เมื่อหลวงตามหาบัวโปรดพ่อในนรก

เมื่อหลวงตามหาบัวโปรดพ่อในนรก

เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นประสบการณ์จริงของคุณนุ่นที่หลายคนอาจจะไม่เชื่อ
แต่ลองอ่านให้จบท่านอาจได้ข้อคิด อะไรหลายอย่างจากเรื่องนี้

เล่าที่มาของนุ่น

บ้านของนุ่นอยู่ในกรุงเทพฯ
ครอบครัวนุ่นจัดได้ว่าครอบครัวนุ่นมีฐานะครอบครัวหนึ่งเลยก็ว่าได้
แม่และน้าของนุ่นเป็นพวกชอบเข้าวัดทำบุญมาก โดยเฉพาะวัดป่าบ้านตาด
และสวนแสงธรรม
ตั้งแต่มีโครงการณ์ช่วยชาติ ของหลวงตาบัว
เข้าไปช่วยงานจนแทบจะเรียกว่าเป็นกิจกรรมหลักของชีวิตทีเดียว
ส่วน ตัวพ่อและนุ่น แทบไม่เคยเข้าวัดเลย พ่อเป็นพวกติดเหล้า
แต่ก็รักลูกมากจึงไม่ได้ไปกินเหล้านอกบ้าน
แต่กินในบ้านเพื่อจะได้อยู่กับลูก
และด้วยความ
สุดขั้วมาเจอกันทำให้พ่อและแม่นุ่นมีปากเสียงกันเป็นประจำ
โดยพ่อก็จะต่อว่าแม่และลามไปถึงหลวงตาบัวถึงขนาดเรียกหลวงตาบัวว่า
อีตาบัว
นุ่นเองนอกจากจะสนิทกับพ่อมากกว่าแม่แล้วยังเห็นว่า
แม่เอาแต่ทำบุญไม่สนใจพ่อและนุ่นเลย จึงเข้ากับพ่อเป็นปี่เป็นขลุ่ย
ทุกข์สุดในชีวิต
อ่านเพิ่มเติม

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เมตตามาโปรดในนิมิต

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เมตตามาโปรดในนิมิต

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐนนต์ สิปปภากุล

ปฐมกาล (นิทานธรรม)

…..กาลอันเป็นมงคลครั้งแรกของบุรุษผู้หนึ่ง ปรากฏขึ้นเมื่อได้มีโอกาสกราบนมัสการหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ณ สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งที่อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ก่อนที่ท่านจะละสังขารไม่ถึงปี การที่ได้กราบท่านในครั้งนั้น นับว่ามีความเป็นพิเศษมาก เพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้ใกล้ชิดท่าน เมื่อแรกที่ท่านลงจากรถตู้และกำลังครองผ้าจีวรอยู่นั้น บุรุษผู้นี้ได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า หากลูกมีบุญวาสนาพอที่จะได้เจริญรอยตามพ่อแม่ครูอาจารย์บ้าง ขอให้หลวงตาได้โปรดหันมามองที่ลูกด้วยเทอญ ทันใดนั้นหลวงตาท่านได้หันมามองหน้าทันทีทั้งที่เขานั่งอยู่ห่างมากพอสมควร จึงเป็นความปีติครั้งแรก

ต่อมาก่อนที่ท่านจะเดินทางกลับ บุรุษผู้นี้ก็ยังอธิษฐานจิตว่า ขอให้มีโอกาสได้สัมผัสผ้าเหลืองของพระอรหันต์ด้วยเถิด สุดท้ายเขาก็ได้ประคองหลวงตาขึ้นนั่งบนรถเข็น และได้สัมผัสทั้งผ้าเหลืองและกายเนื้อของท่าน ด้วยการประคองและจับขาของท่านวางบนที่วางเท้า นั่นนับว่าเป็นมงคลอันสูงสุดครั้งแรกในชีวิตของเขา

…..ต่อมา เมื่อหลวงตาได้ละสังขารแล้ว ขณะที่บุรุษผู้นี้กำลังนั่งภาวนาในตอนเช้าของวันหนึ่ง จิตได้ระลึกถึงองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน พลันจิตผุดขึ้นมาว่า อยากจะได้พระธาตุของท่านทั้งสองมาสักการะบูชา พอตอนสายของวันนั้น ปรากฏว่า คุณปรัชญา จิตต์ปรัชญา ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงตามหาบัว ได้อัญเชิญอังคารธาตุของหลวงตามหาบัวมาให้ถึงบ้าน ทั้งที่ไม่เคยพบกันมาก่อน ต่อมาอีกหนึ่งสัปดาห์บุรุษผู้นี้ก็ได้รับพระธาตุของหลวงปู่มั่นจำนวน 1 องค์ จากคุณศรุต จันทสกุลเดชา ซึ่งเป็นญาติธรรมที่กรุงเทพฯ และหลังจากนั้น 7 วัน พระธาตุของหลวงปู่มั่นก็ได้กลายเป็นผลึกใสคล้ายเพ็ชร พร้อมกับขยายขนาดใหญ่ขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์

อ่านเพิ่มเติม

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ช่วยคนให้พ้นนรกน้ำทองแดงเนื่องจากดื่มสุรา

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ช่วยคนให้พ้นนรกน้ำทองแดงเนื่องจากดื่มสุรา

กรกฎาคม 26, 2012 โดย ธ. ธรรมรักษ์

เรื่องเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องเล่าที่ถูกบันทึกในหนังสือของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน พระอริยสงฆ์แห่งวัดป่าบ้านตาด ซึ่งเป็นเรื่องของหญิงสาวคนหนึ่งที่ชื่อคุณนุ่นที่เธอยืนยันว่า คุณพ่อของเธอได้รับความช่วยเหลือจากหลวงตามหาบัวให้พ้นจากนรกได้

