เรื่องพระเจ้าตาก จากหลวงพ่อจรัญ

เรื่องพระเจ้าตาก จากหลวงพ่อจรัญ

ข้อเท็จจริงตามประวัติศาสตร์ที่ว่า พระเจ้าตากนั้นเป็นผู้กู้เอกราชให้กับไทยนั้นพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์นักรบ ที่เก่งกาจกล้าหา­ญ และเสียสละอย่างมากอย่างที่ชนธรรมดามิได้ล่วงรู้อีกมากมาย แต่เรื่องที่จะเล่าเกี่ยวกับพระเจ้าตากนั้นไม่ได้มีในประวัติศาสตร์ที่เรา เคยเรียนกัน

พระเจ้าตากมิใช่เป็นลูกของคนจีนสามั­ญชนตามประวัติ ศาสตร์ แต่เป็นโอรสในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศกับสนมลับชาวจีนชื่อ ไหฮอง แต่เนื่องจากสมัยอยุธยานั้นมีการแก่งแย่งชิงดีกันมาก มีการฆ่ากันเพื่อชิงราชสมบัติ พระมารดาของพระเจ้าตากเกรงจะเป็นอันตราย จึงได้ปิดเป็นความลับ และบอกว่าบิดาของพระเจ้าตากชื่อ ไหฮอง (ชื่อของนางเอง) และมารดาชื่อนางนกเอี้ยง (ชื่อที่แต่งขึ้นไม่มีตัวตนจริง)

อ่านเพิ่มเติม

หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม : จากเด็กดื้อสู่อริยสงฆ์

หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม : จากเด็กดื้อสู่อริยสงฆ์

ชีวิตในวัยหนุ่มของนายจรัญ เป็นวัยที่คึกคะนอง แกล้งคนโน้นแกล้งคนนี้ อีกทั้งเถียงยายอยู่ตลอดเวลา แต่นายจรัญ มีดีทางการเล่นดนตรีไทย เพราะเคยเรียนมากับครูตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ โดยแอบยายไปเรียน เมื่อเรียนจบชั้นมัธยม ๓ นายจรัญได้ไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ โดยไปอาศัยอยู่บ้านสามกระได แถวคลองบางแวก ฝั่งธนบุรี ของคุณหลวงธารา มีคุณนายชื่อ ห่วง คุณหลวงธารา เคยตีระนาดให้ รัชกาลที่ ๖ ทรงโขน นายจรัญไปอยู่เพื่อเรียนดนตรี ดีด สี ตี เป่า ต่อเพลงพิณพาทย์ เป็นเวลา ๒ ปี และได้ไปเรียนช่างกลกับอาจารย์เลื่อน พงษ์โสภณ ที่บางขุนพรหม เมื่อคุณหลวงธาราและคุณนายห่วงได้สิ้นชีวิตลง นายจรัญได้ย้ายไปอาศัยอยู่กับบ้านของครูศร ศิลปบรรเลง ซึ่งต่อมาได้เป็นคุณหลวงประดิษฐ์ไพเราะ อยู่แถวบ้านบาตร หลังวัดสระเกศ เพื่อเรียนดนตรีไทยต่ออีก ๑ ปีเศษ จึงได้มารู้จักกับ ดร.อุทิศ นาคสวัสดิ์ ที่นี่ ต่อมา ครูศร ศิลปบรรเลง พานายจรัญไปฝากให้สอบเข้าเป็นนายร้อยตำรวจกับ จอมพลแปลก พิบูลสงคราม เมื่อเขาเข้าไปเรียนได้ ๓ เดือน ถูกรุ่นพี่ขู่เข็ญ และกลั่นแกล้ง เขาพยายามอดทน แต่เมื่อถูกรุกรานหนัก ความอดทนก็สิ้นสุด ประกอบกับเป็นคนที่ไม่ยอมคนอยู่แล้ว จึงชกรุ่นพี่เจ็บตัวไปหลายคน นายจรัญจึงไปขอโทษครู พร้อมกับขอลาออก และได้ชี้แจงเหตุผลต่าง ๆ ให้แก่จอมพลแปลกทราบ และขอไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดเมืองนอน และนำวิชาที่เรียนมาคือ ดนตรี มาใช้ประกอบอาชีพ เมื่อมาอยู่ที่ อำเภอพรหมบุรี ก็มาเล่นดนตรีคณะจรรยารักษ์ ซึ่งมีอยู่เดิม พร้อมออกงานแสดง มีชื่อเสียงโด่งดังไปถึงเจ็ดคุ้งน้ำ นายจรัญนอกจากมีฝีมือทางด้านดนตรีแล้ว ยังมีฝีมือทางด้านการประพันธ์หนังสือ สามารถประพันธ์เรื่องนางอรพิมกับท้าวปาจิตต์ และมีคณะลิเกมาขอลอกบท เพื่อไปแสดงเป็นลิเกหลายคณะ อ่านเพิ่มเติม

