ครูบาวัง ฐิติสาโร

ครูบาวัง ฐิติสาโร ศิษย์ หลวงปู่เสาร์ วัดถ้ำชัยมงคล จ.หนองคาย

“ครูบาวัง ฐิติสาโร” หรือ “พระอาจารย์วัง ฐิติสาโร” แห่งวัดถ้ำชัยมงคล ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.หนองคาย เป็นพระป่านักปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานศิษย์หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ที่มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยเป็นอย่างยิ่ง

อัตโนประวัติ

เกิดในสกุล สลับสี เกิดเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2455 ที่ บ้านหนองคู ต.กระจาย อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร

เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.2475 ที่พัทธสีมา วัดศรีเทพประดิษฐาราม อ.เมือง จ.นครพนม โดยมี หลวงปู่จันทร์ เขมิโย เป็นพระอุปัชฌาย์

หลังอุปสมบท พระอุปัชฌาย์ให้ไปปฏิบัติธรรมอยู่กับพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร และพระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ ต่อมาได้กลายเป็นลูกศิษย์คนสำคัญของหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล และได้ถวายตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
อ่านเพิ่มเติม

ครูบาดวงดี เจ้าอาวาสวัดท่าจำปี

ครูบาดวงดี เจ้าอาวาสวัดท่าจำปี อำเภอสันป่าตอง เกจิอาจารย์อาวุโสสูงสุดในประเทศไทย อายุ 104 ปี มรณภาพ

ครูบาดวงดี เจ้าอาวาสวัดท่าจำปี อำเภอสันป่าตอง เกจิอาจารย์อาวุโสสูงสุดในประเทศไทย อายุ 104 ปี มรณภาพด้วยอาการไตวายเฉียบพลัน โดยจะประกอบพิธีสรงน้ำหลวงอาบศพในวันพรุ่งนี้ ครูบาดวงดี สุภัทโท เจ้าอาวาสวัดท่าจำปี อำเภอสันป่าตอง เกจิอาจารย์อาวุโสสูงสุดในประเทศไทย อายุ 104 ปี มรณภาพด้วยอาการไตวายเฉียบพลัน หลังเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โดยจะประกอบพิธีสรงน้ำหลวงอาบศพวันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 16.00 น. ณ วัดท่าจำปี โดยนายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่จะเป็นประธานในพิธี เป็นข่าวที่สร้างความเสียใจในพุทธศาสนิกชน กับการละสังขารของพระเถระผู้ใหญ่อาวุโสสูงสุดของประเทศระดับพระราชาคณะครูบาดวงดี สุภัทโท หรือท่านเจ้าคุณพระมงคลวิสุต พระเถระมีอายุพรรษาสูงสุดของประเทศไทย อายุย่าง 104 ปี พรรษา 83 ถึงแก่มรณภาพลงด้วยอาการอันสงบ สำหรับประวัติหลวงปู่ครูบาดวงดี สุภัทโท กำเนิดที่บ้านท่าจำปี ต.ทุ่งสะโตก อ.สันป่าตอง บิดาชื่อพ่ออูบ มารดานางจั๋นติ๊บ อาชีพเกษตรกร เกิดเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2449 ปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งตรงกับสมัยเจ้าอินทวิชยานนท์ ครองนครเชียงใหม่ มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 8 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 4 คน ถึงแก่กรรมไปแล้วทั้งหมด เมื่อครั้งเยาว์วัยได้ติดตามบิดามารดาไปทำบุญกับครูบาศรีวิชัย ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย ครูบาศริวิชัยมีเมตตาบอกให้พ่อแม่พาเข้าบวช จึงได้พาไปฝากเป็นศิษย์วัดอยู่กับครูบาโปธิมา เจ้าอาวาสวัดท่าจำปี เคยปรนนิบัติ และรับการอบรมสั่งสอนจากครูบาศริวิชัย ขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร และวัดสวนดอก ในเมืองเชียงใหม่ เจริญรอยตามครูบาศรีวิชัยด้วยการสร้างวัดวาอารามหลายแห่ง รวมทั้งการสร้างวิหารวัดท่าจำปี และดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส และเจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตก สมณศักดิ์ที่ได้รับ พ.ศ. 2518 เป็นพระครูชั้นประทวน พ.ศ. 2530 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท ราชทินนามที่พระครูสุภัทรสีลคุณ พ.ศ. 2540 ได้เลื่อนเป็นชั้นเอกราชทินนามเดิม และ พ.ศ. 2550 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่พระมงคลวิสุต ขณะอายุย่าง 102 ปี

