกได้ว่าท่านมีธรรมะตามความหมายของคำว่าธรรมะที่จำกัดความขึ้นมาประยุคใช้เป็นหลักปฏิบัตินี่คือสิ่งที่เรียกว่าธรรมะคอยกำหนดลักษณะของมันไว้ดีๆแล้วก็น้อมนำมันไปเที่ยวคู่กับปัญหาปากท้องกับธรรมะนั้นมีอยู่อย่างไร อาตมาบอกแล้วว่ามันมีความหมายที่เล็งได้หลายแง่หลายมุมจะถามว่าปัญหาปากท้องคือธรรมข้อไหนก็จะตอบได้ว่ามันเป็นความหมายที่ 3 ที่ว่าการปฏิบัติที่ถูกต้องตามกฎของธรรมชาตินี่ความหมายที่ 3 ของธรรมะปากท้องมันก็เรื่องกินกินอยู่เพื่อรอดชีวิตอยู่แต่ว่ารอดชีวิตอยู่แล้วจะทำอะไรกันก็อีกปัญหาหนึ่ง หามากินให้รอดชีวิตอยู่มันก็เป็นหน้าที่แล้ว หน้าที่ตามกฎของธรรมชาติแล้วธรรมชาติมีกฎอันเฉียบขาดบังคับให้สิ่งมีชีวิตต้องกินอาหารของการหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องมันก็เป็นการปฏิบัติธรรมะในความหมายหนึ่งอยู่แล้วมันก็ควรจะมีความถูกต้องอยู่แล้วทุกขั้นตอนแห่งวิวัฒนาการของส่วนของตนนี่ ปัญหาปากท้องโดยเนื้อแท้โดยพื้นฐานมันมีอยู่อย่างนี้มันไม่ควรจะมีปัญหาอะไรมากมายนอกจากเราหาใส่ปากใส่ท้องให้เป็นให้ถูกแก่ความเป็นมนุษย์ของเรายามเกิดความทุกข์ขึ้นมาชนิดใดชนิดหนึ่งขึ้นมาก็แล้วกัน ตั้งแต่เป็นเด็กจนเดี๋ยวนี้อย่าให้เกิดปัญหาเป็นความทุกข์ขึ้นมาเพราะเรื่องปากเรื่องท้องถ้าใครทำผิดพลาดมีปัญหาเกิดขึ้นมาเกี่ยวกับเรื่องปากเรื่องท้องก็ต้องคือว่าเป็นความไม่รู้ของคนคนนั้นเองพูดง่ายๆมันเป็นความโง่ของบุคคลนั้นเองที่ไม่รู้จักแก้ปัญหาปากท้อง เมื่อแก้ปัญหาปากท้องได้มันก็คือการปฏิบัติธรรมะในความหมายที่ 3 และหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติคือหัวข้อที่ท่านกำหนดขึ้นมาว่าธรรมะกับปัญหาปากท้องมันเป็นหัวข้อที่รุ่นๆ มันไม่ได้ถามชัดเป็นไปในแง่ไหนจึงจะถามชัดลงไปว่ามันเกี่ยวข้องกันอย่างไรหรือว่ามันมีความรับกันตรงไหนเดี๋ยวนี้เราจะดูว่าธรรมะกับปัญหาปากท้องมันเกี่ยวเนื่องกันอย่างไร โดยที่แท้แล้วมันก็เป็นสิ่งเดียวกันถ้าท่านเข้าใจในความหมายว่าธรรมในความหมายที่ 3 และหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติที่มนุษย์หรือสัตว์ที่มีชีวิตจะต้องปฏิบัติมันก็ต้องมีการหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องกันอย่าให้เกิดความผิดพลาดเกิดทุกข์เกิดอะไรขึ้นมาเพราะการหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องแล้วก็ทำให้การหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องนั่นเองเป็นการปฏิบัติธรรมะโดยสมบูรณ์เสียด้วยมันก็เป็นธรรมะในความหมายที่ 3 ด้วยโดยพื้นฐานมันมีข้อเท็จจริงอยู่อย่างนี้ว่าการหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของมนุษย์นั้นจะถูกต้องแล้วต้องไม่เป็นปัญหาเป็นการปฏิบัติธรรมะในความหมายที่ 3 คือหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติทีนี้ท่านใช้คำว่าปัญหาปากท้องเป็นศัพท์ปัจจุบัน

หน้าที่ 2 – ทำมาหากิน
คำปัจจุบันที่ใช้อยู่กับปัญหาปากท้องของบุคคลของประชาชนคล้ายๆกับท่านที่มีความสงสัยเมื่อกับคนส่วนมากที่สงสัยว่าถ้าจะมัวหรือธรรมแล้วมันก็แก้ปัญหาปากท้องไม่สำเร็จนั่นเป็นการเข้าใจผิดงานใหญ่หลวงเพราะว่ามีธรรมแล้วมันจะทำเรื่องจิตเรื่องปากเรื่องท้องไม่ได้เรื่องปากเรื่องท้องจะไม่เป็นปัญหาขึ้นมาที่เราเห็นชัดๆได้ง่ายก็คือคนบางคนเขาถือว่าไปวัดไปวาไปศึกษาธรรมะไปสนใจธรรมแล้วก็เสียเวลาหากินแล้วฉันยังไม่ต้องการธรรมะฉันต้องการทำมาหากินนี่คือคนที่ไม่รู้ความหมายของคำว่าธรรมะหรือหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติ

ถ้าเขารู้ความหมายอันนี้เขาจะเห็นว่าไม่ใช่ปัญหาเราต้องทำมาหากินให้ถูกต้องตามธรรมะเพราะธรรมะแปลว่าหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติผู้ใดปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามความเป็นมนุษย์ของส่วนของแล้วเชื่อว่าปฏิบัติธรรมะแล้วทั้งนั้นมนุษย์เป็นมนุษย์ก็จะทำหน้าที่ของมนุษย์ไดมองคอยจะสอนมนุษย์มันเป็นมนุษย์เพราะว่ามันทำหน้าที่ของมนุษย์และหน้าที่ตามกฎของธรรมชาตินั้นเรียกว่าธรรมะถ้ามนุษย์ทำหน้าที่ถูกต้องของมนุษย์ตามกฎของธรรมชาติมันก็ไม่เกิดปัญหาขึ้นมานี่มันกลายเป็นว่าการทำหน้าที่นั้นดีคือการปฏิบัติธรรมะช่วยจำคำๆนี้ให้ดีว่าการทำหน้าที่ของตนของนั้นแหละคือการปฏิบัติธรรมะไม่ว่าที่ไหนที่บ้านก็ได้ไม่ต้องมาวัดก็ได้ขอให้ทำหน้าที่แห่งความฝันมนุษย์ของตนให้ถูกต้องก็เรียกว่าปฏิบัติธรรมะนั้นๆมีปัญหาที่จะต้องดูบ้างว่าคนเราไม่สามารถเท่ากันนั่นเพราะการทำงานหน้าที่มันก็ไม่เหมือนกันคนหนึ่งมันเหมาะสำหรับล้างท่อถนน ล้างส้วมก็ทำไปเป็นหน้าที่ที่เหมาะสมแก่ความเป็นมนุษย์ของเขาคนหนึ่ง มีหน้าที่กวาดถนนก็กวาดไป คนหนึ่งมีหน้าที่ขี่ 3 ล้อก็ขี่ไปแต่คนหนึ่งมีหน้าที่แจวเรือจ้างก็ทำไปขอให้ทำด้วยจิตใจที่ปกติรู้สึกว่าเราได้ทำหน้าที่ของมนุษย์ถูกต้องตามกฎฐานะแห่งความเป็นมนุษย์ของเราแล้วก็ควรจะพอใจว่าเราได้ปฏิบัติธรรมะแล้วเรามีความเป็นมนุษย์เราได้ทำหน้าที่ของมนุษย์อย่างไปจับชัดเจนเกี่ยวกับหน้าที่การงานว่ากวาดถนนล้างท่อถนนเป็นระดับต่ำระดับเลวแจวเรือจ้างถีบ 3 ล้อเป็นระดับต่ำระดับเลวเป็นพ่อค้าข้าราชการเป็นคนร่ำรวยนั่นเป็นระดับดีอย่างนี้ไม่ถูก ถ้าเพื่อความเป็นมนุษย์อยู่แล้วระดับไหนมันก็เหมือนกันหมดเพราะเขาได้ทำหน้าที่ของตนดีที่สุดแล้วเพราะว่าเราเกิดมาเหมือนกันไม่ได้เพราะว่าเรามีกรรมที่ได้กระทำไว้เป็นเครื่องจักรเป็นเครื่องแบ่งแยกให้เราเหมือนกันไม่ได้ให้เราเท่ากันไม่ได้เราต้องยอมรับสภาพที่กรรมจัดให้เรามาเป็นต่างๆกันคนหนึ่งจะเหมาะกับการล้างท่อถนน กวาดถนน แจวเรือจ้าง ถีบ 3 ล้อก็ทำไปด้วยความยิ้มแย้มในหน้าที่การงานอย่าคิดไปมากกว่านั้นมันจะเกิดความโง่ให้มาใหม่คือทำให้เป็นทุกข์กันเปล่าๆ แล้วก็สร้างปัญหายุ่งยากในแง่การเมืองแง่ตนอาชีพ แง่อะไรขึ้นมาอย่างที่ตนเป็นอยู่พุทธบริษัทยอมรับกฎของกรรมที่ทำให้เราต้องแตกต่างกันไม่เหมือนกันเลื่อมล้ำต่อกันตามกฎของกรรมหรือกฎของธรรมชาติพวกคอมมินิตย์ไม่ยอมเขาจะเหมือนกันหมดเท่ากันหมดหมดก็เกิดปัญหาตามแบบของคอมมินิตย์ขึ้นมาแต่พุทธบริษัทจะไม่เกิดปัญหานี้เพราะเรายอมรับกฎแห่งกรรมตามที่ธรรมชาติจัดให้มันเท่ากันไม่ได้ขอแต่ว่าให้มันอยู่ด้วยกันได้ก็แล้วกันนานๆเคยเปรียบเทียบว่าต้นไม้ใหญ่โตนี่มันก็อยู่กันได้ตั้งแต่เขียวๆเล็กๆแทบจะดูไม่เห็นเปลือกโคนของมันทำไมมันอยู่กันได้ต้นไม้ขนาดยักษ์ต้นนี้ก็มีชีวิตเล็กๆเป็นตะใคร่เขียวๆดูเห็นบ้างดูไม่เห็นบ้างอยู่ที่เปลือกที่โคนของมัน ทำไมอยู่กันได้แล้วก็เป็นปกติสุขไม่เป็นปัญหาเพราะมันยอมรับสภาพแตกต่างกันนั่นเองทีนี้คนก็แตกต่างกันนิดหน่อยแล้วมันก็แย้งความเสมอภาคนี้มันเป็นกิเลสของคนต่างหากและมันไม่ยอมรับสภาพกรรมตกแต่งกันมาต่างกันถ้าเราจะเท่าเทียมเขาเราก็ขยันในหน้าที่การงานของเรานั่นเป็นการทำกรรมที่ดีที่ถูกสำหรับยกฐานะกู้ฐานะของเราขึ้นมาแล้วก็ดีขึ้นๆมีสถานะสูงขึ้นมามีความเลื่อมล้ำต่ำสูงน้อยลงนั่นคือการปฏิบัติธรรมะ ในความหมายหนึ่งซึ่งจะแก้ปัญหาความเลื่อมล้ำต่ำสูงได้ข้อนี้ต้องการจะพูดให้คิดว่าปฏิบัติหน้าที่ของตนเถอะจะสูงต่ำอย่างไรไม่ต้องนึกมันเป็นหน้าที่เหมือนกันทั้งนั้นหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติทั้งนั้นใครปฏิบัติหน้าที่ของความเป็นมนุษย์ของตนอย่างเต็มที่ตามกฎของธรรมชาติแล้วก็เรียกว่าเป็นผู้มีธรรมะเป็นผู้ปฏิบัติธรรมะหรือว่าเป็นมนุษย์นั่นเองมนุษย์คือผู้ทำหน้าที่ของมนุษย์มนุษย์ต้องทำหน้าที่ต่างกันเพราะว่าในเนื้อในตัวมีสมรรถภาพทางกายทางสติปัญญาทางจิตมันไม่เหมือนกันแต่มาทำสุดความสามารถด้วยกัน