อุดมคติอนุบาล โดย ท่าน พุทธทาส ภิกขุ

อุดมคติอนุบาล โดย ท่าน พุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – อนุบาล
มันก็จะมีปัญหาอยู่บ้างเหมือนกันคือคำว่า อนุบาล อนุบาล นี้มันหมายถึงอะไรกันแน่ คำว่าอนุ ไม่ได้แปลว่าน้อยอย่างเดียว มันแปลว่ารองลำดับ หรือตามลำดับ หรืออะไรได้อีกด้วย ทีนี้เราเรียกว่าอนุบาลก็หมายถึงเด็กเล็กๆ คงจะความหมายคำว่าน้อย เลยกลายเป็นเด็ก ทีนี้ก็จะอนุบาลกันในรูปไหน ถ้ามันไม่เรื่องทางจิตใจเข้าไปรวมอยู่ด้วยแล้ว การอนุบาล ศึกษาอนุบาลก็ไม่ผิดอะไรกับการเลี้ยงลิงแหละ ซึ่งมันไม่มีความหมาย เพราะฉะนั้นต้องนึกให้ดีว่าหัวใจของมันอยู่ตรงไหน ทำไมจึงต้องมีการศึกษาประเภทนี้ นี้เป็นข้อแรกที่อาตมาอยากจะทำความเข้าใจ เหตุผล ไม่ต้องมีการศึกษาระบบนี้ ข้อนี้มันลึก มันอยู่ลึก ต้องเรียนรู้ถึงเรื่องของมนุษย์ โดยเฉพาะสัญชาตญาณซึ่งเป็นสิ่งที่มีประจำอยู่ในสิ่งที่มีอยู่ในสิ่งมีชีวิตทั้งหลายทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นอะไร ถ้ามันเป็นสิ่งมีชีวิต มันก็มีความรู้สึกได้เองที่เรียกว่าสัญชาติญาณ มันเป็นของที่ธรรมชาติให้ติดตัวมาเป็นสมบัติ ถ้าไม่มีสัญชาตญาณแล้วมันก็มีชีวิตไปไม่ได้ ฉะนั้นมันต้อมีสัญชาติญาณ สำหรับจะให้รู้การดำรงชีวิต นี่สัญชาติญาณก็มีหลายแขนง
อ่านเพิ่มเติม

การเก็บความโกธรใส่ยุ้งฉาง โดย ท่าน พุทธทาส ภิกขุ

การเก็บความโกธรใส่ยุ้งฉาง โดย ท่าน พุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – ฆราวาสผู้บรรลุมรรคผล
กระทั่งเป็นฆราวาสผู้บรรลุมรรคผลในระดับของฆราวาสด้วย และขอให้สนใจที่จะจับเอาใจความว่าลักษณะอย่างนี้ให้ได้ให้มากที่สุด ก็อย่างที่เรื่องสตุลชีวีเขาก็เห็นกันว่าเป็นเรื่องของเปรตของพระในวัดที่อยู่อย่างแคบๆแล้วแสดงให้เห็นว่า แม้อยู่ที่บ้านเป็นครอบครัว เป็นหมู่บ้าน เป็นบ้านเมือง เป็นประเทศมีหลักอันนั้นไปใช้ในโลกนี้ เป็นโลกที่มีสันติภาพได้ง่าย ในความรักพื้นฐานที่ว่าทุกคนนั้นเกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกัน ว่าเราอยุ่ตัวคนเดียวในโลกไม่ได้ซึ่งเป็นตัวอย่างนี้วิญญาณของสังคมโยมอย่างแท้จริงอย่างสูงสุด เพื่อไม่ให้มันสะเพราะที่จะลงทุนน้อยหรืออย่างต่ำโดยยึดหลักได้ผลมากและสูง เดี๋ยวนี้มันอยู่ในลักษณะตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ฆ่าช้างเอางากันทั้งหมดทั้งโลก ทำลายโลก ทำลายวัตถุและจิตใจ เมื่อมีอย่างนี้มีได้ในประเภทฆราวาส ที่ว่าครองเรือน โดยมีความหมายว่ามันเป็นผู้รู้ พูดน้อยและผูกจิตอยู่กับสันติ เป็นการกลมกลืนธรรมชาติ คือให้มันตามธรรมชาติ ให้มันมากสุดเท่าที่จะมากได้ แต่เรารู้สึกว่ามันเป็นกิเลสของคนสมัยนี้มากเกินว่าที่จะทำให้สอดคล้องกับธรรมชาติ ไม่มีใครเชื่อคำพูดชนิดนี้ ผมก็ทราบอย่างที่ว่าอาตมธรรมธีก็พูดว่าอยู่กันอย่างหมู่บ้าน อย่าอยู่กันอย่างนคร หรือมหานครจะมีสันติภาพที่ว่า เราท้อผ้ากันใช้เองทุกคนดีกว่าท้อผ้าขึ้นมาโดยผลิตในเครื่องจักร ไม่มีใครเข้าใจเพราะว่ามันละโมปในเรื่องรวย ในเรื่องสวย ในเรื่องอร่อย ในเรื่องอันมากเกินและปัญหามันก็มีมากพอๆกัน ก็อยู่กันอย่างธรรมชาติเป็นหมู่บ้านเล็กๆกระจัดกระจายทั่วกันหมดอย่าไปอยู่กานอย่างในกรุงเทพฯ มันก็มีสันติภาพมากกว่าเพียงแต่ว่ามันไม่เจริญ
อ่านเพิ่มเติม

