เหรียญหัวโต หลวงปู่ทวด

เหรียญหัวโต หลวงปู่ทวด รุ่นแรก ทรงเสมา หูในตัว คงกระพันลาภมหานิยม!!
เหรียญหัวโต หลวงปู่ทวด
รุ่นแรก ทรงเสมา หูในตัว
คงกระพันลาภมหานิยม!!

เหรียญหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นแรก ปี2500 นักพระเครื่องเรียก “เหรียญหัวโต” เป็นเหรียญรูปทรงเสมา หูในตัว สุดยอดคงกระพันรวยลาภเมตตามหานิยม
กล่าวสำหรับหลวงปู่ทวด มีชื่อเสียงในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชนมาตั้งแต่อดีต
ถึงแม้ในสมัยนั้นยังไม่มีการจัดสร้างวัตถุมงคล แต่เมื่อมีผู้ไปกราบไหว้ขอพร มักได้สมดังปรารถนาด้วยพระบารมีและปาฏิหาริย์แห่งหลวงปู่ทวด
จนถึงปัจจุบัน ชื่อเสียงของท่านก็คงยังเป็นที่เคารพศรัทธาและกล่าวขวัญในความศักดิ์สิทธิ์ เสมอมา การสร้างวัตถุมงคลหลวงปู่ทวดเริ่มในสมัยพระครูวิสัยโสภณ หรือหลวงพ่อทิม ธัมมธโร วัดช้างให้ (วัดราษฎร์บูรณะ) จ.ปัตตานี ผู้เคารพเลื่อมใสหลวงปู่ทวดอย่างมาก
เมื่อเริ่มมีการสร้างวัตถุมงคลหลวงปู่ทวดขึ้น ก็เป็นที่ปรากฏและยอมรับกันว่าผู้ประพฤติตนอยู่ในศีลในธรรมเมื่อบูชาแล้ว ต่างประสบปาฏิหาริย์นานัปการ ทั้งเมตตามหานิยม โชคลาภ คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด และยังสามารถอธิษฐานขอความเป็นสิริมงคล และให้ประสบความสำเร็จในการต่างๆ ได้เป็นอย่างดี อ่านเพิ่มเติม

เจาะลึก พระคาถาบูชาหลวงปู่ทวด

เจาะลึก พระคาถาบูชาหลวงปู่ทวด

เมื่อออกแบบปกหนังสือหลวงปู่ทวด
ผู้เขียน (อ.ทรงวิทย์ แก้วศรี) เห็นมีคาถาอยู่ใต้รูปหลวงปู่ทวดว่า
“นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา”
และภาพประกอบพระหลวงปู่ทวดหลังตัวหนังสือปี ๒๕๐๕
ข้อความตอนบนมีประทับคาถานี้
เป็นภาษาบาลี อักษรขอมอ่านว่า “นโม โพธิสตฺโต อาคนฺติมาย อิติภควา”
ผู้เขียนก็ยังไม่ได้สนใจอะไร โดยเฉพาะเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องเวทย์มนต์คาถาอยู่แล้ว

ที่ไม่เชื่อ
ไม่ใช่เพราะว่าเวทมนต์คาถาหรือไสยศาสตร์ รวมทั้งโหราศาสตร์ด้วยว่าไม่มีจริง

แต่เพราะ
ไม่เชื่อน้ำมนต์ของคนเสกเวทมนต์คาถาหรือหมอดูมากกว่า

ครั้นต่อมามีความเคยตัวที่ต้องขอพรหรือขอเงินหลวงปู่ทวดใช้เป็นประจำ
คาถาที่ใช้ภาวนาจึงต้องใช้
อ่านเพิ่มเติม

คาถาหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด

คาถาหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด, คาถาหลวงปู่ทวดเปิดโลก
คาถาหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด, คาถาหลวงปู่ทวดเปิดโลก
วัดช้างให้ ตำบลป่าไร่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี

(นะโม ๓ จบ)

นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา

(สวด ๓ จบ)

การบูชาหลวงปู่ทวด
ให้บูชาท่านด้วย ธูปแขก ๙ ดอก มะลิขาว ๙ ดอก ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วระลึกถึงท่าน และสวดพระคาถา

การใช้คาถาบทนี้ คือ ให้สวดภาวนาพระคาถา ก่อนขึ้นรถ ลงเรือ ติดต่อค้าขาย จักเกิดสิริมงคล โชคลาภมากมาย ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ท่านว่าให้หมั่นสวด เจริญภาวนา พระคาถา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืดนี้เถิด จักบังเกิดสิ่งอัศจรรย์แก่ตนเองและครอบครัว ขณะเดียวกันยังมีคติความเชื่อด้วยว่าพุทธคุณคาถานั้น หากท่องเป็นประจำจะคุ้มครองให้เราแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ เช่นเดียวกับการแขวนพระหลวงปู่ทวด
นอกจากนี้แล้ว เพื่อเพิ่มความเข้มขลังของคาถาหลวงปู่ทวด ยังมีการเพิ่มคาถาหัวใจพระเจ้า ๕ พระองค์ไว้ด้านหน้าและด้านหลัง กลายเป็น “คาถาหลวงปู่ทวดเปิดโลก” คือ

