โลหะที่เป็นส่วนประกอบของพระรูปหล่อ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

โลหะที่เป็นส่วนประกอบของพระรูปหล่อ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

จึงคาดว่า โลหะหลักๆ ในรูปหล่อพลวงพ่อเงิน จึงน่าจะมี ทองแดง สังกะสี เงิน และทองคำ เป็นหลัก หรือตามลำดับ โดยโอกาสจากมากไปน้อยก็ว่าได้
ในการที่จะเข้าใจวิวัฒนาการของเนื้อพระหลวงพ่อเงิน จำเป็นจะต้องเข้าใจถึงองค์ประกอบว่ามีอะไรบ้าง

โดยพื้นฐานของส่วนประกอบเหล่านี้ จะสามารถพิจารณาได้จากสีของสนิมที่เกิดขึ้นมาในพระที่มีเนื้อจัด และแก่โลหะชนิดนั้นๆ

เท่าที่ส่องดูในองค์จริงจะมองเห็นความแวววาวของโลหะสามชนิดในเนื้อพระอย่างชัดเจน คือ

ทองคำ เงิน และ ทองแดง

ทั้งที่เป็นโลหะเดิม และโลหะที่กำลังเกิดสนิม

กล่าวคือ สนิมทองคำ จะออกสีแดงเรื่อๆ แบบสนิมน้ำหมาก

สนิมเงินจะออกดำๆ แบบสนิมตีนกา

และสนิมทองแดง เป็นสีเขียว ที่นิยมเรียกว่าสนิมหยก

จึงอนุมานได้ว่า โลหะสามชนิดนี้มีอยู่ในพระรูปหล่อหลวงพ่อเงินแน่นอน ดังจะได้กล่าวถึงการเกิดสนิมตามลำดับต่อไป

อีกโลหะหนึ่งที่แทบจะไม่มีการกล่าวถึงคือ สังกะสี ที่เป็นส่วนประกอบของทองเหลือง โดยผสมอยู่กับทองแดง
อ่านเพิ่มเติม

ข้อมูล ลึก ๆ การสร้างหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

ข้อมูล ลึก ๆ การสร้างหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

พระรูปหล่อ หลวงพ่อเงิน บางคลาน จ.พิจิตร จัดเป็นพระรูปหล่อเกจิ องค์แรกสุด ได้รับความนิยมสูงสุดราคาแพงที่สุด

และประวัติการสร้างที่คลุมเครือสับสนมากที่สุด

ในวงการสากลและสื่อพระเครื่องส่วนกลาง ในระบอบพุทธพาณิชย์ ยอมรับกันว่า
พระรูปหล่อหลวงพ่อเงิน พิมพ์ขี้ตา สร้างขึ้นเป็นชุดแรก ที่ บางคลาน พิจิตร
ตามด้วยรูปหล่อพิมพ์นิยม ซึ่งยอมรับกันว่า สร้างโดยช่างบ้านช่างหล่อ และมาทำพิธีหล่อที่วัดชนะสงคราม (ข้อมูลจาก อ.เล็ก รูปหล่อ)
ต่อจากนั้น เป็นเหรียญจอบเล็ก สร้างโดย คุณยายวัณ ช่างฝีมือดีแห่งบ้านช่างหล่อ
ส่วนเหรียญจอบใหญ่ เป็นพระโรงงาน ที่โรงงานหล่อรูปเหมือนเท่าองค์จริงหลวงพ่อเงิน สร้างมาให้วัด
เพื่อให้วัดออกเช่าบูชาชดเชยการขาดทุนจากการ จ้างหล่อรูปเหมือน ( บางคนเรียกว่ารุ่นล้างหนี้ )

ตามข้อมูล ยอมรับกันว่า พระเหล่านั้น มีการสร้างเพียงอย่างละครั้งเดียว เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไม่มีเสริมนอกจากนั้น สื่อวงการพระเครื่อง มักจะเน้นการเล่าประวัติอภินิหาร ของหลวงพ่อเงิน โดยละเอียดยิบ มีคำพูดโต้ตอบราวกับหนังกำลังภายใน แต่ในทางตรงกันข้าม กลับละเลย ประวัติ การจัดสร้างพระเครื่อง ของ หลวงพ่อเงิน
นั่นอาจจะเป็นเพราะการหาข้อยุติ ไม่ได้ประการหนึ่ง และ จะยิ่งสร้างความสับสนคลุมเครือ ให้เพิ่มขึ้นอีกประการหนึ่ง
โดยความสนใจส่วนตัว ผมพยายาม ติดตามสืบเสาะ ประวัติการจัดสร้าง วัตถุมงคลของหลวงพ่อเงิน และโดยส่วนตัว เห็นว่า หนังสือของ อ. ชัยรัตน์ โมไนยพงศ์ แห่งค่ายลานโพธิ์ เป็นหนังสือที่ น่าเชื่อถือ น่าสนใจมากที่สุด เพราะท่านได้ใช้เวลาในการ สืบเสาะ ค้นคว้าประวัติและวัถุมงคลของหลวงพ่อเงิน ทั้งจากหลักฐานเอกสารและการลงพื้นที่) สัมภาษณ์ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ นับแต่พ.ศ. 2518-2526 จึงตีพิมพ์หนังสือเป็นรูปเล่ม และมีการปรับปรุงใหม่ ในปี 2535
อ่านเพิ่มเติม

หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ วัดบางคลาน พิจิตร

หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ วัดบางคลาน พิจิตร

วัดบางคลาน

วัดหิรัญญาราม หรือ วัดบางคลาน เดิมมีชื่อว่า “วัดวังตะโก” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่านเก่า สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้คือ สิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจของวัดนี้คือ พิพิธภัณฑ์นครไชยบวร เป็นพิพิธภัณฑ์รูปมณฑป 2 ชั้น ชั้นบนประดิษฐานรูปหล่อเท่าองค์จริงของ หลวงพ่อเงิน เกจิอาจารย์ที่ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศรู้จักและเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่งที่เคยจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ ชั้นล่าง เป็นที่แสดงโบราณวัตถุต่าง ๆ ที่ทางวัดได้สะสมไว้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุที่มีผู้นำมาถวาย เช่น พระพุทธรูป พระพิมพ์ เครื่องปั้นดินเผา ฯลฯ เปิดให้ประชาชนนมัสการระหว่างเวลา 08.00-17.00 น.
สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้คือโบราณวัตถุต่างๆ ที่ทางวัดได้สะสมไว้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุที่มีผู้นำมาถวาย เช่น พระพุทธรูป พระพิมพ์ เครื่องปั้นดินเผา ฯลฯ
สิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจของวัดนี้คือ พิพิธภัณฑ์นครไชยบวร ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์รูปมณฑป 2 ชั้น ชั้นบนประดิษฐานรูปหล่อเท่าองค์จริงของ หลวงพ่อเงิน เกจิอาจารย์ที่ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศรู้จักและเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่งที่เคยจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้

สถานที่ตั้ง

ตำบลบางคลาน อ.โพทะเล จังหวัดพิจิตร

วิธีการเดินทาง

ใช้ทางหลวงหมายเลข 1067 เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 8 กิโลเมตร

โทร 056-669030-1

ข้อมูลประวัติหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ

เกิด วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ.2353 เดือน 10 ปีฉลู

อุปสมบท ที่วัดตองปู หรือวัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ

มรณภาพ วันศุกร์ แรม 11 ค่ำ ปีมะแม พ.ศ. 2462

รวมสิริอายุ ประมาณ 109 ปี อ่านเพิ่มเติม

ประวัติ หลวงพ่อเงิน บางคลาน กรุวัดขวาง

ประวัติ หลวงพ่อเงิน บางคลาน กรุวัดขวาง

ประวัติความเป็นมา :
ตำบลวัดขวาง เป็นตำบลหนึ่งของอำเภอโพทะเล ซึ่งเรียกชื่อตามชื่อวัด ซึ่งตั้งอยู่บริเวณฝั่งขวาของแม่น้ำพิจิตรเก่า (แม่น้ำน่านเดิม) ปัจจุบันอยู่ที่หมู่ที่ 3 ตำบลวัดขวาง มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาบริเวณนี้เป็นโค้งคุ้งแม่น้ำน่าน มีเกาะอยู่กลางแม่น้ำ การเดินทางในสมัยก่อนราษฎร ใช้เรือแพเป็นพาหนะในการสัญจรไปมา ยามน้ำลดเรือแพของราษฎรมักจะติดอยู่ในบริเวณนี้ บางครั้งติดอยู่หลายวัน ต้องลงเรือหาที่พักแรมหาอาหาร หาฟืน บางคนเห็นเป็นชัยภูมิที่เหมาะสม จึงได้ชักชวนกันตั้งบ้านเรือนจนเกิดชุมชนขึ้นในบริเวณนี้ ครั้นเมื่อมีบ้านเรือนอยู่หนาแน่นเป็นชุมชนใหม่ หลวงพ่อไข่และราษฎรผู้มีจิตศรัทธาจึงได้สร้างวัดขึ้น ติดบริเวณโค้งคุ้งน้ำแห่งนี้ และเนื่องจากบริเวณวัดตั้งอยู่ติดโค้งคุ้งน้ำ ราษฎรที่ใช้เรือแพเดินทางสัญจรไปมาเมื่อเดินทางใกล้ถึงบริเวณโค้งคุ้งน้ำแห่งนี้ เมื่อมองไปข้างแม่น้ำจะเห็นเป็นวัดสร้างขวางแม่น้ำอยู่ จึงเรียกชื่อวัดแห่งนี้ว่า วัดขวางน้ำ แต่ต่อมาเรียกกันติดปากสั้น ๆ ว่า “วัดขวาง”

สภาพทั่วไปของตำบล :
ลักษณะภูมิประเทศ เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำพิจิตรเก่าไหลผ่าน ซึ่งมีพื้นที่ส่วนใหญ่เหมาะกับการทำนา
อาณาเขตตำบล :
ทิศเหนือ ติดกับ ต. ทับหมัน อ. ตะพานหิน จ. พิจิตร
ทิศใต้ ติดกับ ต. ทุ่งน้อย อ. โพทะเล จ. พิจิตร
ทิศตะวันออก ติดกับ ต. คลองคูณ อ. ตะพานหิน จ. พิจิตร
ทิศตะวันตก ติดกับ ต. โพทะเล อ. โพทะเล จ. พิจิตร อ่านเพิ่มเติม

คาถาบูชาหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

คาถาบูชาหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

คาถาบูชาหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ
หมายเหตุ หลวงพ่อเงิน วัดคงคาราม หลวงพ่อเงิน วัดท้ายน้ำและหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน (วัดหิรัญญาราม) คือองค์เดียวกัน
วัดท้ายน้ำ ( วัดเก่าหลวงพ่อเงิน ) อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร

ให้ตั้ง นะโมฯ 3 จบ แล้วสำรวมจิตกล่าวคาถา
สิทธิพุทธัง กิจจังมะมะ ผู้คนไหลมา นะชาลีติ
สิทธิธัมมัง จิตตังมะมะ ข้าวของไหลมา นะชาลีติ
สิทธิสังฆัง จิตตังมะมะ เงินทองไหลมา นะชาลีติ
ฉิมพลี มหาลาภัง ภะวันตุเม

วันนมัสการหลวงพ่อเงิน วันอังคาร วันพฤหัสบดี วันศุกร์ พร้อมด้วยดอกบัวหรือดอกมะลิ 9 ดอก หมาก 3 คำ จัดใส่พาน และธูป 9 ดอก เทียน 1 คู่ ให้ตั้งจิตอธิษฐานขอบารมีพุทธคุณของหลวงพ่อเงินคุ้มครอง ป้องกันภัยจากโจรผู้ร้าย ตลอดจนค้าขายของดีเลิศมีเมตตามหานิยม พุทธคุณของหลวงพ่อเงินเป็นที่รู้จักและเคารพนับถือของประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะวัตถุมงคล อาทิเช่น รูปหล่อลอยองค์หลวงพ่อเงินพิมพ์นิยมและพิมพ์ขี้ตา ไข่ปลาหน้าจอบ หน้าจอบเล็ก ตะกรุด และความศักดิ์สิทธิ์ของน้ำมนต์ เป็นต้น ยังมีความอภินิหารอีกมากสุดที่จะนำมากล่าวนี้ อ่านเพิ่มเติม

คาถาบูชาหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร

คาถาบูชาหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร

หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน ทุกรุ่นประสบการณ์ดีทางด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดจากภัยทั้งปวง เมตตามหานิยม โชคลาภ และค้าขายดีมาก ผู้มีพลังศรัทธาต่อหลวงพ่อเงิน ต้องการที่จะมีไว้ในครอบครอง พระหลวงพ่อเงินไม่จำเป็นต้องทันท่านปลุกเสกเสมอไป ขอให้พิธีดี เจตนาสร้างดี บารมีหลวงพ่อเงินก็แผ่ถึงแล้วครับ ผู้ที่มีพลังศรัทธาต่อหลวงพ่อเงินต่างประจักษ์กันทั่วหน้าครับ ต่อไปนี้เป็นพระคาถาเพื่ออาราธนาหลวงพ่อเงินวัดบางคลานครับ

หมายเหตุ หลวงพ่อเงิน วัดคงคาราม, หลวงพ่อเงิน วัดท้ายน้ำ และหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน (วัดหิรัญญาราม) คือองค์เดียวกันครับ วัดท้ายน้ำ คือวัดเก่าของหลวงพ่อเงินเช่นเดียวกันครับ

คาถาบูชาหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ

ให้ตั้ง นะโมฯ 3 จบ แล้วสำรวมจิตกล่าวคาถา
สิทธิพุทธัง กิจจังมะมะ ผู้คนไหลมา นะชาลีติ
สิทธิธัมมัง จิตตังมะมะ ข้าวของไหลมา นะชาลีติ
สิทธิสังฆัง จิตตังมะมะ เงินทองไหลมา นะชาลีติ
ฉิมพลี มหาลาภัง ภะวันตุเม
อ่านเพิ่มเติม

เหรียญหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน

เหรียญหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน

เหรียญหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน พิมพ์จอบเล็ก และจอบใหญ่ เป็นเหรียญยอดนิยมที่ช่างโบราณ ใช้กรรมวิธี เทหล่ออย่างประณีต สวยงามทั้งพิมพ์และเนื้อ วัตถุมงคลหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เป็นที่รู้จัก และเสาะแสวงหามานานจนปัจจุบัน ได้แก่ เหรียญหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน พิมพ์จอบเล็ก จอบใหญ่ รูปหล่อลอยองค์ พิมพ์นิยม พิมพ์ขี้ตา สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2460 เพื่อเป็นอนุสรณ์ และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ศิษยานุศิษย์ที่เคารพ เลื่อมใส หลวงพ่อเงิน แบ่งปันให้บูชาเก็บไว้กับตัว ดังนี้ครับ

1.เหรียญจอบเล็ก หลวงพ่อเงิน พิมพ์แข้งตรง มีคราบขี้เบ้า สภาพใช้
2.เหรียญจอบเล็ก หลวงพ่อเงิน พิมพ์แข้งตรง มีคราบขี้เบ้า
3.เหรียญจอบเล็ก หลวงพ่อเงิน พิมพ์แข้งติด มีคราบขี้เบ้า
4.เหรียญจอบเล็ก หลวงพ่อเงิน พิมพ์แข้งติด มีคราบขี้เบ้า สนิมแดง สนิมเขียว
5.เหรียญจอบเล็ก หลวงพ่อเงิน พิมพ์แข้งติด มีคราบขี้เบ้า สนิมแดง สนิมเขียว
6.เหรียญจอบเล็ก หลวงพ่อเงิน พิมพ์แข้งตรง มีคราบขี้เบ้า สนิมเขียว
7.เหรียญจอบใหญ่ หลวงพ่อเงิน มีคราบขี้เบ้า สภาพใช้
8.เหรียญจอบใหญ่ หลวงพ่อเงิน มีคราบขี้เบ้า สนิมแดง สนิมเขียว

http://www.apiwatamulet.com/

หลวงพ่อเงิน

หลวงพ่อเงิน
วัดหิรัญญาราม (วัดวังตะโก) บางคลาน จ.พิจิตร

หลวงพ่อเงิน ท่านเกิดเมื่อ วันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๓๕๓ ตรงกับวันศุกร์ เดือน ๑๐ ปีฉลู บิดาชื่อ อู๋ มารดาชื่อ ฟัก ท่านเกิดที่บ้านบางคลาน อำเภอโพธิ์ทะเล จังหวัดพิจิตร บิดาเป็นชาวบางคลาน มารดาเป็นชาวบ้านแสนตอ อำเภอขาณุวรลักษณ์บุรี (แสนตอ) จังหวัดกำแพงเพชร

ตั้งแต่อายุ ๓ ขวบ ได้ไปอยู่กับลุง ชื่อนายช่วง ที่กรุงเทพฯ และได้เข้าเรียนที่ บ้านตองปุ (วัดชนะสงคราม) จังหวัดพระนคร เมื่ออายุได้ ๑๒ (พ.ศ. 2365) ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณรได้ศึกษาธรรมวินัย เวทย์วิทยาการต่างๆ จนแตกฉาน พออายุใกล้อุปสมบทท่านได้สึกจากสามเณรและหลังจาก ได้อุปสมบทแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดตองปุ (วัดชนะสงคราม) ได้ร่ำเรียนวิปัสสนาอยู่ ๓ พรรษา แล้วมาอยู่วัดคงคาราม (วัดบางคลานใต้) ได้ ๑ พรรษา ขณะนั้นหลวงพ่อพระอุปัชฌาย์ให้เป็นเจ้าอาวาสอยู่ ท่านเป็นพระเรืองวิชา ชอบเล่นแร่ แปลธาตุ แต่หลวงพ่อเงินท่านเคร่ง ธรรมวินัย ชอบความสงบ ท่านจึงได้ย้ายไปอยู่หมู่บ้านวังตะโก ลึกเข้าไปทางลำน้ำเก่า
กล่าวกันว่า….เดิมที่ท่านจากวัดคงคารามไปแล้ว ก็มาปลูกกุฏิด้วยไม่ไผ่มุงหลังคาด้วยแฝกอยู่องค์เดียว และพร้อมกันนั้นได้นำกิ่งโพธิ์มาปักไว้ที่ริมตลิ่ง (หน้าพระอุโบสถ) แล้วอธิษฐานว่าถ้าท้องถิ่นนี้จะเจริญรุ่งเรืองเป็นอารามต่อไป ก็ขอให้โพธิ์ต้นนี้งอกงามแผ่กิ่งก้านสาขาเป็นนิมิตดีต่อไปด้วย และเหตุการณ์ก็เป็นจริงดังอธิษฐานไว้ ซึ่งต่อมาพื้นที่แถบนั้นก็ได้ปรากฏเป็น “วัดวังตะโก” เกิดขึ้น พระอารามแห่งนี้ “หลวงพ่อเงิน” ได้เป็นผู้สร้างไว้เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2377 ต่อมาวัดวังตะโก หรือวัดหิรัญญารามก็เจริญอย่างรวดเร็ว มีผู้คนเคารพนับถือและถวายตัวเป็นศิษย์ ขอมาฟังธรรม ขอเครื่องรางของขลัง และขอให้หลวงพ่อช่วยรักษาโรคให้ ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์และสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณฝ่ายวิปัสสนา
“หลวงพ่อเงิน” นับเป็นพระเกจิอาจารย์ ผู้เลื่องชื่อ ด้านไสยเวทเยี่ยมยอดที่สุดของเมืองพิจิตร จนเมื่อมาอยู่วัดวังตะโดและได้พัฒนาวัดจนรุ่งเรือง เป็นที่รู้จักกันไปทั่วว่า
หลวงพ่อเงินสามารถรู้ผู้มาเยือนด้วยญาณวิเศษได้อย่างมหัศจรรย์ และยังเป็นหมอเชี่ยวชาญในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้แก่ชาวบ้านได้อย่างชะงัดอีกด้วย เคยมีผู้ไปลองดีกับท่าน ท่านก็แอ่นอกให้ยิง แต่กระสุนไม่ยอมออกจากลำกล้อง ความศักดิ์สิทธิ์เยี่ยงอัจฉริยะของ “หลวงพ่อเงิน” บางคลาน นับว่าร่ำลือกันไปไกลมาก จนถึงขนาดเสด็จในกรม “กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์” ก็ยังเสด็จไปฝากตัวเป็นศิษย์ด้วย อ่านเพิ่มเติม