ในการทำหน้าที่ของตัวนั้นเราควรให้เกียรติแก่มนุษย์ทุกอาชีพจะล้างท่อถนน นั่งถีบ 3 ล้อเป็นบุรุษไปรษณีย์เป็นอะไรที่ถือว่าระดับต่ำไม่มีต้องระดับต่ำหรือสูงเขาเป็นเพื่อนมนุษย์ของเราเขาทำหน้าที่เพื่อความเป็นมนุษย์ของเราเต็มที่เท่ากับที่คนร่ำรวย คนฉลาดคนหนึ่งเขาเป็นนายทุนที่ร่ำรวยเป็นอะไรก็ได้เขาทำหน้าที่ได้กว้างขวางได้ใหญ่โตเขาลึกซึ้งแต่ระวังให้ดีนะถ้าเขาไม่มีธรรมะแล้วเขาก็จะเลวกว่าคนกวาดถนนที่มีธรรมะก็ได้คือเราไม่ต้องคอรัปชั่นไม่ทำผิดทำชั่วผิดศีลผิดธรรมอะไรนั้นคนร่ำรวยคนมีอำนาจวาสนานะระวังให้ดีเถอะจะสูญเสียความเป็นมนุษย์เพราะไม่มีธรรมะเพราะไม่ซื่อตรงต่อหน้าที่มี แต่ความคดโกงคอรัปชั่นเอาเป็นว่าทุกคนทำหน้าที่แห่งความเป็นมนุษย์ที่เหมาะสมแก่ตนเต็มที่อยู่ตลอดเวลาถูกต้องอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่เกิดมาจนถึงทุกวันนี้นี่คือปฏิบัติธรรมะและถ้าเราคิดดูให้ดีว่าคนนั้นหรือคนจำพวกนั้นเขาทำหน้าที่ของตนปฏิบัติอยู่อย่างนี้จะเกิดปัญหาปากท้องได้อย่างไรแค่ไหน ที่ไม่มีจะกินนั้นมันเกิดขึ้นได้อย่างไร โดยทั่วไปมันเกิดขึ้นเพราะไม่ได้ปฏิบัติธรรมะไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตัวอย่างเต็มที่มันก็เกิดความยากจนและมันก็แก้ความยากจนด้วยความไม่มีธรรมะมากขึ้น ไปลักขโมยอะไรมาอีกมันก็ยิ่งยากจนไปอีกมันก็เป็นปัญหาปากท้องที่เลวทรามมาอีกเพราะมันยังไม่มีธรรมะถ้ามันมีธรรมะแล้วมันจะเกิดความผิดพลาดทำให้เป็นเหตุที่ยากจนอย่างนั้นไม่ได้คนมีธรรมะแล้วจะสนุกสุขในการทำงานช่วยจำไว้คำหนึ่งว่าจะมีความสุขหาความสุขเมื่อทำงานเมื่อทำงานในหน้าที่ของตนจงทำให้เกิดความพอใจจนเป็นสุขในตัวการทำงานอย่าหลงไปว่าเลิกงานไปเที่ยว ไปเล่น ไปกิน ไปนั่นถึงจะมีความสุขความสุขอันนั้นมันเป็นความสุขหลอกลวงมันยึดถือหลอกลวงและก็มีความสุขหลอกลวงในเมื่อทำงานเหงื่อไหลใครย้อยอยู่นี่แหละขอให้รู้สึกพอใจเป็นสุขและสนุกมันก็ฝืนความรู้สึกของคนเป็นอันมากก็ไม่มีธรรมะเฉพาะคนที่มีธรรมะเท่านั้นแหละจะมีความสุขความสนุก ด้วยเมื่อทำงานเหงื่อไหลใครย้อยอยู่กลางแดดกลางอะไรก็ตามอาตมายกตัวอย่างชาวนาในโบราณเขาก็ขุดดินเขาก็ไถนาอยู่กลางแดดกลางลมยิ้มกริ่มอยู่เสมอร้องเพลงเล่นก็ได้แล้วก็มีความสุขทุกนาทีที่เขาทำหน้าที่ของชาวนาเมื่อข้าวออกรวงเขาก็เอาไปขายเป็นเงินเป็นทองไม่รู้ไม่ชี้ควรจะไปทำอะไรไม่รู้ฉันมีความสุขเมื่อได้ไถนาเมื่อได้ขุดนามันไม่เอาเงินนั้นไปกินเหล้าเมายาไปเล่นอบายมุขทั้งหลายอย่างคนเดี๋ยวนี้นิยมกันก็คิดดูเอาเองเหอะว่าคน เดี๋ยวนี้พอมีเงินแล้วไปไหนไปสถานเริงรมทั้งนั้นแหละทั้งหญิงทั้งชายบ้ากันมากขึ้นเมื่อมีเงินเข้าเขาก็คิดว่านั่นมีความสุขและมันก็หลอกตัวเองอย่างยิ่งเพราะมันเข้าใจผิดจึงเป็นความสุข ความสุขอยู่ที่การทำหน้าที่ของมนุษย์พอใจว่าเราทำได้แล้วก็เป็นสุขพอใจตัวเองได้ว่ามันบังคับตัวเองก็ทำได้งานที่เคยเบื่อเคยเกียจไปดูซะใหม่ให้มีความเข้าใจซะได้ว่างานสนุกในการทำงานไม่อยากให้ถึงเวลาเย็นที่ทำงาน เรายังมีความสุขในการงานกอบโกยความสุขจากการงานไม่ใช่จากผลของการงานนี่เพราะมีธรรมะอย่างยิ่งมันเป็นอย่างนี้และจะมีปัญหาปากท้องอย่างไรนี้คนเดี๋ยวนี้มันไม่อยากทำงานเป็นคนขี้เกียจทำงานทั้งนั้นแหละเพราะถ้าได้มาเป็นทรัพย์ก็เอาไปซื้อหาความสนุกร่าเริง บันเทิง