คติธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ปล่อยวาง

คติธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ปล่อยวาง

สิ่งที่ล่วงไปแล้ว . . . ไม่ควรทำความผูกพัน
เพราะเป็นสิ่งที่ล่วงไปแล้วอย่างแท้จริง
แม้กระทำความผูกพันและหมายมั่นให้สิ่งนั้น
กลับมาเป็นปัจจุบันก็เป็นไปไม่ได้
ผู้ทำความสำคัญมั่นหมายนั้นเป็นทุกข์แต่ผู้เดียว
โดยความไม่สมหวังตลอดไป . . .
อนาคต ที่ยังมาไม่ถึงนั้น เป็นสิ่งไม่ควรไปยึดเหนี่ยวเกี่ยวข้องเช่นกัน
อดีต . . . ปล่อยไว้ตามอดีต
อนาคต . . . ปล่อยไว้ตามกาลของมัน
ปัจจุบันเท่านั้นจะสำเร็จประโยชน์ได้
เพราะอยู่ในฐานะที่ควรทำได้ไม่สุดวิสัย

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://dubtook.kvc.ac.th

คติธรรมส่องใจ

คติธรรมส่องใจ

อย่าถือครองแค่คัมภีร์ใบลาน

ท่านทั้งหลายจงอย่าทำตัวเป็นตัวบุ้งตัวหนอนคอยกัดแทะกระดาษแห่งคัมภีร์ใบลานเปล่าๆ โดยไม่สนใจพิจารณาสัจธรรมอันประเสริฐที่มีอยู่กับตัว แต่มัวไปยึดธรรมที่ศึกษามาถ่ายเดียว ซึ่งเป็นสมบัติของพระพุทธเจ้า มาเป็นสมบัติของตน ด้วยความเข้าใจผิดว่าตนเรียนรู้และฉลาดพอตัวแล้ว ทั้งที่กิเลสยังกองเต็มหัวใจยิ่งกว่าภูเขาไฟ มิได้ลดน้อยลงบ้างเลย

จงพากันมีสติคอยระวังตัว อย่าให้เป็นคนประเภทใบลานเปล่าๆ เรียนเปล่าและตายทิ้งเปล่า ไม่มีธรรมอันเป็นสมบัติของตัวอย่างแท้จริงติดตัวบ้างเลย

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

อ้างอิง : http://www.facebook.com/photo.php?fbid=174562425983795&set=a.122662767840428.18840.100002901171332&type=3

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://dubtook.kvc.ac.th

คติธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ธรรมภายใจจิตใจ

คติธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ธรรมภายใจจิตใจ

ธรรมเป็นเครื่องปกครองสมบัติและปกครองใจ
ถ้าขาดธรรมเพียงอย่างเดียว
ความอยากของใจจะพยายามหาทรัพย์
ได้กองเท่าภูเขาก็ยังหาความสุขไม่เจอ
ไม่มีธรรมในใจเพียงอย่างเดียว
จะอยู่ในโลกใด กองสมบัติใด

ก็เป็นเพียงโลกเศษเดน และกองสมบัติเดนเท่านั้น
ไม่มีประโยชน์อะไรแก่จิตใจแม้แต่นิด
ความทุกข์ทรมาน ความอดทน
ทนทานต่อสิ่งกระทบกระทั่งต่างๆ
ไม่มีอะไรจะแข็งแกร่งเท่าใจ
ใจ…จะกลายเป็นของประเสริฐ
ให้เจ้าของได้ชมอย่างภูมิใจต่อเรื่องทั้งหลายทันที

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://dubtook.kvc.ac.th

ทาน ศีล ภาวนา พระภูริทัตโต (หลวงปู่มั่น)

ทาน ศีล ภาวนา พระภูริทัตโต (หลวงปู่มั่น)

ทาน ศีล ภาวนา
พระภูริทัตโต (หลวงปู่มั่น)