เรื่องเล่าจากหลวงพ่อจรัญ เรื่องกรรมของคนจีนที่ฆ่าตัวตาย

เรื่องเล่าจากหลวงพ่อจรัญ เรื่องกรรมของคนจีนที่ฆ่าตัวตาย

เหตุการณ์นี้หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโมได้เล่าเอาไว้เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ปี พ.ศ.2530 ครั้งเมื่อที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดพรหมบุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี โดยวันนั้นเป็นวันโกนสาร์ท คือในช่วงเทศกาลทำบุญเดือนสิบ มียายแก่คนหนึ่งชื่อ ยายเภา อาศัยอยู่ที่บางสำโรง เขตสวี อำเภอ ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ได้พายเรือมาที่ตลาดปากบางเพื่อที่จะมาซื้อของไปเตรียมทำขนมกระยาสารท

ยายเภาได้เทียบเรือเข้าไปจอดริมตลิ่งที่มีต้นไม้ครึ้มทอดลงมาต้นหนึ่ง ซึ่งคุณยายเภาไม่ทราบเลยว่าต้นไม้ต้นนั้นเคยมี ชายแก่ชาวจีนคนหนึ่งมาผูกคอตายไว้ พอคุณยายทอดเรือที่ต้นไม้นั้นก็เกิดเรื่องทันที มีอาการผิดปกติดิ้นรนทุรนทุราย ปากก็พร่ำออกมาเป็นภาษาจีนทั้งที่เธอเป็นคนไทยไม่เคยรู้ภาษาจีนเลยแม้แต่คำเดียว

ชาวบ้านในตลาดพากันมามุงดูก็ทราบว่ายายเภาถูกผีเข้าก็ไม่ทราบจะทำอย่างไรจึงได้ให้คนไปนิมนต์พระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญมาช่วย ซึ่งพอทราบเรื่องท่านก็รีบมา แต่ก็ไม่สามารถสื่อสารกันได้รู้ความเพราะ ยายเภานั้นพูดแต่ภาษาจีนอยู่ตลอดเวลา หลวงพ่อจึงได้ไปตามลุงเขยของท่านที่ชื่อ เลี่ยงเกี๊ยก มาช่วยเจรจา
อ่านเพิ่มเติม

หลวงพ่อจรัญเล่าเรื่องหลวงพ่อเดิม

หลวงพ่อจรัญเล่าเรื่องหลวงพ่อเดิม

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่เคารพ วันนี้เราได้มีโอกาสอ่าน เรื่องราวที่น่าสนใจ แฝงด้วยคติธรรม ของท่านพระอาจารย์ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน ท่านเล่าถึงอดีตเมื่อคราวที่ได้ไปเรียนวิชากับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ หรือที่ชาวบ้านนับถือท่านว่าเป็น “เทพเจ้าแห่งเมืองสี่แคว” คือเป็นผู้สำเร็จ มีวิชา มีอิทธิบารมีสูงมากนั่นเอง หวังว่าเรื่องราวนี้คงจะให้แง่คิด และความรู้ในอีกแง่มุมหนึ่งแก่ท่านผู้อ่านที่เคารพ ไม่มากก็น้อยนะครับ เรียนเชิญติดตามได้เลยครับ …

หลวงพ่อจรัญ เล่าเรื่องหลวงพ่อเดิม

เมื่ออาตมาไปเล่าเรียนวิชากับ “หลวงพ่อเดิม”

อนุสรณพจน์ น้อมระลึกถึงพระเดชพระคุณ ท่านพระครูนิวาสธรรมขันธ์ “หลวงพ่อเดิม”

เนื่องด้วย วันอังคารที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔ เป็นวันครบรอบวันมรณภาพครบ ๕๐ ปี ของพระเดชพระคุณ ท่านพระครูนิวาสธรรมขันธ์ (หลวงพ่อเดิม) อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองโพ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์