นี่มันไม่ถูกธรรมะเลยแล้วมันจะหิวเป็นเปรตอยู่ตลอดเวลามันได้ค่าแรงเงินเดือนมาเท่าไรมันก็ไม่พอกับความอยากหรือกิเลสตัณหาของมันนี่มันยิ่งกว่าปัญหาปากท้องธรรมดาเสียอีกมันหิวทางจิตทางวิญญาณมันก็คิดกันซะใหม่ว่าความสุขจากการทำงานอาตมาจะพูดว่าทุกคนพวกท่านทั้งหลายทุกคนขี้เกียจทำงานเหมือนคนในประเทศเราหรือคนทั้งโลกเรา คนทั้งโลกมันขี้เกียจทำงานโดยเนื้อแท้แล้วมันทำงานเพราะจำเป็นเพราะความจำเป็นบังคับไม่ใช่เนื้อแท้ของจิตใจมันอยากทำงานมันทำงานเพราะความจำเป็นบังคับไม่ทำงานมันไม่มีอะไรจะกินมันไม่มีอะไรจะเล่นนั้น ทุกคนจึงฝืนฝืนใจทำงาน โดยเนื้อแท้ไม่อยากทำงานโดยเนื้อแท้ขี้เกียจทำงานแต่ความจำเป็นมันบังคับมันต้องทำงานอย่ามาอ้างว่าขยันทำงานหรือชอบทำงานมันไม่จริงแต่ดูทุกคนมันไม่อยากทำงานหรือว่าทำงานอยู่มันก็อยากให้ถึง 5โมง 4โมงเย็นมันจะได้ไปเที่ยวมันไม่รักงาน ไม่มันชื่นใจในงานอย่างนี้ยิ่งกว่าปัญหาปากท้องไปเสียอีกเพราะว่ามันทนทรมานทางจิตทางวิญญาณอยู่ในจิตใจในความเป็นมนุษย์ของตนมันเป็นไฟของกิเลสเผาผลาญจิตใจมีทนทรมานเหมือนอยู่ในกองทุกข์คนบางคนจะอดมื้อกินมื้อก็ไม่มีความทุกข์ทางจิตใจชนิดนี้ก็มี สัตว์เดรัชฉานกินบ้างไม่กินบ้างก็ไม่เป็นไรไม่มีความทุกข์มันจึงไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้เราไม่เห็นสุนัขหรือแมวตัวไหนเป็นโรคประสาทแม้ว่าพวกเราเกือบทุกคนเป็นโรคประสาทเพราะว่าคนเรานั้นมีความหิวทางวิญญาณมีความหวังมีวิตกกังวลอยู่ทั้งวันทั้งคืน นอนก็ไม่หลับสนิท เหล่านี้คือผิดธรรมะทั้งนั้นคือไม่มีธรรมะทั้งนั้นมันจึงเป็นโรคประสาทธรรมะขาดไปเท่าไรโรคประสาทจะเข้ามาแทนที่เท่านั้นถ้ามีชีวิตอยู่ด้วยความกระหายวิตกกังวลหวังใจจะขาดในสิ่งนั้นสิ่งนี้อยู่นี่ธรรมะไม่มี ถ้าธรรมะมีมันจะทำหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติพอใจมันอิ่มมันไม่วิตกกังวลคนชนิดนี้จะไม่เป็นโรคประสาทเช่นเดียวกับสัตว์เดรัชฉานสุนัขหรือแมวเป็นต้นขอคิดดูว่าสุนัขนี่มันวิตกกังวลได้เมื่อไหร่เล่าความหมายว่าพรุ่งนี้ยังไม่มีสุนัขตัวนี้สุนัขตัวไหนก็ตามมันไม่มีพรุ่งนี้คือปัญหาว่าพรุ่งนี้จะกินอะไรพรุ่งนี้มันไม่มีแต่มนุษย์เรามันมีว่าพรุ่งนี้จะกินอะไรมะรืนนี้จะกินอะไรน่าจะเป็นอย่างไรๆมันมีปัญหาอย่างนี้เผารวมจิตใจอยู่มันก็เลยเป็นโรคประสาทขาดธรรมะ ตอนนี้เท่าใดโรคประสาทก็จะมาแทนที่เท่านั้นจึงถือธรรมะเถิดอย่าต้องวิตกกังวลให้อิ่มอยู่เสมอในความเป็นมนุษย์ของตนคือพอใจในการทำงานเพราะงานมันหาได้ไม่มีที่สิ้นสุดทำทั้งวันทั้งคืนก็ได้จนกว่าจะเหนื่อยแล้วก็นอนอย่ามานอนวิตกกังวลหรือเป็นโรคจิตหรือตายเลยไอ้สิ่งเลวร้ายอันหนึ่งซึ่งไม่ค่อยจะรู้จักกันนักก็คือความหวังสุนัขนี้ไม่ได้หวังไม่หวังว่าจะเป็นอะไรไม่หวังว่าพรุ่งนี้จะกินอะไร มันมีความหวังชีวิตมันจึงปิดเย็นสนิทเลยไม่ต้องเป็นโรคประสาทแต่มนุษย์อยู่ด้วยความหวังเพราะลูกเด็กๆมันถูกสอนมาให้โง่การศึกษาสมัยนี้มันสอนยังไงก็ไม่รู้มันสอนให้คนเต็มไปด้วยความหวังนั้นเด็กๆก็จะเป็นโรคประสาทได้ตั้งแต่เด็กๆและมากขึ้นไปสอนกันเสียใหม่อย่าหวังอย่าอยู่ด้วยความหวังอยู่ด้วยธรรมะเถิดไอ้ความหวังมันไม่ใช่ธรรมะ มีธรรมะคืออยู่ด้วยสติปัญญามีสติก็คือควบคุมให้มันเป็นไปอย่างถูกต้องมีสติปัญญาก็ทำหน้าที่ของตนเขาเรียกว่าปฏิบัติธรรมะนั่นแหละโดยไม่ต้องหวังอย่าไปหวังให้ความหวังมันเข้ามาทรมานใจมันเป็นไฟเผาจิตใจให้ร้อนด้วยความหวังนั้นท่านอย่าชอบความหวังจะทรมานใจจะเป็นโรคประสาท จะเป็นวัณโรคตายเพราะทนทรมานทางกายทางจิตเอาสิ่งที่เรียกว่าความฝันไปทิ้งทะเลให้หมดและอยู่ด้วยธรรมะคือมีสติปัญญารู้แล้วว่าจะต้องทำอะไรหน้าที่ของเราคืออะไรก็ทำให้สนุกไปเลยอย่าให้ความหวังความหิวทางวิญญาณนั้น