รวมคำสอนของหลวงพ่อวัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ)
อิทธิบาท 4
เมื่อบวช ก็ต้องยุติเรื่องราวทางโลก จึงควรที่สนใจศึกษาหาความรู้ทางปริยัติธรรม และฝึกปฏิบัติ ปริยัติธรรม ได้แก่ คำสั่งสอน อันเป็นแนวทางไปสู่การปฏิบัติ?ส่วนปฏิบัติธรรมนั้นเป็นคำสอน ที่บ่งวิธีปฏิบัติโดยตรงซึ่งจะมีผลส่งให้ถึงปฏิเวธธรรม?? คือ? การรู้แจ้งแทงตลอดสภาวะความเป็นจริง ท่านบอกว่า ถ้าบวชแล้วไม่สนใจในพระสัจธรรม?? ของพระพุทธองค์ ก็เสียเวลาเปล่า ถึงฆราวาสก็เช่นกัน เมื่อไม่ได้เป็นผู้ทรงศีล ก็ต้องเอาดีทางโลกให้ได้ ต้องเก่งไปในทางที่ตัวเลือกดำเนินชีวิต ท่านสอนว่า ?“ อ้ายโลกก็เหลว อ้ายธรรมก็แหลกเป็นแบกบอน เหลือแต่ กิน นอน เที่ยว สามอันเท่านั้นเอย” ? เมื่อละตัณหาได้ อุปทานก็ไม่มี ดังจะยกอุทาหรณ์เทียบเคียงให้เห็น เช่น สามีภรรยาที่หย่ากัน เมื่อเขายังไม่หย่ากัน สามีไปทำอะไรเข้า ฝ่ายภรรยาก็เก็บเอามาเป็นทุกข์เป็นร้อนด้วย หรือเมื่อฝ่ายภรรยาไปทำอะไรเข้า?? ฝ่ายสามีก็เก็บเอามาเป็นทุกข์เป็นร้อนด้วย ถ้าเขาหย่าขาดกันแล้ว มิใยที่ฝ่ายใดจะไปก่อกรรมทำเข็ญขึ้น อีกฝ่ายหนึ่ง จะไม่มีทุกข์มีร้อนด้วยเลย ทั้งนี้เพราะอะไร ก็เพราะเขาหมดความยึดถือว่า เขาเป็นสามีภรรยากันแล้ว นี่ฉันใดก็ฉันนั้น จะเห็นได้ชัดในข้อว่า ทุกข์เกิดจากอุปาทานอันเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว ดูดดึงเข้ามา แต่ลำพังขันธ์ 5 ไม่ใช่ตัวทุกข์ ได้ในคำว่า ?“ ปัญจุปาทานักขันทา ทุกขา ”
รวมความก็ว่า ปล่อยอุปาทานไม่ได้ เป็นทุกข์ ปล่อยได้หมดทุกข์ ถอดกายทิพย์ออกจากเสียงมนุษย์ กายมนุษย์ก็ไม่มีเรื่อง จะไม่มีใครเป็นทุกข์ และในที่สุดจะต้องปล่อยอุปาทานได้หมด ทั้งในกายทิพย์ กายรูปพรหม และอรูปพรหม คงแต่ธรรมกายเด่นอยู่ ฯ กล่าวคือ ผู้ปฏิบัติตามธรรมะของพระองค์ จะรู้ว่าธรรมะของพระองค์ดีจริงอย่างไร และเมื่อปฏิบัติตามแล้ว ได้ผลเป็นอย่างไร ดังนี้ ย่อมเกิดจาก การปฏิบัติของตนเอง ด้วยใจของตนเอง ผู้อื่นจึงพลอยรู้ด้วยไม่ได้ มันเป็นรสทางใจ หากใจผู้ปฏิบัติเยือกเย็นเป็นสุขสักปานใด แม้เขาจะมาเล่าให้เราฟัง ใจเรามันก็จะไม่เย็นอย่างเขา ตามคำที่เขาเล่าบอกนั้นได้ จะไม่ผิดอะไรกับคนหนึ่ง ได้กินแกงชนิดหนึ่งมาเล่าให้เราฟังว่า มันอร่อยอย่างนั้นอย่างนี้ ก็จะไม่ทำให้เราเปิปข้าวเปล่า ๆ โดยนึกเอารสแกงที่เขาว่านั้นมาประสมให้ได้รสอร่อยอย่างเขาว่านั้นได้ ?แม้ว่าเวลานี้จะเป็นการล่วงมาช้านานจากที่พระองค์เสด็จดับขันธ์ ปรินิพพานไปแล้ว ก็ไม่มีอะไรเป็นข้อห้ามว่า ผู้ที่ปฏิบัติตามจะไม่ได้รับผล อย่างที่ท่านได้รับ นอกจากคำกล่าวอ้างของคนเกียจคร้าน ข้อนี้ มีคำว่า ….อกาลิโก ในบทพระธรรมคุณนี้เอง เป็นหลักฐานยันอยู่ว่าธรรมของพระองค์ ผู้ใดปฏิบัติตามย่อมทำให้เกิดผลทุกเมื่อ ไม่มีขีดขั้น พระอริยสาวกทั้งหลายนั้น ฐานะเดิมก็เป็นมนุษย์ปุถุชนนี้เอง แม้องคมนตรีสมเด็จพระบรมศาสดาก็เช่นกัน มิใช่ เทวดา อินทร์ พรหม ที่ไหน แต่ที่เลื่อนขั้นสู่ ฐานะเป็นพระอริยะได้ ก็เพราะการปฏิบัติเท่านั้น แนวปฏิบัติอย่างไหนถูก พระองค์สอนไว้ละเอียดหมดแล้ว ปัญหาจึงเหลือแต่ว่าพวกเราจะปฏิบัติกันจริงหรือไม่เท่านั้น ฯ อ่านเพิ่มเติม