http://m.sanook.com/tablet/news_detail/latest/896783/

ครูบาดวงดี

ครูบาดวงดี

คำบอกเล่าจากครูบาดวงดี ศิษย์ครูบาศรีวิชัยหรืออีกนามหนึ่งว่านักบุญแห่งล้านนา เล่าให้ฟังถึงเมื่อครั้งได้เห็นการก่อสร้างถนนขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ ด้วยภาษาคำเมืองแท้ๆดั่งเดิมที่ฟังค่อนข้างยาก และด้วยน้ำเสียงทีแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่ก็พอจับใจความได้บ้าง
ท่านเล่าว่าเมื่อครั้งยังอยู่กับครูบาศรีวิชัย ประชาชนทั้งไกลและใกล้ต่างศรัทธาครูบาฯมาก เมื่อทราบข่าวว่าท่านจะมาเป็นประธานสร้างถนนขึ้นพระธาตุดอยสุเทพในปี พ.ศ. 2477 ต่างหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย ใครมีเงินก็บริจาคเงิน ใครมีอุปกรณ์สร้างถนนหนทาง เช่นผลั้ว บุ้งกี๋ จอบเสียม หรือสิ่งของอื่นๆ ก็บริจาคกันมามากมาย
ครูบาศรีวิชัย ท่านต้องออกรับแขกทุกระดับกันตลอดทั้งวัน ในตอนเย็นหลังเลิกงานจะมีคนงานชาวกระเหรี่ยง(เผ่ายาง) และชาวบ้านนำเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ในการก่อสร้างมาเก็บไว้ในห้องเก็บขนาดใหญ่ ที่มีข้าวของกองเต็มไปหมด บรรยากาศช่วงเย็นของแต่ละวันจะคลาคล่ำไปด้วยคนงานนับร้อยนับพันคน ที่ทุกคนต่างมาทำงานด้วยแรงศรัทธาล้วนๆ ต้องการเพียงเพื่อมาร่วมทำบุญกับครูบาฯที่ตนเองนับถือ หากใครว่างจากภารกิจก็จะชักชวนกันมา
การก่อสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพที่ดูค่อนข้างลำบากก็ได้เสร็จสิ้นในระยะเวลาเพียงแค่ 5 เดือนเท่านั้นเอง (พย. 2477 – เมย. 2478) ได้ระยะทางทั้งสิ้น12 กิโลเมตร เริ่มจากเชิงดอยหรือบริเวณน้ำตกห้วยแก้วจนถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพ โดยมีชาวบ้านมาร่วมงานก่อสร้างทั้งสิ้นประมาณ 5,000 คน
ที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ ในช่วงเวลาที่กำลังมีการสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ จะคึกคักไปด้วยผู้คนที่หลั่งไหลกันมาจากที่ต่างๆ เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งการเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ที่สะดวกที่สุดในขณะนั้นต้องมาทางรถไฟแต่เพียงเส้นทางเดียวเท่านั้น อ่านเพิ่มเติม

ครูบาดวงดี ยติโกอริยสงฆ์ล้านนาที่มีอายุพรรษามากที่สุด

ครูบาดวงดี ยติโกอริยสงฆ์ล้านนาที่มีอายุพรรษามากที่สุด

“หากไม่นับครูบาบุญปั๋น วัดร้องขุ้มแล้ว ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อนนับได้ว่า มีจิตที่เย็นที่สุดในเชียงใหม่ล้านนาเรายุคนี้”

ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นคำพูดของครูบาเทือง นาถสีโล เจ้าอาวาสวัดเด่นสะหรีศรีเมืองแคน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ที่มีความศรัทธาต่อหลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก อันเป็นที่สุดของอริยสงฆ์ในแถบล้านนา ที่มีอายุพรรษามากที่สุด ถึงพร้อมด้วยจิตที่เป็นวิสุทธิจิต
“ดวงดี สมด้วง” เป็นชื่อและสกุลเดิมของหลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก เป็นบุตรของพ่อด้วง แม่คำป้อ นามสกุล สมด้วง เกิดที่บ้านฟ่อน หมู่ ๒ ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เกิดเมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๕๗ มีพี่น้องร่วมท้องกันมามี ๔ คน คือ ๑.พ่อหนานเขียว ๒.แม่สา ๓.นางแฮ ๔.หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก พอมีอายุได้ ๑๒ ปี พ่อด้วง แม่คำป้อ ได้พาเอาเด็กชายดวงดีมาฝากเป็นลูกศิษย์ครูบาอินตา สุทธิโก ได้เข้ามาศึกษาเล่าเรียนกับท่านครูบาอินตาได้หนึ่งปี พออายุได้ ๑๓ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรได้ชื่อว่าสามเณรดวงดี สมด้วง โดยมีพระอธิการคำภีระ เป็นพระอุปัชฌาย์บวชให้ ณ ที่วัดวุฑฒิราษฎร์ (บ้านฟ่อน) เมื่อวันที่ ๑๙ เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๔๗๑
เมื่อบวชเป็นสามเณรแล้วก็ไม่นิ่งดูดาย และได้ศึกษาพระธรรมวินัย ทั้งปริยัติธรรม จนสามารถสอบนักธรรมชั้นโทได้ อยู่ต่อมาพออายุได้ ๒๐ ปี ถึงวาระที่จะอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในพระพุทธศาสนาแล้ว แต่แล้วสามเณรดวงดีได้เกิดอาพาธขึ้นมาเป็นเวลา ๕ ปี พอหายจากอาการอาพาธแล้ว อายุได้ ๒๕ ปี รู้สึกว่าสามเณรดวงดีสบายกายสบายใจแล้ว พ่อด้วง แม่คำป้อ และท่านเจ้าอาวาสก็ได้ปรึกษาหารือกันว่า สมควรแก่เวลา ที่จะอุปสมบทสามเณรดวงดี เป็นพระภิกษุได้แล้วจึงได้อุปสมบทให้เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๔ โดยมีเจ้าอธิการอินถา อริโย วัดท้าวบุญเรืองเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการโอ๊ด อภิชโย วัดตองกายเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการอินตา สุทธิโก วัดวุฑฒิราษฎร์ (บ้านฟ่อน) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ยติโก อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดโพธิ (หนองควาย) อ่านเพิ่มเติม