อาตมาภาพขอน้อมระลึกถึงพระคุณของพระเดชพระคุณ “หลวงพ่อเดิม” ซึ่งท่านเป็นผู้ให้กำเนิดชีวิตสมณเพศแก่อาตมภาพ ด้วย “หลวงพ่อเดิม” ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ เป็นดวงประทีป คือเป็นตัวอย่างที่ทำให้อาตมภาพได้รู้ว่า พระคืออะไร พระมีหน้าที่อะไร พระทำอะไรได้บ้าง และพระที่ดีนั้นควรจะทำอย่างไร
อาตมาภาพในฐานะศิษย์ผู้ซาบซึ้งในพระคุณของหลวงพ่อเดิม ท่านพระครูนิวาสธรรมขันธ์ ผู้เปี่ยมล้นด้วยเมตตาอันบริสุทธิ์ จักตั้งใจปฏิบัติเพื่อบูชาพระคุณ “หลวงพ่อเดิม” ให้สุดความสามารถ ดังแบบอย่างที่หลวงพ่อได้กระทำให้ดูแล้วด้วยกายกรรม วจีกรรม และ มโนกรรม อ่านเพิ่มเติม

ดาบหลวงพ่อจรัญ “หนี้กรรมข้ามชาติของอาตมา”

ดาบหลวงพ่อจรัญ “หนี้กรรมข้ามชาติของอาตมา”

เรื่อง หนี้กรรมข้ามชาติของอาตมา
โดย พระภาวนาวิสุทธิคุณ

วันนี้จะเล่าเรื่องดาบของแม่ทัพ ทำให้คนฝันและต้องมาที่วัดนี้ ไปได้มาอย่างไร ต้องใช้เงินเท่าไร เป็นเรื่องอัศจรรย์ของอาตมา ผ่านมาเป็นเวลานานหลายสิบปีแล้ว ตอนนั้นอยู่วัดพรหมบุรี ยังไม่ได้มาอยู่ที่วัดนี้ ก็จะขอเล่าประวัติอาตมาสักเล็กน้อย เมื่อสมัยอยู่วัดพรหมบุรี ก็เริ่มสอนกรรมฐานมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๔-๒๔๙๙ หลังจากที่เดินออกจากป่า ก็มาเจริญภาวนาและสอนกรรมฐาน เริ่มต้นที่วัดพรหมบุรีตามลำดับมา วันหนึ่งสมภารใช้อาตมาไปเช่าเมรุพร้อมเครื่องตั้ง จะมาจัดงานศพที่วัดต้องไปเช่าที่หัวเวียง บ้านแพน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แถวโน้นเขามีอาชีพค้าเมรุ มีไฟประดับสวยงามพร้อมเครื่องตั้งบนศาลา เหมากันมาอย่างนั้น แถวนี้ทั้งแถวไม่มีเมรุ
อ่านเพิ่มเติม

พระเทพสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม)

พระเทพสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม)

พระราชทินนาม……พระธรรมสิงหบุราจารย์ ภาวนาปฏิภาณโกศล โสภณธรรมานุสิฐ พิพัฒน์กิจสุนทร มหาคณิสสร บวรสังฆารามคามวาส

หลวงพ่อเกิดในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๗ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) ซึ่งเกิดจากโยมมารดา เจิม และโยมบิดา แพ จรรยารักษ์

ชื่อเดิม
จรัญ จรรยารักษ์
เกิด
วันพุธ แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ตรงกับวันพุธที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๑ ปีมะโรง เวลา ๐๗.๑๐ น. ณ ๑๕ บ้านตำบลม่วงหมู่ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี
อุปสมบท
วันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีชวด ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๔๙๑ เวลา ๑๔.๐๐ น. ณ วัดพรหมบุรี อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี พระครูพรหมจริยคุณ วัดแจ้งพรหมนคร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดกิมเฮง วัดพุทธาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการช่อ วัดพรหมบุรี เป็นอนุศาสนาจารย์
อ่านเพิ่มเติม

ประวัติ พระราชสุทธิญาณมงคล ( จรัญ ฐิตธมฺโม ) เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี

ประวัติ พระราชสุทธิญาณมงคล ( จรัญ ฐิตธมฺโม ) เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี

ชื่อเดิม จรัญ จรรยารักษ์
บิดาชื่อ แพ จรรยารักษ์
มารดาชื่อ เจิม สุขประเสริฐ

อุปสมบท พระครูพรหมจริยคุณ วัดแจ้งพรหมนคร เป็นพระอุปัชฌาย์
พระปลัดกิมเฮง วัดพุทธาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์
วิทยฐานะ พ.ศ. ๒๔๘๗

พ.ศ. ๒๔๙๒
สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔
โรงเรียนสุวิทดารามาศ จังหวัดสิงห์บุรี
สอบไล่ได้นักธรรมโท ณ สำนักเรียนวัดแจ้งพรหมนคร อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี
อ่านเพิ่มเติม

หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

ประวัติ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม พระราชทินนาม พระธรรมสิงหบุราจารย์ ภาวนาปฏิภาณโกศล โสภณธรรมานุสิฐ พิพัฒน์กิจสุนทร มหาคณิสสร
บวรสังฆารามคามวาส

หลวงพ่อจรัญ เกิดในสมัย พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๗ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) ซึ่งเกิดจาก โยมมารดา เจิม และโยมบิดา แพ จรรยารักษ์

ชื่อเดิม จรัญ จรรยารักษ์ เกิด วันพุธ แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ตรงกับวันพุธที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๑ ปีมะโรง เวลา ๐๗.๑๐ น. ณ ๑๕ บ้านตำบลม่วงหมู่ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี แล้วได้ทำการ อุปสมบท วัน พฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีชวด ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๔๙๑ เวลา ๑๔.๐๐ น. ณ วัดพรหมบุรี อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี พระครูพรหมจริยคุณ วัดแจ้งพรหมนคร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดกิมเฮง วัดพุทธาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการช่อ วัดพรหมบุรี เป็นอนุศาสนาจารย์
อ่านเพิ่มเติม

ชีวประวัติหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

ชีวประวัติหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม
พระเทพสิงหบุราจารย์
วัดอัมพวัน อ. พรหมบุรี จ. สิงห์บุรี

คำนำ

เรื่องราวทั้งหมดในหนังสือภาพการ์ตูนเล่มนี้ เป็นชีวประวัติจากชีวิตจริงเพียงบางส่วนของ พระเทพสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม) แห่งวัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ในอดีตเมื่อครั้งเยาว์วัย ซึ่งได้ก่อกรรมทำเข็ญไว้มากมาย ทำไปด้วยความไร้เดียงสา รักสนุก คึกคะนองไม่รู้บาปบุญคุณโทษ โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หารู้ไม่ว่ากรรมที่ท่านได้ก่อไว้นั้น จะส่งผลกลับมาสนองไม่วันใดก็วันหนึ่ง และเมื่อถึงวันนั้น ท่านต้องชดใช้กรรมที่ตนเองก่อขึ้นมานั้นอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ แม้ท่านจะอยู่ในเพศบรรพชิตที่สร้างสมแต่ความดีมาตลอด เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจเราท่านทุกคนเชื่อว่า “เวรกรรมนั้นมีจริง เราทำกรรมอันใดไว้ดีหรือชั่ว เราจะต้องรับผลกรรมนั้น”
อ่านเพิ่มเติม

ประวัติหลวงพ่อจรัญ

ประวัติหลวงพ่อจรัญ

พระครูปลัดจรัญ ฐิตธมฺโม ได้มารักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนี้เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้ดำเนินการพัฒนาปรับปรุงฟื้นฟูกิจการทั้งภายในและภายนอกจนเจริญรุ่งเรืองเรื่อยมาตามลำดับ ในเวลาต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร“พระครูภาวนาวิสุทธิ์” ในคราววันพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๑๑ ชีวประวัติและผลงานของท่านเป็นที่น่าเลื่อมใสศรัทธาแด่สาธุชนทั่วไป

:: ชาติภูมิ ::
พระครูภาวนาวิสุทธิ์ เกิดในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๗ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) เมื่อ ๑๕ สิงหาคม ๒๔๗๑ เวลา ๐๗.๑๐ (๔ ฯ ๘ ปีมะโรง) ณ ตำบลม่วงหมู่ อ. เมือง จ. สิงห์บุรี เป็นบุตรคนที่ ๕ ในจำนวน ๑๐ คน ซึ่งเกิดจากโยมมารดาเจิม และโยมบิดา แพ จรรยารักษ์
พระคุณเจ้าอุปสมบทเมื่อ ๑๕ กรกฎาคม ๒๔๙๑ เวลา ๑๔.๐๐ ณ วัดพรหมบุรี จ. สิงห์บุรี โดยมี ท่านเจ้าคุณพรหมนคราจารย์ วัดแจ้งพรหมนครเป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูถาวรวิริยคุณ วัดพุทธารามเป็นกรรมวาจาจารย์
อ่านเพิ่มเติม