เข้ามาแผดเผาจิตใจจะเปรียบเทียบให้เห็นความต่างข้อนี้เช่นว่าคนหนึ่งซื้อรดตาลี่คนหนึ่งซื้อแล้วหวังที่จะถูกหวังอยู่ทั้งกลางวันกลางคืนหวังเหมือนคนบ้าส่วนคนหนึ่งไม่หวังซื้อไปแล้วก็ตรวจสอบวันรดตาลี่ออกครั้งเดียวนี่สองคนนี้คนไหนถูกทรมานจิตใจมากกว่ากันคนที่มันหวังจะถูกอยู่เรื่อยมันก็ถูกทรมานถูกแผดเผาจิตใจด้วยความหวังและมันจะสูญเสียระบบปกติในร่างกายไม่มีผลอะไรและก็จะเป็นโรคภัยไข้เจ็บทางจิตทางวิญญาณมากขึ้นนี่ ถ้าซื้อรดตาลี่ก็ไม่ต้องหวังให้มันเผาจิตใจนี่คอยรอวันออกแล้วก็ตรวจตัวเลขเอาก็แล้วกันอย่างนี้มันเย็นมันสบายมันเป็นการประพฤติธรรมถ้าอยู่ด้วยความหวังมันก็ไม่เป็นการประพฤติธรรมเพราะว่าความหวังนั่นมันเป็นกิเลสคือผิดกฎธรรมชาติที่จะอยู่ด้วยความสงบสุข อาตมาจึงขอเอามากล่าวซะด้วยว่าอย่ามีชีวิตอยู่ด้วยความหวังที่แผ่เผาจิตใจโดยเฉพาะคนหนุ่มคนสาวที่หวังนั่นหวังนี้เรื่อยๆๆๆไประวังเถอะมันเผาอยู่ตลอดเวลาอย่าไปหวังอย่าไปสร้างความหวังเพียงแต่ให้รู้ว่าต้องทำอย่างไรมันก็ทำอย่างนั้นให้สนุกไปดีกว่าอย่าให้หวังอย่าให้ต้องหวังมาเผาจิตใจเนี้ยมันประหยัดชีวิตนี้ไม่ถูกเผาโรคภัยไข้เจ็บปัญหาปากท้องจะเกิดขึ้นไม่ได้แต่บุคคลคนผู้ประพฤติธรรมมะอยู่อย่างนี้มีธรรมมะคุ้มครองอย่างนี้ไม่มีความหวัง ไม่มีความอยาก ไม่มีความวิตกกังวลมาแผ่เผาจิตใจอยู่ด้วยพระนิพพานพระนิพพานนั้นแปลว่าเย็นทางจิต ทางวิญญาณเมื่อไรเย็นเมื่อไม่มีไฟเข้ามาสุมเผาไฟคืออะไร ไฟคือกิเลส ความโง่ ความอยาก ความหวัง ความวิตกกังวลอย่างนี้เป็นไฟกิเลส เผาดวงจิตวิญญาณให้ร้อนเมื่อร้อนก็หมดความเป็นนิพพานเมื่อไรไม่มีกิเลสหรือไฟกิเลสเหล่านี้แผ่เผามันก็เย็นเป็นพระนิพพานในความหมายหนึ่งในระดับหนึ่งซึ่งก็เป็นนิพพานแท้เหมือนกัน

หน้าที่ 3 – สติปัญญา
เพียงแต่มันไม่เด็ดขาด อาวรณ์มันเป็นช่วงระยะ ระยะ นั้นแหละเป็นผลของการประพฤติธรรมมีชีวิตเย็นอยู่ด้วยความหมายของพระนิพพาน และก็ไม่ต้องเป็นโรคประสาทไม่ต้องเป็นโรคจิต ไม่ต้องเป็นบ้า สนุกอยู่ด้วยการงานปัญหาเรื่องปากเรื่องท้องมันก็ไม่มี จะไม่มีความยากจนมากล้ำกายบุคคลประเภทนี้จะมีธรรมมะสนุกในการงานทีมันยากจนอยู่โดยทั่วไปนั่นมันเป็นคนไม่มีธรรมมะมีแต่ความโง่มีแต่กิเลสเขาไปบูชาความไม่ต้องทำงานได้สนุกสนานเอร็ดอร่อยทางเนื้อทางหนังทางหูทางตา ทางจมูกทางผิวหนังทางจิตเอยเหมือนที่คนเขาเป็นมาแล้วก็ใช่บำรุงบำเรอตามอารมณ์ซึ่งเป็นอบายมุขทั้งนั้น ถ้าเคยบวชเคยเรียนแล้วก็รู้ว่าอบายมุขคืออะไรถ้าไม่เคยบวชเคยเรียนก็ไม่เคยได้ฟังก็ไม่ค่อยรู้ขอบอกว่าอบายมุขปากทางแห่งความชิมหาย ทรัพย์สมบัตินั้นคือดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน ดูการเล่น เล่นการพนัน คบคนชั่วเป็นมิตร เกลียดคร้านทำการงาน ดื่มน้ำเมาคือของเมาทุกชนิดจะเมาเหล้า เมายา เมาตัณหา เมากิเลส เมาหนัง เมาละคร เมายาเสพติดเมาอะไรแล้วสุดแท้เป็นความเมาคือสูญเสียความปกติแห่งจิตเป็นความประมาณนั่นเป็นความไม่มีสติไม่ต้องอะไรไปดูหนังบางเรื่องนั่นแหละเป็นความเมาเกิดความประมาณสูญเสียสติหมดเราก็ควบคุมเด็กๆของเรา เว้นการความเมาชนิดนี้กลับยุยงส่งเสริมในการจอโทรทัศน์นั้นแหละของเมาเข้าสิงเด็กๆวิญญาณเด็กๆเป็นคนเมากันไปหมดก็แก้ไม่หายด้วย ดื่มน้ำเมามันก็จะต้องสูญเสียแห่งความปกติสุขและโชคทรัพย์ เที่ยวกลางคืนเถอะคอยดูเห็นอยู่แล้วที่กรุงเทพมันมากกว่าที่ไหนอีกมีสิ่งที่ยั่วให้ออกเที่ยวกลางคืนเต็มไปหมดเสื่อมสุขภาพกายเสื่อมสุขภาพจิตแล้วก็หมดธรรมมะสูญเสียธรรมมะหมดธรรมมะเล่นการพนันทุกชนิดมันก็ถูกผีสิงถูกผีการพนันสิงก็อยู่ด้วยความหวังความทรมานทำการงานเพราะมันชอบการพนันดื่มน้ำเมาเที่ยวกลางคืนดูการเล่นโมหราศพไม่เป็นการศึกษาซะเลยไอ้การเล่นที่เป็นการศึกษาห้ามแต่ถ้าข้าศึกที่กุศลนั้นก็ห้ามเล่นการพนันก็ง่าแล้ว