ศิษยานุศิษย์สุดอาลัย”หลวงปู่ครูบาดวงดี” เกจิดังแห่งล้านนา 5แผ่นดินสิ้นแล้ว

ศิษยานุศิษย์สุดอาลัย”หลวงปู่ครูบาดวงดี” เกจิดังแห่งล้านนา 5แผ่นดินสิ้นแล้ว

เมื่อเวลา 06.37 น.วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ครูบาดวงดี สุภัทโท หรือท่านเจ้าคุณพระมงคลวิสุต พระเถระผู้ใหญ่อายุ 103 ปี ซึ่งมีพรรษา 83 สูงที่สุดของประเทศไทย เจ้าอาวาสวัดท่าจำปี อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ได้มรณภาพลงอย่างสงบที่ห้องไอซียู ชั้น 4 อาคารศรีพัฒน์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หลังเข้ารับการรักษาตัวกับ น.พ.ชัยวัฒน์ บำรุงกิจ ผู้ช่วยคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคไตและความดันโลหิต โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่มาอย่างต่อเนื่อง โดยอาการอาพาธของหลวงปู่ดวงดีเริ่มทรุดลงตั้งแต่บ่ายวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ซึ่งทีมแพทย์ได้พยายามฟอกไตแต่ร่างกายไม่ยอมตอบสนองและมรณภาพลงด้วยอาการไตวายเฉียบพลันช่วงเช้ามืดวันนี้

พระปลัดธีระพงษ์ ธัมมธโร รองเจ้าอาวาสวัดท่าจำปี ซึ่งเป็นผู้ดูแลและปรนนิบัติหลวงปู่ เปิดเผยว่า นับจากคณะศิษย์และผู้มีจิตศรัทธาได้นิมนต์หลวงปู่เดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กรุงเทพฯ เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 15 กันยายน 2552 จนอาการดีขึ้นเป็นลำดับและหลวงปู่ได้เดินทางกลับมาพำนักที่วัดท่าจำปีเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมานั้นโดยงดเว้นกิจนิมนต์ทุกอย่างเพื่อพักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่ในวันที่ 19 มกราคม 2553 หลวงปู่เริ่มมีอาการความดันโลหิตต่ำเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสันป่าตองแต่อาการไม่ดีขึ้น ประกอบกับหลวงปู่อาพาธด้วยโรคปอดติดเชื้อ มีแผลในลำไส้ และโรคแทรกซ้อนอื่นๆ จึงย้ายเข้ามารักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จนถึงแก่มรณภาพในที่สุด
อ่านเพิ่มเติม

หลวงปู่ครูบาดวงดี อายุ 104 ปี วัดท่าจำปี มรณภาพแล้ว

หลวงปู่ครูบาดวงดี อายุ 104 ปี วัดท่าจำปี มรณภาพแล้ว

หลังจากที่ วันที่ 16 กันยายนปีที่ผ่านมาหลวงปู่ครูบาดวงดี เกจิอาจารย์ชื่อดังเมืองล้านนา อายุ 103 ปี เกิดอาพาธหนัก หลายโรคแทรกซ้อนอาการทรุด ศิษย์หามส่งโรงพยาบาลเชียงใหม่ราม และเช่าเหมา
ลำเครื่องบิน นำหลวงปู่ส่งต่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลดังในกทม.แล้วเมื่อเวลา01.00น.วันที่ 16 ก.ย.2552 หลังจากที่ วันที่ 16 กันยายนปีที่ผ่านมาหลวงปู่ครูบาดวงดี เกจิอาจารย์ชื่อดังเมืองล้านนา อายุ 103 ปี เกิดอาพาธหนัก หลายโรคแทรกซ้อนอาการทรุด ศิษย์หามส่งโรงพยาบาลเชียงใหม่ราม และเช่าเหมา ลำเครื่องบินนำหลวงปู่ส่งต่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลดังในกทม.แล้วเมื่อเวลา01.00น. วันที่ 16 ก.ย.2552 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าหลวงปู่ดวงดี สุภัทโท หรือพระมงคลวิสุทธิ์ อายุ 103 ปี 10 เดือน พรรษา 85 พรรษา เจ้าอาวาสวัดท่าจำปี ต.ทุ่งสะโตก อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ พระเกจิชื่อดังที่มีอายุยืนที่สุดของแผ่นดินล้านนา มีลูกศิษย์อยู่ทั่วประเทศ ได้เกิดอาการอาพาธหนัก ด้วยอาการปอดติดเชื้อ ความดันไม่ปกติมีไข้สูง โดยหลวงปู่เข้านอนรักษาตัวอยู่ห้องไอซียูของ โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม มาตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.2552 แพทย์ได้ทำการรักษาเต็มความสามารถ แต่ทางญาติเห็นว่าหลวงปู่ดวงดี เคยรักษาอาการของโรคดังกล่าว ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร กรุงเทพ ฯและทางหลวงปู่ดวงดี ก็มีความประสงค์จะเข้ารับการรักษา ทางลูกศิษย์จึงได้ทำการเช่าเครื่องบินเหมาลำ นำหลวงปู่ดวงดี เดินทางไปรักษาที่กรุงเทพ โดยเครื่องจะออกจากท่าอากาศยานจังหวัดเชียงใหม่ เวลาประมาณ 01.00 น.นายสุรพงษ์ บุญอ้าย ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่ดวงดี ได้เปิดว่าเมื่อประมาณวันที่ 7-8 ก.ย.2552 หลวงป่ นอนอาพาธอยู่ มีอาการซึม จึงได้ปรึกษาศรัทธาญาติโยมนำท่านส่งโรงพยาบาลเชียงใหม่ราม ทางแพทย์ได้นำเข้า ห้องไอซียู นอนรักษาตัวอาการดีขึ้นมาก จนกระทั่งเมื่อเย็นวันที่ 14 ก.ย.2552 อาการได้ทรุดลง ทางลูกศิษย์ได้ปรึกษา จนมีความเห็นว่าควรจะนำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ที่กรุงเทพฯที่หลวงปู่เคยนอนรักษาตัวเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา จึงได้ทำการเหมาลำเครื่องบิน นำหลวงปู่ดวงดี เดินทางไปรักษาตัวในวันดังกล่าว

