รวมคำสอนของหลวงพ่อวัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ)

รวมคำสอนของหลวงพ่อวัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ)

อิทธิบาท 4
เมื่อบวช ก็ต้องยุติเรื่องราวทางโลก จึงควรที่สนใจศึกษาหาความรู้ทางปริยัติธรรม และฝึกปฏิบัติ ปริยัติธรรม ได้แก่ คำสั่งสอน อันเป็นแนวทางไปสู่การปฏิบัติ?ส่วนปฏิบัติธรรมนั้นเป็นคำสอน ที่บ่งวิธีปฏิบัติโดยตรงซึ่งจะมีผลส่งให้ถึงปฏิเวธธรรม?? คือ? การรู้แจ้งแทงตลอดสภาวะความเป็นจริง ท่านบอกว่า ถ้าบวชแล้วไม่สนใจในพระสัจธรรม?? ของพระพุทธองค์ ก็เสียเวลาเปล่า ถึงฆราวาสก็เช่นกัน เมื่อไม่ได้เป็นผู้ทรงศีล ก็ต้องเอาดีทางโลกให้ได้ ต้องเก่งไปในทางที่ตัวเลือกดำเนินชีวิต ท่านสอนว่า ?“ อ้ายโลกก็เหลว อ้ายธรรมก็แหลกเป็นแบกบอน เหลือแต่ กิน นอน เที่ยว สามอันเท่านั้นเอย” ? เมื่อละตัณหาได้ อุปทานก็ไม่มี ดังจะยกอุทาหรณ์เทียบเคียงให้เห็น เช่น สามีภรรยาที่หย่ากัน เมื่อเขายังไม่หย่ากัน สามีไปทำอะไรเข้า ฝ่ายภรรยาก็เก็บเอามาเป็นทุกข์เป็นร้อนด้วย หรือเมื่อฝ่ายภรรยาไปทำอะไรเข้า?? ฝ่ายสามีก็เก็บเอามาเป็นทุกข์เป็นร้อนด้วย ถ้าเขาหย่าขาดกันแล้ว มิใยที่ฝ่ายใดจะไปก่อกรรมทำเข็ญขึ้น อีกฝ่ายหนึ่ง จะไม่มีทุกข์มีร้อนด้วยเลย ทั้งนี้เพราะอะไร ก็เพราะเขาหมดความยึดถือว่า เขาเป็นสามีภรรยากันแล้ว นี่ฉันใดก็ฉันนั้น จะเห็นได้ชัดในข้อว่า ทุกข์เกิดจากอุปาทานอันเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว ดูดดึงเข้ามา แต่ลำพังขันธ์ 5 ไม่ใช่ตัวทุกข์ ได้ในคำว่า ?“ ปัญจุปาทานักขันทา ทุกขา ”
รวมความก็ว่า ปล่อยอุปาทานไม่ได้ เป็นทุกข์ ปล่อยได้หมดทุกข์ ถอดกายทิพย์ออกจากเสียงมนุษย์ กายมนุษย์ก็ไม่มีเรื่อง จะไม่มีใครเป็นทุกข์ และในที่สุดจะต้องปล่อยอุปาทานได้หมด ทั้งในกายทิพย์ กายรูปพรหม และอรูปพรหม คงแต่ธรรมกายเด่นอยู่ ฯ กล่าวคือ ผู้ปฏิบัติตามธรรมะของพระองค์ จะรู้ว่าธรรมะของพระองค์ดีจริงอย่างไร และเมื่อปฏิบัติตามแล้ว ได้ผลเป็นอย่างไร ดังนี้ ย่อมเกิดจาก การปฏิบัติของตนเอง ด้วยใจของตนเอง ผู้อื่นจึงพลอยรู้ด้วยไม่ได้ มันเป็นรสทางใจ หากใจผู้ปฏิบัติเยือกเย็นเป็นสุขสักปานใด แม้เขาจะมาเล่าให้เราฟัง ใจเรามันก็จะไม่เย็นอย่างเขา ตามคำที่เขาเล่าบอกนั้นได้ จะไม่ผิดอะไรกับคนหนึ่ง ได้กินแกงชนิดหนึ่งมาเล่าให้เราฟังว่า มันอร่อยอย่างนั้นอย่างนี้ ก็จะไม่ทำให้เราเปิปข้าวเปล่า ๆ โดยนึกเอารสแกงที่เขาว่านั้นมาประสมให้ได้รสอร่อยอย่างเขาว่านั้นได้ ?แม้ว่าเวลานี้จะเป็นการล่วงมาช้านานจากที่พระองค์เสด็จดับขันธ์ ปรินิพพานไปแล้ว ก็ไม่มีอะไรเป็นข้อห้ามว่า ผู้ที่ปฏิบัติตามจะไม่ได้รับผล อย่างที่ท่านได้รับ นอกจากคำกล่าวอ้างของคนเกียจคร้าน ข้อนี้ มีคำว่า ….อกาลิโก ในบทพระธรรมคุณนี้เอง เป็นหลักฐานยันอยู่ว่าธรรมของพระองค์ ผู้ใดปฏิบัติตามย่อมทำให้เกิดผลทุกเมื่อ ไม่มีขีดขั้น พระอริยสาวกทั้งหลายนั้น ฐานะเดิมก็เป็นมนุษย์ปุถุชนนี้เอง แม้องคมนตรีสมเด็จพระบรมศาสดาก็เช่นกัน มิใช่ เทวดา อินทร์ พรหม ที่ไหน แต่ที่เลื่อนขั้นสู่ ฐานะเป็นพระอริยะได้ ก็เพราะการปฏิบัติเท่านั้น แนวปฏิบัติอย่างไหนถูก พระองค์สอนไว้ละเอียดหมดแล้ว ปัญหาจึงเหลือแต่ว่าพวกเราจะปฏิบัติกันจริงหรือไม่เท่านั้น ฯ อ่านเพิ่มเติม

พระมงคลเทพมุนี หลวงพ่อวัดปากน้ำ

พระมงคลเทพมุนี หลวงพ่อวัดปากน้ำ

พระมงคลเทพมุนี หลวงพ่อวัดปากน้ำ องค์ปฐมบรมครูแห่งวิชชาธรรมกายในยุคปัจจุบัน เดิมชื่อ สด นามสกุล มีแก้วน้อย ท่านเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๒๗ ตรงกับวันแรม ๖ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปิยมหาราช ณ บ้านสองพี่น้อง ตำบลสองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรคนที่สองของนายเงินและนางสุดใจ มีแก้วน้อย มีพี่น้องร่วมมารดาบิดา ๕ คน

เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
กลางรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้าครั้งนั้นเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต เผื่อน ติสสทัตตมหาเถระ วัดพระเชตุพนฯ พระอาจารย์องค์หนึ่งของท่าน ยังดำรงสมณศักดิ์เป็นท่านเจ้าคุณพระศากยยุตติวงศ์ เจ้าคณะอำเภอภาษีเจริญ เล็งเห็นความเป็นผู้นำของหลวงพ่อ ซึ่งครั้งนั้นเป็นพระฐานานุกรมที่ พระสมุห์สด จนฺทสโร เจ้าประคุณได้มอบหมายท่าน ให้จำต้องยอมรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ ซึ่งเป็นพระอารามหลวงเก่าแก่แต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และในขณะนั้นชำรุดทรุดโทรมมาก เป็นกึ่งวัดร้าง มีพระประจำวัดอยู่เพียงสิบสามรูป อ่านเพิ่มเติม

พระผงของขวัญ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ

พระผงของขวัญ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ

พระปากน้ำ รุ่น 3

พระผงของขวัญวัดปากน้ำ ของท่านเจ้าประคุณพระมงคลเทพมุนี หรือหลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ ธนบุรีนั้น เป็นพระเครื่องที่ขึ้นชื่อลือชาเป็นอย่างยิ่ง และมีผู้นิยมบูชาแสวงหา ตลอดจนต้องการรู้หลักการพิจารณาเบื้องต้นกันมากมาย ดังนั้น จึงเห็นควรว่าน่าจะพูดคุยกันเป็นเบื้องต้นเกี่ยวกับพระยอดนิยมพิมพ์นี้ เพราะอธิบายทางโทรศัพท์ หรือทางอีเมล์ กันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว พระผงของขวัญวัดปากน้ำนี้ หลวงพ่อสดท่านสร้างขึ้นเพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับผู้มีจิตศรัทธาสมทบทุนช่วย กันสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม นับเป็นการบอกบุญรุ่นแรกๆ และมอบพระให้เป็นที่ระลึก เลยเรียกกันว่า “พระของขวัญ” ซึ่งจัดสร้างเป็นพระเนื้อผง ประกอบด้วยวัตถุมงคลต่างๆ มีตัวหลักเป็นผงปูน และเขียนผงเป็นยันต์วิเศษตามตำรับ เช่น ผงมหาราช ผงอิทธิเจ ผงปถมังเป็นต้น มีมวลสารอื่นๆ อาทิดอกมะลิแห้งที่มีผู้นำไปบูชา เส้นเกศาของหลวงพ่อสดเอง ประวัติหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)