ตามประวัติแล้วครอบครัวของเธอนับได้ว่าเป็นคนที่ค่อนข้างมีฐานะ ซึ่งทั้งคุณแม่และน้าเป็นคนที่ชอบทำบุญมาก และมีความใกล้ชิดกับกิจกรรมต่างๆ ของวัดจนเรียกได้ว่ากิจกรรมในวัดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของคุณแม่และน้าของเธอเลยทีเดียว

แต่โดยส่วนตัวแล้วเธอและคุณพ่อนั้นแทบจะไม่เคยเข้าวัดไปทำบุญเลยเพราะยังไม่มีศรัทธา โดยเฉพาะพ่อของเธอนั้นติดสุราอย่างหนัก แต่ก็ยังยอมอยู่กับบ้านเพื่อที่จะได้อยู่กับคนในครอบครัว ด้วยความที่พ่อของเธอติดเหล้าและขาดสติบ่อย ทำให้ต้องทะเลาะกับภรรยาบางครั้งก็พาลไปจาบจ้วงถึงหลวงตามหาบัวด้วยการเรียกท่านด้วยความไม่เคารพว่า “อีตาบัว”
อ่านเพิ่มเติม

เทศน์กัณฑ์สุดท้ายหลวงตามหาบัว”หมดธุระ”-“เราจะไม่มาเกิดอีกแล้ว”

เทศน์กัณฑ์สุดท้ายหลวงตามหาบัว”หมดธุระ”-“เราจะไม่มาเกิดอีกแล้ว”

บทความทางพุทธศาสนา

ก่อน หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จะละสังขารในวันที่ 30 ม.ค.2554 เสียงเทศนา เทศนาโปรดฆราวาสช่วงหลังฉันเช้าของทุกวันเป็นเวลาต่อเนื่องมานานหลายปีแล้ว ได้เงียบหายไปก่อนนั้นแล้วกว่า 2 เดือน

มกราคม 2554 ท่านมิได้แสดงธรรมเลย

ธันวาคม 2553 หลวงตาออกโปรดญาติโยมที่วัดเขาใหญ่เจริญธรรมญาณสัมปันโน ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ในวันที่ 9 ธันวาคม 2553 แต่ก็มิได้เทศน์อะไรอีกแล้ว

พฤศจิกายน 2553 ท่านออกโปรดฐาติโยมที่วัดป่าเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์ (ผาแดง) ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 23พ.ย.2553 แต่ก็ไม่ได้เทศน์เสียแล้วมีแต่พูดคุยสอบถามอะไรเล็กๆน้อยๆเท่านั้น

ตรวจสอบกับเว็บหลวงตาดอทคอม เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของวัดป่าบ้านตาดพบว่า ในเดือนพฤศจิกายน หลวงตามหาบัวเทศน์อบรมฆราวาสครั้งสุดท้าย ณ วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2553 เทศนากัณฑ์นี้ชื่อ “ความดีงามทั้งหมดลงในธรรมธาตุ”
อ่านเพิ่มเติม

หลวงตามหาบัว ละสังขารแล้ว สิริอายุ 98 ปี

หลวงตามหาบัว ละสังขารแล้ว สิริอายุ 98 ปี

“หลวงตามหาบัว” ละสังขารแล้ว สิริอายุ 98 ปี

“หลวงตามหาบัว” แห่งวัดป่าเกสรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) ละสังขารแล้วเมื่อเวลา 03.53 น. สิริรวมอายุ 98 ปี หลังอาพาธด้วยอาการปอดติดเชื้อมาเป็นเวลานาน

วันนี้ (30 ม.ค.) เมื่อเวลา 04.30 น.ที่ผ่านมา คณะแพทย์และคณะศิษยานุศิษย์ของพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี แจ้งว่า หลวงตามหาบัวได้ละสังขารแล้วเมื่อเวลาประมาณ 03.53 น.ที่ผ่านมา หลังอาพาธต่อเนื่องด้วยอาการปอดติดเชื้อ สิริรวมอายุ 98 ปี โดยจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งในช่วงเช้าวันนี้

ทั้งนี้ หลวงตามหาบัวเข้ารับการรักษาอาการอาพาธ ณ โรงพยาบาลศิริราช มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามคำนิมนต์ของคณะแพทย์โรงพยาบาลศิริราช รวมทั้งโรงพยาบาลศรีนครินทร์จังหวัดขอนแก่น และโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ที่ได้ให้การรักษามาก่อนหน้านี้ ก่อนจะเดินทางกลับมาพักรักษาตัวที่วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ 3 มกราคม

http://watpa.dk/index.php?option=com_content&view=article&id=252:-98-&catid=1:latest-news&Itemid=72

หลวงตามหาบัวละสังขาร-คนเข้ากราบไหว้ล้นหลาม

หลวงตามหาบัวละสังขาร-คนเข้ากราบไหว้ล้นหลาม

30 ม.ค.54 – พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ได้ละสังขารเมื่อเวลา 03.53 น. ภายในห้องปลอดเชื้อกุฎิหลวงตา รวมศิริอายุ 97 ปี 5 เดือน 18 วัน 77 พรรษา ทั้งนี้ มีสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เฝ้าดูอาการพร้อมคณะแพทย์และลูกศิษย์อย่างใกล้ชิด ร่างหลวงตาถูกเคลื่อนจากห้องปลอดเชื้อ เข้าไปอยู่ห้องข้างๆ ซึ่งเป็นห้องพักของหลวงตา โดยมีกำหนดจะประกอบพิธี หลังจากพระฉันภัตราหารเช้าแล้ว จากนั้นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จกลับมาประทับอยู่เรือนรับรองในวัดป่าบ้านตาด เพื่อรอทรงบาตร ท่ามกลางพุทธศาสนิกชนที่ทราบข่าว ต่างหลั่งไหลกันมาที่วัดเป็นจำนวนมาก
อ่านเพิ่มเติม

พระธาตุหลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี

พระธาตุหลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี

1.พระอัฐิธาตุ
2.พระเกษาธาตุ
3.พระน้ำเหลืองธาตุ
4.พระน้ำที่เจาะออกจากปอดหลวงตาครั้งอาพาธเป็นเกร็ดแก้วเมื่อ 19 พ.ค. 54
5.พระอังคารธาตุ
6.พระชานหมากธาตุ
7.อาสนะหลวงตา

http://watyaiweb.igetweb.com/

ประวัติ หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด หน้า 3

ประวัติ หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด – ประวัติหลวงตามหาบัว หน้า 3

หน้า 3 จาก 3

ช่วยชาติ นับแต่ท่านบำเพ็ญกิจของสมณเพศ อันเป็นกิจสำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนาเรียบร้อยลงแล้ว ท่านก็หันมาให้การสงเคราะห์ด้านธรรมะแก่พระเณร-ฆราวาสมาโดยตลอด ควบคู่ไปกับการบริจาคช่วยเหลือด้านวัตถุสิ่งของ ทั้งจตุปัจจัยไทยทาน แก่ประโยชน์ส่วนรวมตลอด ๔๐ กว่าปีนับแต่ตั้งวัดป่าบ้านตาดขึ้นในปี ๒๔๙๘ ท่านเคยเล่าว่าหากจะนับเป็นมูลค่าน่าจะเป็นหมื่นล้านบาทขึ้นไป เพราะมีเท่าไรไม่เคยเก็บสั่งสมไว้ หากจะนำมาใช้จ่ายในวัดก็เพียงเล็กน้อยตามจำเป็นจริง ๆ เพราะไม่มีกิจการงานก่อสร้างอื่นใด มุ่งเน้นแต่งานด้านจิตภาวนามาโดยตลอด มีการเดินจงกรมนั่งสมาธิเป็นหัวใจสำคัญ สำหรับปัจจัยไทยทานส่วนใหญ่ จึงมุ่งออกช่วยเหลือโลกตลอดมา

ในยามปกติ ท่านก็ให้ความเมตตาสงเคราะห์สังคมชาติบ้านเมือง อยู่อย่างเต็มที่จริงจัง ดังกล่าวข้างต้นโดยย่อเป็นปกติอยู่แล้ว เมื่อถึงยามนี้ เกิดปัญหาหลายด้านหลายทาง ท่านจึงปรารภขึ้นอย่างจริงจังที่จะช่วยชาติไทย โดยช่วยเหลือด้านวัตถุเงินทองอุดหนุนชาติ ให้มีความแน่นหนามั่นคง ท่านว่าแม้การเสียสละช่วยเหลือดังกล่าว จะเป็นการช่วยเหลือปลายเหตุก็ตาม
อ่านเพิ่มเติม

ประวัติ หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด หน้า 2

ประวัติ หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด – ประวัติหลวงตามหาบัว หน้า 2

หน้า 2 จาก 3

ป่วย..แต่กาย คราวหนึ่งที่ท่านออกวิเวก ชาวบ้านป่วยเป็นโรคขัดหัวอก ล้มตายวันหนึ่ง ๆ จำนวนตั้งแต่ ๓-๘ คน เพราะหากใครเป็นโรคนี้แล้ว จะต้องตายภายใน ๒-๓ วันอย่างแน่นอน ท่านก็เมตตาสวด กุสลา มาติกา ให้คนตายที่ป่าช้า ชนิดไม่มีเวลาลุกไปไหน เพราะเดี๋ยวหามคนตายมาใหม่อีกแล้ว สักครู่ใหญ่ ก็หามมาใหม่อีกแล้ว กระทั่ง จู่ ๆ ท่านก็มาเป็นโรคเดียวกันนี้เข้าบ้าง ท่านจึงบอกชาวบ้านเพื่อขอหลบนั่งสมาธิภาวนา ต่อสู้กับทุกขเวทนาใหญ่นี้ด้วยธรรมโอสถ ด้วยการพิจารณาอริยสัจ ผลปรากฏว่าพิจารณาตก โรคหายเป็นปลิดทิ้งในเที่ยงคืนนั้นเอง

คืนแห่ง..ความสำเร็จ จากนั้นไม่นานท่านก็มุ่งสู่วัดดอยธรรมเจดีย์ (ปัจจุบันอยู่ อ.โคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร) เป็นช่วงพรรษาที่ ๑๖ ของท่าน บนเขาลูกนี้นี่เองของคืนเดือนดับแรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๖ (จันทร์ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓) เวลา ๕ ทุ่มตรง ท่านได้บรรลุธรรมด้วยความอดทนพากเพียร พยายามอย่างสืบเนื่องตลอดมา นับแต่วันออกปฏิบัติกรรมฐานอย่างเต็มเหนี่ยวรวมเวลา ๙ ปี

