ศิษยานุศิษย์สุดอาลัย”หลวงปู่ครูบาดวงดี” เกจิดังแห่งล้านนา 5แผ่นดินสิ้นแล้ว
เมื่อเวลา 06.37 น.วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ครูบาดวงดี สุภัทโท หรือท่านเจ้าคุณพระมงคลวิสุต พระเถระผู้ใหญ่อายุ 103 ปี ซึ่งมีพรรษา 83 สูงที่สุดของประเทศไทย เจ้าอาวาสวัดท่าจำปี อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ได้มรณภาพลงอย่างสงบที่ห้องไอซียู ชั้น 4 อาคารศรีพัฒน์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หลังเข้ารับการรักษาตัวกับ น.พ.ชัยวัฒน์ บำรุงกิจ ผู้ช่วยคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคไตและความดันโลหิต โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่มาอย่างต่อเนื่อง โดยอาการอาพาธของหลวงปู่ดวงดีเริ่มทรุดลงตั้งแต่บ่ายวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ซึ่งทีมแพทย์ได้พยายามฟอกไตแต่ร่างกายไม่ยอมตอบสนองและมรณภาพลงด้วยอาการไตวายเฉียบพลันช่วงเช้ามืดวันนี้
พระปลัดธีระพงษ์ ธัมมธโร รองเจ้าอาวาสวัดท่าจำปี ซึ่งเป็นผู้ดูแลและปรนนิบัติหลวงปู่ เปิดเผยว่า นับจากคณะศิษย์และผู้มีจิตศรัทธาได้นิมนต์หลวงปู่เดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กรุงเทพฯ เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 15 กันยายน 2552 จนอาการดีขึ้นเป็นลำดับและหลวงปู่ได้เดินทางกลับมาพำนักที่วัดท่าจำปีเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมานั้นโดยงดเว้นกิจนิมนต์ทุกอย่างเพื่อพักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่ในวันที่ 19 มกราคม 2553 หลวงปู่เริ่มมีอาการความดันโลหิตต่ำเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสันป่าตองแต่อาการไม่ดีขึ้น ประกอบกับหลวงปู่อาพาธด้วยโรคปอดติดเชื้อ มีแผลในลำไส้ และโรคแทรกซ้อนอื่นๆ จึงย้ายเข้ามารักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จนถึงแก่มรณภาพในที่สุด
นายจำลอง กิตติศรี ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ถือเป็นความสูญเสียของชาวพุทธ เพราะหลวงปู่เป็นพระเถระผู้ใหญ่ระดับพระราชาคณะ อย่างไรก็ตามในเวลา 13.00 น.จ.เชียงใหม่ร่วมกับคณะสงฆ์จะได้อารธนาศพหลวงปู่ครูบาดวงดีออกจากโรงพยาบาลฯ ไปยังวัดท่าจำปี เพื่อตั้งบำเพ็ญกุศลและรอประกอบพิธีขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในเวลา 16.00 น.วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์นี้ โดยนายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ จะเป็นประธานในพิธีสรงน้ำหลวงอาบศพ
สำหรับประวัติหลวงปู่ครูบาดวงดี สุภัทโท เกิดเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2449 ที่บ้านท่าจำปี ต.ทุ่งสะโตก อ.สันป่าตอง บิดาชื่อพ่ออูบ มารดาชื่อนางจั๋นติ๊บ ซึ่งมีอาชีพทำไร่ทำนา หลวงปู่ถือกำเนิดในช่วงปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 5 ซึ่งตรงกับสมัยพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ หลวงปู่มีพี่น้องร่วมบิดามารดารวม 8 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 4 คน โดยหลวงปู่เป็นคนที่ 7 ซึ่งทั้งหมดถึงแก่กรรมหมดแล้ว
ในช่วงวัยเด็กติดตามบิดามารดาไปทำบุญกับครูบาศรีวิชัย ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย ซึ่งครูบาศรีวิชัยมีเมตตาให้พ่อแม่พามาบวช โดยทำนายว่าต่อไปบิดามารดาจะได้กราบไหว้ ซึ่งต่อมาได้ไปเป็นลูกศิษย์ครูบาโปธิมา เจ้าอาวาสวัดท่าจำปี จนกระทั่งอายุ 13 ปี จึงบรรพชาที่วัดทุ่งสะโตก ซึ่งเป็นสหธรรมิกกับครูบาศรีวิชัย และสามเณรดวงดีได้ถูกส่งตัวเข้ามาปรนนิบัติและรับการอบรมสั่งสอนจากครูบาศรีวิชัย ขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหารและวัดสวนดอก จ.เชียงใหม่ จนกระทั่งหลวงปู่ดวงดีอุปสมบทเป็นพระได้ 12 พรรษา ครูบาศรีวิชัยจึงมรณภาพลงในปี 2481 โดยหลวงปู่ดวงดียังเจริญรอยตามครูบาศรีวิชัยด้วยการสร้างวัดวาอารามหลายแห่ง ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าจำปี เจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตกเมื่ออายุได้ 42 ปี พรรษา 22 และได้รับการขนานนามว่า ตุ๊เจ้าตนบุญวิเศษแห่งล้านนา มีลูกศิษย์จำนวนมาก
สำหรับสมณศักดิ์ที่ได้รับ พ.ศ.2518 เป็นพระครูชั้นประทวน พ.ศ.2530 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท ราชทินนามที่พระครูสุภัทรสีลคุณ พ.ศ.2540 ได้เลื่อนเป็นชั้นเอกราชทินนามเดิม และ พ.ศ.2550 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่พระมงคลวิสุต ขณะอายุย่าง 102
วันที่ 06 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 13:00:18 น. มติชนออนไลน์
http://spk.onab.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=493:qq-5&catid=43:2008-10-29-14-41-47&Itemid=77