พระวัดปากน้ำนี้มีอยู่ด้วยกัน 3 รุ่น ปรากฏว่าพุทธคุณเป็นที่เลื่องลือทั้งด้านเมตตามหานิยมมหาลาภ แคล้วคลาดคงกระพัน จนพูดกันติดปากว่า

“ถ้ามีพระวัดปากน้ำอยู่กับตัวแล้ว ในน้ำไม่ตาย บนบกไม่ตาย กลางอากาศไม่ตาย ลาภผลไม่ขาดมือ และมีค่าเท่ากับสมบัติพันล้าน หากมุ่งหวังสิ่งใดก็ให้อธิษฐานเถิดจักเกิดสัมฤทธิผลทุกประการ”

และเนื่องจากองค์พระเป็นเนื้อผง จึงมีความเปื่อยยุ่ยง่าย ดังนั้น จึงพบว่าบางองค์มีการนำมาลงแล็กเกอร์เพื่อให้เกิดความคงทน อ่านเพิ่มเติม

เปิดโลกพระศรีอริยเมตไตรย >> สืบสายอริยะ >> หลวงพ่อสด

เปิดโลกพระศรีอริยเมตไตรย >> สืบสายอริยะ >> หลวงพ่อสด

หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ (พระมงคลเทพมุนี)
ดอกไม้ที่หอมไม่ต้องเอานำหอมมาพรมก็หอมเองใครจะห้ามไม่ได้ ซากศพไม่ต้องเอาของเหม็นมาละเลงใส่ซากศพก็ต้องแสดงกลิ่นศพให้ปรากฏปิดกันไม่ได้…

คาถาหลวงพ่อสด
สัมมา อะระหัง
**********
ธรรมสัจจะแห่งหลวงพ่อสด
หยุดนั้นแหละเป็นตัวสมถะเป็นตัวสำเร็จ คือสำเร็จหมดทั้งทางโลกและทางธรรม โลกที่จะได้รับความสุขได้ ใจต้องหยุดตามส่วนของโลก ธรรมที่จะได้รับความสุข ใจต้องหยุดตามส่วนของธรรม ดังบาลีว่า “นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ” สุขอื่นนอกจากหยุดจากนิ่งไม่มี หยุดนั้นเองเป็นตัวสำคัญ หยุดคำเดียวเท่านั้นถูกทางสมถะตั้งแต่ต้นจนเป็นพระอรหันต์ เป็นตัวศาสนาแท้ๆ ถูกโอวาทของพระบรมศาสดา ถ้าไม่หยุดจะปฏิบัติศาสนาสัก 30-40 ปีก็ช่าง ที่สุดถึงจะมีอายุเป็นร้อยปีแต่ถ้าทำใจให้หยุดไม่ได้ เป็นไม่ถูกร่องรอยพระศาสนา
อ่านเพิ่มเติม

การเผยเเพร่คำสอนของหลวงปู่สด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ

การเผยเเพร่คำสอนของหลวงปู่สด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ

ประวัติหลวงปู่สด ( Bibliography of Monk Sod Jantasaro)

( อ้างอิง : ประวัติหลวงปู่สด จาก THAI WIKIPEDIA )
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เดิมชื่อ สด มีแก้วน้อย เกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2427 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ บ้านสองพี่น้อง ตำบลสองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรคนที่สองของนายเงินและนางสุดใจ มีแก้วน้อย มีพี่น้องร่วมมารดาบิดา 5 คน เริ่มเรียนหนังสือกับพระภิกษุผู้เป็นน้าชาย ณ วัดสองพี่น้อง แล้วมาอยู่ ณ วัดบางปลา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ในความปกครองของพระอาจารย์ทรัพย์ ปรากฏว่าเป็นผู้สามารถเรียน-อ่านภาษาขอมได้อย่างคล่องแคล่ว เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วได้กลับไปช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพค้าขาย ด้วยความวิริยะอุตสาหะเพื่อสร้างฐานะให้มั่นคง เมื่อท่านอายุได้ 14 ปีโยมบิดาได้ถึงแก่กรรมลงท่านจึงรับภาระดูแลการค้าแทน ท่านฉลาดในการปกครอง ลูกเรือต่างก็รักนับถือท่านและเนื่องจากท่านเป็นคนขยันขันแข็งในการทำงาน อาชีพการค้าจึงเจริญขึ้นโดยลำดับ จนปรากฏในยุคนั้นว่า เป็นผู้มีฐานะดีคนหนึ่ง วันหนึ่งเมื่อท่านนำเรือเปล่ากลับบ้านพร้อมเงินรายได้จากการขายข้าวผ่านลัด คลองเล็กซึ่งชาวบ้านเรียกว่า คลองบางอีแท่น มีโจรผู้ร้ายชุกชุมท่านนึกถึงความตายขึ้นมา และได้อธิษฐานจิตในขณะนั้นว่า “ขอเราอย่าได้ตายเสียก่อนเลย ขอให้ได้บวชเสียก่อน เมื่อบวชแล้วจะไม่ลาสิกขา ขอบวชไปจนตลอดชีวิต”การหาเงินเลี้ยงชีพนั้นลำบาก บิดาของเราก็หามาอย่างนี้ ต่างไม่มีเวลาว่างกันทั้งนั้น ถ้าใครไม่รีบหาให้มั่งมี ก็เป็นคนชั้นต่ำ ไม่มีใครนับหน้าถือตา เข้าหมู่เพื่อนบ้านก็อับอาย ไม่เทียมหน้าเขา บุรพชนต้นสกุลก็ทำมาอย่างนี้เหมือนกัน จนถึงบิดาเราและตัวเราในบัดนี้ ก็คงทำอยู่อย่างนี้ ก็บัดนี้บุรพชนทั้งหลายได้ตายไปหมดแล้ว แม้เราก็จักตายเหมือนกัน เราจะมัวแสวงหาทรัพย์อยู่ทำไม ตายแล้วเอาไปไม่ได้ บวชดีกว่า ท่านบอกว่าเริ่มอธิษฐานมาตั้งแต่อายุ 19 ปี หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านเล่าต่อไปว่า เมื่อตกลงใจบวชไม่สึกแล้ว จิตคิดเป็นห่วงมารดาเกิดขึ้น จึงขะมักเขม้นทำงานสะสมทรัพย์ เพื่อให้มารดาเอาไว้ใช้เลี้ยงชีพไปจนตลอดชีวิต ขณะมีอายุย่างเข้า 22 ปี ท่านได้บรรพชาอุปสมบท ณ วัดสองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี มีฉายาว่า สด จนฺทสโร พระอาจารย์ดี วัดประตูสาร อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวินยานุโยค (เหนี่ยง อินฺทโชโต) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์โหน่ง อินฺทสุวณฺโณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ คู่สวดทั้งสองรูปอยู่วัดเดียวกัน คือ วัดสองพี่น้อง ในการเรียนด้านคันถธุระในพรรรษาแรก ท่านสงสัยอยากรู้คำแปลคำว่า อวิชฺชาปจฺจยา ซึ่งไม่มีใครทราบ ท่านจึงเกิดความดำริที่จะไปเรียนคันถธุระต่อที่กรุงเทพฯ
เมื่ออุปสมบทแล้ว ท่านจึงเริ่มปฏิบัติสมถะ-วิปัสสนากับพระอนุสาวนาจารย์นับแต่วันบวช เมื่อบวชแล้วพอรุ่งขึ้นอีกวัน หลวงพ่อก็เริ่มลงมือปฏิบัติพระกรรมฐานต่อกับพระอาจารย์เนียม วัดน้อย อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ได้จำพรรษาอยู่วัดสองพี่น้อง 1 พรรษาเมื่อออกพรรษาที่วัดสองพี่น้องแล้ว ท่านจึงเดินทางมาจำพรรษา ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เพื่อศึกษาด้านคันถธุระต่อ ในสมัยนั้นนิยมใช้หนังสือขอมที่จารลงในใบลาน อ่านเพิ่มเติม

หล่อรูปเหมือนหลวงปู่วัดปากน้ำ องค์ที่ 7 ด้วยทองคำ

หล่อรูปเหมือนหลวงปู่วัดปากน้ำ องค์ที่ 7 ด้วยทองคำ

“…จะมีสักกี่ชาติ จะมีสักกี่ครั้ง ที่เราจะได้สร้างมหากุศลอันยิ่งใหญ่ ที่บริสุทธิ์ บริบูรณ์ เช่นนี้ติดตัวไป…”

ขอเชิญผู้มีบุญ ศิษยานุศิษย์ และลูกหลานหลวงปู่ทั่วโลก
ร่วมพิธีหล่อรูปเหมือนหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) องค์ที่ 7 ด้วยทองคำ

ในวันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 ณ วัดพระธรรมกาย
(วันคล้ายวันเกิดครบรอบ 129 ปี พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร))

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ โทรศัพท์ 02-831-1000
(ขอเชิญผู้ไปร่วมงานแต่งชุดขาวๆ โดยพร้อมเพรียงกัน : เสื้อขาว กางเกง กระโปรง หรือผ้าถุงขาว)

อ่านเพิ่มเติม

ประวัติโดยสังเขป พระมงคลเทพมุนี (สด)

ประวัติโดยสังเขป พระมงคลเทพมุนี (สด)
หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ครบรอบ 120 ปีเกิด

เจ้าคุณพระมงคลเทพมุนี (สด) ท่านเกิดวันที่ 10 ตุลาคม 2427 ตรงกับวันศุกร์ แรม 6 ค่ำ เดือน 11 ปีวอก ฉศก
จุลศักราช 1246 ณ.บ้านสองพี่น้อง ต.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี บ้านตำบลนี้อยู่ฝั่งใต้ตรงกันข้ามกับวัดสองพี่น้อง เป็นบุตร
นายเงิน นางสุดใจ มีแก้วน้อย สกุลของท่านทำการค้ามีพี่น้องร่วมมารดาบิดา 5 คน 1. นางดา เจริญเรือง 2. เจ้าคุณมงคล
เทพ มุนี (สด) มีแก้วน้อย 3. นายใส มีแก้วน้อย 4. นายผูก มีแก้วน้อย 5. นายสำรวย มีแก้วน้อย อุปสมบทเมื่ออายุย่าง 22 ป
ี เมื่อ เดือนกรกฏาคม 2449 ต้นเดือน 8 ณ. วัดสองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี มีฉายาว่า จนฺทสโร พระอาจารย์ดี
วัดประตูศาล อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เป็นพระอุปัชฌายะ พระครูวิญญานุโยด (เนียง อินทรโชโต) เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระอาจารย์ โหน่งอินทร สุวรรณโน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ คู่สวดอยู่วัดเดียวกันสองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
เมื่ออุปสมบทแล้ว จำพรรษาอยู่ที่วัดสองพี่น้อง 1 พรรษา ปวารณาพรรษาแล้วเดินทางมาจำพรรษา ณ.วัดพระเชตุพน
กรุงเทพฯ เพื่อเล่าเรียน ธรรมวินัยต่อไป สมเด็จพระวันรัต (ติสสทตตเถร) วัดพระเชตุพน ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ ภาษีเจริญ จังหวัดธนบุรี ในยุคนั้นตรงกับ พ.ศ.2459 แต่งตั้งให้หลวงพ่อวัดปากน้ำเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หลวงพ่อวัดปากน้ำได้ พัฒนาวัดปากน้ำภาษีเจริญให้เจริญเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนมาจนถึงทุกวันนี้ หลวงพ่อ
วัดปากน้ำ ได้สมณศักดิ์เป็น พระครูสัมณธรรมสมาทานตั้งแต่ พ.ศ. 2464 นับเป็นเวลา 28 ปี ได้รับพระราชทานสมณ ศักดิ์เป็นพระราชาคณะสามัญที่ พระภาวนาโกสนเถระถือพัดยอดพี้นขาวอันเป็นตำแหน่งวิปัสสนาธุระ พ.ศ.2492
พ.ศ.2494 ได้รับพระราชทานพัดยศเทียบเปรียญ พ.ศ.2498 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้น ราชมีพระราชทินนามว่า พระมงคลเทพมุนี มรณภาพ พ.ศ. 2502 เวลา 15.05 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ อายุ 75 ปี
บวชอยู่ 53 พรรษา ในปี 2547 ครบรอบ 120 ปีเกิด
อ่านเพิ่มเติม

ประวัติวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม

ประวัติวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม

วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ได้รับการประกาศตั้งเป็นวัด เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ.2534

วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี มีประวัติความเป็นมานับตั้งแต่ อาจารย์เสริมชัย พลพัฒนาฤทธิ์ ผู้ชำนาญการวิจัย (Research Specialist) สำนักข่าวสารอเมริกัน (USIS) กรุงเทพฯ (ปัจจุบันคือ หลวงพ่อ พระเทพญาณมงคล) ได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมตามแนวสติปัฏฐาน 4 เพื่อถึงธรรมกายของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นที่รู้จักในหมู่ศิษยานุศิษย์ผู้ปฏิบัติธรรมนี้ว่า “วิชชาธรรมกาย”* ตามระดับภูมิธรรมและบุญบารมีที่ปฏิบัติได้ โดยได้มอบตัวเป็นศิษย์ของ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระภาวนาโกศลเถร (ปัจจุบันคือ พระราชพรหมเถร) รองเจ้าอาวาสและอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้เป็นสัทธิวิหาริกและศิษย์โดยตรง ผู้สืบทอดวิชชาธรรมกายทั้งหมด จากพระเดชพระคุณ หลวงพ่อวัดปากน้ำ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) จากนั้นท่านได้ริเริ่มจัดตั้งและบริหาร โครงการให้การศึกษาอบรมและเผยแผ่พระสัทธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างกว้างขวาง ออกไปทั่วประเทศและในต่างประเทศ ได้แก่

โครงการธรรมปฏิบัติเพื่อประชาชน วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ เมื่อ พ.ศ.2518
โครงการพุทธภาวนาวิชชาธรรมกาย วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ เมื่อ พ.ศ.2524
มูลนิธิพุทธภาวนาวิชชาธรรมกาย ศาลาการเปรียญ วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ เมื่อ พ.ศ.2524 และ
สถาบันพุทธภาวนาวิชชาธรรมกาย อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เมื่อ พ.ศ.2524 (ปัจจุบันย้ายมาตั้งอยู่ ณ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี)
ทั้ง 4 องค์กรได้ร่วมกันดำเนินกิจกรรมการให้การศึกษาอบรมและเผยแพร่ธรรมปฏิบัติ ตามแนวสติปัฏฐาน 4 ถึงธรรมกายของพระพุทธเจ้า มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ พ.ศ.2525 เป็นระยะเวลายาวนาน กว่า 25 ปีจนถึงปัจจุบัน

ในต้นปี พ.ศ.2528 เมื่ออาจารย์เสริมชัย พลพัฒนาฤทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและวิปัสสนาของสถาบันพุทธภาวนาวิชชาธรรมกาย มีอายุย่าง 57 ปี ได้ตัดสินใจที่จะเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ท่านจึงยื่นหนังสือขอลาออกจากสำนักข่าวสารอเมริกันล่วงหน้า 1 ปี อันเป็นระยะเวลา 3 ปีก่อนวันเกษียณอายุ เพื่อให้สำนักงานได้มีโอกาสหาคนมาทำหน้าที่แทน และให้ท่านได้มีโอกาสฝึกงานแก่พนักงานใหม่ได้ทันเวลา เพราะงานที่ท่านต้องรับผิดชอบทำอยู่ในตำแหน่ง Research Specialist นั้น ต้องรับผิดชอบงานถึง 3 อย่างคือ (1) งานวิจัยและประเมินผล (2) งานจัดการติดตั้งและจัดการดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์ (3) การจัดระบบข้อมูลข่าวสารด้วยคอมพิวเตอร์ จึงต้องมีเวลาเพียงพอในการจัดหาบุคลากรและฝึกงานให้ผู้ที่เข้ามารับงานใหม่ให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงได้รับอนุมัติให้ลาออกได้
อ่านเพิ่มเติม

ประวัติ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ

ประวัติ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ

ธรรมะรักโข:
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (จนฺทสโร หมายถึง ผู้นำแสงสว่างมาสู่โลก ประดุจพระจันทร์ส่องสว่างยามราตรี) เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ มีนามตามสัญญาบัตรประกอบพัดยศสมณศักดิ์ว่า พระมงคลเทพมุนี ศรีรัตนปฏิบัติ สมาธิวัตรสุนทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี หรือ หลวงพ่อวัดปากน้ำ เดิมชื่อ สด มีแก้วน้อย เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2427 ตรงกับวันแรม ๖ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ บ้านสองพี่น้อง ตำบลสองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรคนที่สองของนายเงินและนางสุดใจ มีแก้วน้อย มีพี่น้องร่วมมารดาบิดา 5 คน ท่านนับเป็นองค์ปฐมบรมครูแห่งวิชชาธรรมกายในยุคปัจจุบัน

ชีวิตในช่วงต้น
เริ่มเรียนหนังสือกับพระภิกษุผู้เป็นน้าชาย ณ วัดสองพี่น้อง แล้วมาอยู่ ณ วัดบางปลา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ในความปกครองของพระอาจารย์ทรัพย์ ปรากฏว่าเป็นผู้สามารถเรียน-อ่านภาษาขอมได้อย่างคล่องแคล่ว เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วได้กลับไปช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพค้าขาย ด้วยความวิริยะอุตสาหะเพื่อสร้างฐานะให้มั่นคง