อ่านเพิ่มเติม

ประวัติ หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด หน้า 1

ประวัติ หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด

หน้า 1 จาก 3

ประวัติหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด

กำเนิด ในครอบครัวชาวนาผู้มีอันจะกิน ณ บ้านตาด อุดรธานี วันเกิด ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๕๖ นามว่า บัว โลหิตดี พี่น้องทั้งหมด ๑๖ คน สมัยเด็ก เคารพเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา โดยได้รวยทำบุญตักบาตรกับผู้ใหญ่อยู่เสมอ วัยหนุ่ม เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว ขยันขันแข็ง ทำงานอะไรทำจริงๆ จังๆ เป็นที่ไว้วางใจของพ่อแม่ในการงานทั้งปวง คู่ครอง เดิมไม่เคยคิดจะบวช เพราะอยากมีครอบครัว แต่มักมีอุปสรรคให้แคล้วคลาดทุกทีไป

เหตุที่บวช เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี พ่อแม่ขอร้องให้บวชตามประเพณีอยู่หลายครั้ง ท่านก็ทำเฉย ๆ ตลอดมา ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธแต่อย่างใด ในครั้งสุดท้ายนี้ ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า หวังพึ่งใบบุญจากการบวชของลูกให้ได้ ถึงกับทำให้พ่อแม่น้ำตาร่วง ครั้งนี้ท่านรู้สึกสะเทือนใจและเห็นใจพ่อแม่มาก จึงตัดสินใจ และยอมบวชตามประเพณี เพื่อตอบแทนพระคุณพ่อแม่ โดยตั้งใจไว้ในตอนต้นนี้ว่า จะบวชเพียงระยะสั้น ๆ เท่านั้น

วันบวช ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๗ ณ วัดโยธานิมิตร อุดรธานี พระอุปัชฌาย์ ชื่อ ท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์(จูม พันธุโล) วัดโพธิสมภรณ์ คารพพระวินัย ด้วยเดิมมีนิสัยจริงจัง จึงบวชเพื่อเอาบุญกุศลจริง ๆ และตั้งใจรักษาสิกขาบทวินัยน้อยใหญ่อย่างเคร่งครัด ในพรรษาแรกท่านได้ตั้งสัจอธิษฐานว่า ในการทำวัตรเช้า-เย็นรวมและการบิณฑบาต จะไม่ให้มีวันใดขาดเลย และท่านก็ทำได้ตามที่ตั้งคำสัตย์ไว้

อ่านเพิ่มเติม

วัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

วัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

 วัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ตั้งอยู่ที่ บ้านพุไม้แดง ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค พระราชญาณวิสุทธิโสภณ (ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน) แห่งวัดป่าบ้านตาด อุดรธานี ได้รับการถวายที่ดินบริเวณบ้านพุไม้แดง ตำบลสิงห์ กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2537 เพื่อสร้างเป็นวัดป่าสถานที่ปฏิบัติธรรม ต่อมาท่านได้มีพระบัญชาให้ พระอาจารย์ภูสิต (จันทร์) ขันติธโร ได้จัดตั้งเป็นวัดและฟื้นฟูสภาพป่าโดยรอบให้เป็นที่อาศัยของสัตว์มากมายหลายชนิด

 สิ่งสำคัญในวัดประกอบด้วย
 ศาลาเมตตาท่านเจ้าคุณมหาบัว ญาณสัมปันโน 84 ปี เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปทองคำน้ำหนัก 80 กิโลกรัม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระพุทธกาญจนาภิเษก

 ถ้ำภาวนา อยู่บริเวณเนินเขาในบริเวณวัด เป็นที่ปฏิบัติธรรมของพระภิกษุและฆราวาส ในถ้ำเย็นและเงียบสงบ

 หลวงพ่อพุดซ้อน เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิองค์ใหญ่ ประดิษฐานอยู่ระหว่างภูเขาสองลูกทางทิศตะวันตกของวัด

 ต้นโพธิ์ปฐมฤกษ์ หลวงตามหาบัวได้ปลูกไว้เมื่อปี 2538 ในคราวที่เดินทางมาเยี่ยมวัดครั้งแรก
อ่านเพิ่มเติม

ศิษย์นับหมื่นร่วมงาน 100 ปีชาตกาลบูชาคุณหลวงตามหาบัว

ศิษย์นับหมื่นร่วมงาน 100 ปีชาตกาลบูชาคุณหลวงตามหาบัว

คณะศิษยานุศิษย์ นับหมื่นร่วมในงานสมโภชวันครบรอบ 100 ปี ชาตกาลบูชาพระคุณ พระธรรมสิทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) และร่วมขบวนแห่รูปเหมือนหลวงตามหาบัวฯ ในโอกาสนี้ช้างจากสุรินทร์ 2 เชือกร่วมในขบวนแห่ด้วย

วันนี้ (11 ส.ค.56) ที่บริเวณ พระบรมธาติเจดีย์ วัดโพธิสมภรณ์ พระอารมหลวง อ.เมือง จ.อุดรธานี คณะศิษยานุศิษย์ของหลวงตามหาบัวฯ ได้ร่วมทำบุญตักบาตรในงานสมโภชวันครบรอบ 100 ปี ชาตกาลบูชาพระคุณ พระธรรมสิทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) จากนั้นคณะศิษย์ได้เคลื่อนรูปเหมือนของหลวงตามหาบัวฯ จากวัดโพธิสมภรณ์ไปยังวัดป่าบ้านตาด ในโอกาสนี้ช้างจำนวน 2 เชือกจาก จ.สุรินทร์ที่มีงาสวยงามทั้ง 2 ตัวได้มาร่วมในขบวนด้วย ส่วนริ้วขบวนที่มีความยาวกว่า 5 กิโลเมตรประกอบด้วยริ้วขบวนรูปเหมือนของหลวงตามหาบัวฯ ขบวนอัฐิบริขาร ชีวประวัติของหลวงตามหาบัว ขบวนแห่โครงการช่วยชาติของหลวงตามหาบัวฯขบวนเกียรติยศจากทหาร ตำรวจ พยาบาล และนักเรียน นักศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่างๆ และขบวนศิษยานุศิษย์ขององค์หลวงตามหาบัวฯ จากทั่วประเทศนับหมื่นคนที่เดินทางมาร่วมงาน
อ่านเพิ่มเติม

สุดยอดเคล็ดฝึกจิต หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน.