คบคนชั่วเป็นมิตรเราก็ถูกดึงไปทำแบบของคนชั่วยังมีคนพูดอยู่ว่าถ้าคนชั่วเขาไม่สูบบุหรี่ไม่กินเหล้าเขาไม่มีเพื่อนมันก็เพื่อนชั่วทั้งนั้นแหละจะไปเอามันทำไมเราไม่สูบบุหรี่เราไม่กินเหล้าก็ไม่มีเพื่อนที่ชั่วมีเพื่อนดีๆก็ได้มันจึงขอร้องว่าท่านทั้งหลายอย่าไปข้าง ข้อนี้ว่าถ้าไม่สูบบุหรี่ไม่มีเพื่อนไม่เล่นนี้เลิกข้างอย่างนี้ดีกว่าเพื่อนเลวเพื่อนนำลงนรกไม่ต้องการหาเอาเพื่อนที่ให้ปลอดภัยอยู่สวรรค์กันดีกว่าและข้อสุดท้ายเกลียดคร้านทำการงานอย่างที่ว่าเมื่อตระกี้นี้แล้วเป็นกิเลสชนิดหนึ่งของคนที่ไม่มีธรรมมะมันจะเกลียดคร้านทำการงานไปซักฟองตัวเองดูให้ดีไปทดสอบตัวเองดูให้ดีว่าเรารักที่จะทำงานไหมหรือว่าจะต้องมีการบังคับแต่ถ้าทำงานเฉพาะอย่างที่จำเป็นเรานั้นแหละคือคนขี้เกลียดทำงานระดับไหนก็ตามใจพวกข้าราชการมาสายและกลับก่อนเวลาเนี้ยคือขี้เกลียดทำงานมันเอาเปรียบงานผิดหลักอบายมุขผิดหลักธรรมมะของพระพุทธเจ้าอบายมุข 6 คือดื่มน้ำเมาเที่ยวกลางคืนดูการเล่นเล่นการพนันคบคนชั่วเป็นมิตรเกลียดคร้านทำการงาน 6 อย่างนี้คนจนเขาทำแข่งขันกับพวกนายทุนคนร่ำรวยเป็นนายทุนเขาจะมีอบายมุขเป็นอย่างไรคนยากจนทำอาชีพมันก็แข่งขันจะทำให้เท่ากันให้เหมือนกันมันก็ตกนรกทั้งเป็นมันก็มีปัญหายิ่งกว่าปัญหาปากท้องยากจน ขัดสน ทรมาน

ทั้งหมดทั้งสิ้นเพราะมันไม่มีธรรมมะนั้นอย่าทำอะไรให้ผิดอย่าทำอะไรให้โง่จนสร้างอบายมุขขึ้นมาคือปากทางแห่งความชิมหายเดี๋ยวนี้เรามองเห็นอบายมุขข้อใหม่ๆที่จะเอามาเพิ่มเติมให้กับอบายมุข 6 ของพระพุทธคือบวชลูกเอาหน้าบวชลูกคนหนึ่งมันตั้งงบประมาณไว้หมื่นหนึ่งค่าดนตรีค่ามหรสพ5000ค่ากินหล้าเมายา2500ค่าอย่างอื่นพอดี10000บวชลูกคนหนึ่ง10000อยู่ไม่ถึง 7 วันมันสึกอบายมุขโง่ที่เกิดขึ้นมาใหม่ที่ว่าลูกคนที่ 2 จะบวชมันต้องหาเงินหมื่นหนึ่งอีกมันก็จำนองอะไรมาที่นามาบวชลูกคนที่ 2 หมื่นหนึ่งอีกพอลูกคนที่ 3 บวช อีกมันก็ทำอย่างนั้นอีกพอฉิบหายหมดเลือกสวนไร่นาเป็นของเจ้าหนี้หมดอบายมุขบวชลูกเอาหน้าที่ได้เกิดขึ้นในหลายๆจังหวัดหลายๆแห่งไอ้ที่บวชลูกไม่ได้ประโยชน์อะไรได้มันบวช 7 วัน 3วัน 10วัน แล้วมันก็สึกไปโดยไม่รู้อะไรพ่อแม่มันเสียเงินหมื่นหนึ่งทุกๆรายมันชอบมหรสพไปจ้างมหรสพในการบวชลูกครึ่งหมื่นแค่กินอยู่เมายาก็หมดอีกหมื่นหนึ่งค่าเครื่องบวชค่าถวายพระไม่กี่สตางค์และมันก็เสียเงินหมื่นหนึ่งเพื่อบวชลูกหนึ่งคนบวชลูกสามคนก็ฉิบหายหมดเนื้อหมดตัวนี่อบายมุขใหม่เกิดขึ้นในวงที่ไม่มีสติปัญญาพระพุทธเจ้าไม่ได้สอนอย่างนี้ปัญหาปากท้องมันเกิดขึ้นเพราะพ่อแม่มันโง่เลี้ยงลูกแบบนั้นมันก็ยิ่งกว่าปัญหาปากท้องและมันก็ไม่ได้ผลอะไรทางจิตใจด้วยถ้าบวชอย่างสมัยพระพุทธกาลสมัยพระพุทธเจ้าไม่ต้องเสียสตางค์นี่ที่บวชเขาลาพ่อลาแม่เขาไปอยู่กับพระสำนักอยู่ในวัดวันดีคืนดีพระก็หาจีวรทางนั้นทางนี้ก็ได้บวชพระไม่มีใครเสียซักสตางค์เดียว เป็นพระจริงๆสำเร็จพระอรหันต์ก็มีมาเปรียบเทียบกันดูเดี๋ยวนี้บวชลูกคนหมื่นหนึ่งบวชสามคนฉิบหายหมดนี้ถ้าบวชกี่คนกี้คนก็ได้ไม่เสียซักสตางค์หนึ่งพิจารณาดูให้ดีว่าทำไปด้วยความโง่นั้นมันเป็นอย่างไรทำไปด้วยความฉลาดถูกต้องนั้นมันเป็นอย่างไรถ้าทำไปด้วยความโง่จะผิดหลักธรรมะทั้งนั้นถ้าทำไปด้วยความฉลาดจะถูกธรรมะทั้งนั้นมองเห็นประโยชน์ที่จะได้รับจากการกระทำนี่ถ้าถือหลักอย่างนี้ปัญหาปากท้องมันก็ไม่มีมีแต่ธรรมะทุกอย่างไม่มีปัญหาที่มันยากจนมันไม่มีปัญหางานก็ขี้เกียจทำชอบอบายมุขหากิเลสชอบไปปล้นไปจี้ลักขโมยแล้วแต่เขาจะทำได้มันก็หมดเลยหมดทั้งทางกายหมดทั้งทางจิตมันยากจนทั้งทางกายทั้งทางทรัพย์สมบัติทั้งทางจิตใจทางวิญญาณมันจนไปหมดนั้นถ้าถือธรรมะมันสนุกในการทำงานไม่มีอบายมุขเลยไม่กี่เดือนไม่กี่ปีมันจะมีเงินมันจะมีทรัพย์สมบัติมันจะมีหลักทรัพย์ที่เพียงพอมีสติปัญญาดำรงชีวิตให้เป็นสุขอยู่ได้นี่พูดให้เห็นว่าถ้ามีธรรมะ แล้วปัญหาปากท้องจะไม่มีถ้าไม่มีธรรมะแล้วแม้แต่ปัญหาปากท้องเล็กๆน้อยๆอย่างโง่เขลามันก็มีและก็มีมากขึ้นจนต้องล้มละลายนั้นขอให้รู้เถอะว่าที่ไม่มีจะกินนั้นมันไม่มีธรรมะนั้นขอให้มีธรรมะเถอะไม่มีปัญหาเรื่องไม่มีจะกินบอกแล้วว่าธรรมะเป็นหน้าที่ของมนุษย์มันยิ่งสุขสนุกสนานมันยิ่งกว่าขยันซะอีกเพราะมันขยันมันก็ทำเพลินไปทำหน้าที่ของมนุษย์คือการปฏิบัติธรรมะแล้วมันไม่มีทางที่จะยากจนเพราะมันสนุกในการทำงาน แล้วมันเว้นอบายมุขเพื่อฉิบหายนั้นหมดไม่เท่าไรมันก็ตั้งเนื้อตั้งตัวได้หลายคนมันก็มีอยู่เป็นตัวอย่างที่เขามามือเปล่าตั้งตัวได้จนเป็นคนรวยคนดีก็ดีแต่ที่รวยแล้วไม่มีธรรมะไม่ดีสูบเลือดคนอื่นยาวเลยมันจะมีผลร้ายที่สุดนั้นเราถือธรรมะตามที่ตนปฏิบัติอย่างไรแล้วสนุกสนานอย่างยิ่งไม่มีปัญหาเรื่องปากเรื่องท้องนั้นไปบอกคนเหล่านั้นทีว่าที่มันไม่มีจะกินเพราะไม่ปฏิบัติธรรมะแล้วอย่ามายัดเหยียดว่าปฏิบัติธรรมะแล้วทำให้ยากจนและบางคนว่าปากท้องยังไม่อิ่มมาปฏิบัติธรรมะไม่ได้แล้วพอเห็นว่าปฏิบัติธรรมะ แล้วปากท้องมันจะเกินกว่าอิ่มเสียอีกเพราะมันจะอิ่มไปถึงจิตใจด้วยเดี๋ยวนี้ทุกแห่งมีคนพูดว่าให้รอก่อนธรรมะไม่มีอะไรจะกินเรารอให้มีอะไรกินก่อนแล้วจึงค่อยไปธรรมะนั่นคือคนไม่รู้จักธรรมะว่าอะไร อาตมาเคยได้ยินคำชนิดนี้มาด้วยหูตนเองเป็นคนมีการศึกษาไปเรียนมาจากเมืองนอกเมืองนาบางคนรอให้แก่เสียก่อนจึงจะมีธรรมะมันก็เลยไม่ต้องสนใจธรรมะมันก็ตายเปล่าธรรมะมันจะทำให้มีกินเมื่อทำหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติแล้วมีกินอย่างพระเยซูสอนไว้ว่าไอ้นกกระจิบ นกกระจอกมันยังไม่ตายพระเจ้าเลี้ยงไว้ ขอให้ท่านทำหน้าที่ของธรรมชาติเถิดนกกระจิบนกกระจอกมันก็หากินได้ทำหน้าที่ตามธรรมชาติก็ไม่อดตายแต่นี่เป็นคนทั้งทีมีอะไรมากกว่านกกระจิบนกกระจอกมันจะต้องอดตายนั้นเลิกพูดกันเสียทีว่านั้นธรรมะคือถ่วงความเจริญความก้าวหน้าในทางโลกมันก็เป็นไปได้ธรรมะเขามีไว้สำหรับให้โลกมันหมดปัญหาคุณช่วยจำไปด้วยว่าธรรมะมันทำให้คนในโลกมันหมดปัญหาไม่ก็ทิ้งโลกไปอยู่ป่าถ้าศึกษาธรรมะ แล้วมันบ้าก็ต้องการให้อยู่ในโลกนี้มันไม่มีปัญหาธรรมะเข้ามาแล้วปัญหาต่างๆในชีวิตประจำวันจะหมดไปนี่ธรรมะมุ่งหมายอย่างนี้และอยู่ในโลกนี้ด้วยชัยชนะชนะโลกไม่แตะต้องเขาไม่ครอบงำเขานั้นธรรมะจึงยิ่งกว่าจะแก้ปัญหาปากท้องมันแก้ทุกปัญหาทีนี้ก็มองไปถึงคนร่ำรวยไม่อดอยากแล้วทำไมต้องเป็นโรคภัยไข้เจ็บเป็นโรคประสาทเป็นโรคจิตเป็นอะไรต่างถูกทรมานนั้นคนร่ำรวยก็เป็นโรคทางจิตทางวิญญาณไม่มีความสุขก็มีอยู่มากก็มันขาดธรรมะเหมือนกันนั้น เราจะเอาเรื่องร่ำรวยหรือยากจนมาเป็นเครื่องวัดนี้ไม่ได้ต้องเอาว่ามีธรรมะหรือไม่มีธรรมะมาเป็นเครื่องวัดถ้ามีธรรมะก็ไม่มีปัญหาในทุกระดับคนจนก็จะไม่จน คนมั่งมีก็จะไม่เป็นโรคประสาทสูบเลือดคนจนเพราะว่าเขามีธรรมะคนมั่งมีก็ไม่ยึดมั่นถือมั่นเหมือนคนบางคนจนเป็นโรคประสาทด้วยความมั่งมีของตนไม่ต้องเป็นโรคจิตเพราะว่าความมั่งมีของตนเพราะว่าเขามีธรรมะนั้นธรรมะแก้ปัญหาตลอดตั้งแต่พื้นฐานจนถึงระดับสูงสุดเป็นคนร่ำรวยรวยเป็นเทวดาในสวรรค์มันทีธรรมะแก้ปัญหาได้ขอให้คิดดูว่าเดี๋ยวนี้ไอ้โลกทั้งโลกมันมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาเรื่องการเมืองการปกครองอะไรต่างๆล้วนแต่เป็นเรื่องไม่มีธรรมะมีมูลมาแต่เรื่องปารกเรื่องท้องไม่มีธรรมะมีปัญหาเกิดขึ้นเป็นคนยากจนเป็นคนเจ็บป่วย