เมื่อท่านอายุได้ 14 ปีโยมบิดาได้ถึงแก่กรรมลงท่านจึงรับภาระดูแลการค้าแทน ท่านฉลาดในการปกครอง ลูกเรือต่างก็รักนับถือท่านและเนื่องจากท่านเป็นคนขยันขันแข็งในการทำงาน อาชีพการค้าจึงเจริญขึ้นโดยลำดับ จนปรากฏในยุคนั้นว่า เป็นผู้มีฐานะดีคนหนึ่ง วันหนึ่งเมื่อท่านนำเรือเปล่ากลับบ้านพร้อมเงินรายได้จากการขายข้าวผ่านลัดคลองเล็กซึ่งชาวบ้านเรียกว่า คลองบางอีแท่น มีโจรผู้ร้ายชุกชุมท่านนึกถึงความตายขึ้นมา และได้อธิษฐานจิตในขณะนั้นว่า ขออย่าให้ข้าพเจ้าตายเสียก่อนเลย ขอให้ได้บวชเสียก่อน เมื่อบวชแล้วจะไม่ลาสิกขา ขอบวชไปจนตลอดชีวิต การหาเงินเลี้ยงชีพนั้นลำบาก บิดาของเราก็หามาอย่างนี้ ต่างไม่มีเวลาว่างกันทั้งนั้น ถ้าใครไม่รีบหาให้มั่งมี ก็เป็นคนชั้นต่ำ ไม่มีใครนับหน้าถือตา เข้าหมู่เพื่อนบ้านก็อับอาย ไม่เทียมหน้าเขา บุรพชนต้นสกุลก็ทำมาอย่างนี้เหมือนกัน จนถึงบิดาเราและตัวเราในบัดนี้ ก็คงทำอยู่อย่างนี้ ก็บัดนี้บุรพชนทั้งหลายได้ตายไปหมดแล้ว แม้เราก็จักตายเหมือนกัน เราจะมัวแสวงหาทรัพย์อยู่ทำไม ตายแล้วเอาไปไม่ได้ บวชดีกว่า ท่านบอกว่าเริ่มอธิษฐานมาตั้งแต่อายุ 19 ปี หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านเล่าต่อไปว่า เมื่อตกลงใจบวชไม่สึกแล้ว จิตคิดเป็นห่วงมารดาเกิดขึ้น จึงขะมักเขม้นทำงานสะสมทรัพย์ เพื่อให้มารดาเลี้ยงชีพไปจนตลอดชีวิต
อ่านเพิ่มเติม

ปฏิปทาการปฏิบัติเพื่อการค้นพบวิชาธรรมกาย ( 2 )

ปฏิปทาการปฏิบัติเพื่อการค้นพบวิชาธรรมกาย ( 2 )

ก่อนที่คุณผู้อ่านจะได้สัมผัสเรื่องราวที่อาจารย์การุณย์ บุญมานุชจะนำมาบอกเล่าถึง “ตำนานสถานที่แห่งการสร้างบารมีของหลวงพ่อท่านว่ามีอะไรบ้าง ผมขอคั่นเวลาและอารมณ์ของคุณผู้อ่านนิดหนึ่งก่อนนะครับ เพื่อนำพาคุณผู้อ่านย้อนภาพเหตุการณ์ตอนที่หลวงพ่อวัดปากน้ำ ฯ บรรลุธรรม ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของท่านเช่นกันในสำนวนเชิงพรรณนาโวหาร ที่คณะมูลนิธิธรรมกายได้ทำการบันทึกไว้ปรากฏอยู่ในหนังสือชื่อ“ทางไปสู่ความสุข” มีอยู่ตอนหนึ่งผมอ่านทีไรซึ้งใจทุกที เพราะมองเห็นภาพชัดเจนได้เป็นฉาก ๆ ไป จึงขอนำข้อความตอนนั้นมานำเสนอไว้ในที่นี้ ซึ่งมีใจความดังนี้ว่า “ จันทร์เพ็ญเดือน 10 ลอยฟ่องฟ้าอยู่ท่ามกลางดวงดาวที่ดารดาษระยิบระยับสาดแสงนวลลูบไล้ไปทั่ว กระทบพื้นน้ำคลองบางกอกน้อยที่มีลมอ่อน ๆ พัดละลอกให้พลิ้วเข้าสู่ฝั่งมิขาดสาย ฝนที่เพิ่งขาดเม็ดเมื่อตอนค่ำยังคงทิ้งหยาดละอองน้ำติดค้างอยู่ตามใบหญ้าสะท้อนรับแสงจันทร์ ดูแพรวพราวราวกับเพชรที่โปรยปรายเอาไว้ ภายในโบสถ์วัดบางคูเวียงดูเงียบสงัดวังเวงได้ยินแต่เสียงหรีดหริ่งเรไรดังแผ่ว ๆ มาจากข้างนอก แสงจันทร์ที่ส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่เข้ามา ช่วยให้มองเห็นพระปฏิมากรประดิษฐานอยู่บนแท่นและทุกสิ่งภายในโบสถ์ได้อย่างชัดเจน บนพื้นเบื้องล่างตรงพระพักตร์องค์พระปฏิมากร สมณะรูปหนึ่งนั่งสงบนิ่งอยู่ในท่าสมาธิคู้บัลลังก์ กายตั้งตรงไม่ไหวติงเสมือนสิ่งไร้ชีวิต นานแสนนานจวบจนแสงจากดวงจันทร์ที่เคลื่อนคล้อยหลังเที่ยงคืน สาดปะทะร่างจนเห็นได้ทั้งองค์ คะเนอายุราว 30 เศษ รูปร่างสันทัด หน้าผากกว้างบ่งถึงลักษณะของผู้ทรงปัญญาอันล้ำเลิศ ลมเย็นพัดมาวูบหนึ่งผ้ากาสาวพัสตร์ที่ครองอยู่สั่นพลิ้วน้อย ๆ พร้อมกับมีเสียงถอนลมหายใจยาวดังจนได้ยินชัด รอยยิ้มค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนมุมปาก ใบหน้าอิ่มเอิบเต็มไปด้วยความปรีดาปราโมทย์รำพึงออกมาเบา ๆ “ เออ…มันยากอย่างนี้นี่เอง ถึงได้ไม่บรรลุกัน ความเห็น ความจำ ความคิด ความรู้ ต้องรวมเป็นจุดเดียวกัน เมื่อหยุดแล้วจึงดับเมื่อดับแล้วจึงเกิด” เสียงรำพึงเงียบลงในฉับพลัน ขยับกายเล็กน้อยกลับคืนสู่ท่าสงบ ข้อความปีตีที่เกิดขึ้นให้หมดสิ้นไป หลับตาเพ่งพิจารณาธรรมทบทวนให้แน่ใจทั้งอนุโลมและปฏิโลม ความปีติเป็นศัตรูของสมาธิ แต่ก็เป็นการยากแก่พระภิกษุรูปนี้ที่จะระงับมิให้เกิดความปีติเกิดขึ้นได้ เพราะเป็นความสำเร็จในความพากเพียรที่ได้พยายามมาเป็นเวลานานตลอดระยะเวลา 11 ปีในชีวิตสมณเพศ นับตั้งแต่ละฆราวาสวิสัยจากหนุ่มพ่อค้าข้าว
อ่านเพิ่มเติม

