ความประสงค์อันแท้จริงเกี่ยวกับการจัดงานล้ออายุ โดย ท่าน พุทธทาส

ความประสงค์อันแท้จริงเกี่ยวกับการจัดงานล้ออายุ โดย ท่าน พุทธทาส

หน้าที่ 1 – รักอายุ ล้ออายุ หลงอายุ
อาตมาไม่ทราบเรื่องที่จะจัดและก็ไม่ได้พูดอะไรโดยประการทั้งปวง บัดนี้ได้กลายเป็นว่ามีผู้จะขอจัดอีก อย่างที่กล่าวเมื่อตะกี้นี้ว่า ท่านปัญญาหรือใครจะเป็นตัวการ ตัวประธานจัด แล้วก็ไม่ได้มา แล้วก็ให้มาประชุมกันเอง ก็ลองประชุมกันว่าจะประชุมอย่างไร ถ้าให้อาตมาพูดก่อนก็จะขอพูด ความประสงค์เกี่ยวกับการที่จะจัดต่อไปนี้ ขอได้โปรดฟังให้ดี อาตมาขอขอบพระคุณท่านทั้งหลายที่มาประชุม ถึงจะเคยจัดกันมาแล้ว แต่หนหลังมันเหน็ดเหนื่อยกันมาก ก็ขอขอบพระคุณที่วันนี้ก็มากันอีก ขอทำความเข้าใจเป็นพิเศษ ในฐานะเป็นเรื่องสำคัญ ปรารภโดยส่วนรวม ก็อยากจะพูดว่า ที่จัดแล้วปีกลายนั้นเป็นเรื่องโลภ พระพุทธเจ้าท่านมาเห็นท่านจะสั่นพระเศียรหรือหน้าเบ้ หรือถ้าคนธรรมดาก็จะถมน้ำลายรด คือมันเป็นเรื่องโลภเกินไปจัดกันงานใหญ่ยิบ กินกันใหญ่ รับเงินกันใหญ่ แสดงบทบาทกันใหญ่ไม่มีดนตรี มีรำ มีอะไรนี่ นี่เรียกว่าเป็นอย่างจัดงานต่ออายุ หรืฉลองอายุ มีความรู้สึกว่าพระพุทธองค์ สมมุติว่ามาเห็นแล้วทรงว่าไอ้พระพุทธธาตุบ้า จัดงานอะไรอย่างนี้

แต่ว่ามันไม่ใช่เรื่องของอาตมา ไม่ต้องรับผิดชอบข้อนี้ ถ้าจะจัดกันอีกขอให้เลิก เลิกความหมายอย่างนี้ เลิกงานแซยิดไม่จัดอย่างแซยิดไม่กินกันใหญ่ ไม่รับเงินกันใหญ่ ไม่สนุกกันใหญ่ ไม่หมดเปลืองกันใหญ่ ไม่ลำบากกันมากมาย การทำคนให้ลำบากมากมายนั้นเป็นบาป ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นวินัย ไม่ใช่พระพุทธประสงค์ ขอได้โปรดจำไว้เพื่อนพระสหมิตรทั้งหลาย ว่าอย่าทำอะไรให้คนเป็นอันมากทั้งหลายต้องลำบาก มันผิดศีลธรรมะวินัย 8 ประการนั่นแหละ เป็นไปเพื่อความอยากใหญ่ เป็นไปเพื่อความสะสมกิเลส เป็นไปเพื่อเกิดทุกข์ เป็นไปเพื่อทำให้ลำบาก นี้มันผิดธรรม มันผิดวินัย มันไม่เป็นเรื่องที่ว่า พุทธ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน นี่เรื่องมันเป็นอย่างนี้ ความหมายและจุดประสงค์ของอาตมานี้ไม่อยากจะจัดอย่างแซยิด