ประวัติหลวงปู่ทวด(เหยียบน้ำทะเลจืด)

ประวัติหลวงปู่ทวด(เหยียบน้ำทะเลจืด)

สืบเนื่องจากข้าพเจ้าได้มีโอกาสรู้จักสำนักปู่สวรรค์ จากการได้ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ สำนักปู่สวรรค์เมื่อสามปีมาแล้ว ได้อ่านหนังสือและศึกษาเรื่องราวความเป็นมาของสำนักปู่สวรรค์ ที่ก่อตั้งโดย ท่านอาจารย์สุชาติ โกศลกิติวงศ์ ได้เห็นถึงความตั้งใจ ความมุ่งมั่น และ ความเพียรอันยิ่งยวด ที่ท่านได้เสียสละตนเพื่อพระศาสนาและประเทศชาติ ท่านได้ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ เพื่อให้โลกเกิดสันติภาพ โดยให้ประชาชาติทั้งหลายได้เข้าถึงความดีงามอันสูงสุดของแต่ละศาสนาที่ตนนับถือ เพื่อให้โลกได้เกิดความสงบอย่างแท้จริง อีกทั้งได้เห็นถึงพระเมตตาของพระโพธิสัตว์ หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด และ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต ) พรหมรังสี ที่มีความเป็นห่วงมวลมนุษย์และประเทศชาติที่อยู่ในช่วงกลียุคขณะนั้น ( ลัทธิคอมมิวนิสต์กำลังแผ่อิทธิพล และ เกิดสงครามอินโดจีนในประเทศเพื่อนบ้าน ) เทพพรหมเบื้องบน จึงได้มีมติให้จัดตั้งสำนักปู่สวรรค์ขึ้นในโลกมนุษย์ อ่านเพิ่มเติม

หลวงปู่ทวด 5 แชะ พ่อท่านแดง

หลวงปู่ทวด 5 แชะ พ่อท่านแดง

วัดศรีมหาโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด วัดช้างให้ เป็นสุดยอดพระสงฆ์ไทยที่เปี่ยมด้วยบารมีอันสูงส่งและความศักดิ์สิทธิ์อันเหลือประมาณ ที่ปัจจุบันยังส่งผลให้ผู้ที่เคารพนับถือได้รับทั้งเมตตามหานิยม ทั้งแคล้วคลาดปลอดภัย ทั้งคงกระพันชาตรี

จากคำบอกกล่าวและเล่าสืบกันมารวมทั้งจิตที่สามารถติดต่อกับองค์ท่าน พอทราบได้ว่าสมัยที่ท่านยังครองสังขารมีชีวิตอยู่นั้นมีสหธรรมิกร่วมออกธุดงค์หลายท่าน ซึ่งล้วนมีชื่อเสียงกิตติคุณและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวปักษ์ใต้มาทุกยุคสมัย

หลวงพ่อทวดสิทธิชัย สถิต ณ วัดทรายขาว, หลวงพ่อทวดบุญญฤทธิ์ สถิต ณ วัดศรีมหาโพธิ์, หลวงพ่อทวดหนอน สถิต ณ วัดมะรวด, หลวงพ่อทวดเภา สถิต ณ วัดบ้านดี

สำหรับหลวงพ่อทวดบุญญฤทธิ์ หนึ่งในสหธรรมิกของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด พระเครื่องของท่านที่สร้างโดย “หลวงพ่อแดง สุนทโร” เมื่อปีพ.ศ.2518 ได้รับความนิยมสูง เป็นที่หวงแหนของคนที่ครอบครองกันอย่างมาก เพราะมีประสบการณ์เป็นเยี่ยม ห้วงนี้มาแรง!!!
อ่านเพิ่มเติม

คาถาหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

คาถาหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

ให้ท่านบูชา ธูปแขก 9 ดอก มะลิขาว 9 ดอก ตั้งนะโม 3 จบ แล้วระลึกถึงท่านขอบารมีต่างๆ ที่ต้องการแล้วสวดพระคาถาดังนี้
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา ( 3 จบ )

ท่อง 3-11 จบ
เประมัง ธัมมัง สังฆัง
ปุระมัง ธัมมัง สังฆัง
ปรมัง ธัมมัง สังฆัง
เสสัง ธัมมัง สังฆัง กริยานัง อัตโน โหตุ.

บทสวดแผ่เมตตา
สัตว์ทั้งหลาย
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
จงไปสู่ภพภูมิที่ดีที่ชอบเถิด