ปฏิปทาการปฏิบัติเพื่อการค้นพบวิชาธรรมกาย

ปฏิปทาการปฏิบัติเพื่อการค้นพบวิชาธรรมกาย

ข้อสังเกตความรู้วิปัสสนาธุระที่หลวงพ่อค้นพบ

ความรู้ที่หลวงพ่อค้นพบไม่เหมือนความรู้ที่เคยเรียนมาจากอาจารย์ทั้งหลาย ความรู้ที่ได้พบเห็นเป็นคนละเรื่องกันทีเดียวกล่าวคือ ความรู้ของเกจิอาจารย์ครั้งนั้นเป็นความรู้ทางอานาปานัสสติ ( กำหนดลมหายใจ ) เป็นความรู้กำหนดสติ ( หนอ ) เป็นความรู้ทางกสิณ เช่น กสิณดิน น้ำ ไฟ ลม ความรู้เหล่านี้ไม่ได้กำหนดใจไว้ที่ศูนย์กลางกายเลย มีแต่กำหนดใจนอกศูนย์กลางกายทั้งนั้น แม้หลวงพ่อก็ได้รับการสอนมาอย่างนั้น แต่ความรู้ที่หลวงพ่อได้พบเห็นปรากฏว่าเห็นที่ศูนย์กลางกายสิ่งที่เห็นคือ” ดวงธรรม” และในที่สุดคือเห็น “ ธรรมกาย ” ตามรายละเอียดหนังสือมรรคผล 18 กายของหลวงพ่อนั้น ธรรมกายคือพระรัตนตรัย สรุปแล้วหลวงพ่อค้นพบพระรัตนตรัย นั่นคือรู้วิธีปฏิบัติทำใจว่าทำอย่างไรจึงเข้าถึงพระรัตนตรัย วิธีทำใจเช่นนั้น คือวิธีการทำใจให้ใสตามคำสอนของพระศาสดาข้อ 3 ที่ว่า สจิตฺตปริโยทปนํ ซึ่งแปลว่า การทำใจให้ใส นั้นมีวิธีการอย่างไร มีการปฏิบัติอย่างไร มีวิธีวัดผลอย่างไร ตั้งแต่ต้นจนปลาย การค้นพบ “ วิธีการทำใจให้ใส ” นับว่าแก้อวิชชาขนานสำคัญ เพราะคำสอนของพระศาสดาที่ว่าทำใจให้ใสนั้นคำสอนนี้เราทราบกันทั้งนั้น แต่เราไม่ทราบวิธีทำว่ามีวิธีอย่างไรและเราไม่ทราบว่าการปฏิบัติทางใจนั้นทำอย่างไร ทำให้การศึกษาด้านวิปัสสนาธุระสูญหายมานานแสนนาน ความประสงค์ที่เราต้องการให้แจ้งนิพพานนั้นเป็นอันแจ้งไม่ได้มานานแสนนานเช่นกัน อ่านเพิ่มเติม

ปฐมบทแห่งองค์ปฐมบรมครูผู้ค้นพบวิชาธรรมกาย

ปฐมบทแห่งองค์ปฐมบรมครูผู้ค้นพบวิชาธรรมกาย

พระมงคลเทพมุนีหรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในนาม “หลวงพ่อสดวัดปากน้ำฯ” ท่านเป็นพระอริยเจ้าที่ทรงฤทธิ์อภิญญา มีปาฏิหาริย์ที่ได้รับการเล่าขานผ่านห้วงเวลามาอย่างยาวนานมากมายหลากหลายเรื่องราว หากถามบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่ผู้ศึกษาและปฏิบัติวิชาธรรมกาย คำตอบที่ได้ส่วนใหญ่ ศรัทธาท่านเพราะรู้ดีว่าท่านเป็นพระดีที่มีแต่ให้ไม่สะสม มรณภาพไปแล้วก็ยังคงศักดิ์สิทธิ์ ใครกราบไหว้ขอพรให้ท่านช่วยแหลือย่อมสำเร็จผลเป็นอัศจรรย์ แม้แต่พระเครื่องคือพระของขวัญที่ท่านสร้าง ก็โด่งดังเด่นดีในด้านพุทธคุณเยี่ยมยอด ไม่ว่าจะไปที่ใด เห็นมีแต่ภาพถ่ายของหลวงพ่อประดิษฐานไว้ในที่สูงเกือบทุกบ้าน เพราะถือว่ามีไว้บูชาแล้วเกิดมงคล แต่สำหรับผู้ที่เข้าถึงธรรม บรรลุวิชาธรรมกายในขั้นต่างๆได้แล้วนั้น หลวงพ่อคือผู้ค้นพบวิธีทำใจให้เข้าถึงไตรสรณะคมน์ได้อย่างแยบยล ,เป็นผู้ค้นพบวิชาธรรมกายและวิชาอาสวักขยญาณ รวมถึงวิชาสะสางธาตุธรรม(วิชาปราบมาร) ท่านเป็นปฐมบรมครูผู้ทำวิชาปราบมารมาตลอดชีวิต,ผู้นำร่องวิชาปราบมารขนานแท้ และท่านเป็นผู้ที่“องค์ต้นธาตุต้นธรรม” ส่งลงมาเกิดในมนุษยโลกเพื่อปราบมารโดยเฉพาะฯลฯ ไม่ว่าใครก็ตามหากบรรลุ “ธรรมกาย”เป็นต้องเห็นซึ้งถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ของท่านทุกคนไป เขาว่ากันว่า ใครได้ยินคำว่า “ธรรมกาย “ มีบุญระดับหนึ่ง ใครได้ยินคำว่า”ธรรมกายและรู้เรื่องราวของผู้ค้นพบวิชาธรรมกาย ตลอดจนปฏิบัติธรรมแล้วเข้าถึงธรรมกายภาคขาวเป็นผู้มีบุญมากที่สุด ดังนั้นขอเรียนเชิญคุณผู้อ่านที่มีบารมีธรรมทุกท่าน มาร่วมรับรู้เรื่องราวของหลวงพ่อสดวัดปากน้ำกัน ว่าท่านเป็นใครมาจากไหน บรรลุธรรมได้อย่างไร แล้วทำไมผู้คนทั้งหลายถึงได้ศรัทราท่านกันนัก เรามาเริ่มต้นกันถึงที่มาที่ไปเกี่ยวกับประวัติของท่านกันก่อนเลยก็แล้วกันนะครับ และย้อนรอยธรรมด้วยเรื่องราวในแง่มุมต่างๆตามลำดับ คุณผู้อ่านพร้อมหรือยังครับ..ถ้าพร้อมแล้ว เรามาเรียนรู้ประวัติของหลวงพ่อไปด้วยกันได้เลยครับ

ประวัติของพระเดชพระคุณ พระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ )

หลวงพ่อสดวัดปากน้ำภาษีเจริญ ท่านเกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2427 ตรงกับวันศุกร์ แรม 6 ค่ำ เดือน 11 ปีวอกจุลศักราช 1246 ณ บ้านสองพี่น้อง ตำบลสองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรรณบุรี บ้านตำบลนี้อยู่ฝั่งใต้ตรงกันข้ามกับวัดสองพี่น้อง ท่านเป็นบุตรของนายเงิน นางสุดใจ มีแก้วน้อย ครอบครัวของท่านทำการค้าขายมีพี่น้องร่วมบิดา 5 คน ดังต่อไปนี้ครับ

1. นางดา เจริญเรือง

2. หลวงพ่อสดวัดปากน้ำ ( สด มีแก้วน้อย )

3. นายใส มีแก้วน้อย

4. นายผูก มีแก้วน้อย

5. นายสำรวย มีแก้วน้อย

เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมากครับสำหรับครอบครัวของหลวงพ่อวัดปากน้ำคือ ญาติพี่น้องของท่านแทบทุกคนนั้น คนสุดท้องจะตายก่อนแล้วเลื่อนขึ้นมาตามลำดับชั้น คนหัวปีตายทีหลังแทบทุกคนเช่น พี่น้องของหลวงพ่อคนที่ 5 ตายก่อน แล้วก็คนที่ 4 จากนั้นก็คนที่ 3 ที่มาตายก่อนหน้าหลวงพ่อไม่กี่เดือน คล้ายกับว่าจะรักษาระเบียบแห่งความตายเอาไว้ ส่วนนางดา เจริญเรือง ซึ่งเป็นคนที่ 1 นั้นกลับตายเป็นคนสุดท้าย อ่านเพิ่มเติม

พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้คนพบวิชชาธรรมกาย

พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้คนพบวิชชาธรรมกาย

พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เป็นพระภิกษุที่เปี่ยมล้นไปด้วยคุณธรรมและคุณวิเศษอย่างจะนับจะประมาณมิได้ดังนั้น ศิษยานุศิษย์ผู้เคารพศรัทธาเลื่อมใสท่านจากทั่วทุกมุมโลก จึงพร้อมใจกันหล่อรูปเหมือนท่านด้วยทองคำ มาแล้ว ถึง 6 องค์

หลวงปู่ทองคำ องค์ที่ 7 นี้ เป็นองค์ที่จะอัญเชิญไปบนเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ในการเดินธุดงค์ธรรมชัยทุกครั้ง เนื่องจากรูปหล่อหลวงปู่ทองคำที่หลอ่ไปแล้วทั้ง 6 องค์ จะประดิษฐานเป็นการถาวร ณ สถานที่ทั้ง 6 แห่ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญในประวัติชีวิตของหลวงปู่ แต่องค์ที่ 7 ที่กำลังจะหล่อขึ้นนี้ จะเป็นองค์ที่ไปเปิดใจ ไปประกาศศาสนา และสร้างเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธเศาสนาให้บังเกิดขึ้นกับผู้คนอีกเป็นจำนวนมหาศาล