“นะ เปิด โม เปิด พุท เปิด ธา เปิด ยะ เปิดโลกด้วย
นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภควา ยะธาพุทโมนะ” อ่านเพิ่มเติม

คติธรรมคำสอน ของ หลวงปู่ทวด

คติธรรมคำสอน ของ หลวงปู่ทวด

ธรรมประจำใจ
พูดมาก เสียมาก พูดน้อย เสียน้อย ไม่พูด ไม่เสีย นิ่งเสีย โพธิสัตว์

ละได้ย่อมสงบ
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ล้วนแต่เคลื่อนที่ไปสู่ความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ทุกอย่างในโลกนี้ เคลื่อนไปสู่การสลายตัวทั้งสิ้น ไม่ยึด ไม่ทุกข์ ไม่สุข ละได้ย่อมสงบ

สันดาน
” ภูเขาถูกมนุษย์ทำลายลงมาได้ แต่สันดานของคนเราที่นอนนิ่งอยู่ในก้นบึ้ง ซึ่งไม่เหมือนกันย่อมขัดเกลาให้ดีเหมือนกันได้ยาก

ชีวิตทุกข์
การเกิดมาเป็นมนุษย์ชาติหนึ่ง จะว่าประเสริฐก็ประเสริฐ จะว่าไม่ประเสริฐก็ไม่ประเสริฐ จะเห็นได้ว่า ตื่นเช้าก็มีความทุกข์เข้าครอบงำ จะต้องล้างหน้า ล้างปาก ล้างฟัน ล้างมือ เสร็จแล้วจะต้องกินต้องถ่าย นี่คือความทุกข์แห่งกายเนื้อ เมื่อเราจะออกจากบ้านก็จะประสบความทุกข์ในหมู่คณะ ในการงาน ในสัมมาอาชีวะ การเลี้ยงตนชอบ นี่คือ ความทุกข์ในการแสวงหาปัจจัย อ่านเพิ่มเติม

โครงการพุทธอุทยานมหาราช หลวงปู่ทวด

โครงการพุทธอุทยานมหาราช หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก จ.พระนครศรีอยุธยา

โครงการพุทธอุทยานมหาราช เกิดจากความตั้งใจของ คุณวัชพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ประธานมูลนิธิพระเทวราชโพธิสัตว์ ซึ่งต้องการเห็นโครงการที่มีประโยชน์ต่อสาธารณะ ตามหลักการ “บวร” ได้แก่ บ้าน วัด โรงเรียน และต้องการทำกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม รวมถึงส่งเสริมคุณธรรมเผยแผ่พระพุทธศาสนา รักษาสิ่งแวดล้อม พัฒนาท้องถิ่นด้วยวิธียั่งยืน อีกทั้งยังมีปณิธานแน่วแน่ที่จะดำเนินโครงการให้ประสบความสำเร็จเป็นรูปธรรม

โครงการนี้ตั้งอยู่ที่หลักกิโลเมตรที่ 44 ทางหลวงหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) ตำบลบ้านใหม่ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บนรอยต่อของอำเภอบางปะหันและอำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่อเนื่องกับอำเภอป่าโมกและอำเภอเมืองฯ จังหวัดอ่างทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์เส้นทางเดินทัพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จึงได้ชื่อว่าพุทธอุทยานมหาราช เพื่อความเป็นสิริมงคล

คุณวัชรพงศ์ได้ซื้อที่ดินจำนวน 200 ไร่ และได้สร้างรูปเหมือนสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดขนาดหน้าตักกว้าง 24 เมตร ความสูงรวมฐาน 51 เมตร สร้างจากปูนหุ้มสัมฤทธิ์เคลือบสีทอง ทั้งองค์ นับได้ว่าเป็นรูปเหมือนพระสงฆ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งตามประวัติศาสตร์ หลวงพ่อทวดเคยเดินทางมาพำนักที่กรุงศรีอยุธยาเป็นเวลาหลายปี