การทำชีวิตให้มีธรรมะ โดย ท่าน พุทธทาส ภิกขุ

การทำชีวิตให้มีธรรมะ โดย ท่าน พุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – ชีวิต
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับกับธรรมชาตินี่ก็อย่างกับคนละโลกจริงๆ คนที่อาศัยอยู่ในสถานที่ที่ต่างกันเช่นนี้หรือก็มีความคิดและรู้สึกต่างกันในตามแบบนั้นๆ ก็จะมีความรู้สึกอะไรจากการเป็นอยู่อย่างของตน อย่างง่ายที่อย่างนั้น อย่างที่กำลังอยู่ที่นี่ก็ขอได้สนใจก็ขอให้เก็บเอาไปเป็นทุนศึกษาธรรมะต่อไปข้างหน้า จึงจะพูดถึงปัญหาขัดข้องในการศึกษาธรรมะแก่ท่านทั้งหลายพอสมควร ในตัวธรรมะแท้จริงไม่ใช่ตัวหนังสือและไม่ใช่เรียนได้จากหนังสือ ธรรมะที่แท้จริงต้องเรียนจากความรู้สึก ที่มีอยู่ในใจ ถ้าเรียนจากอย่างนั้นเราก็จะรู้ธรรมะ เรียนจากหนังสือเราก็จะรู้หนังสือ เรียนด้วยบันทึกที่เขาบันทึกอะไรกันไว้เป็นเครื่องช่วยจำอย่างนี้เสียมากกว่า สิ่งที่ได้ขาดไปมันไม่ใช่มีค่ามีความหมาย สิ่งที่เราจะต้องทำความรู้สึกโดยตรงขึ้นมา เพื่อเป็นบทเรียนสรุปการศึกษา มันก็ใช่คำพูดคำหนึ่งที่อยากจะให้สนใจและจำเอาไว้ คือโดยใจความที่ว่าสิ่งที่ได้ผ่านโดยความรู้สึกแล้ว มันเป็นเรื่องฝ่ายจริงฝ่ายวิญาณอยู่ ไม่ใช่วัตถุแต่อันที่จริงแต่โดยเหตุจิตและวิญญาณเกี่ยวข้องกับวัตถุอยู่บ้างก็ธรรมดาเพราะมันต้องเกี่ยวข้องอยู่บ้างแต่ความมุ่งหมายอันแท้จริงคือมุ่งฝ่ายวิญญาณคือความรู้แจ้ง คือทุกอย่างที่ผ่านไปในชีวิตย่อมผ่านไปอย่างที่เป็นไปทั้งนั้นเลย ทุกเรื่องเลยและเราก็มี่สติปัญญาเจริญเติบโตมาก็ด้วยสิ่งนี้แหละ ด้วยสิ่งนี้มันขยายตัวออกไป สติปัญญามันก็ขยายตัวออกไป
อ่านเพิ่มเติม

การมีธรรมะในการครองชีวิต โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

การมีธรรมะในการครองชีวิต โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – กฎธรรมชาติ
เพื่อเป็นหนทางพร้อมทั้งแสงสว่างสิ่งที่เรียกว่าชีวิตธรรมะๆคำนี้มันแปลยากเพราะว่ามันหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างไม่ยกเว้นอะไรท่านทั้งหลายคงจะประหลาดใจที่ได้ฟังว่าภาษาบาลีคำนี้ว่าธรรมะๆเป็นทุกสิ่งทุกอย่างไม่ยกเว้นอะไรในภาษาไทยเขาไม่แปลกันเขาแปลไม่ได้ภาษาอื่นๆก็พยายามแล้วก็แปลไม่ได้ในที่สุดต้องใช้คำว่าธรรมะๆตามภาษาเดิมอยากจะแปลได้แปลว่าสิ่ง สิ่งไม่มีอะไรที่มีใช่สิ่งธรรมะคือคำสั้นๆมันหมายถึงตัวธรรมชาติ ส่วนตัวของธรรมชาติเองด้วยตัวคนกฎเกณฑ์ของธรรมชาติด้วย หน้าที่ๆตามกฎของธรรมชาตินั้นด้วยแล้วก็ผลที่เกิดมาจากหน้าที่นั้นๆด้วยมันก็เลยไม่ยกเว้นอะไรทั้งพระเป็นเจ้ารวมเรียกคำๆเดียวว่าธรรมะแต่ในความหมายมากมายนั้นเราเอามาเพียงอย่างเดียวหน้าที่ๆถูกต้องตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ ขอย้ำอีกครั้งธรรมชาติกฎของมันหน้าที่ผลของมันจากการปฏิบัติหน้าที่มัน 4 ความหมายเอามาแต่ความหมายเดียวความหมายที่ 3 คือหน้าที่ๆ หน้าที่ที่ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ธรรมชาตินั่นคือสิ่งที่พูดกันในวันนี้สำหรับสิ่งที่มันหมายถึงทุกสิ่งๆแล้วมันแปลกที่ว่าไอ้ธรรมชาติ ธรรมดาธรรมชาติก็เรียกว่าธรรมะที่มันเหนือธรรมชาติคือธรรมะคือธรรมชาติภาษาบาลีธรรมะมันหมายถึงธรรมชาติเหนือธรรมชาติที่เป็นกฎที่ตายตัวที่สำคัญๆเขียนไม่ได้ละเมิดไม่ได้อะไรไม่ได้ธรรมะในความหมายที่ 3 ที่ถูกต้องตามหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติในความหมายที่ 3 คือถูกต้องตามหน้าที่ตามกฎของธรรมชาตินั่นคือเรียกว่าแสงสว่างนำมาใช้เป็นเครื่องส่องหนทางในสิ่งที่เรียกว่าชีวิตๆในทุกความหมาย อ่านเพิ่มเติม

