ชีวิตก้าวหน้า เพราะรักษาสัจจะ–หลวงพ่อจรัญ

จากเรื่องที่หลวงพ่อเล่ามานั้น อาจมีหลายท่านคลางแคลงใจว่าเป็นจริงหรือไม่ หรือเพื่อให้คนมีศรัธาสวดมนต์มากขึ้น ทำไมหลวงพ่อไม่นำคัมภีร์นั้นออกมาให้ดู ซึ่งเรื่องนี้หลวงพ่อท่านกล่าวว่า คัมภีร์ใบลานทองคำจารึกบทสวดมนต์ชัยมงคลคาถา ท่านให้สัญญากับสมเด็จฯ ไว้ว่าจะไม่ให้ใครดู มิเช่นนั้นตัวท่านจะถึงแก่มรณภาพ และยังย้ำอีกว่า ใครจะเชื่อหรือไม่ ไม่เป็นไร แต่ท่านเชื่อหมื่นเปอร์เซ็นต์ เพราะท่านฝันเอง โดดลงไปในโพรงนี้เอง จนได้คัมภีร์ตามที่สมเด็จพระพนรัตน์มาเข้าฝันบอก

นับแต่นั้นมา หลวงพ่อจึงแนะนำญาติโยมให้สวดพาหุง มหากาเพราะเป็นบทสวดมนต์ที่มีค่าที่สุด มีผลดีที่สุด เป็นชัยชนะอย่างสูงสุด ที่พระพุทธองค์ทรงได้มาด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ และด้วยอำนาจแห่งบารมีธรรม ผู้ใดสวดเป็นประจำ จะมีแต่ชัยชนะ มีความเจริญรุ่งเรื่อง ตลอดกาลนาน มีสติระลึกได้ จะตายก็ไปสู่สุคติภูมิ อ่านเพิ่มเติม

เรื่องเล่าจากหลวงพ่อจรัญ เรื่องกรรมของคนจีนที่ฆ่าตัวตาย

เหตุการณ์นี้หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโมได้เล่าเอาไว้เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ปี พ.ศ.2530 ครั้งเมื่อที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดพรหมบุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี โดยวันนั้นเป็นวันโกนสาร์ท คือในช่วงเทศกาลทำบุญเดือนสิบ มียายแก่คนหนึ่งชื่อ ยายเภา อาศัยอยู่ที่บางสำโรง เขตสวี อำเภอ ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ได้พายเรือมาที่ตลาดปากบางเพื่อที่จะมาซื้อของไปเตรียมทำขนมกระยาสารท

ยายเภาได้เทียบเรือเข้าไปจอดริมตลิ่งที่มีต้นไม้ครึ้มทอดลงมาต้นหนึ่ง ซึ่งคุณยายเภาไม่ทราบเลยว่าต้นไม้ต้นนั้นเคยมี ชายแก่ชาวจีนคนหนึ่งมาผูกคอตายไว้ พอคุณยายทอดเรือที่ต้นไม้นั้นก็เกิดเรื่องทันที มีอาการผิดปกติดิ้นรนทุรนทุราย ปากก็พร่ำออกมาเป็นภาษาจีนทั้งที่เธอเป็นคนไทยไม่เคยรู้ภาษาจีนเลยแม้แต่คำเดียว

อ่านเพิ่มเติม

หลวงพ่อจรัญเล่าเรื่องหลวงพ่อเดิม

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่เคารพ วันนี้เราได้มีโอกาสอ่าน เรื่องราวที่น่าสนใจ แฝงด้วยคติธรรม ของท่านพระอาจารย์ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน ท่านเล่าถึงอดีตเมื่อคราวที่ได้ไปเรียนวิชากับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ หรือที่ชาวบ้านนับถือท่านว่าเป็น “เทพเจ้าแห่งเมืองสี่แคว” คือเป็นผู้สำเร็จ มีวิชา มีอิทธิบารมีสูงมากนั่นเอง หวังว่าเรื่องราวนี้คงจะให้แง่คิด และความรู้ในอีกแง่มุมหนึ่งแก่ท่านผู้อ่านที่เคารพ ไม่มากก็น้อยนะครับ เรียนเชิญติดตามได้เลยครับ …
หลวงพ่อจรัญ เล่าเรื่องหลวงพ่อเดิม
เมื่ออาตมาไปเล่าเรียนวิชากับ “หลวงพ่อเดิม”