และเมื่อเวลา 6.37 นาฬิกา วัน เสาร์ ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 ณ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ หลวงปู่ครูบาดวงดี ได้มรณภาพแล้ว

ส่วนกำหนดการรดน้ำสรีระหลวงปู่ จะรดนำศพวันที่ 7 ก.พ.เวลาบ่ายสอง ที่วัดท่าจำปี
อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่

สำนักข่าวจากหลายเว็บไซต์ได้ทำการไว้อาลัยจากการละสังขารของหลวงปู่ ส่วนกำหนดการต่างๆนั้น
ทางทีมงานเว็บไซต์ลานนาทอล์คขอแสดงความเสียใจและไว้อาลัยกับหลวงปู่ครูบาดวงดี ส่วนกำหนดการจะนำมาแจ้งให้ทราบในภายหลังในเว็บไซต์นี้

แหล่งข่าว : www.mysanpatong.com

http://www.lannatalkkhongdee.com/newsDetail.php?id=N080151

พระครูสุภัทรสีลคุณ (หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภทโท)

พระครูสุภัทรสีลคุณ (หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภทโท)วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่

หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภทโท ถือกำเนิดที่บ้านท่าจำปี ตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นคนพื้นเพบ้านท่าจำปีมาแต่กำเนิด บิดามารดา เป็นชาวไร่ชาวนา โยมบิดาชื่อ พ่ออูบ โยมมารดาชื่อ แม่จั๋นติ๊บ (สมัยนั้นยังไม่มีการใช้นามสกุล) หลวงปู่ถือกำเนิดในแผ่นดินรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ตรงกับสมัยพ่อเจ้าอินทวิชยานนท์ (เจ้ามหาชีวิต) เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26 เดือนเมษายน พ.ศ. 2449 หลวงปู่มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 8 คน เป็นชาย 4 คน เป็นหญิง 4 คน หลวงปู่เป็นลำดับที่ 7 และมีน้องสุดท้องชื่อแม่นิน

เมื่อหลวงปู่อายุได้ 11 ปี ได้ติดตามพ่อแม่ไปทำบุญตักบาตรถวายภัตตาหารแด่ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย ซึ่งขณะนั้นท่านครูบาถูกทางการจังหวัดลำพูน นำตัวมากักขังบริเวณที่วัดพระธาตุเจ้าหริภุญชัย (วัดหลวงลำพูน) ในข้อหาเป็นพระอุปัชฌาย์เถื่อนไม่มีหนังสืออนุญาตบวชพระ เมื่อท่านครูบาเจ้าฯได้เห็นเด็กชายดวงดี ท่านก็มีเมตตาอย่างสูงเรียกเข้าไปหาพร้อมกับบอกพ่อแม่ว่า “กลับไปให้เอาไปเข้าวัดเข้าวา ต่อไปภายหน้าจะได้พึ่งพาไหว้สามัน” นับเป็นพรอันประเสริฐ ยิ่งในการที่ท่านครูบาเจ้าฯได้พยากรณ์พร้อมกับประสาทพรให้หลวงปู่ตั้งแต่ยังเด็ก
อ่านเพิ่มเติม

‘พระอุปคุต’ วัตถุมงคลรุ่นสุดท้าย ‘ครูบาดวงดี’

‘พระอุปคุต’ วัตถุมงคลรุ่นสุดท้าย ‘ครูบาดวงดี’ วัดท่าจำปี เชียงใหม่

นับเป็นความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ อีกครั้งหนึ่งของวงการพระสงฆ์ไทย ที่พระเถราจารย์ผู้มีความอาวุโสสูงสุดท่านหนึ่งของเมืองไทย ซึ่งเป็นศิษย์สาย ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ได้มรณภาพเมื่อช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ท่านคือ พระมงคลวิสุต หรือ หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภัทโท เจ้าอาวาสวัดท่าจำปี อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ สิริรวมอายุ ๑๐๔ ปี พรรษา ๘๓ ถือได้ว่าเป็นพระเถระผู้มีอายุยืนยาวที่สุดของแผ่นดินล้านนา และมีลูกศิษย์อยู่ทั่วประเทศ โดยหลวงปู่ได้อาพาธด้วยโรคชรา และมีโรคแทรกซ้อน จนมีอาการทรุดลงเรื่อยๆ โดยพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ และมรณภาพในวันดังกล่าว ขณะนี้สรีระของท่านได้ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดท่าจำปี
หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภัทโท เกิดที่บ้านท่าจำปี ต.ทุ่งสะโตก อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๔๔๙ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ตรงกับสมัยพ่อเจ้าอินทวิชยานนท์ (เจ้ามหาชีวิต) เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่

เมื่ออายุได้ ๑๑ ปี ท่านได้ติดตามพ่อแม่ไปทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารแด่ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย ช่วงที่ท่านครูบาเจ้าถูกทางราชการกักขังบริเวณที่วัดพระธาตุหริภุญชัย ในข้อหาเป็นพระอุปัชฌาย์เถื่อน ไม่มีหนังสืออนุญาตการบวชพระ
อ่านเพิ่มเติม

พระมงคลวิสุต (ดวงดี สุภทฺโท)

พระมงคลวิสุต (ดวงดี สุภทฺโท)