http://www.holidaythai.com/

คติธรรมคำสอน ของ หลวงปู่ทวดธรรมประจำใจ

คติธรรมคำสอน ของ หลวงปู่ทวดธรรมประจำใจ

พูดมาก เสียมาก พูดน้อย เสียน้อย ไม่พูด ไม่เสีย นิ่งเสีย โพธิสัตว์ละได้ย่อมสงบ
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ล้วนแต่เคลื่อนที่ไปสู่ความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ทุกอย่างในโลกนี้ เคลื่อนไปสู่การสลายตัวทั้งสิ้น ไม่ยึด ไม่ทุกข์ ไม่สุข ละได้ย่อมสงบสันดาน
ภูเขาถูกมนุษย์ทำลายลงมาได้ แต่สันดานของคนเราที่นอนนิ่งอยู่ในก้นบึ้ง
ซึ่งไม่เหมือนกันย่อมขัดเกลาให้ดีเหมือนกันได้ยากชีวิตทุกข์
การเกิดมาเป็นมนุษย์ชาติหนึ่ง จะว่าประเสริฐก็ประเสริฐ จะว่าไม่ประเสริฐก็ไม่ประเสริฐ
จะเห็นได้ว่า ตื่นเช้าก็มีความทุกข์เข้าครอบงำ จะต้องล้างหน้า ล้างปาก ล้างฟัน ล้างมือ
เสร็จแล้วจะต้องกินต้องถ่าย นี่คือความทุกข์แห่งกายเนื้อ เมื่อเราจะออกจากบ้าน
ก็จะประสบความทุกข์ในหมู่คณะ ในการงาน ในสัมมาอาชีวะ การเลี้ยงตนชอบ
นี่คือ ความทุกข์ในการแสวงหาปัจจัยบรรเทาทุกข์ การที่เราจะไม่ต้องทุกข์มากนั้น
เราจะต้องรู้ว่า เรานี้จะต้องไม่เอาชีวิตไปฝากสังคม เราต้องเป็นตัวของเราเอง
และเราจะต้องวินิจฉัยในเหตุการณ์ที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับตัวเราว่า สิ่งใดเราควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำยากกว่าการเกิด
ในการที่เราเกิดมา ชีวิตแห่งการเกิดนั้นง่าย แต่ชีวิตแห่งการอยู่นั้นสิยาก
เราจะทำอย่างไรให้อยู่ได้อย่างสุขสบายไม่สิ้นสุด อ่านเพิ่มเติม

สถูปหลวงพ่อทวด วัดช้างให้

สถูปหลวงพ่อทวด วัดช้างให้

ประวัติหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ อันมีสถูปศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งบรรจุอัฐิ หลวงพ่อทวด สถูปนี้ตั้งใกล้กับทางรถไฟ อดีตวัดแห่งนี้ ประวัติวัดช้างให้เคยเป็นวัดร้างแต่ละครั้งแต่ละหนเป็นเวลาห่างกันนานๆ ตั้งสิบกว่าปีหรือบางครั้งถึงร้อยปีก็มีในปี พ.ศ.2484 พระครูวิสัยโสภณ หรือในที่รู้จักกันในนาม ท่านอาจารย์ทิม ธมมธโร ได้เข้ามาครอบครองเป็นเจ้าอาวาสวัดช้างให้เป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 5 ได้ทำการบูรณะวัดต่อเติมจนเรียบร้อย ทำให้วัดช้างให้สะอาดสะอ้านขึ้นมาก ทางด้านสถูปศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งบรรจุอัฐิของ หลวงปู่ทวด ประดิษฐานอยู่ที่หน้าวัด เป็นที่จูงใจประชาชนหลายชาติหลายภาษาได้มาเคารพบูชาเป็นจำนวนมากทุกวัน
หลังจากท่านอาจารย์ทิม ฝันว่าได้พบกับ หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของประชาชนอยู่ในเวลานี้ วันหนึ่งท่านอาจารย์ทิมนึกสนุก จึงเก็บเอาก้นเทียนที่ตกอยู่ริมเขื่อน(สถูป) มาคลึงเป็นลูกอมแล้วแจกจ่ายให้กับเด็กวัดไป แต่ปรากฏเป็นที่อัศจรรย์แก่ท่าน เมื่อเด็กได้ลูกอมก้นเทียนไปแล้ว ก็เอาลูกอมสีผึ้งนี้อมในปาก แล้วลองแทงฟันกันด้วยมีดพร้าและของมีคม แต่แทงฟันกันไม่เข้าเลย จนเรื่องทราบถึงอาจารย์ทิม ท่านก็ตกใจเพราะเกรงเป็นอันตรายกับเด็ก จึงเรียกเด็กมาอบรมสั่งสอนห้ามไม่ให้ทดลองกันต่อไป อ่านเพิ่มเติม