ทาน

ทานคือเครื่องแสดงน้ำใจของมนุษย์ผู้มีจิตใจสูง ผู้มีเมตตาจิตต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์ผู้อาภัพ ด้วยการให้ทานเสียสละแบ่งปันมากน้อยตามกำลังของวัตถุเครื่องสงเคราะห์ที่มีอยู่ จะเป็นวัตถุทาน ธรรมทาน หรือวิทยาทานแขนงต่างๆก็ตาม ที่ให้เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่นโดยมิหวังค่าตอบแทนใดๆ นอกจากกุศลคือความดีที่เกิดจากทานนั้น ซึ่งจะเป็นสิ่งตอบแทนให้เจ้าของทานได้รับอยู่โดยดีเท่านั้น ตลอดอภัยทานที่ควรให้แก่กัน ในเวลาอีกฝ่ายผิดพลาดหรือล่วงเกิน

คนมีทานหรือคนที่เด่นในการให้ทานย่อมเป็นผู้สง่าผ่าเผยและเด่นในปวงชน ผู้เช่นนี้มนุษย์และสัตว์ตลอดเทวดาก็เคารพรัก จะตกทิศใดแดนใดย่อมไม่อดอยากขาดแคลนหากมีสิ่งหรือผู้อุปถัมภ์จนได้ไม่อับจนทนทุกข์
แม้ในแดนมนุษย์เรานี้ก็พอเห็นได้อย่างเต็มตารู้ได้อย่างเต็มใจว่า ผู้มีทานเป็นเครื่องประดับตัวย่อมเป็นคนไม่ล้าสมัยในสังคม และบุคคลทุกชั้นไม่มีใครรังเกียจ
อ่านเพิ่มเติม

การฝึกสมาธิ (หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)

การฝึกสมาธิ (หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)

การฝึกสมาธิ
โดย หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

วัดป่าสุทธาวาส
ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร

การทำสมาธิเบื้องต้น ต้องชำระศีลให้บริสุทธิ์ ทำวัตรสวดมนต์บูชาพระ
เจริญพรหมวิหาร 4 และสมาทานกรรมฐาน เดินสมาธิหรือเดินจงกรม

การเดินสมาธิหรือเดินจงกรมเหมาะสำหรับคนที่มักมีความคิดฟุ้งมาก
พระพุทธองค์กล่าวว่า ประโยชน์ของการเดินจงกรม มีดังนี้คือ

— ทำให้ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่าย
— ทำให้ขาแข็งแรงเดินได้ทนและไกล
— เมื่อทำหลังอาหารทำให้อาหารย่อยง่าย
— สมาธิที่ได้จากการเดินจงกรมจะอยู่ได้นาน
อ่านเพิ่มเติม

คำสอนหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

คำสอนหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

“คนไม่สนใจธรรม ธรรมก็ไม่เข้าถึงใจคน จึงกลายเป็นคนก็สักว่าคน

ธรรมก็สักว่าธรรม ไม่อาจยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ แม้คนจะมีจำนวนมาก

และแสดงธรรมให้ฟังทั้งพระไตรปิฏก จึงเป็นเหมือนเทน้ำใส่หลังหมา

มันสลัดออกเกลี้ยงไม่มีเหลือ ธรรมจึงไม่มีความหมายในใจของคน

เหมือนน้ำไม่มีความหมายบนหลังหมา ฉันนั้น”

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=3722.0

ธรรมะของ หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ จ.ปัตตานี

ธรรมะของ หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ จ.ปัตตานี

หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี
ท่านเป็นพระมหาเถระที่รู้จักกันทั่วประเทศ ในนาม ” หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ”
คาถาบูชาท่าน คือ นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
ชาติกาล 3 มีนาคม พ.ศ. 2125
ชาติภูมิ บ้านเลียบ ต.ดีหลวง อ.สทิงพระ จ.สงขลา
บรรพชา เมื่ออายุได้ 15 ปี
อุปสมบท เมื่ออายุ 20 ปี
มรณภาพ 6 มีนาคม พ.ศ. 2225
สิริรวมอายุได้ 99 ปี

คติธรรมคำสอน ของ หลวงปู่ทวด

ธรรมประจำใจ

พูดมาก เสียมาก พูดน้อย เสียน้อย ไม่พูด ไม่เสีย นิ่งเสีย โพธิสัตว์
อ่านเพิ่มเติม

พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

รูป ท่านพระอาจารย์ที่เราเห็นนั้น จะเป็นรูปที่ท่านตั้งใจให้ถ่ายทั้งหมด ถ้าท่านไม่ให้