อนุสรณพจน์ น้อมระลึกถึงพระเดชพระคุณ ท่านพระครูนิวาสธรรมขันธ์ “หลวงพ่อเดิม” อ่านเพิ่มเติม

หลวงพ่อจรัญ “หนี้กรรมข้ามชาติของอาตมา

วันนี้จะเล่าเรื่องดาบของแม่ทัพ ทำให้คนฝันและต้องมาที่วัดนี้ ไปได้มาอย่างไร ต้องใช้เงินเท่าไร เป็นเรื่องอัศจรรย์ของอาตมา ผ่านมาเป็นเวลานานหลายสิบปีแล้ว ตอนนั้นอยู่วัดพรหมบุรี ยังไม่ได้มาอยู่ที่วัดนี้ ก็จะขอเล่าประวัติอาตมาสักเล็กน้อย เมื่อสมัยอยู่วัดพรหมบุรี ก็เริ่มสอนกรรมฐานมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๔-๒๔๙๙ หลังจากที่เดินออกจากป่า ก็มาเจริญภาวนาและสอนกรรมฐาน เริ่มต้นที่วัดพรหมบุรีตามลำดับมา วันหนึ่งสมภารใช้อาตมาไปเช่าเมรุพร้อมเครื่องตั้ง จะมาจัดงานศพที่วัดต้องไปเช่าที่หัวเวียง บ้านแพน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แถวโน้นเขามีอาชีพค้าเมรุ มีไฟประดับสวยงามพร้อมเครื่องตั้งบนศาลา เหมากันมาอย่างนั้น แถวนี้ทั้งแถวไม่มีเมรุ

ส่วนมากเป็นเมรุเผาเตาฟืน ถ้ามีงานศพผู้มีเกียรติหรือผู้มีเงินต้องไปเช่าเมรุ เมรุก็มีมากทางหัวเวียง ผักไห่ บ้านแพน ก็เลยต้องไปที่นั่น อดีตชาติของหลวงพ่อ กล่าวถึงบ้านหนึ่ง เป็นเรื่องอัศจรรย์ครั้งอดีตชาติของอาตมา เจ้าของบ้านชื่อแม่ชุมศรี ศรีเรือง เป็นเจ้าของโรงสี อาตมาไม่เคยผ่านทางนั้นจึงไม่เคยรู้จัก แม่ชุมศรีนี้ยังไม่มีครอบครัว ยังเป็นสาว เขานั่งสมาธิแล้วฝันสามคืนติด ๆ กัน ฝันว่า เมื่ออดีตชาติของเขา เขาอยู่ที่กรุงศรีอยุธยา เขามีลูกชายคนเดียว และลูกชายคนนั้นได้กำลังรบทัพจับศึก และในฝันนั้นบอกว่า ลูกชายโดนกลศึกวิธี พม่าได้ฆ่าลูกชายโดยผลักเขาลงน้ำถึงแก่ความตาย ที่อำเภอบางไทร ตรงปากครองที่ทัพพม่าเดินผ่านเมื่อสมัยกรุงศรีอยุธยาแตกทัพวันนั้น เขาก็ร้องห่มร้องไห้ว่าลูกชายเขาต้องจากไป บ้านเขาอยู่ตรงนั้นตรงนี้