เป็นคนไม่รู้หนังสือเป็นคนอะไรต่างๆนาๆเพราะว่ามันไม่มีธรรมะถ้ามีธรรมะแล้วปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นเรามองดูแม้แต่เรื่องเศรษฐกิจมันมีมูลมาแต่เรื่องปากท้องไอ้เรื่องการเมืองที่วุ่นวายมันมีมูลมาแต่เรื่องปากท้องการปกครองไม่สำเร็จเพราะว่ามันมีมูลมาแต่เรื่องปากท้องรัฐบาลก็แก้ไขเศรษฐกิจการเมืองการปกครองไม่ได้ถ้าไม่มีธรรมะมันก็จะมีปัญหาที่เกิดมาจากปากท้องจนแก้ไม่ๆไหวขอให้ดูเถอะถ้าไม่มีธรรมะมาช่วยก็แก้ไขการเมืองการปกครองไม่ได้นี่ปัญหาปากท้องขนาดยักษ์ของประเทศหรือของโลกก็แก้ได้ด้วยธรรมะ ธรรมะมีปัญหาเหล่านี้ก็ไม่มีอย่าว่าแต่ปัญหาปากท้องของคนแต่ละคนปัญหาปากท้องของประเทศ ปัญหาปากท้องของโลกทั้งโลกมันก็แก้ได้ด้วยธรรมะแต่เดี๋ยวนี้คนในโลกและประเทศไม่สนใจธรรมะมันเห็นเรื่องเศรษฐกิจการเมืองเป็นสำคัญมาไม่มาสนใจในธรรมะมันก็แก้ปัญหาไม่ได้แล้วคอยดูเหอะไม่อาจจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจการปกครองได้ถ้าไม่เอาธรรมะเข้ามาช่วยไปเสียไม่มาสนใจในธรรมะมันก็แก้ปัญหาเหล่านั้นไม่ได้ขอให้คอยดูไม่อาจจะแก้ไขเศรษฐกิจการเมืองการปกครองได้ถ้าไม่เอาธรรมะเข้ามานี้ขอให้เราทุกคนมองเห็นข้อเท็จจริงอันนี้และช่วยดันเต็มที่เพื่อให้ธรรมะกับมามีการปฏิบัติหน้าที่ของตนถูกต้องตามกฎของธรรมชาติคือเป็นมนุษย์ที่ถูกต้องทุกขั้นตอน ตั้งแต่เกิดมาจนตายให้มีธรรมะอย่างนี้กลับมาแล้วปัญหาต่างๆในสังคมในประเทศหรือในโลกจะหมดไปเดี๋ยวนี้ทั้งโลกไม่มีเรื่องของธรรมะมาปรึกษาหารือหรือแก้ไขปัญหาอื่นองค์การสหประชาชาติเป็นที่ทะเลาะไม่มีธรรมะเข้ามาแก้ปัญหาเขาไม่ได้ใช้ธรรมะกันเลยเขาใช้ฝีปาก ใช้อำนาจ ใช้พรรคพวกอะไรต่างๆเพื่อแก้ปัญหาอย่างนี้มันจะสร้างปัญหาปากท้องคือความไม่สงบสุขของประชาชนในโลกมากขึ้นนั้น ขอให้มันเปลี่ยนเสียทีให้องค์การใหญ่โตของโลกของระหว่างชาติเอาธรรมะขึ้นมาพิจารณาแล้วใช้มันแก้ปัญหาให้หมดไปจากโลกปัญหาที่คาราคาซังอยู่ในโลกยังมีอะไรบ้างท่านที่อ่านหนังสือพิมพ์ก็รู้อยู่ว่าทั่วโลกมีปัญหาอะไรบ้างก็ไปพิจารณาดูแต่ละรายมันไม่มีธรรมะมันแก้ปัญหาไม่ได้ขออภัยออกชื่อปัญหาอเมริกันกับอิหร่านถ้าไม่เอาธรรมะมาช่วยปรับปรุงมันก็ไม่มีทางจะพูดรู้เรื่องมันก็แก้ปัญหาไม่ได้ถ้าศาสนาเข้ามาธรรมะเข้ามาง่ายนิดเดียวมันจะยุติปัญหาได้ในพริบตาเดียวนี่ธรรมะมันอย่างนี้มันจะแก้ปัญหาปากท้องได้และจะแก้ปัญหาที่มีมูลมาจากปากท้องได้อีกทีหนึ่งก็เลยหมดปัญหาอาตมาจะต้องเรียกพุทธบริษัททุกคนที่นี่หรือยินดีที่จะปฏิบัติตามคำสอนของพระเจ้ามันเลยเรียกว่าพุทธบริษัทมันก็รีบทำให้สำเร็จคือรู้จักธรรมะเพียงพอและก็ปฏิบัติธรรมะให้เพียงพอ เพื่อใช้แก้ปัญหาชีวิตให้ถูกต้องและจะได้ชื่อว่าเป็นพุทธบริษัทพระพุทธเจ้าก็จะคุ้มครองให้มีชีวิตเย็นไม่เป็นโรคประสาทไม่ต้องอายสุนัขที่เป็นโรคประสาทอีกต่อไปเมื่อคนเราเป็นโรคประสาทอย่างมากมายแม้แต่สุนัขสักตัวก็ไม่ได้เป็นจะละอายมันที่จะแก้ปัญหาข้อนี้ได้คือดมควันถ้าไม่สร้างปัญหาอะไรขึ้นมาก็ต้องเป็นทุกข์ทางกายทางจิต ทางวิญญาณเพราะธรรมะทั้งนั้น ขอจบลงด้วยการย้ำเท่านั้นว่าธรรมะคือธรรมชาติธรรมะคือกฎของธรรมชาติๆ ธรรมะคือผลที่เกิดมาตาม กฎของธรรมชาติเป็นอย่างไรเพราะเราก็มีการปฏิบัติให้ถูกต้องแก่ความเป็นมนุษย์ของเราทุกขั้นทุกตอนของวิวัฒนาการตั้งแก่เกิดมาทุกย่อยเป็นฝ่ายจะเข้าโลงเป็นความผิดตลอดสบายนั้นนี่คือมีธรรมะปัญหาอะไรปัญหาปากท้องไม่ต้องสงสัยมันจะหมุดเดียวเพราะเรามีธรรมะประพฤติธรรมะคือหน้าที่ของมนุษย์อาตมาขอยุติการบรรยายด้วยความสมควรแก่เวลาในครานี้ขอยุติการบรรยายได้เพียงเท่านี้

http://www.vcharkarn.com/varticle/33159

. . . . . . .