ก็ไม่มีใครถ่ายติด นี่เป็นเรื่องจริง มีอยู่ครั้งหนึ่ง ขุนศรีปทุมวงศ์

มาอุปัฏฐากท่านพระอาจารย์ เที่ยวไปฟังเทศน์ไปอุปการะด้วยปัจจัย 4 เมื่อท่านฯ อาพาธ

ขุนศรีฯ ก็ส่งหมอไป หมอฉีดยาให้ท่าน 2 เข็ม และให้ยาไว้ฉันด้วย หมอของขุนศรีฯ

พักอยู่ที่นั่นถึง 3 วัน อาการดีขึ้น

ท่านก็บอกว่า “พอแล้วนะ ไม่ต้องมาฉีดอีก อาการหายแล้ว”

พอขึ้นไปครั้งที่สอง

หมอเอาช่างถ่ายภาพไปด้วย กราบนมัสการท่านว่า

“พวกกระผมขออนุญาตถ่ายภาพท่านอาจารย์ไว้เป็นที่เคารพบูชา”
อ่านเพิ่มเติม

หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต

หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต
หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต
วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร ชาติกาเนิดและชีวิตปฐมวัย ท่านกำเนิดในสกุลแก่นแก้ว บิดาชื่อคำด้วง มารดาชิ่อจันทร์ เพียแก่นท้าว เป็นปู่นับถือพุทธศาสนา เกิดวันพฤหัสบดี เดือนยี่ ปีมะแม ตรงกับวันที่ ๒๐ เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๔๑๓ ณ บ้านคำบง ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน ๗ คน ท่านเป็นบุตรคนหัวปี ท่านเป็นคนร่างเล็ก ผิวดำแดง แข็งแรงว่องไว สติปัญญาดีมาแต่กำเนิด ฉลาดเป็นผู้ว่านอนสอนง่าย ได้เรียนอักษรสมัยในสำนักของอา คือ เรียนอักษรไทยน้อย อักษรไทย อักษรธรรม และอักษรขอมอ่านออกเขียนได้ นับว่าท่านเรียนได้รวดเร็ว เพราะ มีความทรงจำดีและขยันหมั่นเพียร ชอบการเล่าเรียน ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรมและปฏิปทา เมื่อท่านอายุได้ ๑๕ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรในสำนักบ้านคำบง อ่านเพิ่มเติม

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต – โอวาทตถาคต

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต – โอวาทตถาคต

พระพุทธองค์เสด็จมาในสมาธินิมิต แล้วประทานพระโอวาทอนุโมทนาแก่ท่านพระอาจารย์มั่น มีใจความว่า

เราตถาคตทราบว่า เธอพ้นโทษจากอนันตรทุกข์ในที่คุมขังแห่งเรือนจำของวัฏฏทุกข์ จึงได้มาเยี่ยมอนุโมทนา

ที่คุมขังแห่งนี้ใหญ่โตมโหฬารและแน่นหนามั่นคงมาก มีเครื่องยั่วยวนชวนให้เผลอตัวและติดอยู่รอบตัวไม่มีช่องว่าง จึงยากที่จะมีผู้แหวกว่ายออกมาได้ เพราะสัตว์ในโลกจำนวนมากไม่ค่อยมีผู้สนใจเกี่ยวกับทุกข์ที่เป็นอยู่กับตัวตลอดมาว่า เป็นสิ่งที่ทรมานและเสียดแทงร่างกายจิตใจเพียงใด พอจะคิดเสาะแสวงหาทางออกด้วยวิธีต่าง ๆ เหมือนคนเป็นโรคแต่มิได้สนใจกับยา ยาแม้มีมากจึงไม่มีประโยชน์สำหรับคนประเภทนั้น

ธรรมของเราตถาคตก็เช่นเดียวกับยา สัตว์โลกอาภัพเพราะโรคกิเลสตัญหา ภายในใจเบียดเบียนเสียดแทง ทำให้เป็นทุกข์แบบไม่มีจุดหมายว่า จะหายได้เมื่อไร
อ่านเพิ่มเติม

ธรรมะสวัสดี…(หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)

ธรรมะสวัสดี…(หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)