น้ำมนต์กลายเป็นหิน

น้ำมนต์กลายเป็นหิน

ปกติในสมัยที่หลวงพ่อเงิน ยังมีชีวิตอยู่ แต่ละวันจะมีประชาชนจากใกล้และไกลๆเดินทางไปกราบนมัสการเป็นจำนวนมาก บ้างก็ไปขอของดีบางคนก็ไปขอรดน้ำมนต์ ใครต้องการสิ่งใด ท่านไม่เคยขัดศรัทธา

มีอยู่คราวหนึ่ง ได้มีชาวจีนผู้หนึ่งชื่อ เจ๊กไล้ เป็นพ่อค้าวานิชอยู่ที่จังหวัดสุโขทัย ได้ยินกิตติศัพท์ของท่าน เกิดศรัทธาถึงขนาดเดินทางมากราบนมัสการที่วัดบางคลาน ขณะเจ๊กไล้ ได้เดินทางมาถึงวัด พบท่านกำลังนั่งรับแขกอยู่ที่นอกกุฏิ จึงเข้าไปกราบพร้อมกับแจ้งจุดประสงค์ว่า….อยากได้น้ำมนต์ไปปะพรมสินค้า จะได้ขายดีๆ อย่างคนอื่นเขาบ้าง !!!

หลวงพ่อเงิน ได้บอกกับเจ๊กไล้ ว่าให้ไปตักน้ำใส่บาตรแล้วเอาไปตั้งตรงหน้าโต๊ะหมู่บูชา พร้อมกับให้จุดธูป จุดเทียนไว้ด้วย เจ๊กไล้ได้ปฏิบัติตามคำสั่งทุกประการ เมื่อเสร็จแล้วก็มานั่งรอท่านอีกด้านหนึ่ง นั่งรอจนเทียนลุกไหม้เกือบหมด ก็ไม่เห็นว่า หลวงพ่อเงิน จะลุกไปทำน้ำมนต์ให้ เห็นท่านนั่งคุยกับแขกเหรื่อเฉยอยู่
อ่านเพิ่มเติม

พระคาถาหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

พระคาถาหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

ตั้งนะโมสามจบ

จิตตะกัง จิตตะโร มาจิตตังมะมะ จิตติสุหิ
จิตติมานิมานิมา อิสัพเพชะนา ก็มาจิตติ อิติพหูชะนา
อิมะนุสสา ก็มาแห่งใจมนุษย์ก็มา สิตะอิทะอิอัง
ไตรอุสุ พระราชา วิหลุดสุดยอดสอดอินทราชัย
พุทธาครารอด สอดพระพุทธา สุขังหิรัญญังวา
อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ

พระคาถานี้ เรียกว่ามนต์มหาจินดา เป็นวิชาของหลวงพ่อเงินบางคลาน
ท่าน ใดจากหลวงพ่อโพรงโพธิ์ ว่ากันว่า เป็นคาถาที่พระแม่พันธุรัตได้สอนพระสุวรรณสังข์โพธิสัตว์ก่อนตาย จึงทำให้พระสุวรรณสังข์โพธิสัตว์เป็นที่รักที่เมตตาแก่คนทั้งหลาย ไม่เว้นแม้แต่ปลาหรือเนื้อทรายก็ใจอ่อนยอมให้จับสิ้น คาถานี้สตรีใช้เสกแป้งหอมทาหน้าเป็นสง่ากว่าสตรีใดทั้งปวง หากเป็นบุรุษจะภาวนาเฉยๆๆก็เป็นมหานิยม
หรือจะใช้เสกเครื่องประทินหอมก็มีเมตตามากขึ้นแล

ที่มา พระคาถามหามนต์จินดา (หลวงพ่อเงิน บางคลาน)
พระคาถามหามนต์จินดา (หลวงพ่อเงิน บางคลาน

ประวัติหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
http://www.tumsrivichai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538652326&Ntype=5

http://board.palungjit.org/

พระรูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร

พระรูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร

“พระหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ทุกพิมพ์ถ้าอยู่ในสภาพสวยสนนราคาขึ้นหลักล้านทั้งสิ้น ปัจจุบันหาพระแท้ๆ ได้ยากครับ พุทธคุณของท่านนั้นเด่นทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด และโชคลาภ”

นอกเหนือจาก หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นที่ยอมรับเลื่อมใสว่าเป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงพุทธาคมยิ่งใหญ่ มีลูกศิษย์ลูกหามากมายหลายรูปหลายรุ่นด้วยกัน รวมทั้งเสด็จฯ ในกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ พระบิดาแห่งทหารเรือ แล้ว ยังมีพระเกจิอาจารย์อีกรูปในยุคเดียวกันที่หลวงปู่ศุขเองยังยอมรับนับถือในพุทธาคมจนแนะนำให้เสด็จฯ ในกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ไปฝากตัวเป็นศิษย์ด้วยเช่นกัน นามของท่านคือ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร

หลวงปู่ศุขกับหลวงพ่อเงินมีความสัมพันธ์กันเป็นอย่างยิ่ง บางท่านสันนิษฐานว่า ท่านอาจเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกัน หลวงปู่ศุขศึกษาทางวิปัสสนาธุระและมหาพุทธาคมกับหลวงปู่เชย วัดโพธิ์ทองล่าง (เมื่อก่อนเรียก วัดโพธิ์บางเขน) จังหวัดนนทบุรี ท่านเป็นชาวรามัญ มีความชำนาญทางวิปัสสนาธุระและพุทธาคม ส่วนหลวงพ่อเงินบวชเรียนศึกษาที่วัดชนะสงคราม บางลำภู ซึ่งเป็นวัดที่พระภิกษุสงฆ์ชาวรามัญบวชเรียนอยู่เป็นอันมาก และเป็นวัดที่เคร่งทั้งทางวัตรปฏิบัติและระเบียบวินัย มีชื่อเสียงโด่งดังตลอดมา จึงน่าจะมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสมัยที่หลวงปู่ศุขท่านมีชื่อเสียงขจรขจายนั้น ท่านเดินทางขึ้นล่องระหว่างนครสวรรค์ เมืองพิจิตร และเมืองพิษณุโลกเสมอ จึงทำให้ท่านทั้งสองได้ทำความรู้จักซึ่งกันและกันก็อาจเป็นอีกนัยหนึ่งด้วย ที่สำคัญที่สุด คือตำราของหลวงปู่ศุข มี “พระคาถาปฐมอักขระ” ซึ่งท่านได้รับประสิทธิประสาทจากหลวงพ่อเงินอีกด้วย จึงเชื่อว่าท่านทั้งสองมีความสนิทสนมกันอย่างแน่นอน
อ่านเพิ่มเติม