ประวัติย่อ หลวงพ่อจรัญ

ประวัติย่อ หลวงพ่อจรัญ

ท่านเป็นลูกชายคนสุดท้องของครอบครัวชาวนาสิงห์บุรี
ยายขอไปอยู่เป็นเพื่อนตั้งแต่เด็กๆ เมื่อตาลาบวช
ท่านเกเรมาก มีปัญหากับโรงเรียน ถูกไล่ออกหลายครั้ง ช่วงมัธยม ไม่มีโรงเรียนที่สิงห์บุรีแห่งไหนยอมรับให้เรียนอีก ยายต้องส่งมาให้อยู่กับปู่ที่เป็นคุณหลวงในกรุงเทพฯ

พ่อของท่านเป็นลูกคุณหลวงที่ไปหลงรักลูกสาวชาวนา จึงถูกย่าตัด แต่เมื่อยายฝากให้มาอยู่ด้วยเพื่อต่อโรงเรียนมัธยม ปู่ย่าก็ไม่ปฏิเสธ และด้วยความเป็นคนมีน้ำใจ ตามที่ยายอบรมสั่งสอน เฆี่ยนตีเมื่อท่านเกเร ในที่สุดปู่ย่าป้า และลูกพี่ลูกน้องต่างรักท่าน
อ่านเพิ่มเติม

เรื่องเล่าหลวงพ่อจรัญ “วิญญาณมารายงานตัว”

เรื่องเล่าหลวงพ่อจรัญ “วิญญาณมารายงานตัว”

วิญญาณ
รายงานตัว
พระภาวนาวิสุทธิคุณ

อาตมามีเรื่องวิญญาณจะเล่าให้ฟังสักเรื่องหนึง เป็น เรื่อง วิญญาณมารายงานตัวเพื่อเจริญกรรมฐานที่วัดอัมพวัน เมื่อปีพ.ศ. 2525 -2526 เขาคือ วิญญาณของนายวิโรจน์ ปัญจบุรี

จำเป็นจะต้องกล่าวประวัติของนายวิโรจน์สักนิดหน่อย นายวิโรจน์ ปัญจบุรี เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2503บ้านเลขที่ 91/1 ถ. ประตูชัย ต. เวียง อ. เมือง จ. พะเยา บุตรนายวิรัตน์ นางมอนแก้ว ปัญจบุรี มีพี่น้องร่วมท้องกัน 4 คนนายวิโรจนเป็นคนที่สอง มีการศึกษาดี เรียนดีตลอดมา คือจบสายสามัญจากโรงเรียนพะเยาพิทยาคม พ.ศ. 2520 ศึกษาต่อที่วิทยาลัยครูเชียงราย ได้รับประกาศนียบัตร วิชาการศึกษาชั้นสูงวิชาเอกพลศึกษา เมื่อ พ.ศ.2524 และ ได้รับปริญญาครุศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาเอกพลศึกษา เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2526
อ่านเพิ่มเติม

พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม)

พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม)

หลวงพ่อจรัญ

เกิด 15 สิงหาคม พ.ศ. 2471
อายุ 85
อุปสมบท 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2491
พรรษา 65
วัด วัดอัมพวัน
ท้องที่ สิงห์บุรี
สังกัด มหานิกาย
วุฒิการศึกษา นักธรรมโท
ตำแหน่ง
ทางคณะสงฆ์ เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน (จ.สิงห์บุรี)
ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี

พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม) เป็นพระภิกษุชาวไทยในศาสนาพุทธนิกายเถรวาท คณะสงฆ์มหานิกาย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี และเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี ท่านมีชื่อเสียงในระดับประเทศจากการเป็นพระนักพัฒนา พระนักเทศน์ และพระวิปัสสนาจารย์ แนวทางการสืบทอดพระพุทธศาสนาของท่านเน้นหนักที่การสั่งสอนเรื่องกฎแห่งกรรม โดยยกเหตุการณ์ที่ท่านประสบและนับเป็นกฎแห่งกรรมขึ้นมาเป็นอุทาหรณ์อยู่เสมอ และเน้นการพัฒนาจิตใจคนด้วยการทำวิปัสสนากรรมฐานด้วยหลักสติปัฏฐาน 4 แบบพองหนอ-ยุบหนอ นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้ที่ส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนหมั่นสวดมนต์ด้วยพุทธชัยมงคลคาถา (พาหุงมหากา) เพื่อเป็นเครื่องเจริญสติอย่างแพร่หลายอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม

พระสมเด็จวัดระฆังเนื้อตะกั่วถ้ำชา

พระสมเด็จวัดระฆังเนื้อตะกั่วถ้ำชา

พระตระกูลสมเด็จของเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ที่สำคัญและหายากอีกประเภทหนึ่งคือ พระสมเด็จเนื้อตะกั่วถ้ำชา หรือเนื้อห่อชา ที่มีหลักฐานการสร้างว่า ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโต ท่านนำเอาเนื้อตะกั่วที่ใช้สำหรับห่อใบชาที่นิยมในหมู่ชนชั้นสูงในขณะนั้น มาสร้างเป็นเนื้อพระสมเด็จ มีข้อสันนิษฐานหนึ่งว่า นอกจากเนื้อตะกั่วถ้ำชาแล้วยังผสมเนื้อเหล็กไหลไพลดำไปด้วย (อันนี้ไม่ขอยืนยัน) ส่วนพลานุภาพของพระตระกูลนี้สูงมากจนถึงไร้ขีดจำกัด มีผู้สามารถสัมผัสพลังแล้วถึงกับอัศจรรย์ในพลังนั้น สาเหตุของการสร้างพระเนื้อนี้จำนวนน้อยมาก อาจเป็นเพราะเนื้อตะกั่วถ้ำชานั้นอ่อน ไม่แข็งเหมือนโลหะอื่นๆ อีกทั้งอาจหายาก จึงทำให้การสร้างมีจำนวนน้อยไปด้วย และว่ากันว่า สร้างในวาระปี 2411 พิธีใหญ่มาก (วาระการขึ้นครองราชย์ของรัชกาลที่ 5) ข้อสังเกตที่สำคัญ เนื้อพระตะกั่วถ้ำชาจะต้องมีความอ่อน สามารถบิดจนรับรู้ได้ว่า มีความอ่อน และเนื้อต้องมีความเก่าเป็นธรรมชาติด้วย ส่วนพระใหม่จะแตกต่างโดยสิ้นเชิงครับ

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
20 เมษายน 2555

ขอขอบคุณ : http://phraputpataweetat.blogspot.com/2012/04/028.html

คำสอนของสมเด็จโต…อานิสงส์ของการสวดมนต์

คำสอนของสมเด็จโต…อานิสงส์ของการสวดมนต์

ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโต ได้กล่าวว่า “ยังมีคนส่วนใหญ่เข้าใจว่า การสวดมนต์มีประโยชน์น้อยและเสียเวลามากหรือฟังไม่รู้เรื่อง ความจริงแล้วการสวดมนต์มีประโยชน์อย่างมากมาย เพราะการสวดมนต์เป็นการกล่าวถึงคุณงามความดีแห่งพระรัตนตรัย ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีคุณวิเศษเช่นไร พระธรรมคำสอนของพระองค์มีคุณอย่างไร และพระสงฆ์อรหันต์อริยเจ้ามีคุณเช่นไร การสวดมนต์ด้วยความตั้งใจจนจิตเป็นสมาธิ แล้วใช้สติพิจารณาจนเกิดปัญญาและความรู้ความเข้าใจธรรมที่แท้ ประโยชน์สูงสุดของการสวดมนต์ นั่นคือ จะทำให้ท่านเป็นผลจนสำเร็จจนเป็นอรหันต์

ที่อาตมากล่าวเช่นนี้ มีหลักฐานปรากฏในพระธรรมคำสอนที่กล่าวไว้ว่า โอกาสที่จะบรรลุธรรมเป็นอรหันต์ ๕ โอกาสด้วยกันคือ
อ่านเพิ่มเติม

บทสวดมนต์พระไตรญาณของสมเด็จโต

บทสวดมนต์พระไตรญาณของสมเด็จโต

สมเด็จโตได้ตรัสว่า ผู้ใดสวดมนต์พระไตรญาณนี้ สักการะบูชา จะเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ สวดทุก ค่ำเช้าแล้ว ผู้นั้นจะไม่ตกสู่อบายภูมิ แม้ได้บูชาบทสวดพระไตรญาณนี้ไว้ที่บ้านเรือน …