คนหิว…อยู่เป็นปกติสุขไม่ได้
…จึงวิ่งหาโน่นหานี่…
เจออะไรก็คว้าติดมือมาโดยไม่สำนึกว่าผิดหรือถูก
ครั้นแล้วสิ่งที่คว้ามาก็’เผา’ตัวเองให้ร้อนยิ่งกว่าไฟ

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

คนที่’หลง’จึงต้องแสวงหา
…ถ้าไม่หลงก็ไม่ต้องหา…
จะหาไปให้ลำบากทำไม ?
อะไรๆก็มีอยู่กับตัวเองอย่างสมบูรณ์อยู่แล้ว
จะตื่น’เงา’…ตะครุบ’เงา’ไปทำไม ?
เพราะรู้แล้วว่าเงา…’ไม่ใช่ตัวจริง’
ตัวจริง….คือ ‘สัจจะทั้งสี่’ที่มีอยู่ในกายในใจอย่างสมบูรณ์แล้ว
อ่านเพิ่มเติม

บูชาพระอาจารย์ใหญ่ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต โดย พระอาจารย์ชลินทร์

บูชาพระอาจารย์ใหญ่ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต โดย พระอาจารย์ชลินทร์

คำสอนของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อันเป็นหลักคติธรรมให้ศิษยานุศิษย์จดจำเอาไว้อย่างน้อยสองประการ ประการที่หนึ่ง ดีใดไม่มีโทษดีนั้นนับว่าเลิศ ประการที่สอง ได้สมบัติทั้งปวง ไม่ประเสริฐเท่าได้ตน เพราะตัวตนเป็นที่เกิดแห่งสมบัติทั้งปวง

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นชาวหมู่บ้านคำบง ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2413 ในครอบครัวของชาวนา เมื่อมีอายุได้ 15 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดบ้านคำบง แต่บรรพชาได้เพียง 2 ปี ต้องลาสิกขา เพราะสงสารโยมพ่อโยมแม่ที่ต้องทำงานหนักแต่เพียงลำพัง แต่ท่านก็คิดอยู่เสมอว่าจะต้องกลับมาอุปสมบทเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนาให้ได้ตามที่โยมยายเคยขอร้องไว้

“ …… เจ้าต้องบวชให้ยาย เพราะยายเลี้ยงเจ้ามายากนัก”
อ่านเพิ่มเติม

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย

เกิดวันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. 2413
ตรงกับวันพฤหัสบดี เดือนยี่ ปีมะแม
ณ บ้านคำบง ตำบลโขงเจียม
อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
ท่านกำเนิดในสกุลแก่นแก้ว
บิดาชื่อคำด้วง
มารดาชื่อ จันทร์ เพียแก่นท้าว
นับถือพุทธศาสนา
มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน ๗ คน
ท่านเป็นบุตรคนหัวปี
ท่านเป็นคนร่างเล็ก ผิวดำแดง แข็งแรงว่องไว
สติปัญญาดี มาแต่กำเนิด ฉลาด
เป็นผู้ว่านอนสอนง่าย
อ่านเพิ่มเติม

ธรรมคติ วิมุตติ – หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ธรรมคติ วิมุตติ – หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นมิใช่ว่าพระองค์จะมีปัญญาพิจารณาเอาวิมุตติธรรมให้ได้วันหนึ่งวันเดียว พระองค์ทรงพิจารณามาแต่ยังเป็นฆราวาสอยู่หลายปี นับแต่ครั้งที่พระองค์ได้ราชาภิเษกเป็นกษัตริย์ พวกพระญาติพระวงศ์ได้แต่งตั้งพระองค์ได้เป็นเช่นนี้แล้ว ย่อมเป็นผู้ไม่นอนใจ จำเป็นที่พระองค์จะต้องคิดใช้ปัญญาพิจารณาทุกสิ่งทุกอย่างในการปกครองป้องกันราษฎรทั้งของเขต และการรักษาครอบครัวตลอดถึงพระองค์ ก็จะต้องทรงคิดรอบคอบเสมอถ้าไม่ทรงคิดไม่มีพระปัญญา ไฉนจะปกครองบ้านเมืองไพร่ฟ้าให้ผาสุกสบายได้ แม้พระองค์ทรงคิดในเรื่องของผู้อื่นและเรื่องของพระองค์เองเสมอแล้ว ปัญญาวิวัฎฏ์ของพระองค์จึงเกิดขึ้นว่า เราปกครองบังคับบัญชาได้ก็แต่การบ้านเมืองเท่านี้ ส่วนการ เกิด แก่ เจ็บ ตายเล่า เราบังคับบัญชาไม่ได้เสียแล้ว จะบังคับบัญชาไม่ให้สัตว์ทั้งหลายเกิดก็ไม่ได้
อ่านเพิ่มเติม