สุดยอดเคล็ดฝึกจิต หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน.

การฝึกจิตทุกคนให้ใช้ปัญญานะ อย่าสักแต่ว่าทำสุ่มสี่สุ่มห้า ให้ใช้สติปัญญาพิจารณาเหตุผลของตัวเองที่บำเพ็ญไปเป็นยังไงต่อยังไงให้เทียบ นี้ได้พิจารณามาตลอดดังที่เคยพูดให้ฟัง จิตเจริญแล้วเสื่อมๆ มันเป็นยังไง ปีกับห้าเดือนเราก็ไม่ลืม คือมันเป็นอย่างนั้นแล้วมันสดๆ ร้อนๆ นะ ทุกข์ที่สุดผู้ที่มีสมาธิภาวนาแล้วจิตเสื่อมลงไปนี้ ทุกข์มากยิ่งกว่าคนที่เขาไม่เคยภาวนานะ คือมันเห็นผลเป็นที่พอใจแล้ว เหมือนว่าเราได้เงินเป็นล้านๆๆ นะ ทีนี้มาเสื่อมไปหมดเลยไม่มีอะไรติดเนื้อติดตัว เหมือนเขามีเงินเป็นล้านๆ ล่มจมไปด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง แม้จะมีเงินอยู่ในบ้านในเรือนเป็นหมื่นเป็นแสนก็ไม่มีความหมาย จิตมันไปเกาะอยู่กับสมบัติที่ล่มจมไปนั้นเป็นกองทุกข์มาก

ทีนี้ภาวนาของเราก็เหมือนกัน เวลาจิตเสื่อมนี้ไม่มีอะไรในตัว หมดเนื้อหมดตัว มีแต่กองทุกข์สุมอยู่ทั้งวันทั้งคืน พยายามตั้งขึ้นๆ ๑๔-๑๕ วัน ตั้งขึ้นได้เพียงสองคืนแล้วเสื่อมลงต่อหน้าต่อตา เสื่อมลงอย่างอุตลุดเลยไม่ได้ฟังเสียงใคร จึงเอามาทดสอบดู เอ๊ะ มันเป็นยังไง เราก็พยายามดันขึ้น ไปถึงนั้นแล้วเสื่อมลงต่อหน้าต่อตา เป็นอย่างนี้มาได้ปีกับห้าเดือน ทุกข์มากที่สุดนะ คนผู้มีจิตเจริญแล้วเสื่อมนี้ทุกข์มากที่สุด ยิ่งกว่าเขาไม่เคยภาวนานะ คือมันเคยเห็นรายได้มาแล้ว มันไปล่มจมเอาเสียด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง ดังที่กล่าวตะกี้นี้ว่าเหมือนเขามีเงินล้านนั่นละ ไปล่มจมเอาเสียทุกข์มากนะ คนนี้ทุกข์มากยิ่งกว่าตาสีตาสาหากินอยู่ตามท้องนาเป็นไหนๆ
อ่านเพิ่มเติม

เทศน์อบรม-ให้สัมภาษณ์หนังสือนิตยสาร “ดิฉัน”

เทศน์อบรม-ให้สัมภาษณ์หนังสือนิตยสาร “ดิฉัน”

(โดย คุณหญิงทิพยวดี ปราโมช ณ อยุธยา)

ที่กุฏิหลวงตา ณ วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี

เมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๑ (เย็น)

ตอบข้อข้องใจ

หมอในเมืองกับหมอบ้านนอกนี่ต่างกันอยู่มากนะ พวกหมอบ้านนอกส่วนมากช่วยคนไข้จริง ๆ คนไข้วิ่งเข้าไปหานี่ จะทำไง ก็ต้องช่วยรักษาเขาเต็มไม้เต็มมือ เวลารักษาแล้วเขาไม่มีเงินให้ก็ต้องปล่อยไป ๆ แต่หมอในเมืองไม่เป็นอย่างนั้นนะ

หมอประเภทนี้กินไปเรื่อยเสียก่อนนะ กินไปเรื่อย พอเสร็จแล้วหยูกยานี้เท่าไรเป็นเงินสักเท่าไร รีดเอา ๆ แหลก ๆ นี่ละหมอในเมืองกับหมอบ้านนอกต่างกันอย่างนี้ นี้เป็นหลักความจริงเราไม่หาเรื่องอุตริ เรื่องของมันเป็นอย่างนี้ เลยหมอทุกวันนี้กลายเป็นปอบเป็นผีไป พอเห็นคนไข้เข้ามาโรงพยาบาลแล้ว ว่าวันนี้อาหารว่างเกิดแล้ว เป็นลักษณะนั้นนะ ไม่ได้มีความเมตตาอะไรทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นใครจึงอยากจะเป็นหมอ ๆ เพราะมันเป็นหมาได้ง่าย รีดขูดกินตลอดเวลาไม่มีสนใจในเรื่องอรรถเรื่องธรรมเลย