ที่มาของคำว่า หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด

ที่มาของคำว่า หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด

ประวัติหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ พระภิกษุปู่ เรียนวิชาหลายอย่างในสำนักพระครูกาเดิม 3 พรรษาอาจารย์ก็ไม่มีอะไรจะสอนให้อีกจึงปรึกษากับพระครูกาเดิม ท่านก็บอกถ้าจะศึกษาอีกคงต้องเข้าเมืองหลวงคือกรุงศรีอยุธยา เพราะเป็นที่รวมของสรรพวิชาต่างๆ ก้เลยนำนำให้ไปขอโดยสารเรือสำเภาของนายอิน ที่จะนำสินค้าไปขายในเมืองหลวง เรือสำเภาของนายอินบรรทุกสินค้าหลายอย่างเคยไปมาค้าขายแบบนี้หลายครั้งแล้ว ครั้งนี้เรือสำเภาแล่นไปได้ 3 วัน 3คืน เป็นปกติอยู่ดีๆวันหนึ่ง ไม่ใช่ฤดูมรสุม แต่เกิดพายุพัดจัดลมแรงมากท้องทำเลปั่นป่วน จึงจำเป็นต้องลดใบเรือลงรอคลื่นลมสงบ เลยทำให้อาหารไม่พอ น้ำดื่มไม่มีจะกินกัน โดยเฉพาะน้ำจืดสำคัญที่สุด บรรดาลูกเรือไม่เคยพบเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนและอารมณ์เสียทุกคนลงความเห็นว่า เกิดจาอาเพศที่มีพระภิกษุโดยสารมาด้วย จึงตกลงใจให้ไปส่งพระภิกษุปู่(หลวงปู่ทวด)ขึ้นฝั่ง โดยลงเรือเล็กซึ่งมีพระภิกษุปู่และลูกน้องนายอิน 2 คนลงมาด้วยเพื่อพายไปส่งฝั่งขณะที่นั่งอยู่ในเรือนั้น พระภิกษุปู่จึงบริกรรมคาถาและอธิษฐานจิต แล้วยื่นเท้าออกไปข้างกาบเรือลำเล็ก แล้วแกว่งน้ำให้เป็นวง ขณะนั้นเอง ท่านจึงบอกให้ลูกเรือทั้ง 2คนเอามือกวักชิมน้ำดู ปรากฏว่าน้ำทะเลกลับกลายเป็นน้ำจืด ทุกคนต่างดีใจรีบตักน้ำใส่โอ่งใส่ไห ลูกเรือทุกคนหายโกรธพระภิกษุปู่ โดยเฉพาะนายอิน จึงนิมนต์ให้ท่านร่วมเดินทางต่อจนถึงกรุงศรีอยุธยา
เมื่อถึงเมืองหลวงสมัยนั้นกรุงศรีอยุธยาเป็นเมืองหลวงของไทยเจริญรุ่งเรืองมากมีวัดวาอารามใหญ่ๆโตๆ นายอินได้นิมนต์ พระภิกษุปู่ให้เข้าจำวัดในเมืองหลวงแต่ท่านถือสันโดษ ท่านจึงไปจำพรรษาอยู่ที่วัดแค เขตทุ่งลุมพลีทางทิศตะวันออกของกรุงศรีอยุธยา ตามประวัติเก่าแก่ กล่าวไว้ว่า หลวงพ่อทวด ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนอยู่ในกรุงศรีอยุธยานานถึง 9ปี คือระหว่าง พ.ศ.2148 -2157 ตอนนั้นพระภิกษุปู่หรือ หลวงพ่อทวด มีอายุแค่ 32 ปี
อ่านเพิ่มเติม

หลวงปู่ทวด

หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้

คาถาบูชาหลวงปู่ทวด
ตั้งนะโม ๓ จบ
นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา (๓ จบ)

สัจธรรมแห่งหลวงปู่ทวด
ธรรมะพ่อนี้ง่ายๆ
มองคนดีอย่างเดียว ทำความดีอย่างเดียว
เป็นผู้ให้…ให้มากที่สุดนั้นก็หมายถึงว่ามีเมตตาอย่างเดียว
อย่าประมาท อย่าขาดสติ สี่ข้อพอแล้ว
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ก็ดี แต่อันนี้เราเป็นธรรมะคมๆ ธรรมะในพุทธะ
เป็นคนดีอย่างเดียว คนเลวคนชั่วไม่มองเขา
เป็นผู้ให้มากๆ ให้ทุกคน…ไม่เลือก
คนไหนเราให้ได้ก็ให้ ทำดี…เราต้องให้ได้
แต่ไม่ใช่ว่าให้ไปหมดตัว
จำได้ไหม
ไม่ประมาท ไม่ขาดสติ ใช้ได้ อ่านเพิ่มเติม

ประวัติหลวงปู่ทวด(เหยียบน้ำทะเลจืด)

ประวัติหลวงปู่ทวด(เหยียบน้ำทะเลจืด)

สืบเนื่องจากข้าพเจ้าได้มีโอกาสรู้จักสำนักปู่สวรรค์ จากการได้ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ สำนักปู่สวรรค์เมื่อสามปีมาแล้ว ได้อ่านหนังสือและศึกษาเรื่องราวความเป็นมาของสำนักปู่สวรรค์ ที่ก่อตั้งโดย ท่านอาจารย์สุชาติ โกศลกิติวงศ์ ได้เห็นถึงความตั้งใจ ความมุ่งมั่น และ ความเพียรอันยิ่งยวด ที่ท่านได้เสียสละตนเพื่อพระศาสนาและประเทศชาติ ท่านได้ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ เพื่อให้โลกเกิดสันติภาพ โดยให้ประชาชาติทั้งหลายได้เข้าถึงความดีงามอันสูงสุดของแต่ละศาสนาที่ตนนับถือ เพื่อให้โลกได้เกิดความสงบอย่างแท้จริง อีกทั้งได้เห็นถึงพระเมตตาของพระโพธิสัตว์ หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด และ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต ) พรหมรังสี ที่มีความเป็นห่วงมวลมนุษย์และประเทศชาติที่อยู่ในช่วงกลียุคขณะนั้น ( ลัทธิคอมมิวนิสต์กำลังแผ่อิทธิพล และ เกิดสงครามอินโดจีนในประเทศเพื่อนบ้าน ) เทพพรหมเบื้องบน จึงได้มีมติให้จัดตั้งสำนักปู่สวรรค์ขึ้นในโลกมนุษย์ อ่านเพิ่มเติม

หลวงปู่ทวด 5 แชะ พ่อท่านแดง

หลวงปู่ทวด 5 แชะ พ่อท่านแดง

วัดศรีมหาโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด วัดช้างให้ เป็นสุดยอดพระสงฆ์ไทยที่เปี่ยมด้วยบารมีอันสูงส่งและความศักดิ์สิทธิ์อันเหลือประมาณ ที่ปัจจุบันยังส่งผลให้ผู้ที่เคารพนับถือได้รับทั้งเมตตามหานิยม ทั้งแคล้วคลาดปลอดภัย ทั้งคงกระพันชาตรี

