ธรรมะจากการธุดงค์ (ครูบาอริยชาติ)
“ข้ีเหล้ากินเหล้า กินแล้วขาดสติ
มาด่าเรา แล้วก็กลับบ้านไปนอน เราน่ะมีสติอยู่แท้ๆ ถูกข้ีเหล้าด่า แต่กลับนอนไม่หลับ เอาแต่คิดถึงคําด่า แต่ถ้าไม่คิดอะไรแล้ว มันก็ไม่มีอะไรสักอย่าง”
ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๑ ปีแรกในร่มเงาแห่งผ้ากาสาวพัสตร์
หลังจากเพียรขออนุญาตครูบาอาจารย์ที่วัดชัยมงคล (วัดวังมุย) ครั้งแล้ว คร้ังเล่าเพื่อออกจาริกแสวงธรรม ในท่ีสุด ‘สามเณรอริยชาติ’ ก็ได้รับ อนุญาตสมความมุ่งมั่น และไม่นานหลังจากนั้น สามเณรใหม่วัย ๑๗ ปี ก็สะพายย่ามหนึ่งใบ บาตร และกลด ตั้งต้นเดินเท้าออกธุดงค์ในทันท๑ี
___________________________________________________________________________
๑ พระภิกษุทางภาคเหนือซ่ึงได้รับอิทธิพลจากลังกาวงศ์ สามารถออกจาริกไปจากวัดได้โดยไม่ต้องอยู่กับ พระอุปัชฌาย์จนครบ ๕ พรรษา เหมือนข้อจํากัดของพระภิกษุฝ่ายธรรมยุติ
ส. สุทธิพันธ์ 21
และเรื่องราวต่อไปน้ีคือปกิณกะสารธรรมท่ีอดีต ‘สามเณร อริยชาติ’ หรือนามปัจจุบันคือ‘ครูบาอริยชาติ อริจิตฺโต’ได้เก็บเกี่ยวมาเป็น‘ของฝาก’ สําหรับทุกคน
ทุกข์จากความหิว…เรื่องธรรมดาของสังขาร
จากวัดวังมุย ตําบลประตูป่า อําเภอเมือง จังหวัดลําพูน สามเณร อริยชาติเลือกที่จะมุ่งตรงสู่จังหวัด พิษณุโลกเพื่อกราบนมัสการพระพุทธชินราชเป็นแห่งแรก จากน้ันก็ตั้งต้นจากพิษณุโลกเข้าสู่จังหวัดแพร่ และจังหวัดน่านเป็นลําดับต่อไป
หนทางที่สามเณรอริยชาติจาริกไปนั้น เป็นเส้นทางที่แม้แต่ท่าน เองก็ยังไม่รู้ว่าคือท่ีไหน ไม่รู้ว่าหลังคาบ้านเรือนท่ีเห็นอยู่ข้างหน้าลิบๆ นั้นคือหมู่บ้านใด อยู่ในเขตท้องที่ไหน และเมื่อไปถึงแล้วจะพบเจออะไร สิ่งที่สามเณรอริยชาติรู้ในตอนนั้นก็คือ ‘เดินไปตามทางที่เราอยากไป’
และหนึ่งในจุดหมายท่ีว่าน้ีก็คือ ‘อยากจะไหว้พระธาตุ’
อ่านเพิ่มเติม