เวลานี้จิตใจของหมอนี้เหือดแห้งมากที่สุด เราพูดจริง ๆ ตรงไปตรงมานี้ เราเคยพูดกับหมออย่างนี้เหมือนกัน ถ้าเราจะพูดแล้วไม่มีสะทกสะท้าน เราจะต้องพูดไปตามเหตุตามผลหลักเกณฑ์เท่านั้น อรรถธรรมเป็นอย่างนั้น ธรรมไม่ได้พูดอ้อมแอ้ม ๆ ต้มตุ๋นหลอกลวงเก่ง ๆ นั้นเรื่องกิเลสสกปรกหาความสะอาดไม่ได้ ประดับประดาหน้าร้านให้สวยงาม ข้างในมีแต่ขี้หมูราขี้หมาแห้ง แต่สำหรับธรรมแล้วตรงไปตรงมา เป็นภาษาที่สะอาด ภาษาตรงไปตรงมาคือภาษาธรรม ภาษากิเลสนี้สกปรกมากที่สุด

เวลานี้โลกเต็มไปด้วยกิเลส เพราะฉะนั้นมันถึงสกปรก ไปที่ไหนมีแต่ความเดือดร้อนเต็มบ้านเต็มเมืองหาความสุขไม่ได้ ใครอยู่ที่ไหน ๆ ใครอย่าว่ามีความสุขนะ หาความสุขไม่ได้ มันประดับประดาร้านเฉย ๆ ทางจิตใจมันเป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้กันด้วยความโลภ ราคะตัณหา ความโกรธ เต็มไปอยู่ในหัวใจ บีบบังคับอยู่นั้นเอาความสุขมาจากไหนคนเรา
อ่านเพิ่มเติม

คติธรรม – คำสอนหลวงตามหาบัว

คติธรรม – คำสอนหลวงตามหาบัว

“ถ้าทำด้วยความระมัดระวัง ความบกพร่องแม้มีก็ไม่มาก ฉะนั้นสติจึงสำคัญและมาอันดับหนึ่ง
ปัญญามาที่สอง การทำบุญตักบาตรเป็นความดี เป็นบุญแก่จิตใจ เมื่อมีโอกาสพอทำได้เมื่อไร
จึงควรทำเสมอ”

“ไปที่ใหนก็อย่าลืมพุทโธภายในใจ ให้พุทโธ ๆ เสมอไป ใจจะสงบเอง เป็นสุขอยู่กับตัว
ตลอดกาลสถานที่”

“การระวังตัวเองนั้นถูกต้องแล้ว ส่วนมากมักระวังแต่ผู้อื่น สิ่งอื่น ไม่ย้อนมาระวังตัวเอง
ซึ่งเป็นตัวการสำคัญบ้างเลย จึงมักผิดพลาดอยู่บ่อย ๆ ธรรมะท่านสอนให้ดูตัวเอง ระวังตัวเอง
จะได้เห็นความบกพร่องของตัวเองแล้วแก้ไขไปเรื่อย ๆจนสมบูรณ์ได้ จึงขออนุโมทนาด้วยนะ”

“ใจเราถ้าเฝ้าสังเกตดูอยู่โดยสม่ำเสมอกับการประกอบกิจทั้งปวง ย่อมจะมีวันรอบคอบไปด้วย
กับงาน ไม่บกพร่องทั้งใจและงาน จนกลายเป็นความเคยชินต่อการระวังรักษา”

“การไปทำบุญปกติย่อมไม่ขาดทุน มีแต่ได้กำไรทางจิตใจโดยถ่ายเดียว”

http://www.buddhaknowledge.org/th/?

บทสวดมนต์บูชาธาตุขันธ์หลวงตามหาบัว

บทสวดมนต์บูชาธาตุขันธ์หลวงตามหาบัว

1
การสวดมนต์ ของหลวงปู่มั่นนั้น ท่านสวดมาก สวดนานเป็นชั่วโมงๆ และสวดเป็นประจำทุกคืนมิได้ขาด สูตรยาวๆ เช่น ธรรมจักร (ธัมมจักรกัปปวัตตนสูตร) และมหาสมัย ท่านสวดเป็นประจำ ในกรณีพิเศษ เช่น เมื่อคราวท่านกับหลวงปู่เสาร์ไปวิเวกที่ท่าแขก ฝั่งประเทศลาว และชาวบ้านเกิดโรคฝีดาษกันทั้งหมู่บ้าน ท่านแผ่เมตตาใหญ่ในรอบ ๒๔ ชั่วโมงต่อ ๓ ครั้ง คือ เวลากลางวัน ตอนบ่ายขณะนั่งภาวนาครั้งหนึ่ง ตอนก่อนนอนครั้งหนึ่ง ตอนตื่นนอนครั้งหนึ่ง ส่วนการแผ่เมตตาปลีกย่อยประจำนิสัยนั้น มิได้นับอ่านว่าวันหนึ่งกี่สิบครั้ง และท่านกล่าวถึงอานุภาพของการสวดมนต์ไหว้พระว่า พุทธมนต์นั้นใครสวดก็ตามจะเป็นกิจวัตรของพระสงฆ์ เช้า-เย็น หรือชาวพุทธทุกคนสวดพุทธคุณ:
• ระลึกในใจ มีอานุภาพแผ่ไปได้หมื่นจักรวาล
• พูดหรือออกเสียงพอฟังได้ มีอานุภาพแผ่ไปได้แสนจักรวาล
• สวดมนต์เช้า-เย็นธรรมดา มีอานุภาพแผ่ไปได้แสนโกฏิจักรวาล
• สวดเต็มเสียง สุดกู่ มีอานุภาพแผ่ไปได้อนันตจักรวาล
• แม้สัตว์ที่อาศัยอยู่ในสามภพและที่สุดอเวจี มหานรก ยังได้รับความสุข
เมื่อแว่วเสียงพุทธมนต์ ผ่านลงไปชั่วขณะหนึ่งครู่หนึ่ง ดีกว่าหาความสุขไม่ได้เลยตลอดกาล (จาก“ประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ” โดยหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน “รําลึกวันวาน”โดยหลวงตาทองคํา จารุวฺณโณ)
อ่านเพิ่มเติม