บทสวดนี้บูชาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พระอรหันตเจ้า พระสิวลี พระพรหม เทพเทวาทุกพระองค์ในสวรรค์ทุกชั้นทั่วแสนโกฐจักรวาล
สมเด็จโตได้ตรัสว่า ผู้ใดสวดมนต์พระไตรญาณนี้ สักการะบูชา จะเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ สวดทุกค่ำเช้าแล้ว ผู้นั้นจะไม่ตกสู่อบายภูมิ แม้ได้บูชาบทสวดพระไตรญาณนี้ไว้ที่บ้านเรือน ก็จะป้องกันอันตรายต่างๆได้ ถ้าพกพาติดตัวเดินทางไปในที่ต่างๆ จะทำ ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอุบัติเหตุทั้งปวง
หากทำการสวดมนต์อย่างน้อยวันละ ๓ จบ อานุภาพจะคุ้มครองผู้นั้นไป ๑ วันกับ ๑ คืน ถ้าได้สวดวันละ ๑๐๘ จบ จนครบ ๓ ปี จะบังเกิดโชคลาภพ้นเคราะห์ปราศาจากทุกข์โศกโรคภัย และภัยพิบัติทั้งปวง อายุยืนยาว จะทำให้มีความสุขสิริสวัสดิ์ เจริญต่อไปทั้งในปัจจุบัน กาลอนาคต และภายหน้าภพหน้า ผู้ใดบริจาคทรัพย์สร้างถวายพระภิกษุ สามเณร ญาติมิตรสหาย และสวดต่อไปจนครบ ๗ ปี จะสู่สวรรค์นิพพาน
อ่านเพิ่มเติม

พิษณุโลก-พระธาตุผุดออกจากรูปหล่อสมเด็จโต

พิษณุโลก-พระธาตุผุดออกจากรูปหล่อสมเด็จโต

พบรูปหล่อเหมือนสมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังษี วัดระฆังโฆสิตาราม ที่หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้นมีพระธาตุผุดออกจากรูปหล่อ

ที่วัดเจดีย์ยอดทอง ถนนพญาเสือ ตำบลอรัญญิก อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก หลังจากเมื่อประมาณ 1 เดือนก่อน นายสหราช ทวีพงษ์ อายุ 36 ปี อาจารย์ประจำคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ได้นำรูปหล่อเหมือน สมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังษี วัดระฆังโฆสิตาราม ที่หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้นจากผงอิทธิเจหรือผงจักรพรรดิ (เศษผงช๊อคจากกระดานชนวนในอดีต) เมื่อปีพ.ศ.2532 มอบมอบถวายให้พระครูวินัยธรสน กนตสีโล เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ยอดทอง เจ้าคณะตำบลในเมือง(ฝ่ายธรรมยุทธ) อ่านเพิ่มเติม

ประวัติการสร้างพระสมเด็จ วัดระฆัง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

ประวัติการสร้างพระสมเด็จ วัดระฆัง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

พระสมเด็จ|พระสมเด็จ วัดระฆัง โฆสิตาราม

ประวัติการสร้างพระสมเด็จ วัดระฆัง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

การสร้างพระเครื่องไว้ เพื่อสืบทอดพระพุทธ ศาสนานั้น ได้มีมาตั้งแต่สมัยทวารวดี ราวปีพุทธศตวรรษที่ ๑๒-๑๓ ต่อมาท่านโบราณจารย์ผู้เชี่ยวชาญฉลาดได้ประดิษฐ์คิดสร้างพระเครื่อง ด้วยรูปแบบต่างๆนานาตามแต่จะเห็นว่างาม นอกจากนั้นแล้งยังได้บรรจุพระ พุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ตลอดจนพระปริตรและหัวใจพระพุทธมนต์อีกมากมายหลายแบบด้วยกัน และการสร้างพระเครื่องนั้น นิยมสร้างให้มีจำนวนครบ ๘๔,๐๐๐ องค์ ตามจำนวนพระธรรมขันธ์อีกด้วย