แต่ที่แล้วมาไม่ได้จัดเองไม่ได้บัญชาเองไม่ได้ออกความคิดเห็นแม้แต่คำเดียวไม่ได้ขอร้องแม้แต่คำเดียว เพราะท่านขอจัด ณ บัดนี้ท่านขอจัดอีกขอต่อรองว่าอย่าจัดอย่างนั้นเลย ถ้าเป็นเรื่องจัดอย่างแซยิดมันก็เป็นเรื่องฉลองอายุ เป็นเรื่องต่ออายุ ซึ่งไม่ประสงค์ต้องการจัดอย่างล้ออายุ ปีนี้จะขอจัดพิเศษขอเลิกอายุ เรื่องอายุ เลิกเรื่องปัญหาเกี่ยวกับอายุ ธรรมดาเด็กๆ มันก็ต้องรักอายุ ล้ออายุ หลงอายุ มันก็จะต้องต่ออายุ เป็นเรื่องไอ้พวกกลัวตาย พวกไม่รู้จักอายุ จนเราอยากจะล้ออายุ เราก็จะเลิกอายุ เลิกเรื่องยุ่งยากเกี่ยวกับอายุ ขอทบทวนอีกนิดถ้าเด็กๆมันก็หลงอายุ มันรักอายุ มันก็ฉลองอายุ หมดเรื่องเด็กก็ชักสงสัยว่ามันบ้าหรือว่าดี มันไม่ถูก เรื่องนี้มันไม่ใช่หัวใจของพระพุทธศาสนา นั้นจึงเขียนเป็นว่าเลิกล้ออายุซะทีเลิกอายุ จบด้วยความเป็นอยู่เหนืออายุ เหนือปัญหาของอายุนี่คือความหมายอันแท้จริง แต่ถือว่าปีครบ 84 จะเป็นปีสุดท้าย ปีสุดท้ายในหลายความหมาย อยากจะพอกันที หยุดกันที นี่เป็นวันครบรอบ 84 ปี ด้วย เป็นปีสุดท้าย แล้วก็เลิกกันยุ่งเยิงเกี่ยวกับอายุ ล้ออายุ เลิกอายุ แล้วก็อยู่เหนืออายุ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ถูกตรงตามพระพุทธประสงค์นั่นเอง ทำอย่างแซยิดฉลองอายุ เลี้ยงกันใหญ่ สนุกกันใหญ่ รับเงินกันใหญ่ อะไรกันใหญ่นี้ มันละอายแสนที่จะละอายต่อพระพุทธเจ้า ขอได้โปรดจดจำคำนี้ไว้ด้วยว่าผมละอาย เหลือที่จะละอายต่อพระพุทธเจ้า ในการที่จัดอย่างปีที่แล้วมา แต่ผมก็ไม่ได้จัด แต่คนอื่นขอจัดแล้วก็จัด เดี๋ยวมารู้แจ้งด้วยตัวเองว่าจะจัดอย่างนั้นอีก ความละอายก็กลับมาอีก รู้สึกละอายต่อพระพุทธเจ้า รู้สึกว่าทนไม่ไว้เลยบอกไปว่าอย่าจัดอย่างนั้นเลย จัดอย่างนั้นยุ่งมาก เปลืองมาก เหนื่อยมาจนบัดนี้ก็ยังไม่รู้สึกหาย นึกขึ้นมาทีไรก็เหนื่อย 3 ปีมาแล้วก็ยังเหนื่อย ความเหนื่อย ความยุ่งยากอะไรก็ยังไม่หมด ความละอายที่ละอายต่อพระพุทธเจ้า ทำอย่างนี้มันไม่สมกับพระพุทธธาตุ นี่ก็ยังเหลืออยู่เป็นความละอาย เราจะต้องถือตามความหมายเลี่ยนหัวใจของพระพุทธศาสนา มุ่งหมายความหลุดพ้นเป็นการใหญ่ เป็นสิ่งสำคัญ จึงขอเรียงลำดับว่า เคยหลงอายุ รักอายุ ฉลองอายุอะไรกันมาแล้ว เดี๋ยวนี้เขาเปลี่ยนเป็นล้ออายุ เลิกอายุ แล้วมันก็เหนืออายุ นั่นเป็นความหมายที่เป็นการเหนือกิเลส เรื่องนี้จะขอบรรยายพรุ่งนี้ในเทศนา เกี่ยวกับวันล้ออายุโดยละเอียด ว่าเนื้ออายุนั้นเป็นอย่างไร เดี๋ยวนี้นี่มันไม่อยากจะเห็นก็คือว่า กินกันใหญ่ เลี้ยงกันใหญ่ สนุกกันใหญ่ ลำบากกันใหญ่ มีโอกาสที่แต่ละคนอวดเก่งกันใหญ่ นิทรรศการนั้น นิทรรศการนี้ แสดงนั้นแสดงนี้ กินอย่างนั้น กินอย่างนี้ อวดเบ่งกันใหญ่ มันเป็นเรื่องสนองกิเลส แล้วก็รบกวนกันใหญ่ เห็นอกเห็นใจ ที่มาช่วยจัดที่กลายบรรทุกของด้วยรถยนต์ที่มารบกวนกันเป็นทอดๆลงไปเลย แต่ข้อนี้ก็ขอขอบพระคุณ ที่ทำไปด้วยความรักความเอ็นดู แต่ว่ามันจะทำอย่างนั้นอีกไม่ได้ มันผิด มันผิดพระวินัยจะเป็นการรบกวนกันใหญ่ ทำให้ลำบากกันใหญ่ ศาสนาไม่ได้รับผลอะไร ผมขอว่าอย่างนี้ ใหญ่ๆเปลืองมาก พระพุทธศาสนาไม่ได้รับอะไร ได้รับแค่ว่าผู้ทำแยกทำ สนองกิเลส อวดเบ่งกันใหญ่ ขอให้พิจารณาดู ใส่ปุ๋ยให้กิเลสกันใหญ่พูดอย่างนี้ดีกว่า กิเลสยิ่งอ้วนขึ้นอีกถ้าขืนยังทำอย่างนี้ แล้วในที่สุดมันจะส่งเสริมความเห็นแก่ตัว ซึ่งเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุด คอยทำทุกอย่าง ทำไปๆ เพื่อลดความเห็นแก่ตัว เราจะเปลี่ยนจากการฉลองอายุ แซยิดนี้เป็นเรื่องล้ออายุ เป็นเรื่องเลิกอายุ ซึ่งชาวบ้าก็ไม่ค่อยรู้จักกัน เพราะเขากลัวตาย แค่อยากจะฉลองอายุ จะต่ออายุ จะหล่อเลี้ยงอายุ ทีนี้มาเปลี่ยนใหม่ขอให้การกระทำนี้เป็นการล้ออายุ ล้ออายุให้คนที่หลงอายุมันตายไปเลย ให้มันเป็นลมตายไปเลย พวกที่หลงอายุนั้น เรามาล้ออายุให้คนเหล่านั้นตายไปเลย เราจะล้อกิเลสที่เคยหลอกเรา เราจะล้อกิเลสประเภทสวยงามหรูหรา สนุกสนานที่มันเคยหลอกเรา เราจะต้องล้อมัน เราจะล้อสังขาร สังขารธรรมที่มันเคยปรุงแต่งเรา มากมายเหลือประมาณไอ้สังขารเหล่านี้ มันปรุงแต่งเรา เราจะจัดงานเพื่อที่จะล้อมันให้หัวตกหกเขม้นไป เราจะล้อสังสารวัตรที่เวียนว่ายมา หลายร้อยหลายพันชาติแล้ว ไม่หยุดกันที เป็นการทำบุญ ทำภาวนาที่เพิ่มความเห็นแก่ตัว ส่งเสริมกิเลส สนองกิเลส ไม่ได้ลดความเห็นแก่ตัว รู้จักแต่จะทำเป็นพิธีรีตอง แต่ไม่รู้จักวิธีที่จะกำจัดกิเลส นี้ขอบอกกล่าวเพื่อนสหมิตรทั้งหลายให้บรรพชิตด้วยกันว่า เรารู้จักกันแต่พิธีๆ ไม่รู้จักพิธี ซึ่งที่แท้มันเป็นคำเดียวกัน ภาษาบาลีคำเดียวกัน วีถี แปลว่าพิธี แปลว่าวิธี ก็ได้