หลวงปู่ครูบาดวงดี หรือ พระมงคลวิสุต (24 เมษายน พ.ศ. 2449 – 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553) ฉายา สุภทฺโท พระราชาคณะชั้นสามัญ วิทยฐานะ น.ธ.เอก วัดท่าจำปี ตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ อดีตดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดท่าจำปี อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ (พ.ศ. 2484 – 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553) หลวงปู่ครูบาดวงดีเป็นศิษย์เอกสายครูบาศรีวิชัยรุ่นสุดท้าย
หลวงปู่ครูบาดวงดี เดิมชื่อเด็กชายดวงดี นามสกุล สุทธิเลิศ เกิดวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2449 ปี มะเมีย บิดาชื่อ นายอูบ สุทธิเลิศ มารดาชื่อ นางจันทร์ สุทธิเลิศ ที่ตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่

หลวงปู่ครูบาดวงดี มรณภาพเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เมื่อเวลา 06.40 น. ณ โรงพยาบาล
มหาราชนครเชียงใหม่ สิริอายุรวม 104 ปี พรรษา 83

หน้าที่การคณะสงฆ์และสมณศักดิ์

พ.ศ. 2492 ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2520 ได้รับสถาปนาประทวนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นประทวนเจ้าคณะตำบล
วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2530 ได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่ “พระสุภัทรสีลคุณ” ณ พุทธมณฑล จังหวัด นครปฐม
วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระมงคลวิสุต พระราชาคณะชั้นสามัญ

http://th.wikipedia.org/

เรื่องเล่า…จากประสบการณ์จริง…กุมารทองหลวงปู่ครูบาดวงดี

เรื่องเล่า…จากประสบการณ์จริง…กุมารทองหลวงปู่ครูบาดวงดี

เรื่องนี้ทำให้ผู้เขียนได้สัมผัสและรับรู้ว่า ผีสางเทวดา และภพภูมิต่างๆนั้นมีอยู่จริง ตามหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี ๒๕๓๓ ผู้เขียน ได้เช่ากุมารทอง ขนาดหน้าตัก ๕ นิ้ว ซึ่งหลวงปู่ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
จ.เชียงใหม่ เป็นผู้สร้างและปลุกเสก เช่ามา ๑ คู่ องค์หนึ่งมีลักษณะท่าทางนั่งแบบพนมมือ ส่วนอีกองค์หนึ่งลักษณะท่าทางแบบนางกวักแต่กวักทั้งสองมือ เช่ามาในราคาสมัยนั้น คู่ละ ๖๐๐ บาท โดยไปเช่ามาจาก ศูนย์ที่เป็นตัวแทนให้เช่าที่กรุงเทพฯ แถวๆ ถนนจรัลสนิทวงศ์

เมื่อได้นำเข้ามาที่บ้าน ได้ขึ้นหิ้งบูชาไว้ในห้องนอน ของผู้เขียนเองและได้ถวายน้ำ ถวายพวงมาลัยมิได้ขาด ส่วนเรื่องอาหารและขนม
นมเนยนั้น หลวงปู่…บอกว่าไม่ต้องถวายก็ได้เพราะว่าอิ่มทิพย์อยู่แล้ว หลวงปู่…บอกว่าได้ปลุกเสกเรียกจิตเรียกนามกุมารที่เป็นเทพหรือเทวดาเด็ก ชั้นจตุมหาราชิกาและยังกล่าวอีกว่าเมื่อเวลาเรากินอาหารหรือขนมอะไรก็ให้เรียกน้องกุมารทองมากินด้วยกันกับเรา ก็สามารถทำได้
อ่านเพิ่มเติม

สิ้นเกจิดังล้านนา ‘ครูบาดวงดี’ รวมอายุขัย104ปี

สิ้นเกจิดังล้านนา ‘ครูบาดวงดี’ รวมอายุขัย104ปี

สิ้นเกจิชื่อดังล้านนา “ครูบาดวงดี สุภัทโท” วัดท่าจำปี เชียงใหม่ รวมอายุ 104 ปี พรรษา 83 หลังอาพาธด้วยโรคชรา มีโรคแทรกซ้อน ช่วงสายคณะศิษยานุศิษย์จะได้หารือเตรียมเคลื่อนศพไปบำเพ็ญกุศลต่อ…

เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 6 ก.พ. ที่พระมงคลวิสุต (หลวงปู่ครูบาดวงดี) พระครูสุภัทรสีลคุณ ฉายา สุภัท โท อายุ 104 ปี พรรษา 83 เจ้าอาวาสวัดท่าจำปี อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ พระเกจิชื่อดังที่มีอายุยืนที่สุดของแผ่นดินล้านนา มีลูกศิษย์อยู่ทั่วประเทศ ซึ่งได้อาพาธด้วยโรคชรา มีโรคแทรกซ้อน อาการทรุด พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ ตึกศรีพัฒน์ ชั้น 4 ห้อง 1 และได้มรณภาพลงแล้วที่ห้องไอซียู ชั้น 4 ตึกศรีพัฒน์

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายสมคิด สมทอง ลูกศิษย์ทราบว่า หลวงปู่ได้อาพาธ ทางลูกศิษย์เคยส่งไปรักษาที่ ร.พ.บำรุงราษฎร์ กรุงเทพฯ จนกระทั้งทาง ร.พ.อนุญาตให้นำหลวงปู่กลับมาพักฟื้นที่วัดท่าจำปี ได้ประาณ 2 เดือน ก่อนหน้าประมาณ 1 อาทิตย์ อาการหลวงปู่ไม่ดีขึ้น เนื่องจากแพทย์ตรวจภายหลังพบว่ามีเลือกออกในกระเพาะอาหาร ทางลูกศิษย์จึงพามารักษาที่ ร.พ.มหาราชนคร เชียงใหม่ แต่ท่านได้ละสังขารเมื่อตอนเช้ามืดของวันนี้ ซึ่งในช่วงสายทางคณะศิษยานุศิษย์ จะได้หารือเพื่อเตรียมเคลื่อนศพหลวงปู่ นำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดท่าจำปีต่อไป อ่านเพิ่มเติม