ดังนั้น ในชมพูทวีปและแม้แต่ประเทศไทยเราเอง ปรากฏว่ามีพระเครื่องอย่างมากมาย เพราะท่านพุทธศาสนิกชนได้สร้างสืบต่อกันมาทุกยุคทุกสมัย และในบรรดาพระเครื่องจำนวน มากด้วยกันแล้ว ท่านยกย่องให้พระสมเด็จ วัดระฆังโฆสิตาราม ธนบุรี ซึ่งสร้างโดยท่านเจ้าประคุณพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี ) เป็นยอดแห่งพระเครื่อง และได้รับถวายสมญานามว่าเป็น ราชาแห่งพระเครื่อง อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม

คำทำนายของสมเด็จ พุทฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)‏

คำทำนายของสมเด็จ พุทฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)‏

พุทธทำนาย เมื่อปี พ.ศ.2485 แปลจากศิลาจารึกในมหาวิหารเจตมหาเชตวัน

สาธุ อะระหังสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเมตตามหาสัพสัตว์ทั่วโลก
ที่เกิดมาแล้วแต่ลำบาก ทั่วหน้าทุกชาติ
ทุกศาสนาตามธรรมชาติเมื่ออาตมาเข้านิพพานแล้วครบ 5000 ปีเป็นที่สุด
โลกจะหมุนเข้าใกล้จำนวนที่ ตถาคตทำนายไว้ 2500
ปีมนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติเสียหนึ่งในระยะ 30 ปี
สิ่งที่สาธุชนไม่เคยเจอะจะได้เห็น ไม่เคยพบจะได้พบ
ยักษ์หินที่ถูกสาบให้หลับกลับตื่นขึ้นมาอาละวาดยิ่งนัก ใกล้กับ พ.ศ. 2550
ยิ่งทวีกันใหญ่ขึ้นทุกทิวาราตรี
มนุษย์นอกศาสนาจะรบราฆ่าฟันกันจนถึงเลือดตนเองนองเต็มพื้นดิน
พื้นน้ำจะลุกลามเผามนุษย์ไม่ขาดระยะ ต่างฝ่ายต่างทำลาย เหมือนยักษย์
กระหายเอลืด แผ่นดินจะลุกเปน็นเปลวไฟ อ่านเพิ่มเติม

เรื่องของสมเด็จโตวัดระฆัง

เรื่องของสมเด็จโตวัดระฆัง

มีการคุยกันถึงท่านไว้ในกระทู้วัดปทุมวนาราม ผมขอเชิญคุยกันต่อในกระทู้นี้ครับ เรื่องของท่านสนุกครับ หลายเรื่องที่เกี่ยวกับท่าน ฟังราวกับปริศนาธรรมหรือนิทานเซนของทางฝ่ายมหายาน แต่เป็นเรื่องของพระเถระทางเถรวาทเมืองไทยเรานี่เอง พูดภาษาฝรั่งสมัยนี้ต้องบอกว่าท่านเป็น unconventional wisdom (ไม่ใช่ conventional wisdom)

สมเด็จโตท่านมีชื่อว่าชอบถวายธรรมะกระทุ้งในหลวง ร.4 อย่างแยบยลลึกซึ้ง (และบางทีก็กระทุ้งแรง) สองท่าน 1 พระองค์กับ 1 รูปนี่ท่านทันกันครับ

นอกจากกับเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินแล้ว กับคนอื่นท่านก็มีวิธีสอนที่กระตุกให้ธรรมะซึ้งกับไปถึงใจหรือกระแทกใจทีเดียว ที่ผมจำได้ก็ตอนที่เทศน์ให้ยายแฟงฟัง คุณนายแฟงเป็นแม่เล้าครับ รวยขึ้นมาจากการเปิดซ่องหาเงินจากหยาดเหงื่อแรงกายสาวๆ ลูกเล้า จนรวยแล้วแกก็สร้างวัด ปากชาวบ้านเรียกว่า วัดใหม่ยายแฟง ชื่อจริงๆ ว่า วัดคณิกาผล แปลว่าผลจาก “หญิงอาชีพพิเศษ” แกถามสมเด็จโตว่า ทำบุญสร้างวัดใหม่ทั้งวัดนี้จะได้อานิสงส์เท่าไหร่ สมเด็จท่านตอบว่าราวสักสลึงเฟื้องหนึ่ง เพราะท่านรู้นี่ครับว่าเงินที่แกเอามาทำบุญเอาหน้านั้นยายแฟงแกไปขูดมาจากลูกเล้าแก
อ่านเพิ่มเติม

. . . . . . .