หน้าที่ 2 – ผมตายไม่ต้องสร้างเจดีย์ ไม่ต้องสร้างอนุสาวรีย์
ถ้าเป็นพิธีมันทำอย่างงมงาย ทำด้วยกิเลส มันก็เป็นไสยศาสตร์ไปในที่สุด แม้แต่จะต่ออายุ ล้ออายุนี้ก็เป็นเรื่องไสยศาสตร์ เรื่องอายุมันจะเป็นเรื่องพุทธศาสตร์ ถ้าเป็นวิธีก็เป็นวิธีกำจัดกิเลสให้แหลกละเอียดไป โปรดจำคำนี้คำเดียว 2 ความหมายถ้าเป็นพิธีก็เป็นไสยศาสตร์ ถ้าเป็นวิธีก็เป็นพุทธศาสตร์ เราจะทำให้เป็นวิธี ที่จะกำจัดกิเลส กำจัด อวิชชา ของเราเอง จะทำการล้ออายุ เลิกอายุ อยู่เหนืออายุให้สุดความสามารถ อย่าให้ผีหัวเราะ ทำอย่างส่งเสริมกิเลส กินกันใหญ่ รับเงินกันใหญ่ อวดเบ่งกันใหญ่ ผีมันหัวเราะ ผีตามต้นไม้มันหัวเราะ เทวดาก็หัวเราะ คนป่าดึกดำบรรพ์เมื่อนู้น ถ้ามันมาเห็นมันก็หัวเราะ ถ้าคนป่าดึกดำบรรพ์เมื่อนู้นมันไม่ทำอะไรบ้าๆ อย่างนี้ เหมือนคนเดี๋ยวนี้ มันบ้าบอกิเลสชักจูงมากเกินไป คนป่าไม่นุ่งผ้าสมัยหมื่นปี แสนปี ล้านปี หัวเราะเหมือนกัน อย่าทำให้ผีหัวเราะ อย่าให้เทวดาหัวเราะ อย่าให้คนป่าหัวเราะ อย่าให้ตุ๊กแกมันหัวเราะ อย่าให้จิ้งจกมันทัก ขอให้เป็นอย่างนั้น ขอให้ทำถูกต้องชนิดที่ ไม่ถูกหัวเราะโดยคนเหล่านั้น ทำให้คนชั้นหลังจะถือเอาเป็นตัวอย่างได้ ให้เป็นความท้าทายกิเลส กูจะไม่เอามึง ความเห็นแก่ตัวในความหมายใดๆก็ดี ขอเอ่ยคำหนึ่งคำสูงสุด ขอให้มันเป็นไปอย่าง อธรรมะยตา อย่าให้กิเลสบวก หรือกิเลสลบ มันผลักไสปรุงแต่งไปในทางใดๆ ขอร้องในที่สุดว่า นี่เป็นการกระทำครั้งสุดท้าย แล้วก็ไม่ต้องทำกันอีกต่อไป ทำให้ดี ให้พิเศษ ทำให้สุดความสามารถ สุดใจ สุดทั้งหมดแหละ แต่ว่าเป็นครั้งสุดท้าย เพราะถ้ามันเป็นครั้งสุดท้าย มันทำดีที่สุด ก็ขอให้ช่วยกันทำดีให้ที่สุด ให้เป็นไปตามอุดมคติอย่างที่ว่ามาแล้ว ของการบำเพ็ญบุญล้ออายุ เลิกอายุ อยู่เหนืออายุ ถ้าสมมุติพระองค์เกิดมาเห็นเข้าคงสรรเสริญ ทรงอนุโมทนาพระพุทธธาตุแกทำดีแล้ว ให้เป็นอย่างนี้ ต้องการอย่างนี้ ให้มันเป็นสุดท้ายอย่างนี้ ของที่มันเกินไปนั้นไม่ต้องทำ มีเขียนลงไปในรายการที่พิมพ์มานั้น จะทำงานคอมพิวเตอร์ บรรจุคอมพิวเตอร์ ขอแสดงความสงสารว่าบ้าที่สุด ไอ้คอมพิวเตอร์ ไอ้ยักษ์ตาบอด ไอ้คอมพิวเตอร์มันไม่มีความหมายใดๆ มันไม่ได้ช่วยบอกความผิด ไม่บอกความถูก ไม่บอกความจริง บอกไม่ได้ ได้แต่ช่วยจำเท่านั้นไอ้ยักษ์ตาบอด ไม่ต้องการจะข้องเกี่ยวกับสิ่งที่ว่า คอมพิวเตอร์ ขอตัดออกไปได้ เรื่องของสวนโมกข์ไม่มีเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และจัดว่าเป็นยักษ์ตาบอดไม่เอากับมึง แต่เอาสมองของมนุษย์ ที่รู้จักดี รู้จักชั่ว รู้จักแยกแยะว่าอะไรผิดอะไรถูก อะไรดีอะไรชั่ว นั่นขอถวายความคิดอันนี้ไว้ กับเพื่อนพันธมิตรทั้งหลาย มีใครจะหันไปใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ ก็ขอให้พิจารณาคำพูดนี้ก่อน ซึ่งขอพูดย้ำอีกทีว่ายักษ์ตาบอดอย่าไปเอากับมัน มันไม่อาจจะบอกว่าถูกหรือผิด หรือดี หรือชั่ว ตรงนี้ มันได้แค่จำ ผิดก็จำอย่างผิด ถูกก็จำอย่างถูก มันไม่ใช่ชำระทำให้เกิดความถูกต้องได้ เรื่องธรรมะโคตรสัญจร ขออย่าได้จัดเพื่อเอาหน้าเอาตา เพื่ออวดเบ่ง ขอให้จัดอย่างเงียบๆตลอดเวลา แสดงด้วยเสียงที่ไม่ต้องพูด คือแสดงกิริยาท่าทางเป็นอยู่ให้ถูกต้อง ต้องเป็นพระให้ถูกต้อง แล้วมันก็เป็นการแสดงธรรมที่ดีที่สุด ในสัญจรอะไรก็ไม่รู้ที่รบกวนกันใหญ่ ยุ่งไปหมด มีการทะเลาะเบาะแว้ง ต่อว่าตอขานไม่เป็นธรรมะ ไม่เป็นวินัย ขอให้ทำตลอดปี ธรรมมะสัญจรทำตลอดชีวิต เงียบสงบแสดงธรรมะสูงสุดอยู่ที่ เนื้อ ที่ตัวของผู้ปฎิบัติ ได้เห็นสมณะแล้วเป็นการดี ขอให้สัญจรกันอย่างนี้ หนังสือที่รำลึกนั้นไม่ต้องช่วยทำ คนอื่นช่วยทำ ทำไม่ได้ ทำเองหนังสือที่ระลึกอายุ 84 ปี ขอทำเอง อย่าขอร้องเรื่องอนุสาวรีย์ทางวัตถุไม่พึ่งประสงค์กับทางธรรมะ ที่ได้สะสมไว้ในจิตใจของเพื่อนมนุษย์ ทั่วๆไปทั้งโลกนี้ ขอเอาอันนี้เป็นอนุสาวรีย์ ขอให้ถือเป็นหลักไว้อย่างนี้เถิด และที่อยากจะบออะไรที่มันดี มันดับทุกข์ได้ให้พิมพ์ เผยแพร่ โฆษณากันตลอดเวลาก็แล้วกัน นั่นแหละเรียกว่าจะทำเป็นที่ระลึก ผมตายไม่ต้องสร้างเจดีย์ ไม่ต้องสร้างอนุสาวรีย์ ขอร้องว่าอย่าทำเลย ทำแล้วบ้า กล่วงหน้าว่า งานชิ้นสุดท้ายของพระพุทธศาสนานี้ มันมีแต่การทำความเข้าใจระหว่างกับศาสนา การทำการศึกษาศาสนาให้รู้ศาสนาของตน ให้รู้ในภายหลังศาสนานี้ทำแล้ว เพ้อแล้วขอใช้คำว่าอย่างนี้ดีกว่า เพ้อจนอ่านไม่ไหว คิดไม่ไหวแล้ว เกินที่จะเอาไปคิด ไปศึกษาแล้ว

