พระธรรมที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าและมนุษย์ โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

พระธรรมที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าและมนุษย์ โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – พระสิทธัตถะ
ให้สำเร็จประโยชน์เกี่ยวกับพระธรรมขอให้ตั้งใจรวมจิตใจทั้งหมดให้เหลืออยู่เพียงเรื่องเดียวคือเรื่องพระธรรมถ้าจะถามว่าพระธรรมคืออะไร ธรรมะคืออะไรท่านลองคิดดูว่าจะตอบอย่างไร

อาตมาอยากจะแยกตอบเป็น 2 อย่างที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าพระธรรมคืออย่างไรที่เกี่ยวกับมนุษย์พระธรรมคืออะไรเป็นอย่างไรแยกดูกันคนละที เกี่ยวกับพระพุทะเจ้าก่อนว่าพระธรรมคืออะไรพระธรรมคือสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบๆตรัสรู้พระธรรมคือสิ่งที่ทำให้พระสิทธัตถะกลายเป็นพระพุทธเจ้าค้นพบธรรม ตรัสรู้ธรรม พระธรรมก็ได้ทำให้บุคคลเป็นพระพุทธเจ้า

ในกรณีนี้ของเราก็คือทำให้พระสิทธัตถะเป็นพระพุทธเจ้าขึ้นมาเกิดอุบัติโดยโอกะปาติกะกำเนิดกลายจากพระสิทธัตถะกลายเป็นพระพุทธเจ้านี่ก็อย่างหนึ่งนี่พระธรรมคือสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงแจกให้คนทั้งโลกท่านดู ถ้าฝ่ายพระพุทธเจ้าพระธรรมพระพุทธเจ้าทรงค้นพบ พระธรรมคือสิ่งที่ทำบุคคลนั้นให้เป็นพระพุทธเจ้าขึ้นมา พระธรรมคือสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงแจกทั่วไปหมดพระธรรมคืออย่างนี้ที่เกี่ยวกับมนุษย์พระธรรมเป็นคู่กับชีวิตมนุษย์ มนุษย์ไม่มีพระธรรมต้องตายที่ว่าพระธรรมนี้มี 4 ความหมายพระธรรม คือธรรมชาติ พระธรรมคือกฎของธรรมชาติ พระธรรมคือหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติ พระธรรมคือผลตามหน้าที่มนุษย์เราตั้งอยู่ด้วยธรรม 4 ความหมายจึงรอดชีวิตอยู่ได้มันจึงถือว่าพระธรรมเป็นของคู่ชีวิตทำให้ชีวิตรอดอยู่ได้พูดว่าเป็นตัวชีวิตซะเลยท่านจงพยายามเข้าใจธรรม 4ความหมายให้ดีในตัวคนมันมีธรรมะ 4 ความหมายร่างกาย จิตใจที่ประกอบกันขึ้นเป็นอัตภาพทั้งหมดนี้เป็นธรรมชาติ ดิน น้ำ ลม ไฟอากาศ วิญญาณอะไรก็แล้วแต่เป็นธรรมชาตินี่ในธรรมชาติแต่ละอย่างมันก็มีกฎของธรรมชาติบังคับอยู่ขุมขน ฟันหนังจึงเปลี่ยนแปลงทำหน้าที่ของมัน

หน้าที่ก็มีกฎของธรรมชาติบังคุบอยู่ก็มีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎโชคดีที่บางอย่างมันทำหน้าที่เองส่วนที่มันทำเองก็มีมากมายอยากรู้ก็ไปถามมาแต่สิ่งที่เราต้องทำเองมันก็มีส่วนหนึ่ง ต้องกินอาหาร ถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ ต้องอาบน้ำก็เรียกว่าหน้าที่ต้องทำไม่ทำหน้าที่คือตายไม่ทำหน้าที่ก็มีผล ในมนุษย์ทุกคนมีธรรมะ ในตัวจักรวาลแผ่นดินทั้งโลกก็มี 4 ความหมายเหมือนกันเลยตัวแผ่นดิน ตัวโลกมันเป็นธรรมชาติมันเป็นตัวธรรมชาติบังคับไปตามกฎมันก็มีหน้าที่ไปตามกฎ

มิฉะนั้นก็ตายมันมีผลออกมาจากหน้าที่นั้นเป็นสุขเป็นส่วนรวมของโลก โลกมันมีธรรมะ 4ความหมายธรรมะนั้นคู่กันกับโลกถ้าไม่มีธรรมะโลกก็มีไม่ได้โลกมีธรรมะเป็นไปตามธรรมะจึงอยู่ได้ธรรมะก็อาศัยโลกควบคุมให้ปรากฏอยู่นี่ถ้ามองดูในสิ่งที่เกี่ยวกับมนุษย์ ธรรมะเป็นของคู่กันกับมนุษย์โลกก็มีอยู่ 4 ความหมายกำกับอยู่ในธรรมชาติ 4 ความหมายพูดกันอีกทีธรรมะคืออะไรถ้าเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าธรรมะคือสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบทำให้พระองค์เป็นพระพุทธเจ้านี่ที่เกี่ยวกับมนุษย์ต้องมีในโลก สากลจักรวาลทำให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีรอดชีวิตตั้งอยู่ได้เต็มไปทั้งจักรวาลในดวงอาทิตย์ ดวงดาวทั้งหลายก็เป็นไปตามกฎของธรรมชาติธรรมะคืออะไรท่านพอตะมองเห็นได้เองว่าธรรมะคือทุกสิ่งไม่ยกเว้นอะไร ธรรมะคือธรรมชาติ คือกฎของธรรมชาติ คือหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติ คือผลที่เกิดนี่คือธรรมะมีรูปธรรม