http://th.wikisource.org/wiki/

ประวัติการสร้างพระเครื่องหลวงปู่ทวด วัดช้างให้

ประวัติการสร้างพระเครื่องหลวงปู่ทวด วัดช้างให้

กำเนิดพระเครื่องหลวงปู่ทวด ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ.2497 “หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด”เจ้าอาวาสองค์แรกของวัดช้างให้ได้ประทานนิมิตอัน เป็นมงคลยิ่งแก่ นายอนันต์ คณานุรักษ์ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ห่างจากวัดประมาณ 31 กิโลเมตร ให้สร้างพระเครื่องรางเป็นรูปภิกษุชรา ขึ้นแท่นองค์ของท่าน นายอนันต์นมัสการพร้อมทั้งปรึกษาท่านอาจารย์ทิม และเตรียมงานสร้างพระเครื่องในวันที่ 19 มีนาคม 2497 ตรงกับวันศุกร์ขึ้น 15 ค่ำเดือน 4 เวลาเที่ยงตรง ได้ฤกษ์พิธีปลุกเสกเบ้าและพิมพ์พระเครื่องหลวงพ่อทวดเรื่อยมาทุก ๆ วัน จนถึงวันที่ 15 เมษายน 2497 พิมพ์พระเครื่อง”หลวงพ่อทวด”รุ่นแรกได้ 64,000 องค์ ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจจะพิมพ์ให้ได้ 84,000องค์ แต่เวลาจำกัดในการพิธีปลุกเสก ก็ต้องหยุดพิมพ์พระเครื่องเพื่อเอาเวลาเตรียมงานพิธีปลุกเสกพระเครื่องหลวงปู่ทวดตาม เวลาที่หลวงพ่อทวดกำหนดให้พระครูปฏิบัติ และแล้ววันอาทิตย์ ที่ 18 เมษายน 2497 ขึ้น 15 ค่ำเวลาเทียงตรงได้ฤกษ์พิธีปลุกเสกพระเครื่องหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ ณ เนินดินบริเวณอุโบสถเก่า โดยมีท่านอาจารย์ทิมเป็นอาจารย์ประธานในพิธีและนั่งปรกได้อาราธนาอัญเชิญพระ วิญญาณหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดพร้อมวิญญาณหลวงพ่อสี หลวงพ่อทอง และหลวงพ่อจัน ซึ่งหลวงพ่อทั้งสามองค์นี้สิ่งสถิตอยู่รวมกับหลวงพ่อทวดในสถูปหน้าวัดขอ ให้ท่านประสิทธิ์ประสาทความศักดิ์สิทธิ์ความขลังแด่พระเครื่องฯ นอกจากนั้นก็มี หลวงพ่อสงโฆสโก เจ้าอาวาสวัดพะโคะ พระอุปัชฌาย์ดำ วัดศิลาลอง พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์อาวุโส ณ วัดช้างให้ ร่ายพิธีปลุกเสกพระเครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เสร็จลงในเวลา 16.00 น. ของวันนั้นท่านอาจารย์ทิมพร้อมด้วยพระภิกษุอาวุโสและคณะกรรมการวัดนำทีมโดย นายอนันต์ คณานุรักษ์ ได้ร่วมกันทำการแจกจ่ายพระเครื่องหลวงพ่อทวดให้แก่ประชาชนผู้เลื่อมใสซึ่งมา คอยรอรับอยู่อย่างคับคั่งจนถึงเวลาเทียงคืนปรากฏว่าในวันนั้น คือ วันที่ 18 เมษายน 2497 กรรมการได้รับเงินจากผู้ใจบุญโมทนาสมทบทุนสร้างอุโบสถเป็นจำนวนเงิน 14,000 บาท หลังจากนั้นมาด้วยอำนาจบุญบารมีอภินิหาร”หลวงพ่อทวด”ได้ดลบรรดาลให้พี่น้อง หลายชาติหลายภาษาร่วมสามัคคีสละทรัพย์โมทนาสมทบทุนสร้างอุโบสถดำเนินไป เรื่อยๆ มิได้หยุดหยั่งจนถึงวันที่ 19 สิงหาคม 2499 ได้จัดพิธียกช่อฟ้าและวันที่ 31 พฤษภาคม 2501 ได้ทำพิธีผูกพัทธสีมาอุโบสถหลังนี้จึงสำเร็จเสร็จสิ้นสมบูรณ์ อ่านเพิ่มเติม

แก้ปริศนาธรรม

แก้ปริศนาธรรม

หลังจากมาอยุ่อโยธยาได้ ๒ ปี (นับจาก พ.ศ.๒๑๘๑) ชาวลังกาได้ทาล้อมเมืองอโยธยาไว้ และได้ตั้งปริศนาธรรมท้าพนันเอาเมืองอโยธยา เมื่อพระเจ้าแผ่นดินคิดไม่แตก ก็ได้นิมนต์พระภิกษุปู หรือ ราโม ธัมมิโก ที่วัดพุทไธศวรรย์ มาช่วยแก้ปริศนาธรรม หลวงปู่ทวดได้กู้บ้านเมืองไว้โดยอธิษฐานว่า “ถ้าหากท่านมีบารมีจะช่วยได้ก็ขอให้เกิดปัญญาแก้ไขปริศนาธรรมออก

ในที่สุดท่านก็แก้ปริศนาธรรมได้ กรุงอโยธยาไม่ต้องตกเป็นของชาวลังกา ด้วยคุณความดีของท่านในด้านต่างๆ รวมตลอดทั้งที่ได้กล่าวมานั้น พระรามาธิบดีที่ ๒ (โอรสพระเจ้าอู่ทอง)จึงได้ทรงสถาปนาให้ท่านเป็นสมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงอโยธยาทรงพระนามว่า “สมเด็จพระสังฆราชคูรูปาจารย์”ดังสำเนาตัวอย่างประกาศแต่งตั้งดังต่อไปนี้ อ่านเพิ่มเติม

บำเพ็ญต่อในโลกวิญญาณ

บำเพ็ญต่อในโลกวิญญาณ

หลวงปู่ทวด(เหยียบน้ำทะเลจืด) เคยอธิบายให้สานุศิษย์ที่กราบเรียนไต่ถามทราบว่า ตอนที่ท่านมีสังขารอยู่นั้น การบำเพ็ญของท่าน ท่านยังไม่ได้ตั้งความปรารถนาอะไร ท่านตั้งใจปฏิบัติในจุดของเมตตาเป็นส่วนใหญ่ เมื่อทิ้งสังขารจากโลกมนุษย์แล้ว ท่านไปบำเพ็ญต่อในโลกวิญญาณ เข้าซึ้งถึงคำว่า พุทธะ พุทธะแห่งยุค พุทธปัญญา ทั้งสองอย่างนี้ต้องมีความปรารถนา ท่านจึงได้ตั้งความปรารถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้า บนสวรรค์ท่านเคยอยู่หมดทุกชั้น
แต่ที่อยู่ในขณะนี้ ตามที่ท่านเทศน์โปรดเมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๑๘ คือ สวรรค์ชั้นดุสิต ท่านอธิบายว่าผู้ที่เตรียมตัวเป็นพระพุทธเจ้าก็ดี ผู้ที่จะเข้ามารับผิดชอบเหตุการณ์ในโลกมนุษย์ก็ดี ถึงแม้ว่าจะเป็นพรหมเป็นอะไรก็ตาม ก็ต้องมาอยุ่ชั้นดุสิต เพราว่าชั้นดุสิตนี้เป็นจุดที่เตรียมจะขึ้นสูงและลงต่ำ ชั้นดุสิตนี้เป็นชั้นที่ใกล้มนุษย์ ทำให้ทราบเหตุการณ์ของโลกมนุษย์ได้ง่าย ไม่ใช่เป็นสวรรค์ชั้นที่เจาะจงให้เทวดาเท่านั้นที่อยู่ชั้นนี้ได้ และท่านบอกด้วยว่าพระศรีอริยเมตไตรยเวลานี้ก็อยุ่ชั้นดุสิต
อ่านเพิ่มเติม

