ผู้ปฏิบัติซึ่งจะได้ผลภายใน ๗ วัน…หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม
สำหรับผู้ปฏิบัติซึ่งจะได้ผลภายใน ๗ วันนั้น
ต้องก้าวหน้าอย่างนี้
หูได้ยินเสียง เกิดสัมผัส ก็ตั้งสติไว้ที่หู
เอาจิตปักไว้ที่มันสัมผัส
จิตเกิดขึ้นแล้ว เสียงนั้นเป็นเสียงด่า เสียงว่า
หรือเสียงที่เขาพูดกัน คุยกันตามไปสนใจฟังในเรื่องนั้น
จึงกำหนดว่า เสียงหนอ ๆ เป็นต้น
ในเมื่อสติควบคุมจิตเข้าไว้ได้ตามสัมผัสนี้
คือ อินทรีย์ทางหู สติดีศีลก็มา เป็นต้น
มารยาทก็เกิดขึ้นในจิตใจ จิตใจก็ดี
จะพูดออกมาพาทีก็มีปัญญา
มันเกิดขึ้นเป็นอานิสงส์ของตนเอง
สำหรับผู้ปฏิบัติเท่านั้น ผู้ไม่ปฏิบัติจะไม่เกิดประโยชน์เลย
ผู้ปฏิบัติจะต้องมีสติอยู่ทางนั้น
จมูกก็ดี เมื่อได้กลิ่นจะเหม็นหรือหอมไม่สำคัญ
สำคัญอยู่ที่ มีสติควบคุมในการดมกลิ่น
ลิ้นลิ้มรสอาหาร ก็ตั้งสติไว้ทำได้ รับรองเลยว่าต้องได้ผล
สำหรับผู้ปฏิบัติธรรม
สำคัญผู้ปฏิบัติธรรมที่ไม่กำหนด ไม่ใช้สติ
มันก็ไม่เกิดประโยชน์ในการปฏิบัติเลย
ว่างเปล่า ไม่ได้ผล คนเรามีสติอยู่ตรงนั้น
มีหน้าที่การงานต้องสัมผัสอยู่ตลอดรายการ
ลิ้นรับรสเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ต้องปฏิบัติกำหนด
ตักอาหารก็ต้องกำหนด เคี้ยวก็ต้องให้ละเอียด
กำหนดกลืนด้วย ก็ได้ใจความออกมาว่า
ต้องมีสติทุกอิริยาบถ ต้องกำหนดทั้งนั้น
อิริยาบถคู้เหยียด เหยียดขา ก็ต้องกำหนด
เราจะได้รู้อิริยาบถของเรามีกี่ระยะ
คู้มามีกี่ระยะ เหยียดออกไป มีกี่ระยะ
ถ้าท่านทำช้า ๆ ท่านจะเห็นสภาวธรรม
ถ้าทำเร็ว ๆ จะจับไม่ได้ว่ามีกี่ระยะ
ผู้ปฏิบัติธรรมต้องจับจุดนี้ไว้ก่อน
ต้องทำจุดนี้เป็นเบื้องต้น จึงจะกำหนดได้
บางคนนั่งกรรมฐานเป็นปี ๆ ไม่ได้ผลเลย
มีแต่เรื่องราวไม่เข้าเรื่อง สิ่งที่เปลืองเวลา
ถ้าปฏิบัติกำหนดอิริยาบถอย่างนี้
มันจะสำรวม ระวัง หน้าที่การงานของตน
มันจะไม่มีความขยันสำหรับตน
ไม่ใช่ขยันนอกหน้าที่การงานของตน
ไม่ใช่ตนไปรับผิดชอบคนอื่นได้
คนเราต้องรับผิดชอบตัวเองให้ได้โดยวิธีนี้
เรียกว่า พระกรรมฐาน
ตั้งสติควบคุมจิตไว้ ไม่ให้จิตต้องหลั่งไหลไปสู่ที่ต่ำ
ต้องฝืน การกำหนดนี่เป็นตัวฝืนใจ
เป็นตัวธรรม เป็นตัวปฏิบัติ มันอยู่ตรงนี้
ถ้าเราทั้งหลายไม่สนใจในเรื่องนี้แล้ว…ช่วยไม่ได้…ก็ยากอยู่
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.b.yimwhan.com/board/show.php?user=kobkob&topic=118&Cate=9