ธรรมะภาคปฏิบัติ โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

ธรรมะภาคปฏิบัติ โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – ลักษณะของการปฏิบัติ
ที่จริงหัวข้อนี้ก็ดีอยู่ก็จะได้พูดเรื่องลักษณะของการปฏิบัติกันเสียทีและก็ควรพูดกันอย่างธรรมดาสามัญด้วยคำสามัญที่เป็นเรื่องของธรรมชาติธรรมะภาคปฏิบัติก็คือธรรมะในส่วนที่เป็นการปฏิบัติธรรมะนั้นในส่วนที่เป็นปริยัติก็มีส่วนที่เป็นปฏิบัติก็มี ปติเวชก็มีคือเรื่องการเรียนก็มี เรื่องการกระทำก็มี เรื่องผลของการกระทำก็มีเดี๋ยวนี้ท่านกำหนดให้พูดเรื่องธรรมะในภาคปฏิบัติก็จะได้พูดกันในเรื่องของการปฏิบัติ วิธีการปฏิบัติเป็นส่วนใหญ่ การปฏิบัติธรรมะก็คือปฏิบัติพรมจันทร์พูด๓ษาวัดวาสักหน่อยก็เรียกว่าการประพฤติพรมจันทร์ปฏิบัติธรรมะนั้นคือการปฏิบัติพรมจันทร์ในความหมายทั่วไป มันก็คือทำหน้าที่ของมนุษย์เพราะว่าธรรมะนั้นตามภาษาบาลีในอินเดียแท้ๆแปลว่าหน้าที่ธรรมะคือหน้าที่ของมนุษย์มนุษย์คือหน้าที่จะทำให้ดีที่สุดจะมีข้อปฏิบัติหรือรายละเอียดก็ว่าเรื่องหนึ่งแต่ในชั้นนี้ขอให้รู้ว่าธรรมะแปลว่าหน้าที่ดังนั้นการปฏิบัติธรรมะคือการทำหน้าที่ของมนุษย์เดี๋ยวนี้ก็ดูการปฏิบัติท่านจะเห็นความสำคัญของการปฏิบัติจะเป็นธรรมะก็ดีหรือจะเป็นอะไรอื่นก็ดีถ้าไม่มีการปฏิบัติก็ไม่มีอะไรอื่นอะไรจะมีความรู้ไปถึงไหนมันก็ไม่มีผลอะไร
อ่านเพิ่มเติม

ประโยชน์การเป็นพุทธบริษัท โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

ประโยชน์การเป็นพุทธบริษัท โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – ปรินิพพาน
ขอให้แต่ละคนหรือแต่ละพวกลองแยกแยะเอาเองกำหนดเอาเองสำหรับตอบปัญหาของตนของตนคงจะพอสำเร็จประโยชน์ได้โดยที่ไม่ต้องพูดหลายครั้งหลายหนในข้อแรกที่สุดนี้ก็อยากจะเตือนกันสักหน่อยก่อนว่าการมาศึกษาหรือฟังธรรมะที่นี่เรามีกันในลักษณะดังนี้คือ อย่างที่นั่งอยู่กลางดินในบรรยากาศชั้นนี้ขอให้ระลึกนึกถึงว่ามันคล้ายกับบรรยากาศในครั้งพุทธกาลในภูมิประเทศที่คล้ายกันกับพระพุทธเจ้าท่านแสดงธรรมคือการอยู่กันอย่างป่าป่าใช้คำอย่างนี้มีใจความสำคัญที่ว่าใกล้ชิดธรรมชาติมีโอกาสสัมผัสธรรมชาติได้เต็มที่ก็มีจิตใจธรรมชาติช่วยปรุงแต่งให้อย่างมีความเหมาะสมที่จะเข้าใจธรรมะเพราะเรื่องของธรรมะก็คือเรื่องของธรรมชาตินี้ขอจะจดจำหัวข้อแรกว่าเรื่องของธรรมะก็คือเรื่องของธรรมชาติในฐานะที่เป็นตัวธรรมชาติเองก็มีในฐานะที่เป็นกฎธรรมชาติก็รู้ธรรมชาติแล้วก็ปฏิบัติให้ตามกฎของธรรมชาติแล้วก็ต้องรับผลตามหลักเกณฑ์ของธรรมชาติมากไปกว่านั้นก็ได้นี่มันกลายเป็นเรื่องของธรรมชาติไปหมดขอให้มีความรู้สึกในข้อนี้ด้วยเราที่คงจะพอใจในการนั่งกลางดินมันง่ายแก่การที่จะระลึกนึกถึงพระพุทธองค์คือสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้มีพระภาคพระองค์นั่นว่าเป็นพระพุทธองค์อย่างนั้นท่านก็ยังเป็นบุคคลที่ประสูติกลางดิน ตรัสรู้ก็มานั่งกลางดิน อยู่กันอย่างพื้นดินกุฏิพื้นดินห้องสอนกลางดิน
อ่านเพิ่มเติม

ศาสนาของคู่กันกับชีวิต โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

ศาสนาของคู่กันกับชีวิต โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – ปัญหาเฉพาะหน้า
แล้วปฏิบัติให้มันถูกต้องตามนั้นนี้เป็นของคู่กันกับชีวิตจริงๆก็จะได้รับประโยชน์จากธรรมะเต็มตามความหมายได้รับสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้รับแต่บุคคลโดยมากไม่ค่อยสนใจและยังไม่มีความรู้ชัดเจนว่าธรรมะนั้นคืออะไรขอให้สนใจเป็นพิเศษในข้อนี้ไม่ว่าจะรู้ว่าธรรมะนั้นมันเป็นอย่างไรคำว่าธรรมะธรรมะแปลว่าหน้าที่ที่ถูกต้องแก่ความรอด หน้าที่ที่คนจะต้องประพฤติกระทำให้ถูกต้องแก่ความรอดของตน สิ่งที่จะแบ่งเป็นความรอดนั้นอาจจะแบ่งได้ 2 ชั้น รอดทางร่างกายคือไม่ตายนี้ก็อย่างหนึ่ง แล้วก็รอดทางจิตคือจิตไม่ถูกกิเลสบีบคันให้มีความทุกข์ก็คือรอดจากความทุกข์นี้ชั้นหนึ่งโดยมากสนใจกันแต่เรื่องตายและไม่สนใจจะรอด ไม่สนใจเรื่องรอดจากความทุกข์คือการบีบคันของกิเลสจึงมีการถูกบีบคันอย่างกิเลสที่มีอยู่ทั่วๆไปหรือตลอดเวลาหาความสุขมิได้ยังนอนหลับยาก ยังเป็นโรคประสาท โรคจิต โรคบ้า แล้วก็ตายไปก็มีฆ่าตัวเองตายก็มีนี้ก็ไม่สนใจในเรื่องความรอดในฝ่ายจิตใจ จิตใจถูกบีบคันอยู่ด้วยกิเลสสักเท่าไรนี้เป็นสิ่งที่ควรจะทราบกันไว้มันถูกบีบคันด้วยกิเลสมากเหลือเกินมากยิ่งกว่ามากจึงจะเปรียบโดยอุปมาก็เหมือนอย่างว่าบุคคลก็ถูกโยงขึ้นไปข้างบนด้วยกิเลสประเภทความยาก ความหวัง ความต้องการ หรือความหวังหวังที่ตนจะได้ชอบใจนี่ข้างบนก็ถูกดึงไปอย่างนี้ ข้างล่างก็ถูกดึงอยู่ด้วยความกลัว ความหวาดระแวงว่าตัวจะไม่ได้สิ่งที่ตัวชอบใจ อ่านเพิ่มเติม