คาถาขออโหสิกรรม ของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

คาถาขออโหสิกรรม ของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

เป็นคาถาที่ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ท่านได้เจริญภาวนาทุกวันก่อนบิณฑบาต
ว่ากันว่า เป็นการแผ่เมตตาไปยังสัตว์โลกด้วย

เพราะปรากฏว่าการเจริญพระคาถานี้ทำให้จระเข้ตัวนึง
ที่ชื่อ ไอ้สี เลิกอาละวาดทำร้ายคนเดินเรือในแม่น้ำน่าน
เพราะว่า หลวงพ่อเงินท่านจะภาวนาทุกทีตอนที่บิณฑบาต (ทางเรือ)

มันจะคอยว่ายน้ำตามเรือไม่ทำอะไรผู้คน
จนบางทีถ้าหลวงพ่อเงินท่านจะข้ามแม่น้ำ
ว่ากันว่ามันจะว่ายมาหาหลวงพ่อเงินก็นั่งบนหลังมันข้ามน้ำไปได้
(เป็นคาถาเดียวกับที่สมเด็จโตใช้สะกดจระเข้)

ผู้ที่เป็นเจ้าของวิชานี้คือหลวงพ่อใหญ่ เมืองพิจิตร
หนึ่งในอาจารย์ สมเด็จโต

และคาถานี้ หลวงพ่อไป๋ วัดท่าหลวง
ได้ใช้เสกตะกรุดกระดูกแร้งจนลือเลื่องด้วย
อ่านเพิ่มเติม

‘พระหลวงพ่อเงิน’วัดบางคลานเนื้อดินแชมป์๗งานใหญ่

‘พระหลวงพ่อเงิน’วัดบางคลานเนื้อดินแชมป์๗งานใหญ่
‘พระหลวงพ่อเงิน’วัดบางคลานเนื้อดิน พิมพ์ขี้ตา ๕ ชาย องค์แชมป์ ๗ งานใหญ่ : พระหลักยอดนิยม โดยตาล ตันหยง

ทุกวันนี้ พระรูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร จัดได้ว่าเป็นพระหล่อโบราณเนื้อโลหะที่มีราคาเช่าหาสูงที่สุดของวงการพระเครื่อง คือ อยู่ที่หลักล้านขึ้นไปทุกองค์
ชาวพิจิตร รุ่นเก่าก่อนกล่าวกันว่า พระหลวงพ่อเงิน นอกจากรูปหล่อพิมพ์นิยม พิมพ์ขี้ตา และเหรียญจอบใหญ่ เหรียญจอบเล็ก ซึ่งเป็นพระเนื้อโลหะหล่อโบราณ แล้วก็ยังมีพระเนื้อดิน พิมพ์สมเด็จ พิมพ์พระเจ้า ๕ พระองค์ ฯลฯ รวมทั้ง พระหลวงพ่อเงิน พิมพ์ขี้ตา เนื้อดิน อีกด้วย แต่สร้างน้อยมาก พบเห็นยาก พิมพ์ทรงองค์พระมีรายละเอียดแบบเดียวกับ พิมพ์ขี้ตาเนื้อโลหะ ทุกอย่าง และมีเฉพาะ พิมพ์ขี้ตา เท่านั้น มีทั้งพิมพ์ขี้ตา ๓ ชาย, ๔ ชาย และ ๕ ชาย เช่นเดียวกับ พิมพ์ขี้ตาเนื้อโลหะ
องค์ในภาพนี้ พระหลวงพ่อเงิน พิมพ์ขี้ตา ๕ ชาย เนื้อดินผสมผงพุทธคุณ ชุบรัก ปิดทอง องค์นี้เป็นองค์ดารา เป็นองค์แชมป์รับ ๗ รางวัลชนะเลิศมาแล้วจากงานประกวดพระที่สมาคมพระเครื่องให้การรับรอง ล่าสุดติดรางวัลที่ ๑ งานกองบัญชาการกองทัพไทย ณ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ (เมื่อ ๒๘ เม.ย.๕๖)
วันนี้ มีภาพมาให้ชมกันชัดๆ ทั้ง ๕ ด้าน เพื่อให้เห็นรอยตะเข็บข้าง และรูที่อยู่ด้านล่างองค์พระอย่างชัดเจน
พระองค์นี้นอกจากจะมีการชุบรักปิดทองมาแต่เดิมแล้ว ยังมีพิเศษสุดๆ กว่าองค์อื่นที่เคยพบเห็นมา คือ มีการเจาะรูที่ใต้ฐานมาแต่เดิมด้วย ซึ่งยังไม่เคยพบเห็นมาก่อนในพระองค์อื่น อ่านเพิ่มเติม

รูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิมพ์นิยม มีนิ้วรอง

รูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิมพ์นิยม มีนิ้วรอง

รูปหล่อหลวงพ่อเงินองค์นี้เป็นพระพิมพ์นิยม มีลักษณะถูกต้องตามพิมพ์มาตรฐานทุกอย่าง เนื้อโลหะออกสีเหลืองอมเขียวแบบขันลงหินโบราณซี่งเป็นเนื้อนิยม ความเก่าตามธรรมชาติดูได้ง่าย และไม่มีรอยพิรุธอะไรให้เห็น ในเรื่องความเป็นพระแท้หรือไม่ นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ความสวยสมบูรณืจัดเป็นเรื่องรอง พระที่มีสถาพแบบนี้จัดเป็นพระระด้บองค์ครู ราคาต้องไม่ตำกว่า7หลักกลางๆ แต่ต้องเป็นพระที่ดูง่ายมีความมั่นใจว่าเป็นพระแท้ ซึ่งพระองค์นี้มีความพิเศษกว่าองค์อื่นคือ ที่ไต้ฐานองค์พระตรงรอยตัดช่อซีงมีรอยตะไบห่างๆอยู่ ปรากฎว่ามีรอยเหล็กจารอ่านได้ว่า อุ อะ มะ ทับรอยตะไบ และมีสนิมจางๆเกิดภายหลังคลุมอีกที คราบสนิมนี้จีงเป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า เป็นรอยตะไบเก่าและรอยจารเก่าโดยไม่มีข้อสงสัย ดังนั้นพระรูปหล่อหลวงพ่อเงินพิมพ์นิยมองค์นี้จึงนับเป็นองค์ที่พิเศษกว่าองค์ใดๆทั้งสิ้น มีสิ่งพิสูจน์ที่เป็นรูปธรรมว่าเป็นพระแท้ ผู้ที่จะครอบครองได้ ต้องมีถีง8หลัก โดยท้วไปแล้วพระหลวงพ่อเงินเนื้อโลหะ ความสวยสมบูรณ์ไม่ใช่สิ่งสำคัญเท่ากับความแท้ดูง่าย จะเห็นได้จากพระที่เป็นองค์ครู แต่ละองค์จะต้องมีการลงรักที่แสดงความเก่าของรักได้อายุ มีคราบสนิมเก่า หรือไม่ก็มีการสึกกร่อนให้เห็นได้ว่าเก่าจริง พระที่ไม่มีลักษณะที่กล่าวถึงแม้จะเป็นพระแท้ ผู้ที่เป็นเจ้าของมีความมั่นใจแต่คนอื่นก็ไม่มั่นใจด้วย เพราไม่มีประจักษ์พยานที่เป็นรูปธรรม ดังนั้นการที่พระหลวงพ่อเงินองค์นี้มีรอยจารทับรอยตะไบเก่า และมีสนิมคลุมอีกชั้นหนึง ก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าพระมีความเก่าจริง เป็นพระแท้ นี่เป็นความพิเศษประการแรก ความพิเศษประการที่สองคือ ผู้ลงเหล็กจารคือหลวงพ่อเงินได้ประจุพระพุทธคุณเป็นพิเศษกว่าองค์ที่ไม่มีเหล็กจาร