ธรรมะจากดวงพระวิญญาณบริสุทธิ์ หลวงปู่ทวด ( เหยียบน้ำทะเลจืด )

ธรรมะจากดวงพระวิญญาณบริสุทธิ์ หลวงปู่ทวด ( เหยียบน้ำทะเลจืด )

ผ่านญาณ ( ร่าง ) อาจารย์สุชาติ โกศลกิติวงศ์

“พุทธะ” อยู่ในกายมนุษย์

อีกจุดหนึ่งที่มนุษย์ไม่ยอมสนใจ คือไม่ยอมสนใจค้นในกายของตนเอง สิ่งหนึ่งที่รียกว่า “พุทธะ” นั้นอยู่ในกาย ถ้าจิตของผู้นั้นสามารถค้นเข้าไปถึงกายในกายอันบริสุทธิ์ สิ่งนี้ภาษาทางโลกเรียกว่า “พลัง” ชนิดหนึ่งที่ยอดเยี่ยมอยู่ในตัวเรา แต่เราไม่รู้จักค้นออกมาใช้ เพราะอะไรเล่า ทำไมเราจึงถามว่าเหตุใดองค์สมณโคดมจึงสามารถระลึกชาติได้ เพราะมีบุพเพนิวาสานุสติญาณ มีอนาคตังสญาณ หรือมีญาณอะไร สิ่งเหล่านี้เราไม่ต้องไปรับรู้ เราไม่ต้องยุ่ง เราไม่ต้องไปคิดถึงว่าเราจะได้ฌานโน้นฌานนี้

หลักของการปฏิบัติอย่างหนึ่งมีอยู่ว่า เราจะยึดอะไรเป็นสรณะของการเริ่มปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน คำว่า “กรรมฐาน” นั้นหมายถึงการกำหนดจิตของเราให้จดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อรวมพลังจิตไม่ให้ฟุ้ง เมื่อรวมพลังของจิตอันนั้นไม่ให้ฟุ้งแล้ว รวมอยู่ในจุดใดจุดหนึ่ง รวมจนไดอารมณ์แห่งการปิติ คือนิ่งเฉยแห่งจุดนั้น เมื่อนั้นให้ขึ้นวิปัสสนา “วิปัสสนา” คือให้พิจารณาทุกสิ่งทุกอย่างว่าเป็นอนัตตา “อนัตตา” คือการเดินทางไปสู่โลกแห่งนิพพาน โลกแห่งอรหันต์ โลกแห่งโพธิสัตว์ โลกแห่งอนาคามี โลกเรานี้เป็นโลกแห่งอัตตา ทำอย่างไรเราจึงจะไปสุ่จุดแห่งการเป็นอนัตตาได้ ( ไม่ใช่อัตตา) อ่านเพิ่มเติม

งานปรับปรุงพระศาสนา

งานปรับปรุงพระศาสนา

งานของอาตมานี้ อย่าลืม หลวงปู่ก็ดี อาตมาก็ดี ไม่ใช่มาแค่รักษาโรค มาแค่เทศน์เท่านั้น การรักษาโรคนั้นพรหมธรรมดาเขาก็รักษาได้ ซึ่งท่านก็รู้เห็นกันมีกันอยู่มากมาย แต่การมานี้มีหลักในการทำงาน คือมาเพื่อปรับปรุงพระศาสนาให้ดีขึ้น เพื่อให้มนุษย์เข้าซึ้งในแก่นของศาสนา ไม่ใช่เพียงกระพี้ของศาสนาในทุกวันนี้

…สมองอย่างอาตมาก็ดี สมองอย่างหลวงปู่ก็ดี ล้วนแต่เคยกู้ความอยู่รอดของประเทศมาแล้วทั้งนั้น ยุคอโยธยา หลวงปู่ได้ช่วยแก้ปริศนาธรรมที่ประเทศลังกาเอามา เพื่อจะมายึดครอง

๑๖ ตุลาคม ๒๕๑๔

งานเพื่ออนาคต

งานของสำนักปู่สวรรค์นั้นไม่ใช่งานเพื่อปัจจุบัน งานของสำนักปู่สวรรค์เป็นงานเพื่ออนาคต คือเมื่อพุทธกาลล่วงไปแล้ว ๓๐๐๐ ปี มนุษย์ในยุคนั้นจะมาศึกษาเรื่องสำนักปู่สวรรค์กัน เพราะฉะนั้นให้ทำเป็นหลักฐานทิ้งร่องรอยเอาไว้กระจายให้ทั่ว เพื่ออนุชนรุ่นหลังที่จะค้นคว้าศึกษาได้ง่าย นี่เป็นสิ่งที่อาตมาต้องการ อ่านเพิ่มเติม