อะไรมันรวมอยู่สิ่งที่เรียกว่า “ตัวกู” โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

อะไรมันรวมอยู่สิ่งที่เรียกว่า “ตัวกู” โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – ลิ้น กาย ใจ
แต่มันก็ยากว่าเรื่องอะไรดีเรื่องธรรมะนั้นมันยุงไม่รู้ว่าเรื่องอะไรเพราะธรรมะมันเต็มไปด้วยหลาย
10 เรื่อง หลาย 100เรื่อง เรื่องอะไรเรื่องธรรมะทั้งนั้นเราต้องการธรรมะที่ใช้ดับทุกข์ได้และเราก็ต้องการรู้ตัวธรรมะที่เป็นตัวความทุกข์ด้วยเหตุปัจจัยตามธรรมชาติที่มันก่อให้เกิดทุกข์แต่เดี๋ยวนี้การรู้ธรรมะของเรายังไม่พอเราเลยดับทุกข์กันไม่ได้คนยังเป็นโรคประสาทมากกว่าแมวคนเกือบทุกคนเป็นโรคประสาทไม่มากก็น้อยแต่จะหาแมวที่เป็นโรคประสาทสักตัวหายากลองไปสังเกตดูคนมีธรรมะทำไมเป็นโรคประสาทกว่าแมว
แมวเราถือว่ามันไม่มีธรรมะ
อ่านเพิ่มเติม

อาณาปาณะสติภาวนาสำหรับนักศึกษา โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

อาณาปาณะสติภาวนาสำหรับนักศึกษา โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – ศีลสมาธิปัญญา

แล้วว่าท่านจะเป็นศีลสมาธิปัญญา ศีลคือการเตรียมกายวาจาหรือส่วนร่างกายไว้ให้พร้อมสำหรับการเกิดแห่งปัญญาอย่างที่เป็นเครื่องตัดกิเลสสมาธิก็เป็นเครื่องเตือนจิตไว้ให้พร้อมที่จะเกิดปัญญาหรือญาณเพื่อเป็นเครื่องตัดกิเลสเราก็ได้รับผลแห่งการไม่มีกิเลสคือพระนิพพานในระดับสูงสุดหรือว่าในระดับต้นๆชั่วขณะที่มันเป็นความสุขอย่างเดียวกันขึ้นชื่อว่าความหมายของนิพพานมันก็ต้องหมายความว่าเย็นหรือดับไฟแห่งความร้อนมันก็ได้ความเย็นทีนี้มาดูกันให้ชัดลงไปว่าสมาธินั้นเป็นอย่างไร

ที่มีศีลก็มีร่างกายเหมาะสมที่จิตจะเป็นสมาธิเท่าที่จะทำได้มันก็จึงทำสมาธิการฝึกสมาธิย่อมได้สิ่งที่สำคัญที่สุดอีกสิ่งหนึ่งเรียกว่าสติเมื่อมีการฝึกสมาธิอยู่ก็มีการฝึกสติไปด้วยตลอดเวลาความสำคัญของสติเหนือที่จะประมาณได้ถ้าว่าไม่มีสติปัญญาก็เป็นหมันจะอาวุธที่คมที่สุดมีสมรรถนะมากแต่ถ้าไม่เอามาใช้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรถ้ามีสติคือการระลึกมันก็ระลึกถึงปัญญานั่นเองมันก็เท่ากับเอาอาวุธอันวิเศษนั่นมาใช้ฆ่าศัตรูได้มันก็ได้รับประโยชน์เดี๋ยวนี้เราโดยมากก็มีปัญญาแต่แล้วก็ไม่มีสติให้ปัญญาเกิดขึ้นเพราะมันมีเหตุการณ์เฉพาะหน้าในแต่ละวันเราก็มีเหตุการณ์เฉพาะหน้าทางตาบ้าง ทางหูบ้าง ทางจมูกบ้าง ทางลิ้นบ้าง ทางผิวหนังบ้าง ทางจิตบ้างและเราก็พ่ายแพ้เหตุการณ์เหล่านั้นในบางกรณีก็ไปหลงรักบ้าง
อ่านเพิ่มเติม

มาฆบูชาเทศนา กัณฑ์ 2 โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

มาฆบูชาเทศนา กัณฑ์ 2 โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – ความสุข 3 ระดับ
เมื่อตอนกลางวันก็ได้พูดถึงเรื่องความหมายของมาฆบูชาว่าเป็นวันพระอรหันต์ พระอรหันต์เป็นผู้สูงสุดมนุษย์ก็ตกความเป็นมนุษย์เป็นมนุษย์ที่เต็มสมบูรณ์ที่สุดที่นี้เราก็ยังไม่เต็มเราจะพยายามจะเดินให้เต็มเราจะเดินตามรอยทำตามรอยของพระอรหันต์ก็ต้องดูว่ามันตั้งต้นกันที่ไหนแล้วก็ไปจบกันที่ไหนนี่ดูว่าอะไรเกิดขึ้นมามันจึงจะจบจะต้องมีอะไรมันเกิดขึ้นเรื่องมันถึงจะจบในที่นี้ของให้กำหนดง่ายๆในที่นี้ละกันว่าเรื่องเกี่ยวกับความสุขมันมีอยู่ 3 ระดับ 3 ชั้นหรือ 3 ระดับเราก็ดูให้เห็นว่ามันเป็นอย่างไรระดับไหนเป็นอย่างไร