วิธีพิสูจน์จิตและพระพุทธศาสนา หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน

วิธีพิสูจน์จิตและพระพุทธศาสนา หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน

โอวาท
บรรยายแก่พระนวกะ วัดบวรนิเวศวิหาร พระนคร
เมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๔

วิธีพิสูจน์จิตและพระพุทธศาสนา

ตามที่ได้รับเชิญให้มาบรรยายในวันนี้ จะแสดงในแนวปฏิบัติจิตใจมากกว่าทางอื่นเพื่อท่านที่สนใจทางด้านจิตตภาวนา จะได้นำไปปฏิบัติตามหลักภาวนาซึ่งมีหลายแขนงด้วยกัน ตามแต่จริตนิสัยของผู้ศึกษาอบรมจะเลือกเอาตามใจชอบ

ศาสนามีส่วนเกี่ยวข้องสำหรับการปกครอง ทั้งทางโลกและทางธรรม โลกมีอยู่หลายโลกด้วยกัน คือโลกแห่งมนุษย์ โลกแห่งสัตว์และโลกแห่งเทวดา มาร พรหมต่างๆ ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก ท่านแสดงไว้เพียงสามโลก คือกามโลก รูปโลก และอรูปโลก จะเป็นสัตว์ประเภทใดก็ตามที่ตกอยู่ในภูมิที่ควรสงเคราะห์เข้าในโลกสาม โลกใดโลกหนึ่ง ท่านก็สงเคราะห์เข้าในโลกนั้น ในที่นี้จึงไม่ขออธิบายไปมากเพื่อให้เหมาะกับเวลาที่มีจำกัด
พระพุทธเจ้าพระองค์เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ก่อนที่จะเป็นศาสดาได้ ก็ทรงศึกษาธรรมในหลักธรรมชาติอยู่ถึง ๖ ปี ระยะเวลาที่ทรงศึกษาและปฏิบัติอยู่นั้น ทราบว่าทรงศึกษาอย่างแท้จริงทั้งการศึกษาและการปฏิบัติ ผิดหรือถูกย่อมกระทบกระเทือนสุขภาพทางพระกายและพระทัย ให้ได้รับทุกข์ลำบากเช่นเดียวกัน หากพระองค์จะทรงย่อท้อในการศึกษาและปฏิบัติธรรมเสีย แต่เวลาได้รับความลำบากทรมาน ก็คงเอาชนะกิเลสภายในพระทัยจนกลายเป็นศาสดานำศาสนามาสั่งสอนโลกไม่ได้ อ่านเพิ่มเติม

มิจฉาสมาธิ-สัมมาสมาธิ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

มิจฉาสมาธิ-สัมมาสมาธิ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

มิจฉาสมาธิ-สัมมาสมาธิ

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

เทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๐๕

เราเป็นนักบวชและเป็นผู้งดเว้นทุกอย่าง บรรดาที่เป็นข้าศึกต่อตนเองและส่วนรวม ท่านจึงให้นามว่า นักบวช แปลว่า ผู้งดเว้น คำว่า เว้น ในที่นี้หมายความว่า เว้นสิ่งที่เป็นข้าศึกที่จะทำให้เราเสีย จงสังเกตคำว่า นัก ถ้าขึ้นหน้าด้วยคำว่า นัก แล้วต้องเลื่องลือ เช่นคำว่านักเลง นักปล้นจี้ เป็นต้น ต้องเป็นคนเสียหายอย่างลือนาม ถ้าเป็นทางดี เช่น นักปราชญ์ นักบวช นักปฏิบัติ ย่อมเป็นไปเพื่อความดีเด่นเป็นส่วนมาก เฉพาะที่นี่จะอธิบายเกี่ยวกับนักบวช ซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่งดเว้นสิ่งที่เป็นอกุศล และบำเพ็ญสิ่งที่เป็นกุศล คือความฉลาดเข้าให้มากเท่าที่จะมากได้ จนพอตัวแล้วก็ข้ามอุปสรรคคือกองทุกข์เสียได้ เพราะฉะนั้น เราทุกท่านบัดนี้ได้ทราบแล้วว่าเราเป็นนักบวช โลกก็ให้นามว่าเป็นนักบวช จงทำความรู้สึกในเพศของตนตลอดเวลาและทุกๆ อาการที่เคลื่อนไหวทางกาย วาจา ใจ

เราบวชในพระศาสนามีพระโอวาทเป็นเครื่องปกครอง พระโอวาทมีทั้งรั้วกั้น มีทางเดิน รั้วกั้น คือพระวินัย ปรับโทษแห่งความผิดไว้เป็นชั้น ๆ อย่างหนักก็มี อย่างกลางก็มี อย่างเบาก็มี นี่คือรั้วกั้นทางผิดไม่ให้ปลีกออก และเปิดทางที่ถูกไว้คือพระธรรมเพื่อดำเนินไปสู่จุดประสงค์ที่มุ่งหวัง พระวินัยเป็นรั้วกั้นสองฟากทาง ถ้าแยกออกไปแล้วแสดงว่าผิด แยกออกน้อยก็ผิดน้อย แยกออกมากก็ผิดมาก แยกออกไปจนถึงไม่กลับเข้าสู่ทางเลย ก็แสดงว่าผิดไปเลย เหมือนคนหลงทาง ถ้าหลงน้อยก็วกกลับเข้ามาได้เร็ว ถ้าหลงมากก็ทำให้เสียเวลานาน ยิ่งหลงไปเสียจริง ๆ ก็ไม่มีโอกาสจะถึงจุดประสงค์
อ่านเพิ่มเติม