พระอริยสงฆ์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่หลวงตากล่าวถึง…ว่าเป็นเนื้อนาบุญของโลก

พระอริยสงฆ์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ที่หลวงตากล่าวถึง…ว่าเป็นเนื้อนาบุญของโลก
———————
พระอริยสงฆ์ที่องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน (พระอรหันต์แห่งประวัติชาติไทยองค์ปัจจุบัน
แห่งวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ) ได้กล่าวถึงว่าท่านเหล่านี้ได้ปฏิบัติธรรมจนสามารถทำจิตให้บริสุทธิ์,
และหมดแห่งกิจที่ควรทำแล้ว ก็จะมีครูบาอาจารย์ต่างๆในสายพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่นมากมาย
ที่ท่านหลวงตามหาบัวได้กล่าวถึงประจำ แต่ในบางครั้งท่านเหล่านั้นจะไม่พูดว่าได้ขั้นไหน ๆ แล้วเพราะท่าน
อาจจะมองเห็นปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น คนมารุมตอม.ไม่เว้นแต่ละวันทำให้ท่านไม่ได้พักผ่อน

ยกตัวอย่างเหตุกาณ์ ในวันนั้นที่ข้าพเจ้าถามพระเถระพระป่า (ไม่ขอเอ่ยนามท่าน) ข้าพเจ้าถามว่า…..ดังนี้

..หลวงปู่เป็นพระอรหันต์หรอครับ….
ท่านก็จะตอบว่า……….ดูเอานี่ไงหันซ้ายหันขวา..
แล้วท่านก็…..จะทำท่าหันไปข้างซ้าย…หันไปข้างขวาให้เราดู…
คนถามก็จะอดหัวเราะไปกับท่านไม่ได้ครับ……..
อ่านเพิ่มเติม

ประวัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ประวัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

๑.ชาติกำเนิดและการอุปสมบท

ท่าน กำเนิดในสกุลแก่นแก้ว บิดาชื่อคำด้วง มารดาชื่อจันทร์ เพีย ( พระยา ) แก่นท้าวเป็นปู่ นับถือพุทธศาสนา

เกิดวันพฤหัสบดีเดือนยี่ ปีมะแม ตรงกับวันที่ ๒๐ เดือนมกราคมพ.ศ.๒๔๑๓ ณ บ้านคำบง ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ( ปัจจุบันคือ บ้านคำบง ต.สงยาง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.อุบลราชธานี ) มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน ๗ คน ท่านเป็นบุตรคนหัวปีท่านเป็นคนร่างเล็ก ผิวขาวแดงแข็งแรงว่องไวสติปัญญาดีมาตั้งแต่กำเนิดฉลาดดี

เป็นผู้ว่าง่ายสอนง่ายได้เรียนอักขรสมัยในสำนักของอา คือเรียนอักษรไทยน้อย อักษรไทย อักษรธรรมและอักษรขอมอ่านออกเขียนได้นับว่าท่านเรียนได้รวด เร็ว เพราะมีความทรงจำดี และมีความขยันหมั่นเพียรชอบการเล่าเรียนศึกษา
อ่านเพิ่มเติม

เรื่องเล่าเกี่ยวกับเนื้อคู่ ของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ

เรื่องเล่าเกี่ยวกับเนื้อคู่
ของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ พระอริยะแห่งดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ในสายหลวงปู่มั่น ภูริทฺตโต เดิมได้รับการรวมรวม-เรียบเรียงโดย พระนาค อตฺถวโร วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร แต่บทความนี้ได้คัดมาจากหนังสือธรรมโอวาท หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ซึ่งคุณแจ่ม เจิดจรัสได้นำมารวบรวมเรียบเรียงไว้