จากคำบอกกล่าวและเล่าสืบกันมารวมทั้งจิตที่สามารถติดต่อกับองค์ท่าน พอทราบได้ว่าสมัยที่ท่านยังครองสังขารมีชีวิตอยู่นั้นมีสหธรรมิกร่วมออกธุดงค์หลายท่าน ซึ่งล้วนมีชื่อเสียงกิตติคุณและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวปักษ์ใต้มาทุกยุคสมัย

หลวงพ่อทวดสิทธิชัย สถิต ณ วัดทรายขาว, หลวงพ่อทวดบุญญฤทธิ์ สถิต ณ วัดศรีมหาโพธิ์, หลวงพ่อทวดหนอน สถิต ณ วัดมะรวด, หลวงพ่อทวดเภา สถิต ณ วัดบ้านดี

สำหรับหลวงพ่อทวดบุญญฤทธิ์ หนึ่งในสหธรรมิกของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด พระเครื่องของท่านที่สร้างโดย “หลวงพ่อแดง สุนทโร” เมื่อปีพ.ศ.2518 ได้รับความนิยมสูง เป็นที่หวงแหนของคนที่ครอบครองกันอย่างมาก เพราะมีประสบการณ์เป็นเยี่ยม ห้วงนี้มาแรง!!!
อ่านเพิ่มเติม

คาถาหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

คาถาหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

ให้ท่านบูชา ธูปแขก 9 ดอก มะลิขาว 9 ดอก ตั้งนะโม 3 จบ แล้วระลึกถึงท่านขอบารมีต่างๆ ที่ต้องการแล้วสวดพระคาถาดังนี้
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา ( 3 จบ )

ท่อง 3-11 จบ
เประมัง ธัมมัง สังฆัง
ปุระมัง ธัมมัง สังฆัง
ปรมัง ธัมมัง สังฆัง
เสสัง ธัมมัง สังฆัง กริยานัง อัตโน โหตุ.

บทสวดแผ่เมตตา
สัตว์ทั้งหลาย
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
จงไปสู่ภพภูมิที่ดีที่ชอบเถิด

http://th.wikisource.org/wiki/

ประวัติการสร้างพระเครื่องหลวงปู่ทวด วัดช้างให้

ประวัติการสร้างพระเครื่องหลวงปู่ทวด วัดช้างให้

กำเนิดพระเครื่องหลวงปู่ทวด ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ.2497 “หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด”เจ้าอาวาสองค์แรกของวัดช้างให้ได้ประทานนิมิตอัน เป็นมงคลยิ่งแก่ นายอนันต์ คณานุรักษ์ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ห่างจากวัดประมาณ 31 กิโลเมตร ให้สร้างพระเครื่องรางเป็นรูปภิกษุชรา ขึ้นแท่นองค์ของท่าน นายอนันต์นมัสการพร้อมทั้งปรึกษาท่านอาจารย์ทิม และเตรียมงานสร้างพระเครื่องในวันที่ 19 มีนาคม 2497 ตรงกับวันศุกร์ขึ้น 15 ค่ำเดือน 4 เวลาเที่ยงตรง ได้ฤกษ์พิธีปลุกเสกเบ้าและพิมพ์พระเครื่องหลวงพ่อทวดเรื่อยมาทุก ๆ วัน จนถึงวันที่ 15 เมษายน 2497 พิมพ์พระเครื่อง”หลวงพ่อทวด”รุ่นแรกได้ 64,000 องค์ ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจจะพิมพ์ให้ได้ 84,000องค์ แต่เวลาจำกัดในการพิธีปลุกเสก ก็ต้องหยุดพิมพ์พระเครื่องเพื่อเอาเวลาเตรียมงานพิธีปลุกเสกพระเครื่องหลวงปู่ทวดตาม เวลาที่หลวงพ่อทวดกำหนดให้พระครูปฏิบัติ และแล้ววันอาทิตย์ ที่ 18 เมษายน 2497 ขึ้น 15 ค่ำเวลาเทียงตรงได้ฤกษ์พิธีปลุกเสกพระเครื่องหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ ณ เนินดินบริเวณอุโบสถเก่า โดยมีท่านอาจารย์ทิมเป็นอาจารย์ประธานในพิธีและนั่งปรกได้อาราธนาอัญเชิญพระ วิญญาณหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดพร้อมวิญญาณหลวงพ่อสี หลวงพ่อทอง และหลวงพ่อจัน ซึ่งหลวงพ่อทั้งสามองค์นี้สิ่งสถิตอยู่รวมกับหลวงพ่อทวดในสถูปหน้าวัดขอ ให้ท่านประสิทธิ์ประสาทความศักดิ์สิทธิ์ความขลังแด่พระเครื่องฯ นอกจากนั้นก็มี หลวงพ่อสงโฆสโก เจ้าอาวาสวัดพะโคะ พระอุปัชฌาย์ดำ วัดศิลาลอง พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์อาวุโส ณ วัดช้างให้ ร่ายพิธีปลุกเสกพระเครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เสร็จลงในเวลา 16.00 น. ของวันนั้นท่านอาจารย์ทิมพร้อมด้วยพระภิกษุอาวุโสและคณะกรรมการวัดนำทีมโดย นายอนันต์ คณานุรักษ์ ได้ร่วมกันทำการแจกจ่ายพระเครื่องหลวงพ่อทวดให้แก่ประชาชนผู้เลื่อมใสซึ่งมา คอยรอรับอยู่อย่างคับคั่งจนถึงเวลาเทียงคืนปรากฏว่าในวันนั้น คือ วันที่ 18 เมษายน 2497 กรรมการได้รับเงินจากผู้ใจบุญโมทนาสมทบทุนสร้างอุโบสถเป็นจำนวนเงิน 14,000 บาท หลังจากนั้นมาด้วยอำนาจบุญบารมีอภินิหาร”หลวงพ่อทวด”ได้ดลบรรดาลให้พี่น้อง หลายชาติหลายภาษาร่วมสามัคคีสละทรัพย์โมทนาสมทบทุนสร้างอุโบสถดำเนินไป เรื่อยๆ มิได้หยุดหยั่งจนถึงวันที่ 19 สิงหาคม 2499 ได้จัดพิธียกช่อฟ้าและวันที่ 31 พฤษภาคม 2501 ได้ทำพิธีผูกพัทธสีมาอุโบสถหลังนี้จึงสำเร็จเสร็จสิ้นสมบูรณ์ อ่านเพิ่มเติม