สมถธรรม-วิปัสสนาธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโณ

สมถธรรม-วิปัสสนาธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโณ

เทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๒

ปฏิปทาเครื่องดำเนินที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์มั่นพาดำเนินมา ไม่ว่าทางด้านธรรมด้านวินัย เป็นความถูกต้องดีงามทุกสิ่งทุกอย่าง เท่าที่ได้ไปอยู่กับท่านและสังเกตเต็มสติกำลังความสามารถของตนเรื่อยมา จนกระทั่งวาระสุดท้ายที่ท่านจากไป เป็นสิ่งที่ให้ดูดดื่มทั้งหลักธรรมหลักวินัยที่ท่านพาดำเนินไม่ให้ผิดเพี้ยนไปได้เลย

เฉพาะอย่างยิ่งพระวินัยท่านรักษาอย่างเข้มงวดกวดขัน ไม่ปรากฏว่าท่านได้ล่วงเกินพระวินัยข้อใดเลย นับแต่อาบัติทุกกฏขึ้นไปจนกระทั่งถึงสุดของพระวินัย ท่านเก็บหอมรอมริบเอาไว้หมด สมกับท่านเคารพพระพุทธเจ้าศาสดาองค์เอกอย่างแท้จริง ส่วนธรรมท่านก็ดำเนินด้วยความถูกต้องดีงาม

การฝึกอบรมบรรดาลูกศิษย์ท่านไม่ได้ถือเป็นแบบเดียว ในบรรดาธรรมะที่จะนำมาสั่งสอนบรรดาลูกศิษย์นั้น ย่อมมีหลายแง่หลายกระทง เช่นเดียวกันกับที่ท่านแสดงไว้ในกรรมฐาน ๔๐ นั่นคือท่านไม่ผูกมัดหรือไม่ผูกขาด ไม่บังคับบัญชาให้กำหนดเฉพาะธรรมบทใดก็ตามที่ท่านดำเนินมาแล้ว และให้เพื่อนฝูงดำเนินตามแบบของท่านโดยถ่ายเดียวเท่านั้นไม่ปรากฏ

ท่านแสดงเป็นกลาง ๆ ในบรรดาธรรมทั้งหลาย เช่น สมถธรรมที่อยู่ในห้องกรรมฐาน ๔๐ ท่านก็แสดงเป็นกลาง ๆ ไป แล้วก็มอบให้เป็นไปตามอัธยาศัยของผู้บำเพ็ญจะนำธรรมบทใดเข้าไปบริกรรมภาวนาก็ได้ เมื่อธรรมบทนั้นเห็นว่าเหมาะสมกับจริตนิสัยของตน แล้วได้ผลขึ้นมาในเวลาภาวนาด้วยความตั้งใจจริงจัง ท่านก็ให้พึงยึดธรรมบทนั้นไว้เป็นหลักเป็นเกณฑ์
อ่านเพิ่มเติม

ขันธ์ ๕ ต่างหากจากจิต หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโณ

ขันธ์ ๕ ต่างหากจากจิต หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโณ

เทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๒๑

สิ่งภายนอก คือ รูป เสียง กลิ่น รส เครื่องสัมผัสต่างๆ มีอยู่ทั่วไปตลอดเวลาเมื่อมีสิ่งรับทราบกัน สิ่งเหล่านั้นจะสัมผัสสัมพันธ์ไม่ขาดวรรคขาดตอนกับสิ่งภายในคือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ความมีสติ มีปัญญาเครื่องพิสูจน์กลั่นกรองกับสิ่งที่มาสัมผัสย่อมได้อุบายขึ้นมาเรื่อยๆ ท่านเรียกว่าฟังเทศน์ เมื่อสิ่งเหล่านั้นมาสัมผัสสัมพันธ์กับตัวเราย่อมเป็นการปลุกความรู้สึกขึ้นมา เมื่อจิตใจมีความตั้งมั่นต่อเหตุผลหรืออรรถธรรมอยู่แล้ว ก็ทราบได้ทั้งสิ่งดีและชั่วที่มาสัมผัส การพิจารณาตามนั้นเรียกว่าเรียนธรรม ปฏิบัติธรรม การเกิดข้อข้องใจขึ้นมาก็เกิดจากสิ่งเหล่านั้น

การพิจารณาแก้ไขข้อข้องใจจนปลดเปลื้องตนไปได้ ก็อาศัยปัญญาพิจารณาให้ถูกทางตามหลักธรรมที่ท่านสอนไว้ จนผ่านพ้นไปได้เป็นพักๆ เป็นตอนๆ เรื่อยไปเรียกว่า เรียนความจริง ไม่ใช่เรียนให้เป็นความจำ เรียนเป็นความจำก็อย่างเราเรียนเราท่องตำรับตำราต่างๆ เรียกว่าเรียนเพื่อจำ นี้เรียนเพื่อความจริง คือ ความรู้จริงเห็นจริงตามหลักธรรมชาติที่เป็นจริงซึ่งมีอยู่ทั้งภายนอกภายใน
อ่านเพิ่มเติม

. . . . . . .