http://www.taradpra.com/

ประวัติและอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร ตอนที่2

ประวัติและอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร ตอนที่2

สำหรับบทความพระเครื่องในวันนี้ผมก็จะมาบอกเล่า ประวัติและอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร กันต่อจากบทความเดิมของหลวงพ่อเงิน ในตอนที่แล้วครับ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาสำหรับทุกท่านๆ ผมว่าเริ่มต้นบทความเครื่องดีๆสำหรับวันนี้กันเลยดีกว่าครับ
วันมรณภาพของหลวงพ่อเงิน บันทึกที่มีอยู่ ตรงกันทุกแห่งว่าหลวงพ่อเงินมรณภาพเมื่อ วันศุกร์ แรม 11 ค่ำ เดือน 10 ปี มะแม เวลา 5.00 น. ตรงกับวันเดือนปีในทางสากล คือ วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2462 ท่านมรณภาพที่วัดวังตะโก หรือวัดบางคลาน ตำบลบางคลาน อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร
ประวัติของหลวงพ่อ ช่วงชีวิตในฉากสุดท้ายของท่าน ไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนได้ยินได้ฟังมาเหมือนๆกัน แต่ตอนที่หลวงพ่อเงินท่านเกิดมา ไม่มีผู้ใดจะจดจำเท่าใดนัก นอกจากบุคคลในครอบครัวของ ท่านเท่านั้น แต่ทุกคนไม่รู้ว่า ผู้ที่เกิดมากับฝีมือหมอตำแยในละแวกบ้าน ใครบ้างจะเป็นบุคคลสำคัญ ถึงกับต้องคอยจดวันเดือนปีเอาไว้
โดยญาติโยมต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ควรจะเก็บศพของหลวงพ่อเงินไว้ก่อน สักหนึ่งปี เป็นอย่างน้อย เพื่อมิให้ดป็นการเพิ่มความเงียบเหงาอาลัยมากไปกว่านั้น เพราะอย่างน้อยก็ยังมานมัสการกราบไหว้ เรือนร่างของท่านเสมือนหนึ่งว่า ท่านยังอยู่ แต่ยังไม่ทันที่จะถึงเวลาเก็บอัฐิของหลวงพ่อเลย ญาติโยมและบรรดาศิษย์ที่มีความเคารพนับถือท่าน ต่างก็เฮโลเข้าแย่งกัน ของสิ่งใดที่หลวงพ่อเคยใช้อยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นจีวร สบง ข้าวของเครื่องใช้ แม้จะได้คนละเล็กน้อยก็เอาดี เพื่อนำไปเป็นวัตถุมงคลคุ้มครอง แม้แต่เถ้าถ่านก็ไม่มีเหลือให้เห็นเลย
อภินิหารของหลวงพ่อเงิน นั้นยังคงความเข้มขลังอยู่ ต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงพ่อเงิน ได้แก่ต้นโพธิ์ที่หลวงพ่อเงินได้หักกิ่งมาปักไว้ริมน้ำหน้าพระอุโบสถ วัดวังตะโก ก่อนจะนำมาปักหลวงพ่อได้ อธิษฐานจิตขอเสี่ยงทายไว้ว่า หากวัดท่านจะเจริญรุ่งเรืองก็ขอให้กิ่งโพธิ์กิ่งนี้จงแตกกิ่งก้านกว้างใหญ่ไพศาลด้วยเถิด
อ่านเพิ่มเติม

ประวัติและอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร ตอนที่ 1

ประวัติและอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร ตอนที่ 1

ประวัติและอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดพิจิตรกันบ้างนะครับ ซึ่งพระเกจิอาจารย์ท่านนั้นก็คือ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร นั้นเองครับ
ซึ่งจากคำบอกเล่า บอกต่อๆกันมานั้น หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ มีนามเดิมว่า “เงิน” เกิดในวันศุกร์ เดือน 10 ปีฉลู หรือตรงกับวันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2353 แต่บ้างก็บอกว่าเกิดในปี พ.ศ.2360 โดยโยมบิดา ของท่านชื่อ อู๋ โยมมารดาชื่อ ฟัก มีพี่น้องรวมกันทั้งหลวงพ่อเงินด้วยแล้ว มีจำนวนด้วยกัน 6 คน ได้แก่
1. นายพรม 2. นางทับ 3. นายทอง (ภายหลังได้พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็นท่านขุนภุมรา) 4. ชื่อเงิน ก็คือหลวงพ่อเงิน นั้นเอง 5. นายหล่ำ 6. นางรอด
โดยทุกท่านที่กล่าวมานี้ ล้วนถือกำเนิดที่บ้านบางคลานทุกท่าน เป็นเลือดเนื้อชาวพิจิตร “เมืองชาละวัน”
เมื่อหลวงพ่อเงินเจริญวัยได้เพียง สามขวบเท่านั้นนายช่วงผู้เป็นลุง ก็นำหลวงพ่อเข้ามาเลี้ยง และได้ส่งหลวงพ่อให้ได้เล่าเรียนวัดตองปุ หรือวัดชนะสงครามใน กทม. นี่เอง จนหลวงพ่อท่านมีอายุได้ สิบสองปี นายช่วงผู้เป็นลุงจึงให้หลวงพ่อได้บรรพชาเป็นสามเณรองค์น้อยๆ ได้ร่ำเรียนทั้งทางคาถาอาคมต่างๆ และด้านพระธรรมวินัยจนแตกฉานเก่งกล้าสามารถเกินผู้ที่อยู่ในวัยเดียวกันและเมื่ออายุใกล้จะ อุปสมบทหลวงพ่อเงินก็สึก และได้อยู่กับพี่ชาย และพี่สะใภ้ของท่าน อ่านเพิ่มเติม