อ่านเพิ่มเติม

เรื่องพระเจ้าตาก จากหลวงพ่อจรัญ

ข้อเท็จจริงตามประวัติศาสตร์ที่ว่า พระเจ้าตากนั้นเป็นผู้กู้เอกราชให้กับไทยนั้นพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์นักรบ ที่เก่งกาจกล้าหา­ญ และเสียสละอย่างมากอย่างที่ชนธรรมดามิได้ล่วงรู้อีกมากมาย แต่เรื่องที่จะเล่าเกี่ยวกับพระเจ้าตากนั้นไม่ได้มีในประวัติศาสตร์ที่เรา เคยเรียนกัน
พระเจ้าตากมิใช่เป็นลูกของคนจีนสามั­ญชนตามประวัติ ศาสตร์ แต่เป็นโอรสในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศกับสนมลับชาวจีนชื่อ ไหฮอง แต่เนื่องจากสมัยอยุธยานั้นมีการแก่งแย่งชิงดีกันมาก มีการฆ่ากันเพื่อชิงราชสมบัติ พระมารดาของพระเจ้าตากเกรงจะเป็นอันตราย จึงได้ปิดเป็นความลับ และบอกว่าบิดาของพระเจ้าตากชื่อ ไหฮอง (ชื่อของนางเอง) และมารดาชื่อนางนกเอี้ยง (ชื่อที่แต่งขึ้นไม่มีตัวตนจริง)

อ่านเพิ่มเติม

ชีวประวัติหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

ในอดีตเมื่อครั้งเยาว์วัย
ซึ่งได้ก่อกรรมทำเข็ญไว้มากมาย ทำไปด้วยความไร้เดียงสา รักสนุก
คึกคะนองไม่รู้บาปบุญคุณโทษ โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
หารู้ไม่ว่ากรรมที่ท่านได้ก่อไว้นั้น จะส่งผลกลับมาสนองไม่วันใดก็วันหนึ่ง
และเมื่อถึงวันนั้น ท่านต้องชดใช้กรรมที่ตนเองก่อขึ้นมานั้น
อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้
แม้ท่านจะอยู่ในเพศบรรพชิต ที่สร้างสมแต่ความดีมาตลอด
เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจเราท่านทุกคนเชื่อว่า
“เวรกรรมนั้นมีจริง เราทำกรรมอันใดไว้ดีหรือชั่ว
เราจะต้องรับผลกรรมนั้น”

พระราชสุทธิญาณมงคล (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)
เกิดในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
(รัชกาลที่ ๗ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) เมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๔๗๑
เวลา ๐๗.๑๐ น. (๔ฯ ๘ ปีมะโรง) ณ ตำบลม่วงหมู่ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี
เป็นบุตรคนที่ ๕ ในจำนวน ๑๐ คน
ซึ่งเกิดจากโยมมารดาเจิม และโยมบิดา แพ จรรยารักษ์ อ่านเพิ่มเติม

ประวัติ พระราชสุทธิญาณมงคล ( จรัญ ฐิตธมฺโม ) เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน

lp_jarun2_w

ชื่อเดิม จรัญ จรรยารักษ์
บิดาชื่อ แพ จรรยารักษ์
มารดาชื่อ เจิม สุขประเสริฐ

อุปสมบท พระครูพรหมจริยคุณ วัดแจ้งพรหมนคร เป็นพระอุปัชฌาย์
พระปลัดกิมเฮง วัดพุทธาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์
วิทยฐานะ พ.ศ. ๒๔๘๗

พ.ศ. ๒๔๙๒
สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔
โรงเรียนสุวิทดารามาศ จังหวัดสิงห์บุรี
สอบไล่ได้นักธรรมโท ณ สำนักเรียนวัดแจ้งพรหมนคร อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี อ่านเพิ่มเติม

เรื่องเล่าจากหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม เรื่องนรกของหญิงที่ชอบขโมย