ประวัติหลวงปู่ทวด ตอน เหยียบน้ำทะเลจืด

ประวัติหลวงปู่ทวด ตอน เหยียบน้ำทะเลจืด

ขณะที่สมเด็จเจ้าฯ จำพรรษาอยู่ ณ วัดพะโคะ ครั้งนี้คาดคะเนว่า ท่านมีอายุกาลถึง 80 ปีเศษ อยู่มาวันหนึ่งท่านถือไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ประจำตัวไม้เท้านี้มีลักษณะคดไปมาเป็น 3 คด ชาวบ้านเรียกว่า “ไม้เท้า 3 คด” ท่านออกจากวัดมุ่งหน้าเดินไปยังชายฝั่งทะเลจีน ขณะที่ท่านเดินพักผ่อนรับอากาศทะเลอยู่นั้น ได้มีเรือโจรสลัดจีนแล่นเลียบชายฝั่งมา พวกโจรจีนเห็นท่านเดินอยู่คิดเห็นว่าท่านเป็นคนประหลาดเพราะท่านครองสมณเพศ พวกโจรจึงแวะเรือเทียบฝั่งจับท่านลงเรือไป เมื่อเรือโจรจีนออกจากฝั่งไม่นาน เหตุมหัศจรรย์ก็ปรากฏขึ้น คือ เรือลำนั้นแล่นต่อไปไม่ได้ต้องหยุดนิ่งอยู่กับที่ พวกโจรจีนพยายามแก้ไขจนหมดความสามารถเรือก็ยังไม่เคลื่อน จึงได้จอดเรือนิ่งอยู่ ณ ที่นั้นเป็นเวลาหลายวันหลายคืน ในที่สุดน้ำจืดที่นำมาบริโภคในเรือก็หมดสิ้น จึงขาดน้ำจืดดื่มและหุงต้มอาหารพากันเดือดร้อนกระวนกระวายด้วยกระหายน้ำเป็นอย่างมาก สมเด็จเจ้าฯ ท่านเห็นเหตุการณ์ความเดือดร้อนของพวกโจรถึงขั้นที่สุดแล้ว ท่านจึงเหยียบกราบเรือให้ตะแคงต่ำลงแล้วยื่นเท้าเหยียบลงบนผิวน้ำทะเลทั้งนี้ย่อมไม่พ้นความสังเกตของพวกโจรจีนไปได้ อ่านเพิ่มเติม

สถูปหลวงพ่อทวดฯ

สถูปหลวงพ่อทวดฯ

(สถูปหลวงพ่อทวดฯ หน้าวัดช้างให้ : อาจารย์ทิม ธัมมธโร นายอนันต์ คณานุรักษ์ และนายสุนนท์ คณานุรักษ์)

สถูปศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งบรรจุอัฐิหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด สมภารองค์แรกของวัดช้างให้ สถูปนี้ตั้งอยู่ใกล้ชิดกับทางรถไฟสายใต้ระหว่างหาดใหญ่ – สุไหงโก-ล๊ก ใกล้ชิดที่สุดระหว่างสถานีนาประดู่ กับสถานีป่าไร่ สถูปนี้มีอายุยืนนานมาประมาณ ๓๐๐ ปีเศษ แต่เดิมมีแต่เสาไม้แก่นปักหมายไว้ ประชาชนจึงเรียกกันว่า เขื่อนท่านช้างให้

ครั้นต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ ท่านอาจารย์ทิม ธมฺมธโร (พระครูวิสัยโสภณ เวลานี้) เข้ามาเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ ๕ ซึ่งเป็นองค์หลังสุดเวลานี้ ท่านได้จัดการบูรณะก่ออิฐถือปูนห่อหุ้มเสาไม้แก่นของเดิมไว้ภายใน ชาวบ้านจึงเรียกกันว่าบัว (สถูป) หลวงพ่อทวดมาจนบัดนี้

ความศักดิ์สิทธิ์ในคุณอภินิหารของสถูปหลวงพ่อทวดฯ นี้มีมาแต่ดั้งเดิมแล้ว แต่เนื่องจากครั้งนั้นยังไม่มีทางรถไฟ จึงตกอยู่กลางป่าเปลี่ยว และวัดก็รกร้างอยู่ การสักการะบูชาก็มีแต่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเท่านั้น อ่านเพิ่มเติม

รูปเหมือน“หลวงพ่อทวด”

รูปเหมือน“หลวงพ่อทวด”

ขอนำเสนอคอลัมน์ใหม่ถอดด้าม The Best of Tourist ว่าด้วยเรื่องที่สุดที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เพราะไม่ว่าจะมุมไหนในโลก ต่างก็มีเรื่องที่สุดๆให้เป็นที่ตื่นเต้นแปลกตา ทั้งด้วยฝีมือที่มนุษย์สร้างหรือบางอย่างก็เป็นฝีมือธรรมชาติ ซึ่งหาดูได้ทั้งที่ในประเทศและต่างประเทศ และเพื่อเบิกโรงเอาฤกษ์เอาชัย ก็จึงขอเริ่มว่าด้วยพระดังที่ทั้งศักดิ์สิทธิ์และมีขนาดใหญ่เป็นที่สุด นั่นก็คือ “รูปเหมือนหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก” ที่ประดิษฐานอยู่ที่ วัดห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
โดย ผู้จัดการออนไลน์

คงจะมีน้อยคนที่ไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยินชื่อเสียงกิตติคุณของหลวงพ่อทวด ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วประเทศถึงความศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนอิทธิปาฏิหาริย์ต่างๆ มีผู้ให้ความเคารพเลื่อมใสมาเป็นเวลานาน และรู้จักกันเป็นอย่างดี ในนาม “สมเด็จหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด” อ่านเพิ่มเติม

ประวัติการสร้างพระเครื่อง สมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

ประวัติการสร้างพระเครื่อง สมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

ที่ปรากฏองค์ของท่านขึ้นมาในยุคนี้ได้ เพราะความฝัน คือ

คืนวันหนึ่งในปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๕ เวลาใกล้รุ่ง ข้าพเจ้าฝันว่าได้พบกับท่าน ณ ที่แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดช้างให้มากนัก ท่านได้มอบยาชนิดหนึ่งให้ข้าพเจ้ากิน แล้วสวมมงคลรัดศีรษะให้อีก แสดงว่าท่านได้รับข้าพเจ้าไว้เป็นศิษย์ เพื่อจะให้ข้าพเจ้าได้รับใช้งานของท่านในโอกาสต่อไป เป็นการสนองคุณพระอาจารย์ เสร็จแล้วท่านเดินจากข้าพเจ้าไปทางทิศที่ตั้งของวัดช้างให้ รุ่งเช้าข้าพเจ้าคิดว่าสถูปศักดิ์สิทธิ์หน้าวัดช้างให้นี้ คงจะเป็นสถูปซึ่งได้บรรจุอัฐิของท่าน หรือสมเด็จเจ้าพะโคะ เมื่อสมัยหลายร้อยปีมาแล้วเป็นแน่ ข้าพเจ้าปรารถนาจะไปที่วัดเพื่อสืบถามดู แต่ในระยะนั้น ข้าพเจ้ามีธุระกิจจำเป็นบางประการไม่สามารถจะไปได้ตามความตั้งใจ โอกาสต่อมา เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๗ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๓ ข้าพเจ้าจึงมีโอกาสออกจากบ้านมาถึงตลาดนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จึงได้แวะชวนนายชาติ สิมศิริ กำนัน นายกวี จิตตกูล นายวิศิษฐ์ คณานุรักษ์ พากันไปวัดช้างให้

เมื่อพวกเราได้ทำความเคารพท่านอาจารย์ทิม ธมฺมธโร เจ้าอาวาสวัดช้างให้แล้ว ก็ได้สนทนาปราศรัยต่อกัน วันนี้เป็นวันแรกที่ข้าพเจ้าได้มาเยี่ยมวัดช้างให้ และได้รู้จักท่านอาจารย์ฯ เจ้าอาวาสวัดช้างให้ ในการสนทนากันตอนหนึ่งข้าพเจ้าได้เรียนถามท่านอาจารย์ฯ ว่าโบสถ์ที่สร้างค้างอยู่นั้น ท่านไม่คิดจะสร้างพระเครื่องไว้แจกจ่ายแก่ผู้สละทรัพย์โมทนาสร้างโบสถ์บ้างหรือ ท่านอาจารย์ตอบว่า เคยคิดมา ๒ ปีแล้วแต่ไม่สำเร็จ ข้าพเจ้าจึงรับว่าถ้าเช่นนั้นข้าพเจ้าขอรับจัดสร้างขึ้นถวาย ท่านก็ยินดีที่ข้าพเจ้าจัดทำให้ อ่านเพิ่มเติม

รวมเรื่องราวอภินิหารหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

รวมเรื่องราวอภินิหารหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

รอดพ้นภัยโจร

เหตุเกิดที่บ้านหนองกรก อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ในคืนวันที่22เมษายน 2497 เวลา21.00 น.นายแดงและภรรยากลับจากทำงานมากินข้าวแล้วเตรียมเข้าห้องนอน พอใกล้จะหลับได้ยินเสียงกริ่งๆอยู่ในขวดโหลบนหิ้งพระ ซึ่งมีพระเครื่องของหลวงพ่อทวดฯขอมาจากวัดช้างไห้ใหม่ๆและได้เก็บไว้บนขวดโหลใบนั้นเขาคิดว่าหนูได้กลิ่นน้ำมันจึงลงไปคาบพระแล้วกระทบกับขวดจึงเกิดเสียงดังขึ้น
นายแดงจึงลุกขึ้นจุดตะเกียงส่องดูก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ จึงล้มตัวลงนอนต่อไปจนถึงเวลา 22.00 น. เขากับภรรยาก็ตกใจตื่นขึ้นทันทีเพราะเสียงปืนดังขึ้นที่ชานเรือน 3 นัด นายแดงจึงนึกขึ้นได้ทันทีว่าตนถูกผู้ร้ายปล้นบ้าน จึงตื่นขึ้นจับมีดตัดฟากพื้นเรือนขนาดเป็นช่องแล้วรอดหนีไปทางช่องใต้ถุนเรือน
ฝ่ายภรรยากำลังตกตลึงไม่ได้สติ จึงลุกขึ้นไปเปิดประตูให้พวกโจร ขณะที่พวกโจรกำลังกระแทกบานประตูอยู่พอเขายื่นมือจับกลอนประตู ก็มีมือประหลาดมาผลักหน้าอกเขาก้นกระแทกพื้น เขานึกถึงหลวงพ่อทวดทันที จึงลุกขึ้นไปหน้าหิ้งพระพนมมืออ้อนวอนขอให้หลวงพ่อทวดช่วยคุ้มครองรักษา ฝ่ายพวกโจรก็ออกกำลังพังประตูห้องอยู่โครมครามสั่นสะเทือน เขากลัวจนไม่สามารถทนอยู่ได้จึงพนมมือกล่าวขอให้หลวงพ่อทวดฯช่วยคุ้มครองบ้านให้ลูกหลานด้วยเถิด กล่าวจบแล้วลอดหนีทางช่องตามสามีไป ปรากฏว่าพวกโจรใช้ปืนยิงติดตามหลังแต่ไม่ถูก พวกโจรเมื่อโถมพังประตูไม่ออกจึงพากันหนีเข้าป่าไป
อ่านเพิ่มเติม

ประวัติการสร้างพระเครื่องหลวงปู่ทวดวัดช้างไห้ ว่าน รุ่นแรก พ.ศ. 2497 จ.ปัตตานี

ประวัติการสร้างพระเครื่องหลวงปู่ทวดวัดช้างไห้ ว่าน รุ่นแรก พ.ศ. 2497 จ.ปัตตานี.