หลวงพ่อเงิน

หลวงพ่อเงิน

หลวงพ่อเงิน

ประวัติ หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ
วัดบางคลาน (วัดหิรัญญาราม) อ.โพทะเล จ.พิจิตร

หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ มีนามเดิมว่า “เงิน” เกิดเมื่อวันศุกร์ เดือน 10 ปีฉลู ซึ่งตรงกับวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2348 บิดาชื่อนายอู๋ มารดาชื่อนางฟัก เป็นชาวบ้านตำบลบางคลาน จังหวัดพิจิตร มีพี่น้องร่วม บิดาเดียวกันทั้งหมด 6 คน คนที่ 1 ชื่อ พรม คนที่ 2 ชื่อทับ คนที่ 3 ชื่อ ทอง คนที่ 4 ชื่อ เงิน คนที่ 5 ชื่อ หล่ำ คนที่ 6 ชื่อ รอด (ในหนังสือประวัติของท่านมีผู้เขียนไว้เป็น ๒ กระแส แต่ต่างยืนยันว่าท่านเกิดปีฉลู กระแสแรกว่าท่านเกิดปีฉลู พ.ศ. 2348 อีกกระแสท่านเกิดปีฉลู พ.ศ. 2360)

ประวัติหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน “หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ” เป็นชาวบ้านบางคลาน อำเภอบางคลาน จังหวัดพิจิตร เป็นบุตรคนที่ 4 บิดาของท่านชื่อ อู๋ เป็นชาวบ้านบางคลาน มารดาของท่านชื่อฟัก เป็นชาวบ้าน จังหวัดกำแพงเพชร ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งรัตนโกสินทร์ มีพี่น้องรวมทั้งสิ้น 6 คนด้วยกัน

เมื่อปี พ.ศ. 2356 หลวงพ่อเงิน อายุได้ 5 ขวบ นายช่วงซึ่งเป็นครูของท่าน ได้พา หลวงพ่อเงิน ไปอยู่กรุงเทพฯ จนกระทั่งหลวงพ่อเงินเติบโตเข้าศึกษาเล่าเรียนได้ จึงได้นำ หลวงพ่อเงิน ไปฝากไว้ที่วัดตองปู (วัดชนะสงคราม) เพื่อให้เล่าเรียนหนังสือที่วัดชนะสงครามตลอดมาจนถึงปี พ.ศ. 2363 หลวงพ่อเงินอายุได้ 12 ปีจึงได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุครบบวชท่านก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดชนะสงคราม ฉายา พุทธโชติ แล้วหลวงพ่อเงิน ท่านได้จำพรรษา เพื่อปฏิบัติธรรมวินัยเรียนทางวิปัสสนากรรมฐานอยู่ได้ 3 พรรษาขณะที่ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดชนะสงคราม ท่านได้ไปถวายตัวเป็นศิษย์ เพื่อศึกษาศิลปวิทยาคมตลอดจนเรียนวิปัสสนาธุระ ในทางเมตตามหานิยมและคงกระพันชาตรี จากเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒจารย์(โต) พรหมรังสีวัดระฆังโฆสิตาราม

อ่านเพิ่มเติม

หลวงปู่เงิน พุทธโชติ

หลวงปู่เงิน พุทธโชติ

หลวงปู่เงิน พุทธโชติ
(เงิน พุทธโชติ)
หลวงปู่เงิน พุทธโชติ

เกิด 16 กันยายน พ.ศ. 2353
อุปสมบท พ.ศ. 2375
มรณภาพ 20 กันยายน พ.ศ. 2464
อายุ 111
วัด วัดบางคลาน
จังหวัด พิจิตร
ตำแหน่ง
ทางคณะสงฆ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน

หลวงปู่เงิน พุทธโชติ เกิดวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2353[1] ตรงกับรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร[2]
ประวัติ

นามเดิมแรกเกิดของท่านคือ เงิน เมื่อท่านอายุได้ 3 ขวบ ผู้เป็นลุงได้พามาอยู่ที่กรุงเทพฯศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดชนะสงคราม ต่อมา เมื่อท่านอายุ 12 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดชนะสงครามศึกษาพระธรรมวินัย คำภีร์มูลกัจจายน์ เวทมนตร์คาถาและวิทยาการต่างๆ จนแตกฉาน จากนั้น ท่านได้อุปสมบทเมื่ออายุครบ 20 ปี ณ วัดชนะสงคราม มีฉายาว่า “พุทธโชติ” บวชได้ 3 พรรษา ก็ย้ายมาจำพรรษาที่วัดคงคาราม (วัดบางคลานใต้) ต่อมาย้ายเข้าไปอยู่ที่ในหมู่บ้านวังตะโก อยู่ห่างจากวัดคงคารามคนละฝั่งเท่านั้น ตอนที่ย้ายจากวัดคงคาราม หลวงพ่อได้นำกิ่งโพธิ์ติดต้วมาด้วย 1 กิ่งแล้วนำกิ่งโพธิ์นั้นมาปลูกเสี่ยงทาย ถ้าหากต้นโพธิ์ตายก็คงจะอยู่ไม่ได้ ถ้าหากที่นี่จะเป็นวัดได้ขอให้ต้นโพธิ์เจริญงอกงาม ปรากฏว่า ต้นโพธิ์เจริญงอกงามแผ่กิ่งก้านสาขาใหญ่โต หลวงพ่อเงินก็ได้เป็นพระอุปัชฌาย์ที่นี่ด้วย และท่านเป็นเพื่อนกับหลวงปู่ศุข ซึ่งหลวงปู่ศุขก็ได้ฝากกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์มาเป็นลูกศิษย์ด้วย[2] หลวงพ่อเงินถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2464 สิริอายุได้ 111 ปี[1]

http://th.wikipedia.org/wiki/

พระเครื่องหลวงพ่อเงิน

ประวัติหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร พระเครื่องหลวงพ่อเงิน วัดบางคลานนับเป็นอีกหนึ่งในตำนานของวงการพระเครื่องไทย

พระเครื่องหลวงพ่อเงิน เหรียญจอบเล็กหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เป็นที่นิยมอย่างมาก

