ปฏิบัติธรรมก็มีความหมายอย่างนี้ …หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม
ที่มาปฏิบัติธรรมก็มีความหมายอย่างนี้
ก็ขอเจริญพรไว้ คนสวดมนต์นี้ก็สวดให้มันจริง ๆ หน่อย
สวดไม่จริง สวดแล้วก็ทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ไป ไม่มีทางได้หรอก
มีเรื่องยกตัวอย่างอยู่มากมาย
จะเป็นฆราวาส ภิกษุสงฆ์องค์เจ้าทำได้
มันจะเป็นอย่างที่กล่าว
จิตจะสงบตลอด จิตจะเป็นสมาธิตลอดเวลา
ดังหลักฐานที่กล่าวชี้แจงมานี้
จิตสงบไม่มีวุ่นวาย ต้องมีน้ำอดน้ำทนทุกคนนะ
ไหน ๆ มาอยู่แล้วไม่ใช่มาวันเดียว
บางคนมาวันเดียวก็ไม่ได้
พอโดนกระทบหน่อยหนีกลับไปเลย
มีอยู่หลายราย ลูกผู้ดีมีศักดิ์ไม่มีความอดทนเลย
เขาบอกตรงนี้ทิ้งขยะไม่ได้มันสกปรกเท่านี้กลับเลย
โดนกระทบนิดหน่อยกลับเลย เขาก็เตือนเพื่อหวังดี
ขอฝากบอกว่าคนไม่อดทนไม่ต้องมาทำกรรมฐาน
ปวดหนอ ปวดหนอ ก็ยังกำหนดปวดไม่ได้
ไม่ได้ตั้งสติให้ดี บอกปวดหนอ
เข้าถึงธรรมะแล้วมันก็จะตั้งอยู่และดับไป
เวทนามันจะแยกออกไป
จิตจะไม่ได้เป็นอุปาทานยึดมั่นอยู่ในจุดนั้นถึงจะเป็นสมาธิ
ตรงนี้ขอฝากไว้ด้วยนะ แต่อย่าไปวัดโน้นออกวัดนี้
ไปบวชชีพราหมณ์ ไปฟังพระเทศน์กับพูด
ถ้าโยมชอบฟังกับชอบพูดอย่ามาวัดนี้เลย
เสียเวลาปฏิบัติ ไม่ให้พูด
จะคุยพูดได้เป็นบางอย่าง
อย่าไปคุยเท้าความหลัง
พูดเรื่องโน้นเรื่องนี้เอามาพูดทำไม
ปากอย่าไวซิ ใจอย่าเบา เรื่องเก่าอย่ามารื้อฟื้น
เรื่องอื่นที่คิดชอบ ทำให้มันเสร็จ
อนาคตไม่แน่นอน อย่าจับให้มั่นคั้นให้ตาย
โยมจะผิดหวังและเสียใจตลอดชีวิต
ตรงนี้น่าคิดแต่ทำไมไม่ทำกันเล่า
ขอบคุณข้อมูล : http://www.b.yimwhan.com/board/show.php?user=kobkob&topic=115&Cate=9