ประวัติวัดท่าจำปี (ครูบาดวงดี)

ประวัติวัดท่าจำปี

วัดท่าจำปี เป็นวัดเก่าแก่หนึ่งในล้านนา สร้างเมื่อใด โดยผู้ใดไม่มีหลักฐานปรากฏชัดเจน แต่เป็นวัดที่ตั้งอยู่ที่บ้านท่าจำปีมาเป็นเวลานานมาก ก่อนที่หลวงปู่ครูบาเจ้าดวงดีจะถือกำเนิดเป็นเด็กชายในหมู่บ้านแห่งเดียวกันนี้
วัดท่าจำปี นับเป็นวัดใหญ่เป็นที่พึ่งของชาวบ้านท่าจำปีมาโดยตลอด แม้ในบางห้วงเวลาวัดท่าจำปีจะร้างพระสงฆ์อยู่เป็นประจำ แต่ก็มีพระเถระผู้ใหญ่ผลัดเปลี่ยนมาจำพรรษา ปฏิบัติธรรม และช่วยทำนุบำรุงดูแลปฏิสังขรณ์สิ่งก่อสร้างในวัดเสมอมา
วัดท่าจำปี ได้รับการประกาศตั้งเป็นวัดจากทางราชการ เมื่อปีพ.ศ.๒๔๑๙ หรือเมื่อ ๑๓o ปีมาแล้ว สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา(ขึ้นทะเบียนเป็นวัด) เมื่อหลวงปู่ครูบาเจ้าดวงดี ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้น ร่วมกับผู้มีจิตศรัทธา สร้างพระอุโบสถของวัดเสร็จในวันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๒๖

วัดท่าจำปีตั้งอยู่ ณ เลขที่ ๒๔ บ้านท่าจำปี(ต้นหัด) หมู่ที่๘ ตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ กำหนดเขตกว้าง ๒oเมตร ยาว๔oเมตร ปัจจุบันประเภทวัดเป็นพัทธสีมา มีโฉนดที่ดินสามแปลง รวมเนื่อที่ ๙ ไร่ ๒ งาน ๓o ตารางวา มีอาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อ่านเพิ่มเติม

ครูบาดวงดี สุภัทโท วัดท่าจำปี มรณะภาพแล้ว

ครูบาดวงดี สุภัทโท วัดท่าจำปี มรณะภาพแล้ว

ครูบาดวงดี สุภัทโท วัดท่าจำปี มรณะภาพแล้ว เกจิดังมรณภาพ “ครูบาดวงดี” เจ้าอาวาสวัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่ ละสังขารอย่างสงบ ขณะอายุ 103 ปี ที่โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ หลังอาพาธมานานด้วยโรคชรา เข้า-ออกโรงพยาบาลหลายครั้ง สุดท้ายไตวายเฉียบพลัน เหล่าศิษยานุศิษย์ทั้งพระสงฆ์-ฆราวาสเศร้า เคลื่อนศพกลับวัดตั้งบำเพ็ญกุศล เผยเป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายสาย “ครูบาศรีวิชัย” เกจิดังแห่งล้านนา

หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภัทโท วัดท่าจำปี ละสังขารแล้วอย่างสงบ
เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระมงคลวิสุต หรือหลวงปู่ครูบาดวงดี สุภัทโท เจ้าอาวาสวัดท่าจำปี อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เกจิอาจารย์ชื่อดังและเป็นลูกศิษย์สายสุดท้ายของครูบาเจ้าศรีวิชัย เกจิดังแห่งล้านนา ได้มรณภาพลงแล้ว ขณะอายุ 103 ปี 83 พรรษา ที่ห้องไอซียู ชั้น 4 อาคารศรีพัฒน์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เมื่อเวลา 06.37 น. ท่ามกลางความโศกเศร้าของกลุ่มศิษยานุศิษย์และพระสงฆ์จากวัดต่าง ๆ ที่มาเฝ้ารอฟังอาการด้วยความเป็นห่วงอยู่แน่น รพ. โดยหลังละสังขาร พระปลัดธีรพงศ์ ธัมมธโร ซึ่งเป็นพระเลขาของหลวงปู่ พร้อมพระสงฆ์ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ ได้เข้าเปลี่ยนจีวรให้และทำพิธีสวดทางศาสนา พร้อมนำพานธูปเทียนและพวงดอกมะลิ มาขอขมาศพหลวงปู่ อ่านเพิ่มเติม

ประวัติพอสังเขป พระมงคลวิสุต (หลวงปู่ครูบาดวงดี)

ประวัติพอสังเขป
พระมงคลวิสุต (หลวงปู่ครูบาดวงดี)

๑. ตำแหน่ง
ชื่อ พระครูสุภัทรสีลคุณ ฉายา สุภท ? โท อายุ ๑๐๒ ปี พรรษา ๘๒
วิทยฐานะ น.ธ.เอก
วัด ท่าจำปี ตำบล ทุ่งสะโตก อำเภอ สันป่าตอง จังหวัด เชียงใหม่
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดท่าจำปี อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่

๒. สถานะเดิม
ชื่อ ดวงดี นามสกุล สุทธิเลิศ เกิดวัน ๓ ฯ ๒ ๖ ค่ำ ปี มะเมีย
วันที่ ๒๔ เดือน เมษายน พุทธศักราช ๒๔๔๙
บิดา นายอูบ สุทธิเลิศ มารดา นางจันทร์ สุทธิเลิศ
เลขที่ ๒๔ หมู่ ๘ ตำบล ทุ่งสะโตก อำเภอ สันป่าตอง จังหวัด เชียงใหม่