พระเครื่อง หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
ราคาหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ซึ่งพระที่ท่านได้สร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลไว้ เช่น ตะกรุด (ปัจจุบันหาได้ยาก ราคาพระเครื่องหลวงพ่อเงิน สูงมาก) พระเครื่องหลวงพ่อเงิน พระเครื่องรูปเหมือน เนื้อทองเหลืองที่นับเป็นงานใหญ่และเป็นมาตรฐาน ได้แก่ พระรูปเหมือนพิมพ์นิยม สามารถแยกเป็นแม่พิมพ์ต่างๆ ได้ดังนี้คือ พิมพ์ชายติด พิมพ์ชายห่าง พระรูปเหมือนพิมพ์ขี้ตา แยกแม่พิมพ์เป็นพิมพ์สามชาย พิมพ์สี่ชาย พิมพ์ห้าชาย และเหรียญหล่อพิมพ์จอบใหญ่ เหรียญหล่อพิมพ์จอบเล็ก ซึ่งก็แยกออกเป็นพิมพ์แข็งตรง พิมพ์แข็งติด พิมพ์เท้ากระดก และพิมพ์ตาขีด นับเป็นพระเครื่องที่มีชื่อเสียงของ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
พระหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ทุกพิมพ์ถ้าอยู่ในสภาพสวยสนนราคาขึ้นหลักล้านทั้งสิ้น ปัจจุบันหาพระแท้ๆ ได้ยากครับ พุทธคุณของท่านนั้นเด่นทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด และโชคลาภ วันนี้ก็ได้นำรูปพระหลวงพ่อเงิน พิมพ์นิยม พิมพ์ขี้ตา เหรียญจอบใหญ่ และเหรียญจอบเล็ก มาให้ชมกันอย่างละหนึ่งองค์ครับ
อ่านเพิ่มเติม

อภินิหารน่าอัศจรรย์หลังจากหลวงพ่อเงินได้มรณภาพไปแล้ว

อภินิหารน่าอัศจรรย์หลังจากหลวงพ่อเงินได้มรณภาพไปแล้ว

อภินิหารน่าอัศจรรย์หลังจากหลวงพ่อเงินได้มรณภาพไปแล้ว
๑. วันทำศพหลวงพ่อเงินคือเมื่อถึงวันจัดการเผาศพมีประชาชนมากมายเหลือที่จะคณานับ ยื้อแย่งกระดูก จีวร จากตัวท่านเอาไปทำเครื่องรางของขลัง และเอาไปสักการบูชาเพื่อป้องกันภัยต่าง ๆ นับว่าหลวงพ่อเงินมีประชาชนเคารพนับถือและเลื่อมใสในตัวท่านมาก
๒. วาจาสิทธิ์ของหลวงพ่อเงินหลวงพ่อเงินมีวาจาสิทธิ์มากคนเกรงกลัวกันนักหนา คือ ท่านห้ามมิให้มีเรื่องราวเกิดขึ้นในวัดของท่าน เช่นตีกัน ยิงกัน หรือฉกชิงวิ่งราวไม่ได้เป็นเด็ดขาดถ้าใครขืนทำสืบดูรู้ตัวต้องมีอัน__เป็นไปต่าง ๆ คือไฟไหม้บ้านบ้าง ตายโหงบ้าง เช่นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๘ ทางวัดมีงานประจำปี มีคนมามากมายเกิดลักทรัพย์ขึ้นในวัด ในที่สุดจับผู้ร้ายได้และถูกฟ้องศาลติดตะราง ส่วนภรรยาของผู้ร้ายได้สาบาน ต่อหน้ารูปจำลองหลวงพ่อเงินว่าสามีของตนไม่ได้เป็นคนลักทรัพย์ ในที่สุดหลังจากเสร็จจากงานปิดทองไหว้พระแล้ว ภรรยาของคนร้ายก็ได้อาเจียนออกมาเป็นโลหิต จนถึงแก่ความตาย อภินิหารของหลวงพ่อเงิน ถ้าใครทำขึ้นในวัดย่อมมีอันเป็นไปให้เห็นดังนี้เสมอจึงมีผู้เกรงกลัวมาก
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดหลวงพ่อเงิน
๑. ไม้ละมุดหลวงพ่อเงินละมุดต้นนี้เมื่อหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ขึ้นอยู่หน้ากุฏิของท่านเป็นที่สำหรับอาบนํ้ามนต์ไม่กี่ปีมานี้ละมุดต้นนี้ตายและตายอยู่ ๓ เดือน ใบยังไม่ร่วง ครั้นต่อมามีคนต่างจังหวัดมาขอเอาไป ทางวัดก็ให้ไปบ้างและเก็บไว้บ้าง เล่ากันว่าที่คนเอาไปๆ ผูกคอโดยทำเป็นพระเครื่องบ้างเลี่ยมทองบ้าง เป็นเครื่องรางของขลังบ้าง เขาว่ายิงไม่เข้าบ้าง ไม่ดังบ้าง ยิงไม่ถูกบ้าง จนกระทั่งเลื่องลือกันไปทุก ๆ แห่งเดี๋ยวนี้ แม้แต่รากละมุดอยู่ในดินก็ขุดคุ้ยเอาไปทำเครื่องรางของขลังกันหมดแล้ว
๒. กล้วยร้อยหวีแม้แต่กล้วยซึ่งปลูกไว้ข้างศาลาการเปรียญของหลวงพ่อเงินก็แจกจ่ายกันคนละผลสองผลในที่สุด แม้แต่ต้น ใบ ราก ก็เอาไปทำเครื่องรางของขลังกันหมดเหมือนกับต้นละมุดนั่นแหละ
๓. สัปคับช้าง(อานช้าง) หลวงพ่อเงิน หลังจากหลวงพ่อเงินมรณภาพไปแล้วแม้แต่สัปคับช้าง ซึ่งหลวงพ่อเงินเคยขี่ช้างและนั่งสัปคับช้างนั้น ได้เก็บและทิ้งไว้หลังพระอุโบสถหลังเก่าก็มีผู้เอาไปเลี่ยมทองบ้าง เลี่ยมเงินบ้างเอาไปทำเครื่องรางของขลังบ้าง จนกระทั่งหมดไป
๔. ต้นโพธิ์หลวงพ่อเงินจากคำบอกเล่าของ “พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระครูพิบูลธรรมเวท”เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อเงินที่ปรากฏแก่หลวงพ่อพระครูพิบูลธรรมเวทคือต้นโพธิ์หลวงพ่อเงินปลูกอยู่หน้าพระอุโบสถของท่าน ต้นโพธิ์ต้นนี้มีผู้สูงอายุที่เคยเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อเงินมาก่อนเล่าให้ฟังว่าเป็นต้นโพธิ์อธิษฐานเมื่อก่อนที่หลวงพ่อจะย้ายจากวัดคงคาราม(วัดบางคลานใต้) มาสร้างวัดขึ้นใหม่คือ วัดวังตะโก (วัดหิรัญญาราม ตำบลบางคลานปัจจุบันนี้) ท่านก็ได้นำกิ่งโพธิ์มาหนึ่งกิ่ง แล้วท่านก็มาอธิฐานว่าถ้าจะสร้างวัดตรงนี้แล้วจะเจริญรุ่งเรืองต่อไปในภายภาคหน้าก็ขอให้ต้นโพธิ์เจริญงอกงาม

http://www.xn--42cgaeg4ewcdwadtcbg7mc2c2eb8cd4rf1r.com/

. . . . . . .