แก้ปริศนาธรรม

แก้ปริศนาธรรม

หลังจากมาอยุ่อโยธยาได้ ๒ ปี (นับจาก พ.ศ.๒๑๘๑) ชาวลังกาได้ทาล้อมเมืองอโยธยาไว้ และได้ตั้งปริศนาธรรมท้าพนันเอาเมืองอโยธยา เมื่อพระเจ้าแผ่นดินคิดไม่แตก ก็ได้นิมนต์พระภิกษุปู หรือ ราโม ธัมมิโก ที่วัดพุทไธศวรรย์ มาช่วยแก้ปริศนาธรรม หลวงปู่ทวดได้กู้บ้านเมืองไว้โดยอธิษฐานว่า “ถ้าหากท่านมีบารมีจะช่วยได้ก็ขอให้เกิดปัญญาแก้ไขปริศนาธรรมออก

ในที่สุดท่านก็แก้ปริศนาธรรมได้ กรุงอโยธยาไม่ต้องตกเป็นของชาวลังกา ด้วยคุณความดีของท่านในด้านต่างๆ รวมตลอดทั้งที่ได้กล่าวมานั้น พระรามาธิบดีที่ ๒ (โอรสพระเจ้าอู่ทอง)จึงได้ทรงสถาปนาให้ท่านเป็นสมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงอโยธยาทรงพระนามว่า “สมเด็จพระสังฆราชคูรูปาจารย์”ดังสำเนาตัวอย่างประกาศแต่งตั้งดังต่อไปนี้ อ่านเพิ่มเติม

บำเพ็ญต่อในโลกวิญญาณ

บำเพ็ญต่อในโลกวิญญาณ

หลวงปู่ทวด(เหยียบน้ำทะเลจืด) เคยอธิบายให้สานุศิษย์ที่กราบเรียนไต่ถามทราบว่า ตอนที่ท่านมีสังขารอยู่นั้น การบำเพ็ญของท่าน ท่านยังไม่ได้ตั้งความปรารถนาอะไร ท่านตั้งใจปฏิบัติในจุดของเมตตาเป็นส่วนใหญ่ เมื่อทิ้งสังขารจากโลกมนุษย์แล้ว ท่านไปบำเพ็ญต่อในโลกวิญญาณ เข้าซึ้งถึงคำว่า พุทธะ พุทธะแห่งยุค พุทธปัญญา ทั้งสองอย่างนี้ต้องมีความปรารถนา ท่านจึงได้ตั้งความปรารถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้า บนสวรรค์ท่านเคยอยู่หมดทุกชั้น
แต่ที่อยู่ในขณะนี้ ตามที่ท่านเทศน์โปรดเมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๑๘ คือ สวรรค์ชั้นดุสิต ท่านอธิบายว่าผู้ที่เตรียมตัวเป็นพระพุทธเจ้าก็ดี ผู้ที่จะเข้ามารับผิดชอบเหตุการณ์ในโลกมนุษย์ก็ดี ถึงแม้ว่าจะเป็นพรหมเป็นอะไรก็ตาม ก็ต้องมาอยุ่ชั้นดุสิต เพราว่าชั้นดุสิตนี้เป็นจุดที่เตรียมจะขึ้นสูงและลงต่ำ ชั้นดุสิตนี้เป็นชั้นที่ใกล้มนุษย์ ทำให้ทราบเหตุการณ์ของโลกมนุษย์ได้ง่าย ไม่ใช่เป็นสวรรค์ชั้นที่เจาะจงให้เทวดาเท่านั้นที่อยู่ชั้นนี้ได้ และท่านบอกด้วยว่าพระศรีอริยเมตไตรยเวลานี้ก็อยุ่ชั้นดุสิต
อ่านเพิ่มเติม