๓. บรรพชา
วัน ๗ ฯ ๑๕ ๖ ค่ำ ปี ชวด วันที่ ๑๗ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๖
วัด ท่าจำปี ตำบล ทุ่งสะโตก อำเภอ สันป่าตอง จังหวัด เชียงใหม่
พระอุปัชฌาย์ พระโสภา วัด ทุ่งเกี๋ยง ตำบล ทุ่งสะโตก
อำเภอ สันป่าตอง จังหวัด เชียงใหม่
อ่านเพิ่มเติม

คาถาบูชายันต์โภคทรัพย์บารมี ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล

คาถาบูชายันต์โภคทรัพย์บารมี ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่

ก่อนสวดจุดเทียน 2 เล่ม ธูป 5 ดอก
สวดนะโม 3 จบ ตามด้วย
เตชะปัญโญ จะมัสะมัง จะ พุทธคุณณัง ตชะปัญโญ จะมัสะมัง จะ ธัมมิกัง ตชะปัญโญ จะมัสะมัง จะ สังฆะรัง สัพพะโรคา เภยยัง วิยะ เภยเย สัพพะ ภัยยัง วิยะเภยเย สัพพะ ลาภัง ละภันตุเตฯ และพุทธังเมตตา นะชาลีติ ธัมมังเมตตา นะชาลีติ สังฆังเมตตา นะชาลีติ นะโมพุทธายะ มะอะอุ
ใช้ในด้านเมตตามหานิยม ค้าขายทำมาค้าขึ้น เจริญด้วยเข้าของเงินทอง เจริญด้วยหน้าที่การงาน สวด 3 หรือ 5-7-9 จบ

http://veeratep.com/forum.php?mod=viewthread&tid=1393

เหรียญรุ่น ณ เมตตา ครูบาน้อย เตชปัญโญ ศรีดอนมูล

เหรียญรุ่น ณ เมตตา ครูบาน้อย เตชปัญโญ ศรีดอนมูล

“พระครูสิริศีลสังวร” หรือ “ครูบาน้อย เตชปัญโญ” เจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เป็นพระเกจิชื่อดังที่ชาวล้านนายกย่องให้เป็นพระยอดกตัญญูแห่ง ล้านนา

ครู บาน้อยได้เข้านิโรธกรรม โดยศึกษาประ วัติจากครูบาเจ้าศรีวิชัย จนมาศึกษาวิธีปฏิบัติการเข้านิโรธกรรม เพื่ออธิษฐานจิตให้ครูบาผัด พระอาจารย์ให้หายจากอาการอาพาธ ด้วยถือเป็นหนทางสุดท้าย

ต่อมาการ เข้านิโรธกรรมของครูบาน้อยสัมฤทธิผล ครูบาผัด อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล พระเกจิชื่อดังอีกท่านหนึ่งของล้านนาที่อยู่ในอาการอาพาธป่วยหนักได้หายลง

นับ แต่นั้นมาครูบาน้อยได้ถือการเข้า- ออกนิโรธกรรม เพื่ออธิษฐานจิตให้กับครู บาอาจารย์ มารดา จนกระทั่งครูบาน้อยมีวัย วุฒิ 60 ปี

ทั้งนี้ คณะศิษยานุศิษย์และคณะกรรมการวัดศรีดอนมูล รวมทั้งหน่วยงานของรัฐและเอกชน จึงได้ประชุมปรึกษาหารือกันและได้มีมติสร้างเหรียญ ครบรอบ 60 ปี ครูบาน้อย เตชปัญโญ
อ่านเพิ่มเติม

ครูบาน้อย เตชปญฺโญ วัดศรีดอนมูล

ครูบาน้อย เตชปญฺโญ วัดศรีดอนมูล

ครูบาน้อย เตชปญฺโญ วัดศรีดอนมูล ครูบาน้อย เตชปญฺโญ หรือ พระครูสิริศีลสังวร เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดศรีดอนมูล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศ ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าแห่งล้านนาครูบาน้อย บำเพ็ญเพียรตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย ปฏิปทางดงามเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้ได้พบเห็น ปัจจุบัน อายุ 56 พรรษา 36 อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า ประสิทธิ์ กองคำ เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2494 แรม 4 ค่ำ เดือน 3 (เหนือ) ปีขาล ที่บ้านศรีดอนมูล ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายคำและนางต๋าคำ กองคำ มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 4 คน คือ น.ส.สงวน กองคำ ( เสียชีวิตแล้ว )พระครูสิริศีลสังวร ( ครูบาน้อย )นายแก้ว กองคำนายภัทร กองคำ เมื่อแรกเกิด ท่านมีสายรกพันรอบตัว ตามความเชื่อคนโบราณในภาคเหนือ เล่าสืบกันมาว่าจะได้บวชเป็นพระสืบทอดพระพุทธศาสนาในตอนแรกเกิด โยมบิดาและโยมมารดาของครูบาน้อย ได้เล่าว่าสายรกได้พันตัวหมดซึ่งตามความเชื่อของคนโบราณ ในภาคเหนือได้เล่าสืบ ๆ กันมาว่า จะได้บวชเป็นพระสืบทอดพระพุทธศาสนา หลังจากเกิดมาแล้วโยมพ่อและโยมแม่ได้ตั้งชื่อให้ว่า ด.ช. น้อย ( ด.ช.ประสิทธิ์ กองคำ ) ตอนเป็นเด็ก เด็กชายน้อยเป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายเชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่และครูอาจารย์มาตลอด และชอบที่จะติดตามโยมมารดามาวัดในวันพระเสมอ ในเวลาพระเทศน์เด็กชายน้อยจะตั้งใจสำรวม กาย วาจา ใจ ฟังพระเทศน์อย่างตั้งใจ เพราะมีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างมากนั่นเอง เด็กชายประสิทธิ์ กองคำ อายุได้ 7 ขวบก็เกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก โยมมารดาจึงนำตัวเด็กชายน้อยมาฝากเป็นเด็กวัดเพื่อเรียนหนังสือกับครูบาผัด ( ขณะนั้นเป็นพระใบฎีกาผัด ผุสสิตธมโม ) อ่านเพิ่มเติม