เรื่องราวที่จะนำมาถ่ายทอดนี้เป็นเรื่องที่หลวงพ่อจรัญได้บันทึกไว้ในหนังสือ “เล่าเรื่องกรรม” โดยที่มีโยมมาเล่าถวายไว้ให้รับทราบถึงรายละเอียดของกรรมที่ทำไม่ดีอันเป็นเหตุให้ตกนรก

“ภรรยาตกนรกกลับมาเกิดใหม่อยู่กับสามีคนเดิม”

เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ประหลาดที่มีหญิงสาววัย 16 ปีเดินทางมาพบกับหลวงพ่อจรัญพร้อมด้วยสามีวัย 78 ปี ซึ่งไม่น่าจะเป็นสามีภรรยากันได้เลย การเดินทางมาพบหลวงพ่อจรัญก็เพราะโยมทั้งสองนั้นมีความต้องการจะสร้างสำนักวิปัสสนากรรมฐานให้ที่วัดอัมพวัน เมื่อหลวงพ่อถามถึงเหตุผลที่ต้องการจะสร้างสำนักวิปัสสนากรรมฐาน จึงได้ทราบความดังนี้ว่า

ย้อนหลังกลับไปเมื่อในอดีต ชายแก่ที่เป็นสามีชื่อ นายปุ่น ส่วนตัวภรรยาชื่อ นางสะอิ้ง เมื่อสมัยที่ยังเป็นนายปุ่นยังเป็นหนุ่มนั้นค่อนข้างเป็นคนที่มีฐานะ เมื่ออายุครบบวชพ่อแม่จึงจัดงานบวชให้ ซึ่งตัวของนายปุ่นเป็นคนดีมีศีลธรรมมาก เมื่อบวชก็ตั้งใจปฏิบัติศึกษาในพระธรรมวินัยเป็นอย่างดี ถึงขนาดสวดปาฏิโมกข์ได้ครบถ้วนเลยทีเดียว อ่านเพิ่มเติม

หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

1259778778

ประวัติ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม พระราชทินนาม พระธรรมสิงหบุราจารย์ ภาวนาปฏิภาณโกศล โสภณธรรมานุสิฐ พิพัฒน์กิจสุนทร มหาคณิสสร
บวรสังฆารามคามวาส

หลวงพ่อจรัญ เกิดในสมัย พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๗ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) ซึ่งเกิดจาก โยมมารดา เจิม และโยมบิดา แพ จรรยารักษ์

ชื่อเดิม จรัญ จรรยารักษ์ เกิด วันพุธ แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ตรงกับวันพุธที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๑ ปีมะโรง เวลา ๐๗.๑๐ น. ณ ๑๕ บ้านตำบลม่วงหมู่ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี แล้วได้ทำการ อุปสมบท วัน พฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีชวด ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๔๙๑ เวลา ๑๔.๐๐ น. ณ วัดพรหมบุรี อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี พระครูพรหมจริยคุณ วัดแจ้งพรหมนคร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดกิมเฮง วัดพุทธาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการช่อ วัดพรหมบุรี เป็นอนุศาสนาจารย์ อ่านเพิ่มเติม

คติธรรมของหลวงพ่อจรัญ

เราพูดอยู่เสมอถึงคำว่า “สติปัญญา”