โดย กู้หาดใหญ

เมื่อเอ่ย ถึงประวัติในการสร้างพระเครื่องหลวงปู่ทวดว่านรุ่นแรก พ.ศ.2497 จ.ปัตตานี. มีหลายๆท่านอาจจะได้รับทราบข้อมูลมามากมาย จากสื่อนิตยสาร รวมเล่ม จากประวัติที่ได้ฟังเขาเล่าขานกันมา และ ในสิ่งที่กระผม จะเขียนให้ได้อ่าน และได้รับทราบข้อมูลตามที่กระผมได้สอบถามประวัติมาให้อ่านนี้ มิได้คัดลอกบทความ จากผู้หนึ่งผู้ใด เป็นข้อมูล ดิบๆที่จะเขียนให้ทุกๆท่านได้อ่านรับทราบตามที่กระผมได้รับฟังมา ไม่ได้มีความคิดว่า สิ่งที่กระผมได้นำมาเขียนนี้มันเลอเลิศ แต่….ด้วยความสำนึกในบุญคุณบารมี องค์พระโพธิสัตว์หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ เหยียบน้ำทะเลจืดและพระอาจารย์ทิม อดีต เจ้าอาวาส วัดช้างไห้ จ.ปัตตานี ซึ่งมีบุญสัมพันธ์ กับ หลวงปู่ทวด ตั้งแต่อดีตชาติ ถึงปัจจุบันชาติ อันที่จริงจะว่ากันแล้ว ด้วย พระบารมีองค์พระโพธิสัตว์ หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด บวกกับวัตรปฏิบัติของพระอาจารย์ทิม งดงามยิ่งนัก เป็นพลังรวมพลังอันมหาศาล ที่ใสสะอาดประดุจ แก้วใส สารพัดนึก เพราะการสร้างเมื่อครั้งอดีต เป็นการสร้างที่มีเจตนาบริสุทธิ์จริงๆไม่มีเจตนาในเรื่องการ ซื้อ-ขายแต่อย่างใด ฉะนั้นพระเครื่องเมื่อครั้งในอดีตจะคงความเข้มขลัง ใสสะอาดบริสุทธิ์ จึงเปี่ยมล้นไปด้วย พลังพุทธคุณ ครับไม่เป็นที่น่าแปลกใจว่าทำไมพระเครื่องหลวงปู่ทวด ว่านรุ่นแรก วัดช้างไห้จึงเป็นพระเครื่องที่ “อมตะ” ไม่มีวันดับหายไปจากความศรัทธาของเหล่านักพระเครื่องและประชาชนโดยทั่วไป อีกทั้ง เรื่อง พุทธคุณประสบการณ์ ที่มีมาตลอด ผมเข้าใจว่า พุทธคุณ บวก กับบารมีหลวงปู่ทวด ผมมั่นใจว่าจะมีอยู่ไม่เสื่อมคลาย เรื่องราวการจัดสร้างพระเครื่องหลวงปู่ทวด ว่านรุ่นแรกนั้น ยังมีอีกหลายท่านที่ยังไม่ทราบความเป็นจริงว่าพระเครื่องหลวงปู่ทวดว่าน 2497 นั้น ว่านที่นำมาเป็นส่วนผสมนั้น มีทั้งหมด 200 กว่าชนิด คำว่า 108 มิใช่ว่าน 108 ชนิด แต่เป็นเรื่องพุทธคุณที่มีถึง 108 คำว่า 108 ก็คือ “ได้ทุกสิ่งอะไรก็ได้ศักดิ์สิทธิ์”คำว่าศักดิ์สิทธิ์ เป็นคำพูดที่ครอบ จักรวาล นั่นเองคนเขามักจะนิยมเอามาพูดกัน. อ่านเพิ่มเติม

เหรียญหัวโตหลวงปู่ทวดค่านิยมมากกว่า๑ล้าน

เหรียญหัวโตหลวงปู่ทวดค่านิยมมากกว่า๑ล้าน

เหรียญหัวโตหลวงปู่ทวด พ.ศ. ๒๕๐๐ ราคา ๒๐ บาท พ.ศ. ๒๕๕๖ ราคามากว่า ๑ ล้านบาท : พระองค์ครู เรื่องและภาพ โดยไตรเทพ ไกรงู
“แขวนพระหลวงปู่ทวดแล้วไม่ตายโหง” เป็นความเชื่อของคนในวงการพระเครื่องและคนที่ห้อยพระหลวงปู่ทวดและคติความเชื่อนี้เองทำให้มีการสร้างหลวงปู่ทวดออกมาจำนวนมากจนมีคำพูดในวงการสร้างพระเครื่องว่าสร้างพระหลวงปู่ทวดอย่างไรก็ขายได้และไม่ขาดทุน

อย่างไรก็ตามเมื่อกล่าวถึง “หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด” ใครๆ ต่างก็นึกถึงพระภิกษุชราร่างเล็กผิวคล้ำ ซึ่งแท้ที่จริงแล้วคงไม่มีใครทันได้เห็นว่า “หลวงปู่ทวด” ท่านมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร เพราะภาพความทรงจำเป็นการมองผ่านภาพพระเครื่อง ทั้งเนื้อว่าน พระบูชา และเหรียญ หรือรูปเหมือนเนื้อโลหะพิมพ์ต่างๆ ที่ท่านพระครูวิสัยโสภณ (ทิม ธมธโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างให้ได้ดำเนินการจัดสร้างพระเครื่องดังกล่าวจากนิมิต ซึ่งครั้งแรกสร้างขึ้นด้วยเนื้อว่าน ๑๐๘ ผสมด้วยดินกากยายักษ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๗ และถัดมาอีก ๓ ปีคือ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้มีการจัดสร้างเหรียญรุ่นแรกขึ้น ซึ่งมักจะเรียกกันว่า “เหรียญหัวโต” และในการจัดสร้างคราวนั้นมีเพียงเนื้อทองแดงกะไหล่เงินเนื้อเดียว ไม่มีเนื้อเงินหรือเนื้อทองคำแต่อย่างใด อ่านเพิ่มเติม

ประวัติความเป็นมาของพระหลวงปู่ทวด รุ่นทะเลซุง ปี 2508

ประวัติความเป็นมาของพระหลวงปู่ทวด รุ่นทะเลซุง ปี 2508

เนื่องจากช่วงนี้ ความนิยม ของ หลวงปู่ทวด ทะเลซุง ปี 2508 ได้รับความนิยม มากขึ้นตามลำดับ ผมจึงขอโอกาสนี้ นำประวัติมาให้ทราบ เพื่อเป็นความรู้ สำหรับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ นักสมที่สนใจ คับ
เป็นพระ หลวงปู่ทวด พ.ศ 2508 สร้างโดยพระครูวิสัยโสภณ (ทิม ธัมมธโร) แห่งวัดช้างให้(วัดราษฎร์บูรณะ) ตำบลบ้านไร่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี โดยมีพระครูวิสัยโสภณเจ้าอาวาสวัดช้างให้เป็นประธานในพิธีบริกรรม ได้อาราธนาอัญเชิญดวงวิญญาณหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดมาให้ท่านประสิทธิ์ ประสาทความขลัง แก่พระเครื่อง เสร็จแล้วจึงได้แจกจ่ายให้ชาวบ้านนำไปสักการะบูชา