ระดับไหนเป็นอย่างไรระดับต้นที่สุดมันก็เป็นเรื่องของคนธรรมดา สามัญ ระดับคนสุดท้ายเป็นเรื่องของพระอรหันต์ความสุขอันดับสุดท้ายความสุขอันดับสุดท้ายก็เป็นเรื่องของพระอรหันต์มันเรื่องเดียวกันขอให้ตั้งใจกำหนดทำเรื่องความสุข 3 ระดับนี้เป็นหกลักเกณฑ์ที่แน่นเฟ้นมั่นคงก็ได้เหมือนกันแล้วมันก็จะง่ายดีหรือจะใช้เป็นหลักทั่วๆไป กระทั่งเด็กๆ กระทั่งผู้ใหญ่ ผู้เฒ่า ชาวบ้าน ชาววัดขอให้มีหลักเกณฑ์อันนี้เข้าใจหลักเกณฑ์อันนี
อ่านเพิ่มเติม

ธรรมจักรคืออะไร และทำไมกัน โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

ธรรมจักรคืออะไร และทำไมกัน โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – ธรรมจักร
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะภะวะติตัง ธรรมมาจะกังภะวะตาอับปะติวัตติยังสมเนนะวาเทเวนะวามาเรนะวาพรมมานาวาเทกะเทวาโลกัสมิงหิติธรรมโมกัจจังโสตะโพติ

ณ บัดนี้อาตมาภาพจะได้วิสัชชะนาพระธรรมเทศนาเป็นเครื่องประดับสติปัญญาเฉลิมฉลองศรัทธาวิริยะของท่านทั้งหลายให้เจริญก้าวหน้าในพระศาสนาของสมเด็จพระบรมศาสดาอันเป็นที่พึ่งของเราทั้งหลายกว่าจะยุติลงด้วยเวลาธรรมเทศนานี้ปรารภเหตุเรื่องอาสาฬหบูชาเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วเรื่องที่จะบรรยายต่อไปนี้ก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอาสาฬหบูชานั่นเองถ้าท่านทั้งหลายมีความรู้ในความหมายของอาสาฬหบูชาและประพฤติให้ถูกต้องตามความหมายนั้นๆก็จะได้รับประโยชน์สูงสุดทางธรรมะในพระพุทธศาสนา
อ่านเพิ่มเติม

ธรรมจักรมีประโยชน์อย่างไร มีความสูงสุดถึงไหน โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

ธรรมจักรมีประโยชน์อย่างไร มีความสูงสุดถึงไหน โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – ปราถกะฐาธรรม
ท่านสาธุชนผู้สนใจในธรรมทั้งหลายอาตมาขอโอกาสแสดงธรรมในรูปแบบที่เรียกว่าปราถะกฐาธรรมคือพูดกันตามปกติธรรมดารไม่ต้องมีพิธีรีตองในการใช้เสียง ในการใช้ท่าทางเป็นตันที่เรียกกันว่าธรรมเทศนามันก็ดีเหมือนกัน

แต่ที่ง่ายๆก็เรียกว่าปราถกะฐาธรรมง่ายกว่า สะดวกกว่า เหนื่อยน้อยกว่าเรื่องที่จะแสดงในวันนี้คือเรื่องขอบคุณผู้ที่นำพระพุทธศาสนามาให้เราตลอดเวลาที่พูดกันเมื่อตอนเย็นเรื่องพระพุทธศาสนาที่เรียกว่าธรรมจักรมีประโยชน์อย่างไร ดับทุกข์ได้อย่างไร แก้ปัญหาได้อย่างไรมีความสูงสุดไปถึงไหนได้พูดกันไปสมบูรณ์แล้วเมื่อตอนเย็นเรามาคิดถึงประโยชน์ที่จะได้รับในการมีธรรมะและมีพระพุทธศาสนาข้อปฏิบัติขับไล่ความทุกข์หรือปัญหาออกไปได้มากมายแล้วก็เราก็มีการเป็นอยู่ที่น่าพอใจเรียกว่าสูงสุดเท่าทีมนุษย์จะมีถ้าหากว่าไม่มีพระพุทธศาสนาเราคงไม่ได้อยู่กันในลักษณะที่กำลังเป็นอยู่อย่างนี้คือไม่มีการนับถือพระพุทธศาสนาก็ไม่มีท่านทั้งหลายมานั่งฟังกันอยู่อย่างนี้ไม่มีพระเจ้าพระสงฆ์มาให้ปฏิบัติอย่างที่เป็นแผงข้างหลังมันจะมีสิ่งเหล่านี้ไม่มีความเป็นอุบาสก อุบาสิกา ไม่มีความเป็นภิกษุสามเณรและก็ไม่มีความรู้ที่จะดับทุกข์อย่างไรจะทำตัวเองให้เยือกเย็นและก็ได้รับประโยชน์
อ่านเพิ่มเติม

ประมวลปรมัตถ์ธรรมเท่าที่คนธรรมะควรทราบ โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

ประมวลปรมัตถ์ธรรมเท่าที่คนธรรมะควรทราบ โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – ธรรมชาติในความหมายภาษาไทย
การที่ชวนมานั่งพูดกันบนนี้ด้วยความประสงค์เป็นพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือได้นั่งตามธรรมชาติ ให้เป็นการง่ายแก่การศึกษาธรรมะและเป็นการง่ายที่จะมีพุทธนุสติคือเป็นการระลึกถึงพระพุทธเจ้ามานั่งการตามธรรมชาติอย่างนี้ผู้ที่รู้เรื่องดีอยู่แล้วย่อมมีความรู้สึกเป็นพุทธนุสติขึ้นมาโดยอัตโนมัติคือนึกถึงข้อที่พระพุทธเจ้าประสูตกลางพื้นดินตรัสรู้ก็กลางพื้นดินสั่งสอนอยู่ตลอดเวลาก็กลางพื้นดินจนกล่าวได้ว่าพระไตรปิฎกมีกำเนิดกลางพื้นดินนั้นในที่สุดพระพุทธเจ้าก็ปรินิพพานกลางพื้นดินขอให้เรามาหาโอกาสนั่งกลางดินเพื่อเกิดพุทธนุสติกันเสียส่วนหนึ่งนอกไปจากการศึกษาทีนี้มาพูดถึงการศึกษาก็ขอให้มองเห็นว่าเรื่องของธรรมะนี้ไม่มีอะไรมากกว่าเรื่องธรรมชาติ