ธรรมะจากดวงพระวิญญาณบริสุทธิ์ หลวงปู่ทวด ( เหยียบน้ำทะเลจืด )

ธรรมะจากดวงพระวิญญาณบริสุทธิ์ หลวงปู่ทวด ( เหยียบน้ำทะเลจืด )

ผ่านญาณ ( ร่าง ) อาจารย์สุชาติ โกศลกิติวงศ์

“พุทธะ” อยู่ในกายมนุษย์

อีกจุดหนึ่งที่มนุษย์ไม่ยอมสนใจ คือไม่ยอมสนใจค้นในกายของตนเอง สิ่งหนึ่งที่รียกว่า “พุทธะ” นั้นอยู่ในกาย ถ้าจิตของผู้นั้นสามารถค้นเข้าไปถึงกายในกายอันบริสุทธิ์ สิ่งนี้ภาษาทางโลกเรียกว่า “พลัง” ชนิดหนึ่งที่ยอดเยี่ยมอยู่ในตัวเรา แต่เราไม่รู้จักค้นออกมาใช้ เพราะอะไรเล่า ทำไมเราจึงถามว่าเหตุใดองค์สมณโคดมจึงสามารถระลึกชาติได้ เพราะมีบุพเพนิวาสานุสติญาณ มีอนาคตังสญาณ หรือมีญาณอะไร สิ่งเหล่านี้เราไม่ต้องไปรับรู้ เราไม่ต้องยุ่ง เราไม่ต้องไปคิดถึงว่าเราจะได้ฌานโน้นฌานนี้

หลักของการปฏิบัติอย่างหนึ่งมีอยู่ว่า เราจะยึดอะไรเป็นสรณะของการเริ่มปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน คำว่า “กรรมฐาน” นั้นหมายถึงการกำหนดจิตของเราให้จดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อรวมพลังจิตไม่ให้ฟุ้ง เมื่อรวมพลังของจิตอันนั้นไม่ให้ฟุ้งแล้ว รวมอยู่ในจุดใดจุดหนึ่ง รวมจนไดอารมณ์แห่งการปิติ คือนิ่งเฉยแห่งจุดนั้น เมื่อนั้นให้ขึ้นวิปัสสนา “วิปัสสนา” คือให้พิจารณาทุกสิ่งทุกอย่างว่าเป็นอนัตตา “อนัตตา” คือการเดินทางไปสู่โลกแห่งนิพพาน โลกแห่งอรหันต์ โลกแห่งโพธิสัตว์ โลกแห่งอนาคามี โลกเรานี้เป็นโลกแห่งอัตตา ทำอย่างไรเราจึงจะไปสุ่จุดแห่งการเป็นอนัตตาได้ ( ไม่ใช่อัตตา) อ่านเพิ่มเติม

งานปรับปรุงพระศาสนา

งานปรับปรุงพระศาสนา

งานของอาตมานี้ อย่าลืม หลวงปู่ก็ดี อาตมาก็ดี ไม่ใช่มาแค่รักษาโรค มาแค่เทศน์เท่านั้น การรักษาโรคนั้นพรหมธรรมดาเขาก็รักษาได้ ซึ่งท่านก็รู้เห็นกันมีกันอยู่มากมาย แต่การมานี้มีหลักในการทำงาน คือมาเพื่อปรับปรุงพระศาสนาให้ดีขึ้น เพื่อให้มนุษย์เข้าซึ้งในแก่นของศาสนา ไม่ใช่เพียงกระพี้ของศาสนาในทุกวันนี้

…สมองอย่างอาตมาก็ดี สมองอย่างหลวงปู่ก็ดี ล้วนแต่เคยกู้ความอยู่รอดของประเทศมาแล้วทั้งนั้น ยุคอโยธยา หลวงปู่ได้ช่วยแก้ปริศนาธรรมที่ประเทศลังกาเอามา เพื่อจะมายึดครอง

๑๖ ตุลาคม ๒๕๑๔

งานเพื่ออนาคต

งานของสำนักปู่สวรรค์นั้นไม่ใช่งานเพื่อปัจจุบัน งานของสำนักปู่สวรรค์เป็นงานเพื่ออนาคต คือเมื่อพุทธกาลล่วงไปแล้ว ๓๐๐๐ ปี มนุษย์ในยุคนั้นจะมาศึกษาเรื่องสำนักปู่สวรรค์กัน เพราะฉะนั้นให้ทำเป็นหลักฐานทิ้งร่องรอยเอาไว้กระจายให้ทั่ว เพื่ออนุชนรุ่นหลังที่จะค้นคว้าศึกษาได้ง่าย นี่เป็นสิ่งที่อาตมาต้องการ อ่านเพิ่มเติม

