สิ่งที่มีค่ากว่าเงินทอง : ความคิดกับความจริง
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
เชื้อเป็นอาหารของไฟ ความปรารถนาต้องการเป็นอาหารของความโลภ ไฟจะลุกไหม้อยู่ไม่รู้ดับแม้ไม่หมดเชื้อ
ความโลภก็จะทวีขึ้นไม่หยุดยั้ง แม้ไม่หยุดความปรารถนาต้องการไฟที่กำลังลุกแรงจะอ่อนแรงลงเมื่อเชื้อน้อยลง
และจะดับสนิทเมื่อหมดเชื้อสิ้นเชิง
ฉันใด ความโลภที่แรงจัดก็จะอ่อนลงได้เมื่อความปรารถนาต้องการน้อยลง
และจะสิ้นโลภได้สิ้นเชิงเมื่อความปรารถนาต้องการหมดสิ้นเชิง ฉันนั้น
แต่ไฟนั้นแตกต่างกับความโลภตรงที่ว่า เมื่อไม่เพิ่มเชื้อไฟก็จะเผาไหม้เชื้อเดิมให้น้อยลงจนถึงหมดสิ้นไปได้ดับสนิท
ลงได้ด้วยลำพังตนเอง แต่ความโลภจักไม่เป็นเช่นไฟเพราะความโลภจักไม่เผาไหม้ความปรารถนาต้องการให้น้อยลง
จนถึงหมดสิ้นไปได้ ความโลภจักเผารนความปรารถนาต้องการให้ร้อนแรงยิ่งขึ้นทุกทีเท่านั้น พูดอีกอย่างก็คือ
ความปรารถนาต้องการเมื่อเกิดขึ้นในใจแล้ว จักเป็นอาหารของความโลภที่ถูกความโลภเผาลนเท่าใดก็ไม่มีวันหมดสิ้น
หรือลดน้อยลงได้เลย เหมือนเป็นสิ่งอยู่ยงคงกระพันวิเศษสุด ไม่มีอะไรจะทำให้ความปรารถนาต้องการ
หรืออาหารของความโลภลดน้อยจนถึงหมดสิ้นลงได้ นอกจากอำนาจจิตที่เข้มแข็งพอสมควรเท่านั้น
คือต้องใช้อำนาจจิตที่เข้มแข็งเข้าดับเท่านั้นจึงจะทำให้ความปรารถนาต้องการลดน้อยลงถึงหมดสิ้นไปความโลภ
ของอาหาร ไม่มีสิ่งสำหรับเผาลนให้เร่าร้อนต่อไปก็จักอ่อนแรงลงถึงขาดสิ้นเช่นเดียวกัน
ที่จริงเมื่อความโลภมีอาการให้เผาลนอยู่นั้น จิตใจร้อนเร่าอยู่ด้วยกัน แต่มากน้อยแตกต่างกันตามส่วนของความ
ปรารถนาต้องการที่เกิดอยู่ในใจ มีความปรารถนาต้องการมากความโลภเผาลนแรงมาก จิตใจก็เร่าร้อนมาก
มีความปรารถนาต้องการน้อย ความโลภเผาลนเพียงเล็กน้อย
จิตใจก็เร่าร้อนน้อย เพราะมักไม่ทำสติพิจารณาใจ พิจารณาอารมณ์ เมื่อมีความปรารถนาต้องการ
จึงมักไม่เห็นความจริงว่า เมื่อมีความปรารถนาต้องการเกิดขึ้นนั้น ใจร้อน ไม่เป็นสุขอารมณ์ร้อน ไม่เป็นสุข
กลับไปคิดเสียว่าความปรารถนาต้องการให้ความเย็น ให้ความสุข เพราะให้วัตถุเพิ่มขึ้นเป็นสมบัติของตน
ความคิดเอาเองกับความเห็นจริงเพราะมีสติพิจารณาด้วยปัญญาไม่เหมือนกัน
ความคิดเอาเองแม้บางทีอาจจะถูกต้องได้ แต่ก็เป็นการบังเอิญ
แต่ความเห็นจริงเพราะมีสติพิจารณาด้วยปัญญาจะถูกต้องเสมอ ไม่เป็นการบังเอิญ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนให้ใช้สติ ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นความจริงทุกอย่าง
ไม่ได้ทางสอนให้คิดเอาเองพุทธศาสนิกผู้เคารพในพระพุทธองค์ จึงควรต้องเคารพปฏิบัติตามที่ทรงสอนนี้ด้วย
http://www.watpanonvivek.com/index.php/section-table/2012-07-14-12-23-28/3135-2011-12-10-12-51-10