ธรรมชาติในความหมายภาษาไทยเราถ้าเข้าใจธรรมะด้วยถึงมองเห็นเท่ากันทั้งหมดก็พอที่จะกล่าวสรุปให้เป็นเค้าโครงได้ว่าธรรมะนั้นคือ ธรรมชาติใน 4 ความหมายความหมายที่ 1 คือตัวธรรมชาติหรือปรากฏการณ์ธรรมชาติในความหมายที่ 1 กฎของธรรมชาติที่มีอยู่ในธรรมชาติทั้งหมดนั้นเรียกว่าธรรมก็จัดให้เป็น ความหมายที่ 2 เมื่อจัดให้เป็นภาษาบาลีคือธรรมเฉยๆ ธรรมะเรียกในภาษาไทยสั้นๆว่าธรรมนี้หน้าที่ตามกฎของธรรมชาติคือธรรมชาติบังคับให้ทำหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติไม่นั้นจะต้องตายไม่ได้รับประโยชน์นี่หน้าที่ตามกฎของธรรมชาติเรียกว่าธรรมเป็นสิ่งสุดท้ายคือผลที่เกิดจากทำหน้าที่เป็นอย่างไรถูกใจหรือไม่ถูกใจก็สุดแท้แต่เรียกว่าผลได้เหมือนกัน ไอ้ผลสารบัญมีว่าธรรมะหรือธรรมคำเดียว
อ่านเพิ่มเติม

พระธรรมจักรซึ่งไม่มีใครต้านทานได้ โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

พระธรรมจักรซึ่งไม่มีใครต้านทานได้ โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – อาสาฬหบูชา

ในโอกาสนี้ท่านทั้งหลายก็ทราบได้ว่าปรารถอาสาฬหบูชาซึ่งเวียนมาครบรอบแต่ละปีๆวันนี้เราจะประกอบพิธีอาสาฬหบูชาเพื่อให้สำเร็จประโยชน์เต็มหรือมากเท่าที่จะมากได้จึงต้องทำความเข้าใจแก่กันและกันก่อนดังนั้นธรรมเทศนานี้จึงเป็นไปเพื่อประโยชน์แห่งกิจกรรมนั้นขอให้ท่านทั้งหลายตั้งใจฟังให้ดีๆการกระทำก็จะมีประโยชน์จริงหรือคุ้มค่าของเวลาท่านทั้งหลายเป็นอันมากมาจากที่ไกลถ้าไม่ได้อะไรคุ้มกันมันจะเป็นอย่างไรลองคิดดูมันน่าเวทนา น่าสงสารน่าหัวเราะ

ขอให้สำเร็จประโยชน์คือให้ได้อะไรคุ้มกันกับการมา ข้อแรกเราประกอบพิธีเป็นการต้อนรับที่มีอยู่ในวันอาสาฬห์บุญมีเช่นวันนี้คือเป็นวันที่พระพุทธองค์ประกาศพระธรรมจักรที่เป็นไปในโลกซึ่งไม่มีใครต้านทานได้จะเป็นสมณะ เป็นพรมทั่วไปในจักรวาลนี้ไม่ใครต้านทานได้ข้อนี้ก็น่าจะรู้เหมือนกันว่าทำไมพระบาลีจึงว่าไม่มีใครต้านทานได้ก็เพราะว่าเป็นความจริงยิ่งพิสูจน์ยิ่งเห็นจริงยิ่งพิสูจน์ผู้พิสูจน์ก็ยิ่งพ่ายแพ้ต่อความจริงและความเป็นจริงนั้นมันก็มีอยู่ว่ามีสมณะ หรือพราหมณ์ ครูบาอาจารย์ทั้งหลายเป็นอันมากมีอยู่ในประเทศอินเดียในสมัยนั้นซึ่งพร้อมที่คัดค้านต้านทานอยู่เสมอพระพุทธองค์ก็ได้ทรงอุบัติขึ้นมาสอนธรรมะอันใหม่แปลกไปจากเดิม
อ่านเพิ่มเติม

พระพุทธเจ้ามีอยู่ในทุกหนทุกแห่ง โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

พระพุทธเจ้ามีอยู่ในทุกหนทุกแห่ง โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – ปติจะนิโรธ ปติจะสมุปาทะ

