หนีไม่พ้น ลีลาวาทะสมเด็จโตฯ (Somdej Toh)#2
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องชาวไทย กระผม ผู้ให้เสียงทั่วไป นามไมโครโฟนว่า “ฟ้าทะลายโจร” วันนี้ภูมิใจนำเสนอ ซีรี่ย์ เรื่องยาว ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับประวัติของเกจิผู้โด่งดังที่เราคนไทย และประชาชนทั่วโลกรู้จัก นั่นก็คือ
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)
มารับรู้เรื่องราวธรรมะ พุทธประวัติ และสิ่งที่ท่านสอนลูกสอนหลานไว้กันเลย ณ บัดนี้
ผมต้องขออธิบายจุดประสงค์ และต้องขออภัยหากมีข้อผิดพลาดบางประการ
ซึ่งอันตัวผมเองนั้นก็ไม่ทราบว่าทำไมจึงเคารพ และนับถือท่านยิ่งนักอาจเป็นเพราะกระผม คงมักท่องพระคาถาชินบัญชร เป็นประจำก็เป็นได้
ตอนนี้ผมกำลังรวบรวมเรื่องราวน่าสนใจของ สมเด็จโตฯ เพื่อจัดทำเป็นพุทธบูชาเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก และพี่น้องชาวไทยถ้าหากใครมีเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับท่านได้โปรด ส่งข้อความหรือโพสต์มาที่กระทู้นี้ได้เลยนะขอรับ ขอเรื่องที่เป็นประวัติ และบทความที่ท่านได้เทศนาไว้นะขอรับ
โดยกระผมจะนำไปเผยแพร่ด้วยการอ่านออกเสียง เพื่อที่จะให้พุทธศาสนิกชนที่สนใจ รวมทั้งเด็กๆ รุ่นใหม่ได้รับรู้กัน เพราะตามที่ผมทราบ ขรัวโตท่านเป็นพระที่มีประวัติค่อนข้างน่าสนใจ เรื่องราวของท่านก็สนุก และฉลาดยิ่งนัก ซึ่งสามารถสร้างเป็นนิทานก่อนนอนให้ลูกหลานฟังได้ เพื่อปลูกฝังให้คนรุ่นหลัง และลูกหลานของเรายึดมั่นถือมั่นในศีลธรรม
ดั่งตัวอย่างตาม link นี้เลยขอรับที่ผมได้ทำไว้แล้วเป็นเหมือนกับนิทาน และเรื่องเล่าเผยแพร่ไปทางอินเตอร์เน็ต
Playlist;
ดังนั้นผมจะขอกล่าว 1 ตอนวิดีโอต่อ 1 โพสต์บน Blog นะครับเพื่ออรรถรส จะได้ไม่เป็นการรบกวนเวลามากนัก
เรื่อง ลีลาวาทะสมเด็จโตฯ
เรียบเรียงโดย ร้อยเอกประชุม สุขสำราญ
ให้เสียงโดย ฟ้าทะลายโจร
หนีสมณศักดิ์
ท่านไม่ปรารถนายศศักดิ์ แม้จะเรียนรู้พระปริยัติธรรมอย่างที่เรียกได้ว่า “หนังสือดี” ก็ไม่เข้าแปลหนังสือสอบเป็นเปรียญ และไม่รับยศตำแหน่งทางสงฆ์ แต่ก็ประหลาด ท่านไม่เข้าสอบเป็นเปรียญ แต่ก็เรียก “พระมหาโต” ตั้งแต่บวชพรรษาแรกมา
บางท่านก็เรียกว่า “ขรัวโต” เพราะท่านมักประพฤติแปลกๆ จะทำอย่างไรก็ทำตามความพอใจของท่าน ไม่ถือสาหาความกับใคร ขนาดรัชกาลที่ 3 จะทรงแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะ ท่านก็ทูลขอตัวเสีย และมักหลบหนีไปพักแรมที่ห่างไกล เรียกว่า “ไปธุดงค์” เพราะกลัวว่าจะต้องรับสมณศักดิ์นั่นเอง
แต่ก็น่าแปลกนะครับ คนเราลองมีบุญเสียอย่าง ลาภ ยศ สรรเสริญ เจริญพระ วรรณะ สุขะ พละ ย่อมหลั่งไหลมาเอง ไม่ต้องเขียนประวัติเชียร์ตัวเอง ก็ย่อมได้อยู่ดีแหละ
……………………………………………………..
หนีไม่พ้น
ในรัชกาลที่ 4 เจ้าประคุณสมเด็จฯ โต หนีไม่พ้น ต้องรับสมณศักดิ์ในตำแหน่ง “พระธรรมกิตติ” พอพระราชทานสมณศักดิ์แล้ว มีพระดำรัสว่า “ในรัชกาลที่ 3 หนี ไม่รับสมณศักดิ์ คราวนี้ทำไมไม่หนีอีกหล่ะ…”
ท่านถวายพระพรว่า “ก็รัชกาลที่ 3 ไม่ได้เป็นเจ้าฟ้านี่ (คือพระบามสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ เป็นพระองค์เจ้า ไม่ได้เป็นเจ้าฟ้า) เป็นแต่เจ้าแผ่นดินเลยหนีได้ (ทำนองว่าเป็นพระเจ้าแผ่นดินหนีขึ้นฟ้าก็พ้นได้) ส่วนมหาบพิตรเป็นทั้งเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินจะหนีไปข้างไหนพ้น”
ครั้นเสร็จการพระราชพิธีพระราชทานสมณศักดิ์แล้ว ท่านก็ออกจากพระบรมมหาราชวังหอบเครื่องไทยธรรม ถือพัดยศและย่ามมาเอง ใครจะรับก็ไม่ยอมส่งให้ พอถึงวัดระฆัง ท่านก็เดินร้องบอกดังๆ ว่า “ในหลวง ท่านให้ฉันมาเป็นสมภารวัดระฆังจ้าๆ”
พระเณร อุบาสก อุบาสิกา ที่มาคอยรับต่างก็เดินตามท่านไปเป็นขบวนใหญ่ เมื่อบอกกล่าวรอบวัดแล้ว ท่านจึงได้ขึ้นกุฏิ
ขอขอบคุณ : http://itotoxp.blogspot.com/2013/02/2-somdej-toh.html