รุ่นนี้ได้ชื่อว่า “รุ่นทะเลซุง” เนื่องจากปีนั้น (พายุเกย์) เข้าทำให้เกิด อุทกภัยภาคใต้ เกิดดินถล่มทำให้ท่อนซุงไม้ได้ไหลมาตามดิน ทำให้มีผู้เสียชีวิตเยอะมาก แต่มีผู้ที่รอดชีวิตได้ใช้พระรุ่นนี้ จึงเป็นที่เชื่อกันว่าเพราะบารมีของหลวงพ่อทวด จึงเรียกรุ่นนี้ว่า รุ่นทะเลซุง ครับ
ทะเลซุง 2508 จะมีทั้งพิมพ์บัว 5 และ พิมพ์บัว 6 แต่ที่นิยมหาเล่นกันจะเป็นบัว 6 ครับ

อ่านเพิ่มเติม

หลวงพ่อทวดรุ่นแรกปี2497

หลวงพ่อทวดรุ่นแรกปี2497

จัดสร้างโดย พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา เป็นอีกท่านหนึ่งซึ่งร่วมสร้างพระเนื้อว่านหลวงพ่อ ทวดรุ่นแรกปี2497 เมื่อปีพ.ศ 2505 พระมหาฉิ้นได้นำเรื่องไปปรึกษากับพระอาจารย์ทิมว่า ศรัทธาของประชาชน ที่มีต่อองค์หลวงปู่ทวดนั้นมากมายเกินจะประมาณได้ เมื่อพระเครื่องของวัดช้างให้หมดไปแล้ว ทางวัดเมืองยะลาน่าจะขออนุญาตต่อองค์หลวงปู่ทวด สร้างพระเนื้อว่านสืบต่ออีกสักครั้งจะดีหรือไม่………. พระอาจารย์ทิมได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วก็เห็นด้วย แต่ต้องขออนุญาตต่อดวงวิญญาณหลวงปู่ทวดก่อน ซึ่งท่านได้นั่งสมาธิ ทำพิธีขออนุญาตเป็นที่เรียบร้อย การดำเนินการขั้นตอนต่างๆจึงเริ่มต้นแต่บัดนั้น………. ส่วนพระมหาฉิ้น(ในสมัยนั้น) หลังจากได้รับอนุญาตแล้ว จึงรวบรวมดินและว่านที่เหลือจากวัดช้างให้มาเก็บไว้ที่วัดเมืองยะลา และเดินทาง(ตามรอยหลวงปู่ทวด) ไปทำพิธีพลีดินที่รัฐไทรบุรี ประเทศมาเลเซียเพื่อไปกราบนมัสการและนำพลีดินตามสถานที่พักศพต่างๆถึง 13 แห่ง (อดีตเคยเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศไทย) ที่หลวงปู่ทวดเคยไปจำวัดพำนักอยู่ที่นั้น แล้วนำมาเป็นส่วนผสมและเที่ยวเก็บรวบรวมว่านต่างๆไว้ได้มากมาย ต่อมาในวันแรม 7 ค่ำ เดือน 4 ปีขาล ตรงกับวันอังคารที่ 27มีนาคม 2505 เป็นวันฤกษ์ดี ท่านพระอาจารย์ทิมได้มาเป็นประธานในการสร้างและกดแม่พิมพ์พระด้วยตนเองที่ วัดเมืองยะลา ใช้เวลานาน อยู่เดือนกว่าๆถึงสำเร็จ รวมพระที่ทำได้ทั้งหมด 10,000 องค์ พระเครื่องรุ่นแรกที่จัดสร้างในปีนั้น ประกอบด้วยพิมพ์ต่างๆดั้งนี้ 1 . พระหลวงปู่ทวด พิมพ์ใหญ่ (พิเศษ)….. 2. พระหลวงปู่ทวดพิมพ์ใหญ่….. และ 3. พระหลวงปู่ทวด พิมพ์เล็ก (พิมพ์พระรอด) หรือบางท่านเรียกว่า พิมพ์อิคิวซัง….. เมื่อพระเครื่องหลวงปู่ทวด สร้างสำเร็จเรียบร้อยแล้วพระอาจารย์ทิมนำพระทั้งหมดไปเข้าพิธีพุทธาภิเษก ครั้งใหญ่ที่วัดช้างให้ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2505 ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 ปีขาล นับเป็นพิธีครั้งที่ 2 ของวัดช้างให้ และครั้งนั้นได้มีผู้นำพระเครื่องหลวงปู่ทวดเนื้อโลหะมาเข้าพิธีปลุกเสกด้วย อีกจำนวนมาก………. พิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ ณ วัดช้างให้ถือว่าเป็นพิธีใหญ่ที่สุดในภาคใต้พิธีหนึ่งทีเดียว ครั้นเมื่อพิธีพุทธาภิเษก เสร็จสิ้นลง พระอาจารย์ทิมก็เก็บพระไว้ส่วนหนึ่ง เมื่อมีผู้มาขอท่านก็แจก จนหมดเสร็จ ผู้ที่ได้รับแจกก็ดีใจ มักจะพูดกันว่า เป็นพระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ อีกส่วนหนึ่งก็อนุญาตให้พระมหาฉิ้นนำไปยังวัดเมืองยะลา เพื่อแจกจ่ายผู้ศรัทธาต่อไป………. พระมหาฉิ้นแจกไม่อั้นเช่นเดียวกัน พักเดียวเท่านั้นเอง พระหลวงปู่ทวด วัดเมืองยะลา ก็หมดสิ้น นักเลงพระที่รู้ประวัติต่างก็หมุนเวียนกันไปรับแจก คนละหลายสิบเที่ยว………ดังนั้นแล้ว หลวงพ่อทวด วัดเมืองยะลา ปี05 นับเป็นหลวงพ่อทวดต่างวัด (ทันอ.ทิม ปลุกเสก) ที่สามารถใช้แทน หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ได้อย่างอุ่นใจ

http://www.m-culture.in.th/moc_new/album

ประวัติ หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เหยียบน้ำทะเลจืด

ประวัติ หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เหยียบน้ำทะเลจืด
หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เหยียบน้ำทะเลจืด

ประวัติหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เหยียบน้ำทะเลจืด จังหวัดปัตตานี
เรื่องราวประวัติของ “หลวงพ่อทวด วัดช้างให้” นั้นเป็นเรื่องราวตามตำนาน กล่าวเล่าสืบต่อกันมาบางตำนานบางตอนของ ประวัติหลวงพ่อทวดผู้เล่าก็อาจเสริมเพิ่มเติมกันไปบ้างเกี่ยวกับเรื่องราวอภินิหารต่างๆ แต่ก็ถือว่ามีเค้าเรื่องจริงเป็นแก่นแท้อยู่ หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด เป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงๆ เรื่องราวต่างๆ ซึ่งได้รวบรวมจากหนังสืออ้างอิงหลายเล่มทั้งที่เป็นตำนานหลักฐานทางประวัติศาสตร์ หนังสือ”ประวัติหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้”และเอกสารต่างๆ

พระเครื่องของ หลวงพ่อทวด ถึงแม้ว่าท่านไม่ได้สร้างเองแต่ในความศักดิ์สิทธิ์นั้น คงไม่มีใครจะปฏิเสธได้ ความนิยมในวัตถุมงคลหรือ พระเครื่อง หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ นั้นถือว่าเป็นอมตะควบคู่ไปกับตำนานเล่าขานสืบต่อกันไป ประวัติหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ซึ่งผู้สร้างตำนานแห่งความศักดิ์สิทธิ์ คือ พระอาจารย์ทิม ธมฺมธโร(พระครูวิสัยโสภณ) อ่านเพิ่มเติม

พิพิธภัณฑ์พุทธสถานตำนานหลวงปู่ทวดเหยียบทะเลน้ำจืด

พิพิธภัณฑ์พุทธสถานตำนานหลวงปู่ทวดเหยียบทะเลน้ำจืด

ประวัติพิพิธภัณฑ์พุทธสถานตำนานหลวงปู่ทวดเหยียบทะเลน้ำจืด อำเภอวังน้อย

ตั้งอยู่เลขที่ ๙๙ หมู่ ๗ ถนนโรจนะ ตำบลลำตาเสา อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนายสนอง นางพรรณณี วรกุลปัญญาเลิศ เป็นผู้บริจาคที่ดิน จำนวน ๕ ไร่ ๙๐ ตารางวา ให้แก่ วัดชูจิตธรรมาราม อำเภอวังน้อย ให้ดำเนินการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์พุทธสถานตำนานหลวงปู่ทวดเหยียบทะเลน้ำจืด เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ก่อสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์พุทธสถานตำนานหลวงปู่ทวดเหยียบทะเลน้ำยืด ซึ่งประชาชนโดยทั่วไปทราบดีถึงบุญญาบารมีของหลวงปู่ทวด และหวังให้ประชาชนทั้งใกล้ไกลได้ใช้เป็นสถานที่ปลดทุกข์ ขอพร

วัดชูจิตธรรมาราม จึงได้จัดทำป้ายวิธีการร้องทุกข์ต่อหลวงปู่ทวดไว้เพื่อประชาชนจะได้มาสักการะบูชา ขอพรท่าน เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ทราบถึงบุญญาธิการของหลวงปู่ทวด

สิ่งสำคัญภายในบริเวณพิพิธภัณฑ์พุทธสถานตำนานหลวงปู่ทวดเหยียบทะเลน้ำจืด ประกอบด้วย

– รูปปั้นหลวงปู่ทวดพร้อมคำอธิษฐานขอพรของหลวงปู่

– ศาลาร้องทุกข์

– วิธีการขอพรร้องทุกข์ต่อหลวงปู่ทวด

– รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม

– รูปปั้นพระสังกัดจาย

http://www.m-culture.in.th/moc_new/album/

สักการะและเรียนรู้ประวัติหลวงปู่ทวด

สักการะและเรียนรู้ประวัติหลวงปู่ทวด

เชื่อว่าคนไทย หรือแม้แต่ชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ คงไม่มีใครไม่รู้จัก “หลวงปู่ทวด”ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ที่มีอิทธิปาฏิหาริย์และอภิญญาแก่กล้า สมญาที่ทุกคนรู้จักคือ “หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด”แต่น้อยคนที่จะทราบสมณศักดิ์ว่าท่านเป็น “สมเด็จเจ้าพะโคะ” ทำนุบำรุงวัดพะโคะ ที่เมืองสทิงพระ หรือ อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา หลวงปู่ทวดไม่ได้เพิ่งจะมีอิทธิปาฏิหาริย์ หากแต่มีเรื่องเล่าปาฏิหาริย์ของท่านตั้งแต่ยังเป็นทารก หลวงปู่ทวดเกิดในสมัยปลายรัชกาลของพระมหาธรรมราชา แห่งกรุงศรีอยุธยา ณ หมู่บ้านสวนจันทร์ ตำบลชุมพล เมืองจะทิ้งพระ (สทิงพระ ในปัจจุบัน) ตรงกับวันศุกร์ เดือนสี่ ปีมะโรง ปี 2125 เดิมทีหลวงปู่มีนามว่า ปู่ เป็นบุตรของนายหูและนางจันทร์ มีงูตระบองสลาตัวใหญ่มาขดพันอยู่รอบเปลที่ทารกน้อยนอนหลับอยู่ และงูใหญ่ก็ไม่ยอมให้ใครเข้ามาใกล้ทารกเลย จนกระทั่งบิดามารดาสงสัยว่า พญางูตัวนั้นน่าจะเป็นเทพยดาแปลงมา จึงรีบหาข้าวตอกดอกไม้และธูปเทียนมาบูชาสักการะ งูใหญ่จึงคลายลำตัวแล้วเลื้อยหายไป เมื่อพญางูไปแล้ว บิดามารดากลับว่าที่ทรวงอกของทารกกลับมีดวงแก้วดวงหนึ่งมีแสงเป็นรัศมี บิดามารดาจึงเก็บรักษาไว้แล้วฐานะทางบ้านก็ดีขึ้นเป็นลำดับ
อ่านเพิ่มเติม

. . . . . . .