ข้อนี้คือเรื่องพระพุทธเจ้ามีอยู่ในทุกหนทุกแห่งจะเอากันว่าทุกขุมขนแต่ละคนๆก็ยังดีข้อนี้จะต้องพูดย้อนมาตั้งแต่ว่าโดยหลักทั่วไปพระพุทธเจ้าตรัสว่าเห็นธรรมไม่ว่าเห็นเราเห็นอนาคตเห็นเนื้อเห็นตัวจับไตรจีวรไว้ไปไหนไปด้วยกันก็ไม่ชื่อว่าเห็นเราบางคนก็เข้าใจไม่ได้จับตัวไว้อย่างนั้นยังไม่เห็นเรายังไม่เห็นตะถาคตข้อนี้ก็เพราะว่ามันเห็นเรามันยังไม่สำเร็จประโยชน์พระพุทธเจ้าเดินไปเดินมาเป็นมาอย่างอินเดียยังไม่สำเร็จประโยชน์ ชาวอินเดียไม่เห็นพระเจ้าเพราะไม่สำเร็จประโยชน์เรียนก็มีเพียงแต่เห็นตัว เห็นร่างกายไม่สำเร็จประโยชน์นี่อ่านหนังสือเหมือนที่ฝรั่งมันรู้จักพระพุทธเจ้าเพียงเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์คนหนึ่งคราวนี้ยิ่งไม่สำเร็จประโยชน์ต่อให้เอากระดูกมากองไว้ก็ไม่สำเร็จประโยชน์เอาพระพุทธรูปมาแขวนคอก็ไม่สำเร็จประโยชน์เห็นเนื้อเห็นร่างกายเดินไปมาแท้ๆประมาณว่าหลาย 10 %ได้เห็นพระพุทธเจ้าแล้วไม่สำเร็จประโยชน์ในอินเดียพร้อมกันเพราะว่ามีคนเป็นอันมากทำตนเป็นข้าศึกต่อพระพุทธเจ้าและอยู่เฉยๆไม่ชอบเห็นร่างกายก็ไม่สำเร็จประโยชน์จะขอกล่าวว่านั่นไม่ใช่พระพุทธเจ้าพระองค์จริงๆพระพุทธเจ้าท่านปฏิเสธเสียไม่ไม่ใช่เห็นเราตอนที่เห็นองค์เดินไปเดินมา เรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจว่าทำไมพระองค์ถึงปฎิเสธเนื้อตัวพระองค์ยังไม่ใช่ตถาคตไม่ใช่องค์พระพุทธเจ้าได้ฟังมาโดยตรงว่าพระพุทธเจ้าด้วยก็ยังไม่สำเร็จประโยชน์
ไอ้คนที่ได้ฟังก็เห็นว่าสำเร็จว่ารู้ตามการเห็นพระพุทธเจ้าจึงมีหลายความหมายเห็นร่างกาย หั้นธรรมในความหมายว่าเห็นธรรมที่ชัดเจนลงไปว่าเห็นปติจะสมุบาทจึงชื่อว่าเห็นธรรมชนิดที่เห็นพระองค์ตอนเย็นก็พูดกันมามากพอแล้วว่าเห็นปติจะสมุบาทตั้งต้นมาใหม่ชนิดที่ว่าเห็นพระพุทธเจ้าเป็นเนื้อเป็นหนังเดินไปเดินมาเป็นลูกใครเกิดที่นั่นที่นี่มีบุตร ภรรยา ตายแล้วเผาแล้วเหลือแต่กระดูกนั่นพระพุทธเจ้าองค์นั้นเป็นอย่างนั้นคล้ายๆว่ามันเป็นเปลือกนอกยังไม่เห็นธรรม ธรรมะคือความจริงของธรรมชาติ
อ่านเพิ่มเติม

รู้จักพระพุทธเจ้าให้มากกว่าก่อนเถิด โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

รู้จักพระพุทธเจ้าให้มากกว่าก่อนเถิด โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – วิสัชชะนา
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโมนัสถะตีปานัตถะสะระนาธรรมะทีปา ธรรมะสะระนาวีหะระถะอนันยะทีปา อนันยะสะระนาติธัมโมสะกะจังโสตะโพติ

บัดนี้อาตมาจะได้วิสัชชะนาในพระธรรมเทศนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อประดับสติปัญญาส่งเสริมศรัทธาความเชื่อและวิริยะความพากเพียรของท่านทั้งหลายซึ่งเป็นพุทธบริษัทให้เจริญงอกงามก้าวหน้าตามทางของพระพุทธศาสนาของสมเด็จพระบรมศาสดาอันเป็นที่พึ่งของเราทั้งหลายกว่าจะยุติลงด้วยความสมควรแก่เวลาธรรมเทศนาในวันนี้ปรารถวิสาขบูชาคือการที่เรามาประชุมกันประกอบพิธีกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นที่ระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในความหมายแห่งการประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพานท่านทั้งหลายก็เคยมากันแล้วหลายครั้งหลายหน มาจากที่ไกล
อ่านเพิ่มเติม

หัวข้อธรรมที่ต้องรู้และควรรู้ โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หัวข้อธรรมที่ต้องรู้และควรรู้ โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แต่จะพิจารณาต้องรู้ถ้าไม่รู้มันเดือดร้อนเสียหายควรจะรู้ก็ให้ได้รู้เรื่องที่จะพูดเป็นเรื่องที่ต้องรู้สำหรับพุทธบริษัทเราโดยเห็นว่าท่านทั้งหลายมาจากที่ไกลเหนื่อยมากหิวมากควรจะได้รับประโยชน์อะไรคุ้มค่ากันถ้าไม่อย่างนั้นก็เรียกใช้เวลาไม่คุ้มค่าใช้เงินไม่คุ้มค่าอาตมาผู้เป็นเจ้าของถิ่นก็ต้องรับผิดชอบด้วยเหมือนกันว่าท่านทั้งหลายมาต้องได้รับประโยชน์คุ้มค่า
เพราะฉะนั้นจึงเลือกเอาที่มีประโยชน์คุ้มค่ามาพูดกันเป็นส่วนตัวในฐานะเป็นเพื่อนพุทธบริษัท จะภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาก็เรียกว่าเป็นเพื่อนพุทธบริษัทจะต้องมีสิ่งที่เข้าใจร่วมกันและประพฤติร่วมกันให้สำเร็จประโยชน์แพระพุทธศาสนาที่จะพูดไม่เรียกว่าเทศไม่เรียกว่าปรากถาเป็นเรื่องที่พูดกันภายในขอให้ท่านทั้งหลายตั้งใจฟังให้ดีๆให้สำเร็จประโยชน์เพราะนานๆจะได้มาพูดกันอย่างนี้เรื่องเทศธรรมเนียมปรากถาตามธรรมเนียมหลายร้อยครั้งพันครั้งแล้วก็ยังจับใจความไม่ได้เพราะว่าการพูดอย่างนั้นต้องพูดอย่างระเบียบประเพณีไม่ใช่พูดปรับทุกข์อย่างวันนี้วันจะพูดกันอย่างปรับทุกข์หมายความว่ารับผิดชอบร่วมกันในพระศาสนาของพระพุทธเจ้าเราจะทำทุกอย่าง
อ่านเพิ่มเติม

หัวใจและความลับของพระธรรมจักร โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หัวใจและความลับของพระธรรมจักร โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – วันวิสาขบูชา
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

ณ บัดนี้อาตมาภาพได้วิสัจชะนาพระธรรมมาเทศนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อประดับสติปัญญาส่งเสริมศรัทธาความเชื่อและวิริยะภาคเพียรของท่านทั้งหลายผู้เป็นพุทธบริษัทให้เจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไปขอให้ทำในใจให้สำเร็จประโยชน์วันนี้เป็นวันอาสาฬหบูชา