ครูบาน้อย เตชปญฺโญ วัดศรีดอนมูล จ.เชียงใหม่

ครูบาน้อย เตชปญฺโญ วัดศรีดอนมูล จ.เชียงใหม่ Featured

พระครูสิริศีลสังวร (ครูบาน้อย เตชปญฺโญ)
เจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล จ.เชียงใหม่

ครูบาน้อย เตชปญฺโญ วัดศรีดอนมูล ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ พระเถระผู้ประพฤติปฏิบัติในจริยะวัตรแห่งสงฆ์ได้อย่าง สมบูรณ์ ประกอบกับความเป็นผู้รู้สำนึกในคุณบุพการี ครูบาอาจารย์ และผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา จนกระทั่งเป็นที่กล่าวขานตั้ง สมญานามให้ว่า “นักบุญยอดกตัญญู”
ครูบาน้อย เดิมชื่อ ประสิทธิ์ กองคำ เกิดเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2494 ณ บ้านศรีดอนมูล ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ปัจจุบันอายุ 59 ย่าง 60 ปี พรรษา
ที่ 37

ด้วยความที่เป็นคนสนใจในพระพุทธศาสนา จึงเข้าพิธีบรรพชาตั้งแต่อายุ 13 ปี เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2507 โดยมีครูบาอิ่นแก้ว วัดกู่เสือ จ.เชียงใหม่ เป้นพระอุปัชฌาย์

หลังจากที่ร่ำเรียนศึกษาตำรายาสมุนไร และสอบนักธรรมเอกสำเร็จ เมื่ออายุ ครบ 20 ปีบริบูรณ์จึงเข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2514 ณ วัดพญา ชมพู โดยมีครูบาอุ่นเรือน วัดป่าแคโยง จ.เชียงใหม่ เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้ ฉายา “เตชปญฺโญ” แปลว่าผู้มีปัญญาเป็นเดช ภายใต้ร่มบวรพระพุทธศาสนา มาจนถึงปัจจุบัน
อ่านเพิ่มเติม

ฮือฮา! ตะกรุดครูบาน้อย หมอแทงเข็มไม่เข้า

ฮือฮา! ตะกรุดครูบาน้อย หมอแทงเข็มไม่เข้า

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 1 ก.ย. ผู้สื่อข่าวประจำ จ.เชียงใหม่ รับแจ้งจากนายสุรศักดิ์ สมบัติ อายุ 41 ปี กำนันตำบลชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ว่า พ่อของตนคือ นายทองคำ ใจทน อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 2 ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อดูดน้ำในตัวออกแต่ปรากฏว่า เข็มของหมอที่แทงเข้าตัวพ่อของตนไม่สามารถแทงเข้าไปได้จนเข็มหัก ตนและคนในครอบครัวเชื่อว่าเป็นเพราะความศักดิ์สิทธิ์ของตะกรุดครูบาน้อย แห่งวัดศรีดอนมูล ที่พ่อของตนเช่าบูชาและพกติดตัวตลอดเวลา สร้างความฮือฮาให้กับแพทย์และพยาบาลเป็นอย่างมาก

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดศรีดอนมูล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ พบกับนายทองคำ ใจทน ซึ่งเดินทางมากราบนมัสการครูบาน้อย เตชปัญโญ พระเกจิชื่อดังเจ้าของตะกรุดดังกล่าว เพื่อเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับครูบาน้อยฟัง โดยนายทองคำเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนเกิดอาการท้องอืดโดยไม่ทราบสาเหตุ และเกิดอาการแน่นหน้าอก นายสุรศักดิ์ ลูกชาย ได้นำตนส่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เมื่อมาถึงโรงพยาบาลหมอก็ได้ตรวจที่ท้อง แต่หาสาเหตุของการท้องอืดไม่ได้ จึงเอกซเรย์ที่ท้อง ซึ่งก็ต้องไปฟังผลอีกครั้งในวันที่ 10 ก.ย. หมอจึงเจาะท้องของตนเพื่อดูดน้ำในช่องท้องออกบางส่วน โดยแพทย์ระบุว่าในท้องของตนมีน้ำอยู่จำนวนมาก อ่านเพิ่มเติม

คาถาบูชาตะกรุดกาสะท้อน ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล

คาถาบูชาตะกรุดกาสะท้อน ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล

ตะกรุดกาสะท้อน ครูบาน้อย เตชปัญโญ วัดศรีดอนมูล ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่

คาถาบูชาตะกรุดกาสะท้อนครูบาน้อย เตชปัญโญ วัดศรีดอนมูล ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ พุทธคุณตะกรุดกาสะท้อน แคล้วคลาดอันตรายต่างๆ ใครที่คิดไม่ดีคิดร้ายกับผู้มี่พกพาตะกรุดจะสะท้อนกลับไป ก่อนจะนำตะกรุดติดตัวในภาวนาพระคาถาดังนี้

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

อักขะระยันตังสันตังสันติ
พุทธังอะระทะนานัง
ธัมมังอะระทะนานัง
สังฆังอะระทะนานัง
บิดา มารดา อะระทะนานัง
นะ ชา ลี ติ

http://www.tumsrivichai.com

. . . . . . .