ดังนั้น การหล่อหลวงปู่ด้วยทองคำในครั้งนี้ จึงถือเป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่ เพราะเราจะได้สืบทอดพระพุทธศาสนาและวิชชาธรรมกายให้ยืนยาวที่สุด และที่สำคัญ การหล่อรูปเหมือนของหลวงปู่ด้วยทองคำ เป็นการประกาศให้โลกรับรู้ถึงคุณความดีของหลวงปู่ด้วยวิธีอันชาญฉลาด เพราะการหล่อท่่านด้วยทองคำ จะทำให้ชาวโลกต่างสงสัย และเกิดคำถามตามมาว่า ทำไมต้องหล่อท่านด้วยทองคำ และนั่นก็เป็นโอกาสที่เหล่าศิษยานุศิษย์จะได้เล่าถึงประวัติ คุณธรรม คุณวิเศษ และมโนปณิธานของท่าน และชักชวนให้บุคคลเหล่านั้น ทำตามข้อวัตรปฏิบัติอันดีงามของท่าน

อีกทั้งเมือระยะเวลาผ่านไป จนเข้าสู่ยุคทองที่ทองคำหายากและราคาสูงมากกว่านี้ หรืออีก 1,000 ปีข้างหน้า ก็จะเกิดคำถามให้โจษขานซ้ำๆ อย่างไม่รู้จบว่า ทำไมชาวโลกยุคหนึ่งจึงเกิดมหาศรัทธาอย่างแรงกล้า ร่วมใจกัหล่อรูปเหมือนของท่านด้วยทองคำแท้ ซึ่งเป็นวัสดุที่มีมูลค่ามหาศาลขนาดนั้น และปริศนาตรงนี้เอง จะตรึงให้ชาวโลกมุ่งค้นหาคำตอบว่า ท่านเป็นใคา สำคัญอย่างไร
อ่านเพิ่มเติม

ประวัติหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ธนบุรี

ประวัติหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ธนบุรี

พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เดิมชื่อ สด มีแก้วน้อย เกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2427 ตรงกับวันศุกร์ แรม 6 ค่ำ เดือน 11 ปีวอก ฉศก จุลศักราช 1246 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ บ้านสองพี่น้อง ตำบลสองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรคนที่สองของนายเงินและนางสุดใจ มีแก้วน้อย มีพี่น้องร่วมมารดาบิดา 5 คน

เริ่มเรียนหนังสือกับพระภิกษุผู้เป็นน้าชาย ณ วัดสองพี่น้อง แล้วมาอยู่ ณ วัดบางปลา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ในความปกครองของพระอาจารย์ทรัพย์ ปรากฏว่าเป็นผู้สามารถเรียน-อ่านภาษาขอมได้อย่างคล่องแคล่ว เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วได้กลับไปช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพค้าขาย ด้วยความวิริยะอุตสาหะเพื่อสร้างฐานะให้มั่นคง

เมื่อท่านอายุได้ 14 ปีโยมบิดาได้ถึงแก่กรรมลงท่านจึงรับภาระดูแลการค้าแทน ท่านฉลาดในการปกครอง ลูกเรือต่างก็รักนับถือท่านและเนื่องจากท่านเป็นคนขยันขันแข็งในการทำงาน อาชีพการค้าจึงเจริญขึ้นโดยลำดับ จนปรากฏในยุคนั้นว่า เป็นผู้มีฐานะดีคนหนึ่ง วันหนึ่งเมื่อท่านนำเรือเปล่ากลับบ้านพร้อมเงินรายได้จากการขายข้าวผ่านลัดคลองเล็กซึ่งชาวบ้านเรียกว่า คลองบางอีแท่น มีโจรผู้ร้ายชุกชุมท่านนึกถึงความตายขึ้นมา และได้อธิษฐานจิตในขณะนั้นว่า “ขอเราอย่าได้ตายเสียก่อนเลย ขอให้ได้บวชเสียก่อน เมื่อบวชแล้วจะไม่ลาสิกขา ขอบวชไปจนตลอดชีวิต”

การหาเงินเลี้ยงชีพนั้นลำบาก บิดาของเราก็หามาอย่างนี้ ต่างไม่มีเวลาว่างกันทั้งนั้น ถ้าใครไม่รีบหาให้มั่งมี ก็เป็นคนชั้นต่ำ ไม่มีใครนับหน้าถือตา เข้าหมู่เพื่อนบ้านก็อับอาย ไม่เทียมหน้าเขา บุรพชนต้นสกุลก็ทำมาอย่างนี้เหมือนกัน จนถึงบิดาเราและตัวเราในบัดนี้ ก็คงทำอยู่อย่างนี้ ก็บัดนี้บุรพชนทั้งหลายได้ตายไปหมดแล้ว แม้เราก็จักตายเหมือนกัน เราจะมัวแสวงหาทรัพย์อยู่ทำไม ตายแล้วเอาไปไม่ได้ บวชดีกว่า ท่านบอกว่าเริ่มอธิษฐานมาตั้งแต่อายุ 19 ปี หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านเล่าต่อไปว่า เมื่อตกลงใจบวชไม่สึกแล้ว จิตคิดเป็นห่วงมารดาเกิดขึ้น จึงขะมักเขม้นทำงานสะสมทรัพย์ เพื่อให้มารดาเอาไว้ใช้เลี้ยงชีพไปจนตลอดชีวิต

เดือนกรกฎาคม 2449 ขณะมีอายุย่างเข้า 22 ปี ท่านได้บรรพชาอุปสมบท ณ วัดสองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี มีฉายาว่า สด จนฺทสโร

เมื่ออุปสมบทแล้ว ท่านจึงเริ่มปฏิบัติสมถะ-วิปัสสนากับพระอนุสาวนาจารย์นับแต่วันบวช เมื่อบวชแล้วพอรุ่งขึ้นอีกวัน หลวงพ่อก็เริ่มลงมือปฏิบัติพระกรรมฐานต่อกับพระอาจารย์เนียม วัดน้อย อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ได้จำพรรษาอยู่วัดสองพี่น้อง 1 พรรษาเมื่อออกพรรษาที่วัดสองพี่น้องแล้ว ท่านจึงเดินทางมาจำพรรษา ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เพื่อศึกษาด้านคันถธุระต่อ ในสมัยนั้นนิยมใช้หนังสือขอมที่จารลงในใบลาน อ่านเพิ่มเติม

ประวัติหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)

ประวัติหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)

พระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อสด) วัดปากน้ำ ท่านเกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2427 ณ บ้านสองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี โยมบิดาชื่อ เงิน โยมมารดาชื่อ สุดใจ หลวงพ่อสดเริ่มเรียนหนังสือกับพระภิกษุน้าชาย ที่วัดสองพี่น้อง แล้วย้ายมาอยู่ที่วัดบางปลา อำเภอบางเลน ในความปกครองของพระอาจารย์ทรัพย์จนสามารถอ่านออกเขียนได้ รวมทั้งภาษาขอมได้อย่างคล่องแคล่ว เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจึงกลับไปช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ

หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ท่านฝักใฝ่ในธรรมและตั้งใจแน่วแน่ว่าจะบวช พอถึงเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2449 ท่านจึงได้อุปสมบท ณ วัดสองพี่น้อง สุพรรณบุรี โดยมีพระอาจารย์ดี วัดประตูสาร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวินานุโยค (หลวงพ่อเนี่ยง) วัดสองพี่น้อง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์โหน่ง วัดสองพี่น้อง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้วก็อยู่จำพรรษาอยู่ที่วัดสองพี่น้อง 1 พรรษา แล้วย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดเชตุพนวิมลมังคลาราม กทม. เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม โดยกลางคืนเรียนที่วัดพระเชตุพนฯ กลางวันไปเรียนที่สำนักวัดอรุณฯ วัดมหาธาตุฯ วัดสุทัศน์ วัดจักรวรรดิฯ ตามแต่โอกาสอำนวย จนมีความแตกฉานในภาษาบาลีคัมภีร์พระไตรปิฎกเป็นอย่างดี

เมื่อหลวงปู่สดท่านได้ศึกษาคันถธุระจนเป็นที่พอใจแล้วท่านก็ได้ศึกษาวิปัสสนาธุระกับพระอาจารย์อีกหลายท่านคือ พระมงคลทิพยมุนี วัดจักรวรรดิฯ กทม. พระอาจารย์ดี วัดประตูสาร สุพรรณบุรี พระอาจารย์โหน่ง วัดสองพี่น้อง สุพรรณบุรี พระอาจารย์เนียม วัดน้อย สุพรรณบุรี พระสังวรานุวงษ์ วัดราชสิทธาราม กทม. พระครูญาณวิรัติ วัดพระเชตุพนฯ กทม. พระอาจารย์สิงห์ วัดละครทำ กทม. พระอาจารย์ปลื้ม วัดเขาใหญ่ กาญจนบุรี เป็นต้น เมื่อถึงพรรษาที่ 11 หลวงพ่อสด จึงกราบลาเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์เข้ม วัดพระเชตุพนฯ มาจำพรรษาที่วัดโบสถ์บน อำเภอบางกรวย นนทบุรี พอปีพ.ศ.2459 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดปากน้ำภาษีเจริญ โดยฉันทานุมัติของคณะสงฆ์ ซึ่งมีพระวันรัต เผื่อน เป็นประธานโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้บูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะ และถาวรวัตถุในวัด ซึ่งขณะนั้นอยู่ในสภาพทรุดโทรมกึ่งวัดร้าง หลวงพ่อสด จึงได้เริ่มปรับปรุงวัดปากน้ำ จนเจริญรุ่งเรือง ทั้งในด้านการศึกษาพระปริยัติธรรม เป็นที่ศรัทธาของสาธุชนโดยทั่วไป

หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2502 สิริอายุได้ 75 ปี พรรษาที่ 53 ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านได้สร้างพระของขวัญเนื้อผง เพื่อแจกให้แก่ผู้มีจิตศรัทธา แต่พระของท่านนั้นจะต้องไปรับด้วยตัวเอง ใครไม่ไปรับกับมือหลวงพ่อก็เป็นอันว่าไม่ได้ มูลเหตุในการสร้างก็เนื่องจากมีผู้บริจาคเงินสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม ซึ่งมีมูลค่าถึง สองล้านห้าแสนเก้าหมื่นแปดพันหนึ่งร้อยสิบบาทสามสิบเก้าสตางค์ ในขณะนั้นถือว่าเป็นเงินจำนวนมากทีเดียว อ่านเพิ่มเติม

ชีวประวัติของหลวงพ่อวัดปากน้ำ บันทึกเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๗

ชีวประวัติของหลวงพ่อวัดปากน้ำ บันทึกเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๗

ชีวะประวัติหลวงพ่อวัดปากน้ำ

พระภาวนาโกศลเถร
(สมณศักดิ์ในขณะนั้น)

รวบรวมโดย
วิชัย วุฑฒสิล ป.

เนื่องจากสำนักเรียนวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ธนบุรี ในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ นี้ มีนวกะภิกษุถึง ๖๗ รูป ซึ่งนับว่ามีสถิติสูงกว่าทุกปีที่แล้ว ๆ มา ข้าพเจ้าในฐานะเป็นครูอบรมนวกะภิกษุ เห็นสมควรที่จะได้จัดพิมพ์หนังสือเกี่ยวแก่นวกะภิกษุขึ้นจะเป็นประโยชน์มาก จึงได้ปรารภเรื่องการที่จะจัดทำหนังสือนวกะอนุสรณ์ประจำสำนักวัดปากน้ำขึ้น เพื่อเผยแพร่พุทธศาสนาทั้งคันถธุระและวิปัสสานาธุระที่มีอยู่ในวัดปากน้ำ และเผยแพร่กิจการของวัด เพื่อเป็นอนุสรณ์ของนวกะภิกษุประจำปี ๒๔๙๗ อีกด้วย บรรดานวกะภิกษุส่วนมากลงมติเป็นเอกฉันท์ว่าควรทำเป็นอย่างยิ่ง นวกะอนุสรณ์เล่มนี้จึงอุบัติขึ้นมาอยู่ในมือของท่านผู้อ่าน ณ บัดนี้
การทำหนังสือเล่มนี้ ข้าพเจ้าได้เป็นผู้เขียนชีวะประวัติของพระเดชพระคุณ ท่านเจ้าคุณหลวงพ่อพระภาวนาโกศลเถร ตามคำเรียกร้องของบรรดาศิษยานุศิษย์ทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิต ซึ่งได้ปรารภกันว่าชีวะประวัติของพระคุณท่านเท่าที่มีผู้เขียนไว้บ้างแล้วนั้นยังน้อยนัก ยังไม่พอแก่ความต้องการของบรรดาศิษย์ที่อยากจะทราบรายละเอียดชีวะประวัติของท่านผู้สามารถสละชีวิตเข้าขุดค้นคุณธรรมพิเศษ และได้วางแบบฉบับออกเผยแพร่ให้ปฏิบัติกันเกือบทั่วประเทศไทย ยิ่งกว่านั้นยังได้แพร่ไปถึงต่างประเทศอีกด้วย ถ้าจะเปรียบกับชีวะประวัติของบุคคลสำคัญทางโลกแล้ว ท่านเจ้าคุณหลวงพ่อก็จัดเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งในพระพุทธศาสนา สมควรเขียนชีวะประวัติของท่านที่แล้วมาให้ละเอียดเป็นหลักฐานในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ใครสงสัยก็ยังสอบถามท่านได้ ทั้งนี้เพื่อประดับความรู้แก่ผู้สนใจ จะได้เป็นคติและแนวทางแห่งชีวิตของอนุชนรุ่นหลังต่อไป ก็จะเป็นที่พอใจของบรรดาศิษยานุศิษย์ทั้งหลายของท่าน ข้าพเจ้าจำต้องรับเขียนชีวะประวัตินี้ทั้ง ๆ ที่ตนเองก็รู้ว่าคงทำให้ละเอียดไม่ได้ บังเอิญโชคเข้าข้างข้าพเจ้าอยู่ ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังสืบค้นชีวะประวัติของท่านเจ้าคุณพ่ออยู่นั้น ข้าพเจ้าได้ไปสอบถามคุณป้าดากับคุณปู่นะ ซึ่งเป็นโยมพี่และโยมน้าของท่าน ท่านทั้งสองยังจดจำได้บ้าง จึงเล่ารายละเอียดต่าง ๆ ให้ฟังบ้าง จากหลักฐานที่เคยบันทึกไว้บ้าง ประกอบกับคำบอกเล่าของท่านทั้งสองที่กล่าวมาแล้วนั้น ถึงแม้จะไม่เป็นชีวะประวัติที่ครบถ้วน ก็เป็นรายละเอียดเท่าที่ข้าพเจ้าสามารถจะค้นหามาเขียนได้ อนึ่ง ในบางเรื่องเช่นกาลเวลาจะเอาแน่นั้นไม่ได้เพราะไม่มีผู้ใดสามารถจดจำ แม้บันทึกของท่านเจ้าคุณพ่อก็เขียนไว้ไม่แน่ชัด ทั้งนี้หวังว่าท่านผู้อ่านคงเห็นใจผู้เขียนและอภัยให้ในเมื่อยังไม่พอแก่ความต้องการของท่าน ต่อไปนี้ขอได้โปรดอ่านชีวะประวัติของท่านเจ้าคุณหลวงพ่อพระภาวนาโกศลเถรได้ อ่านเพิ่มเติม

พระมงคลเทพมุนี หรือ หลวงพ่อสด

พระมงคลเทพมุนี หรือ หลวงพ่อสด

พระมงคลเทพมุนี หรือ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพ เกิดเมื่อ วันศุกร์ ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2427 ตรงกับ แรม 6 ค่ำ เดือน 11 ณ บ้านสองพี่น้อง ตำบลสองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี บิดาและมารดาชื่อ นายเงิน และ นางสุดใจ มีแก้วน้อย ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งสิ้น 5 คน คือ นางดา เจริญเมือง พระมงคลเทพมุนี (สด มีแก้วน้อย) นายใส มีแก้วน้อย นายผูก มีแก้วน้อย และ นายสำรวย มีแก้วน้อย

ท่านประกอบอาชีพค้าขายมาตั้งแต่อายุ 14 ปี นับแต่สิ้นบุญบิดา และประกอบอาชีพดังกล่าวเรื่อยมาจนกระทั่งเมื่ออายุ 19 ปี ท่านเกิดมีความคิดเบื่อหนายชีวิตทางโลก ด้วยเห็ฯถึงวัฏจักรชีวิตของมนุษย์อย่างถ่องแท้แล้ว จึงตัดสินใจขอบวชไปตลอดชีวิตเพื่อศึกษาและรับใช้พระพุทธศาสนา

จากปฏิธานของท่านในวันนั้น ด้วยท่านมีภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ และเป็นห่วงมารดา จึงขมักเขม้นทำงานเก็บสะสมทรัพย์ เพื่อให้มารดาสามารถเลี้ยงชีพได้ตลอดชีวิต เมื่อบรรบุความตั้งใจในส่วนนี้แล้ว ท่านจึงได้อุปสมบท ณ วัดสองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ในปี พ.ศ.2449 ขณะอายุได้ 22 ปี โดยมี พระอาจารย์ดี วัดประตูศาล อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวินยานุโยค (เหนี่ยง อินทโชโต) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์โหน่ง อินทสุวรรณโณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ โดยได้รับฉายาว่า จนฺทสโร
อ่านเพิ่มเติม

ความสำคัญของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ

ความสำคัญของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ

พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำได้สอนให้เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม และการหลุดพ้นจากวัฏสงสาร ท่านยืนยันการบรรลุธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และยืนยันคำสอนของพระพุทธองค์ว่ามีจริง และดีจริง ดังนั้น หลวงปู่จึงเป็นผู้ทำให้เรามีความเชื่อมั่น และศรัทธาในคำสอนของพระพุทธองค์ที่ได้บันทึกไว้ในพระไตรปิฏก โดยเฉพาะคำว่า “ธรรมกาย” ที่มีปรากฏในพระไตรปิฏก แต่ไม่ได้บอกวิธีการเข้าถึง พวกเราได้มีโอกาสรู้จักคำว่า “ธรรมกาย” และวิธีการเข้าถึงธรรมกาย ก็เพราะพระเดชพระคุณหลวงปู่ ท่านค้นพบวิธีการเข้าถึงพระธรรมกายกลับคืนมาให้แก่ชาวโลก พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ท่านยืนยันว่า ผู้ที่ได้เข้าถึงพระธรรมกายสามารถไปนรกก็ได้ ไปสวรรค์ก็ได้ ไปจับมือถือแขนพูดคุยกับสัตว์นรก หรือเอาบุญไปให้ได้ บุคคลผู้รู้เห็นเช่นนี้ ย่อมยืนยันว่าสวรรค์ นรก มีจริง บาป บุญ มีจริง พระคุณบิดา มารดามีจริง ฯลฯ และกล้ากล่าวยืนยันพร้อมสอนวิธีการเข้าถึงพระธรรมกาย ที่ทำให้เราสามารถไปพิสูจน์คำพูดคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ทำให้เราสามารถเลือกภพภูมิหลังความตายได้อย่างถูกต้อง และช่วยให้เรายับยั้งชั่งใจ ละอายความชั่ว กลัวการทำบาป เนื่องจากเห็นว่า กรรมแม้เพียงเล็กน้อยก็มีผล บุคคลผู้เกรงกลัวต่อบาปจะเร่งทำความดีเพื่อให้ใจใสบริสุทธิ์ยิ่งๆ ขึ้นไป บุคคลผู้ยืนยันคำสอนของพระพุทธองค์ เรื่องนรก สวรรค์ว่ามีจริงและสามารถไปถึงได้ด้วยพระธรรมกายนั้น จึงเป็นบุคคลพิเศษ คุณยายมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ท่านก็เชื่อเช่นนี้ เพราะท่านสามารถไปนรก สวรรค์ และไปช่วยพ่อของท่านมาแล้ว การปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าถึงพระธรรมกายจึงเป็นวิธีทำให้จิตของชาวโลกสว่างไสว นอกจากการค้นพบวิธีการเข้าถึงพระธรรมกายแล้ว พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำยังเมตตาสอนให้เราพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยการสั่งสมบุญกุศล เพราะบุญเป็นบ่อเกิดแห่งความสุข และความสำเร็จทุกประการ เมื่อท่านค้นพบวิธีการเข้าถึงพระธรรมกายแล้วก็มีจิตเป็นกุศลไม่ได้คิดปิดบัง หรือหวงแหนความรู้อันบริสุทธิ์เหล่านี้ไว้ ท่านสอนการเข้าถึงพระธรรมกายภายในอย่างเปิดเผย เพียงแค่นี้ก็นับเป็นบุญคุณอันมหาศาลที่ไม่อาจประมาณได้ พระเดชพระคุณหลวงปู่ ท่านยืนยันว่า พระรัตนตรัยนั้นอยู่ภายในตัวของมนุษย์ทุกคน สามารถเข้าถึงได้ด้วยการทำใจหยุดนิ่งไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด คุณยายอาจารย์ ท่านก็รับสืบทอดวิธีการปฏิบัติเพื่อเข้าถึงพระธรรมกายมาจากพระเดชพระคุณหลวงปู่ และสืบต่อมาถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย การหล่อรูปเหมือนของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่ เนื่องจากศิษยานุศิษย์มีความปรารถนาจะแสดงความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ผู้มีพระคุณเช่นท่าน ที่ท่านได้สละชีวิตค้นพบวิธีการเข้าถึงพระธรรมกายกลับคืนมาให้แก่ชาวโลก ทำให้พวกเราได้รู้ความจริงของชีวิต รูปหล่อทองคำของหลวงปู่จะเป็นพยานหลักฐานการค้นพบพระธรรมกายของท่าน และจะทำให้อนุชนรุ่นหลังสามารถสืบค้นประวัติการสร้างคุณความดี และวิธีการปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าถึงพระธรรมกายของท่านสืบต่อไปในภายภาคหน้า

http://www.dhammakaya.net/

การสืบทอด หลวงปู่วัดปากน้ำ หรือหลวงปู่สด จันทสโร

การสืบทอด หลวงปู่วัดปากน้ำ หรือหลวงปู่สด จันทสโร

พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ท่านตระหนักถึงคุณค่าของการปฏิบัติ เพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายว่าจะเป็นประโยชน์และเป็นที่พึ่งแก่ชาวโลก ท่านจึงมีบัญชาให้ศิษย์ของท่านทุกรูปทุกคนเผยแผ่การปฏิบัติธรรม เพื่อเข้าถึงธรรมกายให้แก่ชาวโลก แม้ท่านจะละสังขารไปแล้วก็ตาม คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ศิษย์เอกท่านหนึ่งของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ เคารพและเชื่อฟังคำของพระอาจารย์ที่สั่งให้ท่านสอนสมาธิต่อไปที่บ้านธรรมประสิทธิ์ ซึ่งตั้งอยู่ในวัดปากน้ำ เพื่อรอผู้ที่จะมาสืบทอดการปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายในภายหลัง ตามคำบอกเล่าของท่าน ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง และหลวงพ่อธัมมชโย (พระเดชพระคุณพระเทพญาณมหามุนี ในปัจจุบัน) ได้สร้างวัดเพื่อสอนการปฏิบัติธรรมขึ้นแห่งหนึ่ง โดยมีหลวงพ่อธัมมชโยเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งท่านได้สานต่อมโนปณิธานของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ด้วยการสอนการปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าถึงพระธรรมกายสืบไป วันมาฆบูชาปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ตรงกับวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย และคุณยายอาจารย์ ได้เชิญชวนศิษยานุศิษย์ของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำมาร่วมแสดงความกตัญญู และยกย่องเทิดทูนบูชาคุณธรรมและคุณวิเศษของหลวงปู่ ที่ค้นพบวิธีการเข้าถึงพระธรรมกายให้กลับคืนมาเป็นประโยชน์ต่อชาวโลก ด้วยการหล่อรูปเหมือนของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ด้วยทองคำบริสุทธิ์ ในระหว่างปี.พ.ศ. ๒๕๓๘ – ๒๕๔๒ พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย, คุณยายอาจารย์ และศิษยานุศิษย์ ได้รวมใจกันสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ เพื่อเป็นศูนย์กลางการปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าถึงพระธรรมกาย ขณะเดียวกันศิษยานุศิษย์ภายนอกประเทศก็ได้ก่อตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมตามประเทศต่างๆ ขึ้น เพื่อเผยแผ่วิชชาธรรมกาย ตามมโนปณิธานของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ

http://www.dhammakaya.net/

การเผยแผ่หลวงปู่วัดปากน้ำ หรือหลวงปู่สด จันทสโร

การเผยแผ่หลวงปู่วัดปากน้ำ หรือหลวงปู่สด จันทสโร

หลังออกพรรษาในปี พ.ศ. ๒๔๖๐ ท่านไปพักที่วัดบางปลา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐมเพื่อไปสอนธรรมะครั้งแรก มีพระภิกษุที่สามารถปฏิบัติธรรมและเข้าถึงพระธรรมกายจำนวน ๓ รูป คือ พระภิกษุสังวาลย์ พระภิกษุแบน พระภิกษุอ่วม กับฆราวาสอีก ๔ คน เป็นพยานการบรรลุธรรมของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ต่อมาท่านส่งพระภิกษุสังวาลย์ไปสอนการปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าถึงพระธรรมกายที่วัดบางปลา ปี พ.ศ. ๒๔๖๓ ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และสอนการปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าถึงพระธรรมกายให้แก่พระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกาและสาธุชนที่มาวัดทั้งภายในและต่างประเทศ ระหว่างปี พ.ศ.๒๔๘๐ – ๒๕๐๒ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ มีพระภิกษุ สามเณร จำพรรษาถึง ๕๐๐ รูป นับเป็นวัดที่มีการเรียนพระปริยัติและสอนปฏิบัติธรรมที่ใหญ่ที่สุดในเวลานั้น จากการปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักวิชา ศิษยานุศิษย์จำนวนมากได้เข้าถึงพระธรรมกายและยืนยันว่า พระธรรมกายมีจริงและดีจริง ชาวต่างประเทศได้เดินทางมาศึกษาการปฏิบัติธรรมกับพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ และเมื่อได้รับผลการปฏิบัติธรรมเป็นที่น่าพอใจ จึงเดินทางกลับไปเผยแผ่วิธีการปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าถึงพระธรรมกาย ณ ถิ่นกำเนิดของตน

http://www.dhammakaya.net/

. . . . . . .