ประวัติหลวงปู่ทวด ตอน เหยียบน้ำทะเลจืด

ประวัติหลวงปู่ทวด ตอน เหยียบน้ำทะเลจืด

ขณะที่สมเด็จเจ้าฯ จำพรรษาอยู่ ณ วัดพะโคะ ครั้งนี้คาดคะเนว่า ท่านมีอายุกาลถึง 80 ปีเศษ อยู่มาวันหนึ่งท่านถือไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ประจำตัวไม้เท้านี้มีลักษณะคดไปมาเป็น 3 คด ชาวบ้านเรียกว่า “ไม้เท้า 3 คด” ท่านออกจากวัดมุ่งหน้าเดินไปยังชายฝั่งทะเลจีน ขณะที่ท่านเดินพักผ่อนรับอากาศทะเลอยู่นั้น ได้มีเรือโจรสลัดจีนแล่นเลียบชายฝั่งมา พวกโจรจีนเห็นท่านเดินอยู่คิดเห็นว่าท่านเป็นคนประหลาดเพราะท่านครองสมณเพศ พวกโจรจึงแวะเรือเทียบฝั่งจับท่านลงเรือไป เมื่อเรือโจรจีนออกจากฝั่งไม่นาน เหตุมหัศจรรย์ก็ปรากฏขึ้น คือ เรือลำนั้นแล่นต่อไปไม่ได้ต้องหยุดนิ่งอยู่กับที่ พวกโจรจีนพยายามแก้ไขจนหมดความสามารถเรือก็ยังไม่เคลื่อน จึงได้จอดเรือนิ่งอยู่ ณ ที่นั้นเป็นเวลาหลายวันหลายคืน ในที่สุดน้ำจืดที่นำมาบริโภคในเรือก็หมดสิ้น จึงขาดน้ำจืดดื่มและหุงต้มอาหารพากันเดือดร้อนกระวนกระวายด้วยกระหายน้ำเป็นอย่างมาก สมเด็จเจ้าฯ ท่านเห็นเหตุการณ์ความเดือดร้อนของพวกโจรถึงขั้นที่สุดแล้ว ท่านจึงเหยียบกราบเรือให้ตะแคงต่ำลงแล้วยื่นเท้าเหยียบลงบนผิวน้ำทะเลทั้งนี้ย่อมไม่พ้นความสังเกตของพวกโจรจีนไปได้ อ่านเพิ่มเติม

สถูปหลวงพ่อทวดฯ

สถูปหลวงพ่อทวดฯ

(สถูปหลวงพ่อทวดฯ หน้าวัดช้างให้ : อาจารย์ทิม ธัมมธโร นายอนันต์ คณานุรักษ์ และนายสุนนท์ คณานุรักษ์)

สถูปศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งบรรจุอัฐิหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด สมภารองค์แรกของวัดช้างให้ สถูปนี้ตั้งอยู่ใกล้ชิดกับทางรถไฟสายใต้ระหว่างหาดใหญ่ – สุไหงโก-ล๊ก ใกล้ชิดที่สุดระหว่างสถานีนาประดู่ กับสถานีป่าไร่ สถูปนี้มีอายุยืนนานมาประมาณ ๓๐๐ ปีเศษ แต่เดิมมีแต่เสาไม้แก่นปักหมายไว้ ประชาชนจึงเรียกกันว่า เขื่อนท่านช้างให้

ครั้นต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ ท่านอาจารย์ทิม ธมฺมธโร (พระครูวิสัยโสภณ เวลานี้) เข้ามาเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ ๕ ซึ่งเป็นองค์หลังสุดเวลานี้ ท่านได้จัดการบูรณะก่ออิฐถือปูนห่อหุ้มเสาไม้แก่นของเดิมไว้ภายใน ชาวบ้านจึงเรียกกันว่าบัว (สถูป) หลวงพ่อทวดมาจนบัดนี้

ความศักดิ์สิทธิ์ในคุณอภินิหารของสถูปหลวงพ่อทวดฯ นี้มีมาแต่ดั้งเดิมแล้ว แต่เนื่องจากครั้งนั้นยังไม่มีทางรถไฟ จึงตกอยู่กลางป่าเปลี่ยว และวัดก็รกร้างอยู่ การสักการะบูชาก็มีแต่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเท่านั้น อ่านเพิ่มเติม

รูปเหมือน“หลวงพ่อทวด”

รูปเหมือน“หลวงพ่อทวด”

ขอนำเสนอคอลัมน์ใหม่ถอดด้าม The Best of Tourist ว่าด้วยเรื่องที่สุดที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เพราะไม่ว่าจะมุมไหนในโลก ต่างก็มีเรื่องที่สุดๆให้เป็นที่ตื่นเต้นแปลกตา ทั้งด้วยฝีมือที่มนุษย์สร้างหรือบางอย่างก็เป็นฝีมือธรรมชาติ ซึ่งหาดูได้ทั้งที่ในประเทศและต่างประเทศ และเพื่อเบิกโรงเอาฤกษ์เอาชัย ก็จึงขอเริ่มว่าด้วยพระดังที่ทั้งศักดิ์สิทธิ์และมีขนาดใหญ่เป็นที่สุด นั่นก็คือ “รูปเหมือนหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก” ที่ประดิษฐานอยู่ที่ วัดห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
โดย ผู้จัดการออนไลน์

คงจะมีน้อยคนที่ไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยินชื่อเสียงกิตติคุณของหลวงพ่อทวด ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วประเทศถึงความศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนอิทธิปาฏิหาริย์ต่างๆ มีผู้ให้ความเคารพเลื่อมใสมาเป็นเวลานาน และรู้จักกันเป็นอย่างดี ในนาม “สมเด็จหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด” อ่านเพิ่มเติม

. . . . . . .