แต่ว่าโลกก็ยังไม่มีประสิทธิภาพ คิดดู ความเจริญทางด้านวัตถุของโลกก็เหลือประมาณวิเศษวิโส อิเล็กทรอนิกซ์ อวกาศประมาณดูแล้ว แต่โลกมันก็ยังเหลือเกินแล้วแต่โลกมันก็ยังไม่มีสันติภาพ ศาสนาทั้งหลายก็มีแต่ทะเลาะกัน แยกเขี้ยวใส่กัน ขออภัยที่ใช้คำหยาบไปหน่อย ศาสนามันยังยิ้มกันไม่ได้ ยังหวังร้าย ยังมุ่งทำลายต่อกัน เมื่อศาสนามันเป็นกันอย่างนี้ แล้วโลกมันจะมีสันติภาพได้อย่างไร

หน้าที่ 3 – สันติภาพจะมีขึ้นมาได้ในโลกจะต้องมีศาสนาทั้งหลาย
ขอได้โปรดสนใจไว้เถิดว่า สันติภาพจะมีขึ้นมาได้ในโลกจะต้องมีศาสนาทั้งหลาย ร่วมมือกันกำจัดความเห็นแก่ตัวของคนในโลก แล้วโลกนี้ก็จะมีสันติภาพ ถ้าเห็นแก่ผม เอ็นดูผม สงสารผม อยากจะร่วมมือ ก็ขอให้ช่วยกันในแง่นี้ แง่ที่ทำความเข้าใจระหว่างศาสนา ช่วยกันมาร่วมมือใน อาศัยศาสนาของตน ไม่ต้องรวมศาสนามันเป็นสิ่งที่รวมไม่ได้ แต่ว่าร่วมมือกันได้ ศาสนาไหนมีวิธีกำจัดความเห็นแก่ตัวอย่างไรขอใช้วิธีของศาสนานั้นกำจัดความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ในโลกคนละไม้คนละมือ ความเห็นแก่ตัวลดลงไปเท่าไร สันติภาพก็จะเกิดขึ้นเท่านั้น ความหวังในบั้นปลายของชีวิตใช้ชีวิตนี้ มุ่งหวังแต่จะทำความเข้าใจระหว่างศาสนา นี้

เป็นอันว่าอาตมาได้แถลงความจริงใจ มีความรู้สึกแก่ท่านทั้งหลาย ถึงที่สุดแล้ว ว่ามีความรู้สึกอย่างนี้ ละอายพระพุทธเจ้าเต็มทีแล้ว ถ้าเราจะจัดอย่างงานแซยิด แล้วก็เหนื่อย เหนื่อยไม่รู้จักหาย ทำให้คนเป็นอันมากต้องเหน็ดเหนื่อย รวมกันแล้วมันเหลือประมาณ มันเหน็ดเหนื่อย เหนื่อยใจ จึงขอร้องว่าอย่าเป็นไปเช่นนั้นอีกเลย ดังนั้นเมื่อใครจะมาขอจัดงาน ล้ออายุ หรือเลิกอายุกันใหม่ ขอให้ทำไปตามวัตถุประสงค์นี้ ขออย่าได้ทำไปในลักษณะ ที่ทำมาแล้วละอายพระพุทธเจ้า จนไม่รู้ว่าจะละอายไปถึงไหนแล้ว เหนื่อยและไม่พอใจในการกระทำแล้ว ยกมือไหว้ตัวเองไม่ได้เลย โดยประการทั้งปวง ท่านทั้งหลายที่เป็นมิตรสหายก็ดี ที่เป็นที่เคารพนับถือก็ดี เป็นศิษย์อะไรก็ดี ขอได้โปรดพิจารราข้อเท็จจริงอันนี้ ด้วยความรู้สึกอันนี้ ถ้าใครจะมาขอจัดงาน เกี่ยวกับอายุ ขอให้จัดไปในทำนองล้ออายุ และเลิกอายุ แล้วอยู่เหนืออายุ ขอให้จัดอย่างนั้น ที่จะต้องพูดก่อนก็มีอย่างนี้ ขอถวายและขอบอกกล่าว ความรู้ที่มีต่อท่านทั้งหลายที่เป็น คฤหัตถ์ เป็นบรรพชิต เมื่อมีความรู้สึกอย่างนี้ ถ้าจะจัดงาน ปีสุดท้าย ชิ้นสุดท้ายเลิศที่สุด ประเสริฐที่สุด เกี่ยวกับอายุของผม หรือของอาตมา ที่มันมีเท่านี้แหละ ขอให้งานล้ออายุ เลิกอายุ อยู่เหนืออายุนั้น เป็นธรรมะ เป็นวินัยทุกระเบียบนิ้ว ไม่มีส่วนใดที่จะเป็นการสนองกิเลส และอยากจะซ้อมไว้ทั้งแต่ปีนี้ พรุ่งนี้จะเอามาพูดกัน ว่าจะทำอะไร ทำอย่างไร เตรียมซ้อมมือไว้ แต่ปีนี้จะทำดีที่สุด ถึงปีหน้า ปีที่จะครบรอบ 7 รอบ พรุ่งนี้มาพูดกัน ทำความเข้าใจกันว่าจะทำอย่างไร ว่าจะพูดกันให้สิ้นเชิง สรุปความว่าให้พระพุทธองค์ทรงอนุโมทนาว่าให้ด้วย เป็นตัวอย่างที่ดีที่ใครจะจัดงานเกี่ยวกับอายุนี้ด้วย ไม่เอาเงิน ไม่เอาแรง ไม่เอาเวลามาละเลงเล่น เพื่อสนองกิเลส โดยประการทั้งปวง เรื่องที่ผมหรืออาตมาอยากจะขอเสนอ ความประสงค์ ความต้องการ หรือข้อแนะนำว่าถ้าจะช่วยจัด เลิกอายุ ล้ออายุ ให้เป็นที่พอใจแล้ว ขอให้มุ่งหมาย หลักเกณฑ์ตามที่กล่าวมาแล้วนั้นทุกประการ ผมเดี๋ยวนี้ไม่มีแรง บางวันจะลุกจากที่นอน ลุกจากที่นอนนั้นลำบาก แต่มันก็ประหลาดที่มันสบายดี มันไม่เจ็บปวดที่ตรงไหน มันไม่ทรมานที่ตรงไหน ความจำก็เริ่มไป เหลือไม่กี่มากน้อยแล้ว ตาก็อ่านหนังสือกับเขาไม่ค่อยจะได้แล้ว รู้สึกว่าเกิดมาในโลกที่แสนจะลำบากแล้ว ที่หนังสือมันพิมพ์หนังสือตัวเล็กๆมาก ขึ้นทุกทีจนอ่านไม่ได้แล้ว นี่พูดถึงสังขารมันเป็นอย่างนี้ ชีวิตคนจะล้อ จะเลิก อยู่เหนือปัญหาแห่งอายุหมอสิ้นโดยประการทั้งปวง ขอแสดงความขอบคุณที่มาประชุมนี้ เจตนาดีอย่างนี้ก็พูดออกไปนี้ด้วยความรู้สึก ที่ปรกติโดยจิตใจ ไม่เชื่อไปเอาหมอมาจับชีพจรหรือวัดความดันดู ไม่ได้เครียด ไม่ได้พูดด้วยความเครียด ไม่ใช่ความรู้สึกหรือเครียดอะไร พูดด้วยความรู้สึกว่ามันเป็นอย่างนี้ จึงขอฝากถวายไว้ให้อยู่ในความคิดนึกของท่านทั้งหลาย และก็ต้องหยุดพูดเพราะมันเหนื่อยแล้ว ไม่มีแรงจะพูดแล้ว ขอยุติที

http://www.vcharkarn.com/varticle/32454

. . . . . . .