เราใช้ปัญญาอยู่เสมอก็จริง

แต่สตินั้น แท้จริงแล้ว เรานำออกมาใช้น้อยมาก

ทั้งที่สตินั้นมีคุณค่าต่อชีวิต และจำเป็นแก่ชีวิต

มีคุณค่าเหลือที่จะประมาณได้

อึ้งกิมกี่ นี่หรือคือคำพูดของพระสุปฏิปันโน พระพุทธองค์ทรงสอนให้เชื่อเรื่องกรรม “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” ไม่มีใครดีหรือชั่วมาแต่กำเนิด และไม่เกี่ยวกับเพศพรรณวรรณะ ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าทำดีก็เป็นคนดี ถ้าทำชั่วก็เป็นคนชั่ว แม้แต่การทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ไม่ว่าสตรีหรือบุรุษ ถ้าทำหน้าที่ดีๆ ก็ย่อมเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดี แต่ถ้าทำเสียหาย ประเทศชาติก็เสียหาย มิใช่ว่าต้องเป็นผู้หญิงเท่านั้นจึงทำให้ประเทศชาติเสียหาย แต่ถ้าเป็นผู้ชายแล้วดีทุกอย่าง พูดแบบนั้นมันตรงกับหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ตรงไหน พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ) เคยเป็นถึงเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี ปัจจุบันก็เป็นพระเกจิอาจารย์ออกวัตถุมงคลเป็นร้อยๆ รุ่น แต่พูดแบบไม่มีเหตุไม่มีผล น่าสับสนในความเป็นพระเถระของพระธรรมสิงหบุราจารย์เหลือเกิน หรือจะเป็นดังโบราณว่า “แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน” เสียดายนะ ไม่น่ามาเสียคนตอนแก่เลย

ขอขอบคุณ http://www.alittlebuddha.com

ประวัติหลวงพ่อจรัญ

ชาติภูมิ ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนนี้ได้
พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม) มีนามเดิมว่า จรัญ จรรยารักษ์ เกิดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2471 ที่บ้านบางม่วงหมู่ ตำบลม่วงหมู่ อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เป็นบุตรคนสุดท้อง ในจำนวนทั้งหมด 11 คนของนายแพ จรรยารักษ์ และนางเจิม (สุขประเสริฐ) จรรยารักษ์

อุปสมบท ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนนี้ได้
พระอาจารย์จรัญอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2491 ที่วัดพรหมบุรี โดยมีพระพรหมนคราจารย์ เจ้าอาวาสวัดแจ้งพรหมนครเป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูถาวรวิริยคุณ วัดพุทธารามเป็นพระกรรมวาจาจารย์ ท่านได้รับฉายาว่า”ฐิตธมฺโม”

การศึกษา หลวงพ่อจรัญได้ธุดงค์ไปตามป่าเขา ลำเนาไพร และที่ต่างๆ เพื่อแสวงหาความรู้ และประสบการณ์ทั้งทาง สมถกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิชากับพระอาจารย์หลายท่าน อาทิ ศึกษาคชศาสตร์กับพระครูนิวาสธรรมขันธ์ (เดิม พุทฺธสโร) ตำบลหนองโพ อำเภอพยุหคีรี(ในขณะนั้น) ปัจจุบันอยู่ในอำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ต่อมาเรียนกับพระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ลี ธมมฺธโร) และพระอริยคุณาธาร (เส็ง ปุสฺโส) จังหวัดขอนแก่น และได้ศึกษาการทำเครื่องรางของขลัง น้ำมันมนต์ กับหลวงพ่อจง พุทฺธสโร วัดหน้าต่าง จังหวัดอยุธยา และหลวงพ่อสนั่น วัดเสาธงทอง จังหวัดอ่างทอง และ หลวงพ่อจาด วัดบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี และได้ศึกษา สมถกรรมฐาน กับพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ที่วัดปากน้ำ อำเภอภาษีเจริญ จังหวัดธนบุรี ศึกษาและปฏิบัติ วิปัสสนากรรมฐาน กับท่านเจ้าคุณอาจารย์พระราชสิทธิมุนี วัดมหาธาตุ จังหวัดกรุงเทพฯ และได้ศึกษาพระอภิธรรมกับอาจารย์เตชิน (ชาวพม่า) ที่วัดระฆัง จังหวัดธนบุรี และศึกษาการพยากรณ์จากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทโย) วัดสระเกศ จังหวัดกรุงเทพฯ และศึกษาแลกเปลี่ยนความรู้วิทยาศาสตร์ทางจิตกับ อาจารย์ พ.อ. ชม สุคันธรัต