นามธรรมไม่มีรูปก็ได้เรียกว่าเป็นธรรมชาติธรรมะคือธรรมชาติหมายความอย่างนี้นี่เราต้องเกี่ยวข้องกับธรรมะนี้อย่างไรข้อแรกศึกษาให้รู้ธรรมะ ข้อที่ 2ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎของธรรมะข้อที่ 3ต้องมีไว้ประจำตัว ข้อที่ 4ธรรมะใช้ธรรมะให้ถูกต้องตามเหตุการณ์และรักษาธรรมะให้มีประจำตัวตลอดเวลานี่เราต้องเรียนให้รู้ต้องปฏิบัติให้ได้ถ้ามีอย่างคล่องแคล่วก็ใช้อย่างคล่องแคล่วรักษาไว้ให้มีอยู่ท่านทั้งหลายก็สำรวจดูตัวเองรู้ธรรมะกี่มากน้อยแล้วรู้เรื่องอื่นๆกี่มากน้อยวันๆสนใจธรรมะกี่นาทีสนใจเรื่องอื่นปฏิบัติเรื่องอื่นกี่นาทีสรุปความแล้วคนสนใจธรรมะนี้คิดเป็นเวลาเทียบส่วนไม่ถึง1%ของส่วนเวลาอย่าว่าแต่5%ธรรมะยังคงเป็นธรรมะยังควบคุมชีวิตมนุษย์ไม่สนใจก็ตามเรื่องของมนุษย์มันก็รับผลคุ้มกันนั้นเรามาคิดดูกันใหม่ว่าเราศึกษาธรรมะปฏิบัติธรรมะ มีธรรมะพอสมควรแล้วหรือยัง

ถ้าไม่ยังถึงขนาดที่พอสมควรก็รีบเถอะรีบทำให้ถึงขนาดรู้ธรรมะพอสมควร ปฏิบัติธรรมะพอสมควรนี้เท่าไรก็คือเท่าที่ดับทุกข์ได้ถึงขนาดที่ว่าป้องกันไม่ให้เกิดความทุกข์ได้ก็ยิ่งดีนี่คือผู้ไม่มีปัญหาไม่มีความทุกข์ก็จะได้รับประโยชน์มีความเป็นมนุษย์โดยพื้นฐานที่ถูกต้องตามหลักเท่าไรจึงเรียกว่าเป็นมนุษย์การอิฐหรือหน้าที่ที่จะต้องกระทำ ทำหน้าที่ของพ่อ แม่ ทำหน้าที่ของนายจ้าง ผู้บังคับบัญชาทำหน้าที่ผู้ปกครองก็ต้องเป็นมนุษย์โดยพื้นฐานจะได้เป็นมนุษย์นั้นนี่ได้ขอให้มีธรรมะโดยหลักพื้นฐานเพื่อให้เราได้เป็นมนุษย์ในหลักพื้นฐานเสียก่อนตัวหนังสือก็ว่ามีจิตใจสูงเพราะมีความรู้มีคุณธรรมพอสมควร เรียกว่าหลักพื้นฐานคำนี้มันแปลว่าจิตใจสูงก็ได้มนุษย์มีจิตใจสูงก็ได้อีกทีก็เป็นลูกหลานของมนูลูกหลานบุตรสะยะมนูก็ผู้มีจิตใจสูงเมื่อมีจิตใจสูงเป็นมนุษย์ถูกต้องตามพื้นฐานแค่นี้เป็นมนุษย์จะให้เป็นผู้นำหน้าที่สูงต่ำนี่คือได้ประโยชน์คือตรงแต่ว่าที่น่าสนใจกว่านั้น

อาตมาก็อยากจะบอกท่านทั้งหลายว่าเป็นมนุษย์ที่เหมาะสมแล้วท่านทั้งหลายจะมีชีวิตสงบเย็นเป็นสุขทำงานสนุกไม่มีงานเป็นเล่นไปหมดเป็นลูกเด็กๆกันอีกครั้งหนึ่งท่านเคยเห็นลูกเด็กๆใช้มันทำอะไรมันก็ทำเป็นเล่นไปหมดใช้ขนของมันขนสนุกเด็กๆมันดีกว่าผู้ใหญ่มันทำอะไรกลายเป็นสนุกไปหมดผู้ใหญ่ไม่เป็นอย่างนั้นและก็ไม่อยากจะทำอย่างนี้เป็นทำงาน อย่างนี้เป็นเล่นสนุกสู้ลูกเด็กๆไม่ได้

http://www.vcharkarn.com/varticle/34687

. . . . . . .