ดังที่ท่านทั้งหลายก็ทราบกันดีแล้วดังนั้นธรรมมาเทศนาในวันนี้ก็ ปรารภอาสาฬหบูชาถ้าจะเอาใจความของอาสาฬหบูชามันก็คือพระวัชจะนะอันแสดงถึงธรรมจักรกัปวัถนะสูตรการประกาศพระธรรมที่ได้ตรัสรู้ให้โลกรู้แต่เรามักจะไม่เรียกว่าวันธรรมจักรแต่เราเรียกวันอาสาฬหบูชาก็ยึดมั่นในเรื่องเวลามากกว่าเรื่องตัวจริงข้อนี้ก็ขอให้ใคร่ควรดูมั่งจะได้กระทำให้เป็นเรื่องจริงมากขึ้นไม่เพียงแต่เอาศักดิ์ตามเวลาแต่มันเป็นธรรมเนียมมากขึ้นได้ยินมากันแล้วว่าวันประสูติ ตรัสรู้เรียกว่าวันวิสาขะ วันธรรมจักรเรียกว่าวันอาสาฬหบูชา วันประชุมสงฆ์ที่เป็นพระอรหันต์ในพระพุทธศาสนาเรียกวันมาฆบูชามีอยู่เป็น 3วันท่านก็ทำความรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันไหนเป็นวันอะไรจะต้องทำอย่างไรจึงจะสมกันกับวันนี้เมื่อเทียบกันทั้ง 3 วันจึงจะเข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น
อ่านเพิ่มเติม

หน้าที่กับคุณธรรม โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่กับคุณธรรม โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – สาสะณัง สาสะณะ
ก็ขอแสดงความยินดีด้วยทุกหัวข้อที่จะพูดกันเท่าที่นึกได้ในเวลานี้ก็คือคำว่าหน้าที่กับคุณธรรมหน้าที่ๆกับคุณธรรมอยากจะประณามว่าเกือบทั้งหมดเกือบทุกคนไม่รูจักความหมายของคำว่าหน้าที่ๆอย่างเต็มตามความหมายของคำๆนี้เราควรรู้สึกประทังทุกสิ่งไม่พึงปรารถนาคือว่าลำบากทุกยากไม่อยากจะทำเมื่อตั้งปัญหาถามว่าสิ่งที่เรียกว่าหน้าที่ๆนั้นคืออะไรดูจะตอบไม่และไม่เต็มตามความหมายของคำๆนี้ขอให้ตั้งใจฟังให้ดีว่าไอ้หน้าที่ๆนั้นมันคืออะไร

สรุปความกันง่ายๆก็กล่าวได้ว่าหน้าที่ๆนั้นคือสิ่งสูงสุดกว่าสิ่งใดทั้งหมดทั้งสิ้นทั้งปวงสิ่งที่เรียกว่าหน้าที่ๆนั่นโดยฐานะของคำๆนี้ก็คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านเคารพบางคนอาจได้ยินคำๆนี้มาบ้างไม่เคยฟังบางคนบอกอาจจะยังเปล่าเลยถึงได้ยินคำว่าหน้าที่นั้นคือสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านเคารพหรือว่าท่านจะซื้อแล้วใหม่ๆ ซื้อแล้วใหม่ๆก็มีการฉงนพระทัยขึ้นต่อไปนี้มาเองว่าต่อไปนี้จะเคารพอะไรเมื่อตรัสรู้เป็นสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วต่อไปนี้จะเคารพอะไรในที่สุดท่านก็ตกลงพระทัยด้วยตัวเองว่าต่อไปนี้จะเคารพธรรมมะท่านว่าอย่างนั้นคืออะไรคือหน้าที่ธรรมมะเรื่องหน้าที่ความรู้เรื่องหน้าที่ที่ได้ตรัสรู้นั่นเองผู้นั้นเองสมัยก่อนตอนเคารพหน้าที่การเคารพหน้าที่เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสูงสุดเฉพาะบุคคลบุคคลใดแล้วยังมีที่เคารพสิ่งที่ท่านเคารพที่เรียกว่าหน้าที่นี่ก็ลองดูว่ามันต่ำหรือสูงกันสักเท่าไหร่
อ่านเพิ่มเติม

ทุกอย่างเป็นเช่นนั้นเอง โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

ทุกอย่างเป็นเช่นนั้นเอง โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – วันขึ้นปีใหม่
ให้วันขึ้นปีใหม่มีความหมายขอพระธรรมในใจแยบคายเพื่อสำเร็จประโยชน์ตามนั้นเถิดการขึ้นปีใหม่ก็บอกอยู่แล้วว่าไม่ใช่ปีเก่าเพราะฉะนั้นมันไม่เป็นการซ้ำรอยหรือย่ำเท้าทีเดียวขอให้มันก้าวหน้าไปๆอย่าให้เป็นอันว่าเป็นวงๆซ้ำรอยอยู่ที่นี่ที่เคยกล่าวว่าไอ้เชือกล่ามควายที่เขาขดเป็นวงๆอยู่นั่นเองโยนทิ้งอยู่ที่นั่นเองมันไม่สามารถยืดยาวออกไปไหนได้

เดี๋ยวนี้เราต้องการให้มันยืดยาวออกไปเหมือนกับหลักปักหนทางบอกความยาวของถนนเป็นกิโลเมตรติดต่อกันไปๆมันก็ไปได้เรื่อยๆจนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทางขอให้การขึ้นปีใหม่เราอย่าได้เป็นเหมือนกับเชือกล่ามควายเราจะกลายเป็นควายกันเสียหมดก็เป็นเหมือนว่าหลักกิโลเมตรที่มันไกลออกไปเพิ่มขึ้นเราก็จะเป็นผู้เดินทางที่เป็นความหมายในพุทธศาสนาที่เดินไปตามลำธารที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ปล่อยถึงจุดหมายคือพระนิพพานสำหรับปีนี้มาคิดว่าจะบอกความเก้าหน้ามากไปกว่าปีก่อนแล้วก็รวบลัดตัดสั้นยิ่งขึ้นทุกทีมันเป็นของง่ายสำหรับท่านทั้งหลายความง่ายนี้
อ่านเพิ่มเติม

. . . . . . .