แนวทางการทำงานสืบทอดพระพุทธศาสนา
จะใช้หนี้โลกมนุษย์ ด้วยการเผยแพร่พระธรรม คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าจะไม่ขอสร้างวัตถุอีก

ขอขอบคุณ http://th.wikipedia.org

หลวงพ่อจรัญ –ตำแหน่งและสมณศักดิ์

พ.ศ. 2500 – รักษาการเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี
พ.ศ. 2501 – ได้รับสมณศักดิ์ เป็น พระครูปลัดจรัญ ฐิตธมฺโม ฐานานุกรมของพระสุนทรธรรมประพุทธ (หล้า สีลวํโส) เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด
พ.ศ. 2511 – ได้รับสมณศักดิ์ เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ที่ “พระครูภาวนาวิสุทธิ์” เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี[1]
พ.ศ. 2516 – เลื่อนเป็นพระครู เทียบผู้ช่วยพระอารามหลวงชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐาน
พ.ศ. 2517 – รักษาการตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอพรหมบุรี
พ.ศ. 2518 – ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอพรหมบุรี
พ.ศ. 2519 – ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ. 2525 – เลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก
พ.ศ. 2531 – เลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ “พระภาวนาวิสุทธิคุณ”
พ.ศ. 2535 – เลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ “พระราชสุทธิญาณมงคล ศรีพหลนราทร ธรรมิกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี”
พ.ศ. 2541 – ได้รับแต่งตั้งเป็น รองเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี
พ.ศ. 2542 – ได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี
พ.ศ. 2544 – เลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ “พระเทพสิงหบุราจารย์ ภาวนาวิธานโกศล วิมลธรรมานุสิฐ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี”
พ.ศ. 2547 – เลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ “พระธรรมสิงหบุราจารย์ ภาวนาปฏิภาณโกศล โสภณธรรมานุสิฐ พิพัฒน์กิจสุนทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี”
พ.ศ. 2552 – ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี
ขอขอบคุณ http://th.wikipedia.org

พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม)

200px-Phra_Dharmasinghapuracarya_(Jarun_Thitadhammo)

พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม) เป็นพระภิกษุชาวไทยในศาสนาพุทธนิกายเถรวาท คณะสงฆ์มหานิกาย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี และเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี ท่านมีชื่อเสียงในระดับประเทศจากการเป็นพระนักพัฒนา พระนักเทศน์ และพระวิปัสสนาจารย์ แนวทางการสืบทอดพระพุทธศาสนาของท่านเน้นหนักที่การสั่งสอนเรื่องกฎแห่งกรรม โดยยกเหตุการณ์ที่ท่านประสบและนับเป็นกฎแห่งกรรมขึ้นมาเป็นอุทาหรณ์อยู่เสมอ และเน้นการพัฒนาจิตใจคนด้วยการทำวิปัสสนากรรมฐานด้วยหลักสติปัฏฐาน 4 แบบพองหนอ-ยุบหนอ นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้ที่ส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนหมั่นสวดมนต์ด้วยพุทธชัยมงคลคาถา (พาหุงมหากา) เพื่อเป็นเครื่องเจริญสติอย่างแพร่หลายอีกด้วย

ขอขอบคุณ http://th.wikipedia.org

ธรรมบรรยาย สวัสดีปีใหม่ เป็นธรรมะที่บรรยายโดยพระเทพสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)

ธรรมบรรยาย สวัสดีปีใหม่

เป็นธรรมะที่บรรยายโดยพระเทพสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม) ในโอกาสต่างๆ ที่ผ่านมาในอดีต

ญาติโยมทั้งหลาย วันนี้ถือว่าเป็นวันชีวิตมิ่งขวัญมงคลต่อท่านผู้มีกุศล ที่เรามากันในวันนี้คือจะมาบำเพ็ญกุศลชีวิต ระลึกเหตุการณ์ชีวิตที่ผ่านมาในปีซึ่งจะสิ้นสุดลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้ จะเปลี่ยนวาระเข้าไปสู่ภาวะของ พ.ศ. ใหม่ คือวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๐ วันเวลาก็ล่วงเลยไปเร็วมาก ไม่จำต้องกล่าวว่าเฉพาะเวลาเร็ว ชีวิตก็เร็ว รู้สึกว่ามันเร็วเหลือเกิน เร็วเช่นนี้แล้วจิตใจเราก็สับสน มีเรื่องนั้นเรื่องนี้เข้ามาแทรกแซงอยู่ในจิตใจ เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ชั่ว ท่านทั้งหลายเราพิจารณาตัวเองกันในวันนี้ คิดบัญชีชีวิตว่าตั้งแต่ต้นปีเรื่อยมาเราขาดทุนชีวิตอะไรบ้าง เราทำธุรกิจการค้าขาดทุนตรงไหน หาเหตุในการขาดทุนให้จงได้ ไม่ใช่ว่าสวัสดีปีใหม่ก็ขอให้ข้าพเจ้ารวย ให้สวย ให้ดีให้มีปัญญา มาที่วัดนี่ก็เจริญพรให้ข้อคิด สรุปหนึ่งปีมามีหลายเรื่องทำให้อาตมาได้ตำราที่วัดไม่ต้องไปเข้าโรงเรียนไหนเลย ครูมาสอนทุกวัน อาตมาก็เป็นนักเรียนแต่ให้ค่าเทอมครูด้วยการเลี้ยงข้าว วันนี้ครูมาเยอะ เดี๋ยวเลี้ยงหอยทอด

อ่านเพิ่มเติม

สาเหตุของการปฏิบัติไม่ได้ผล…หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม

สาเหตุของการปฏิบัติไม่ได้ผล…หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม

การปฏิบัติไม่ได้ผลเพราะเหตุใด?

1. ไม่ตั้งใจทำ

2. ไม่ทำติดต่อไปเรื่อยๆ

3. ทำๆ หยุดๆ เลิกไปท่านจะได้อะไร

4. อ่อแอ ท้อแท้ใจ นิวรณ์เข้าครอบงำ

ถ้าท่านอ่อนแอทท้อแท้…..ไม่ต้องเจริญกรรมฐาน อีกร้อยปี

ท่านก็ไม่ได้อะไร ท่านต้องอดทน ถ้าไม่เต็มใจทำ…..

ไม่มีศรัทธา ไม่ตั้งใจ ไม่เต็มใจ มากับเขาเรื่อยไปแค่นั้น….
อ่านเพิ่มเติม

สอนตัวเองได้ประเสริฐสุด หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม

สอนตัวเองได้ประเสริฐสุด หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม

การเกิดเป็นมนุษย์ยากแล้ว ทำไมเอาความเป็นสมบัติมนุษย์ไปทิ้ง ท่านมีกุศลกรรมบถ10มาแล้ว

ไม่อย่างนั้นท่านก็จะไม่เป็นมนุษย์ พลาดท่าเสียทีก็ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานมากมายก่ายกอง

ทำไมไม่รักษาความเป็นมนุษย์ไว้

การเจริญภาวนา เจริญสติปัฏฐาน4 เช่น มีการยืนหนอ5ครั้ง
…การเดินจงกรม ตั้งสติไว้ทุกอริยาบท

กุศลกรรมบถ10 ท่านก็ครบ ขณะที่เจริญกรรมฐาน…พองหนอ….ยุบหนอ กายกรรม3ครบ

วจีกรรม4ครบ มโนกรรม3ครบ นี่แหละสมบัติมนุษย์ครบ จะก่อให้บังเกิดผลขึ้นในสมบัติมนุษย์ของท่าน

ตลอดกาลในชีวิตของท่าน ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่เบียดเบียนทรัพย์ ร่วมประเวณีแต่ประการใด
อ่านเพิ่มเติม

สิ่งที่พึงได้จากการอบรมจิต หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม

สิ่งที่พึงได้จากการอบรมจิต หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม

ทุกคนไม่ทราบว่า เราสร้างเวรกรรมอะไรไว้กี่ชาติกี่อย่าง…นานาประการ เวียนวนตลอดรายการแล้ว

ไหนเลยเล่าเราจะได้ความสุขที่มันถูกต้อง และแน่นอนที่สุด…ไม่เท่ากับการเจริญพระกรรมฐาน

ที่เราได้มาฝึในวัดนี้ หรือไปฝึกที่วัดไหนๆ ก็เหมือนกันหมด ขอให้ฝึกได้สามประการ

1. ระลึกชาติของชีวิตได้ไหม?

2. รู้กฏแห่งกรรมมแล้วรึยัง?

3. แก้ปัญหาได้ไหม?
อ่านเพิ่มเติม

นำตัวเอง-ตามตัวเอง…หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

นำตัวเอง-ตามตัวเอง…หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

การเจริญกรรมฐาน ไม่ใช่มานั่งหลับตาไปสวรรค์นิพพาน
เพื่อต้องการฐานทัพให้แน่น
ต้องการเอาสมบัติมนุษย์ให้ครบถ้วนทุกประการ
แต่แล้วเกิดมานี่สมบัติมนุษย์ยังไม่ครบ
ยังทำอะไรก็จ้ำจี้จ้ำจด หมดอาลัยตายอยาก
ความเป็นมนุษย์ไม่ครบ
ถ้าความเป็นมนุษย์ท่านครบ ท่านจะไม่ฆ่าสัตว์
ไม่เบียดเบียนสัตว์ จะไม่ล่วงประเวณีในสังคม
จะไม่พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบพูดเพ้อเจ้อ
แล้วก็ไม่ดื่มสุรายาเมา
ถ้ายังดื่มสุรายาเมาอยู่นั่นเป็นมนุษย์ไม่ครบ
อ่านเพิ่มเติม

การพิสูจน์ความถูกต้องของชีวิตโยม…หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

การพิสูจน์ความถูกต้องของชีวิตโยม…หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

การเจริญสติปัฏฐาน ๔ เป็นการแก้ปัญหาชีวิต
พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนว่าเป็นทางสายเอก
พระองค์ได้ประสบการณ์จากหนทางเส้นนี้มาแล้ว
มีความสุขแน่ ๆ มีความเจริญในมรรคมรรคา

มรรค ๘
ได้แก่สรุป ศีล สมาธิ ปัญญา
สรุปสติคือ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ
คือ สติปัฏฐาน ๔ ในมรรค ๘ ชัดเจน
ทำไมโยมไปภาวนาไปสวรรค์นิพพาน
อ่านเพิ่มเติม

หลักสำคัญของการปฏิบัติ…หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

หลักสำคัญของการปฏิบัติ…หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

หลักสำคัญ ๓ ข้อ
การปฏิบัตินี้ อาตมาเน้นอยู่ ๓ ข้อคือ
๑. ยืนหนอ ๕ ครั้ง
๒. การเดินจงกรมให้ช้าที่สุด มันจะได้สติรวบรวมไว้ได้ดี
๓. หายใจเข้าออก เอาสติยัดเข้าไปตามลมหายใจ ให้ได้จังหวะ

นอกจาก สามอย่างนี้
เราจะต้องไม่เกียจคร้าน
ต่อการงานและหน้าที่ รับผิดชอบในกัมมัฏฐาน
กัมมัฏฐาน นี้ เป็นการกระทำให้ฐานะ ดีขึ้น
นั่งแต่ละครั้งจะเหมือนกัน
นั่งแต่ละครั้งอาจจะไม่เหมือนกัน
ถ้าเราทำไปนานๆ แม้เราจะอายุมากก็ตาม
โรคภัย ไข้เจ็บก็จะหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ อ่านเพิ่มเติม

. . . . . . .