เคยมีคำทำนายเกี่ยวกับเนื้อคู่ของหลวงปู่แหวน เมื่อสมัยที่เรียนมูลกัจจายน์ที่จังหวัดอุบลราชธานี ได้มีหมอดูทำนายว่าเนื้อคู่ของท่าน จะมีรูปร่างสันทัด ผิวเนื้อขาวเหลือง ใบหน้ารูปใบโพธิ์ แต่ท่านก็ไม่ได้สนใจอะไร ด้วยชีวิตนี้ท่านได้อุทิศทั้งชีวิตเพื่อพระศาสนาแล้ว จึงขอกล่าวถึงข้อความตอนหนึ่งในหนังสืออนุสรณ์หลวงปู่แหวน เกี่ยวกับในช่วงที่จิตของท่านนึกเห็นแต่หน้าของหญิงนางนั้น ที่สุดท่านก็ได้บังคับจิตของท่านให้หลุดออกจากห้วงนั้น โดยใช้อุบายธรรมพิจารณาเหตุผลในทีละอย่าง จนท่านก็ประสบความสำเร็จ

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://muangput.com/webboard/index.php/topic,60.0.html

หลวงปู่แหวนสอนละวางกิเลส

หลวงปู่แหวนสอนละวางกิเลส

ละ วาง ถอน ที่ใจ
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

กามนี้มันหมุนรอบโลก มันเป็นเจ้าโลก กามกิเลสนี้แหละที่ทำให้เกิดสงครามต่อสู้กัน เกิดก็เพราะกาม ตายก็เพราะกาม รักก็เพราะกาม ชังก็เพราะกาม การทุกอย่างนี้เรียกว่ากามกิเลส การต่อสู้กามกิเลสเป็นสงครามอันยิ่งใหญ่ กามกิเลสนี้ร้ายนักมันมาทุกทิศทุกทาง ความพอใจก็คือกิเลส ความไม่พอใจก็คือกามกิเลส กามกิเลสนี้อุปมาเหมือนแม่น้ำธารน้ำน้อยใหญ่ไม่มีประมาณไหลลงสู่ทะเลไม่มีที่เต็มฉันใดก็ดี กามตัณหาที่ไม่พอดี ภวตัณหา วิภวตัณหาเป็นแหล่งก่อทุกข์ ก่อความเดือดร้อนไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งหมดอยู่ที่ใจ สุขก็อยู่ที่ใจ ทุกข์ก็อยู่ที่ใจ ใจนี่แหละคือตัวเหตุ ทำความพอใจให้อยู่ที่ใจ นี่หมั่นเพียรและตั้งสัจจะให้มั่น รักษาศีล รักษาตา รักษาหู รักษาตัว รักษาปาก สำรวมอินทรีย์ รักษาธาตุ 4 ขันธ์ 5 พิจารณาเข้าไป ตจปัญจกกรรมฐาน 5 กายคตากรรฐาน พิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริงก็จะถอนได้ พวกหมู หมา เป็ด ไก่ มันก็เสพกามกันทั่วแผ่นดิน อย่าได้ไปอัศจรรย์ มีแต่ศีล สมาธิ ปัญญา ผู้ใดรักษาศีล ภาวนาเข้าจนเกิดสมาธิแล้ว สติก็ดิ่งเข้าไปแล้ว ก็จะได้ทำจิตทำใจของตนให้บริสุทธิ์ พระธรรมแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ ท่านก็ชี้เข้าหาใจนี่แหละ ทำใจให้บริสุทธิ์ ให้มีสติสัมปชัญญะนำคืนออกให้หมด ถ้ามีสติแล้วก็ นำความผิดออกจากกายจากใจของตน อย่าหลงสมมติทั้งหลาย มีรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสอย่าเอามาหมักไว้ในใจ
กามตัณหา เปรียบเหมือนแม่น้ำไหลไปสู่ทะเลไม่รู้จักเต็มสักที อันนี้ฉันใด ความอยากของตัณหามันไม่พอ ต้องทำความพอ จึงจะดี เราจะต้องทำใจให้ผ่องใส ตั้งอยู่ในศีล ตั้งอยู่ในทาน ตั้งอยู่ในธรรม ตั้งอยู่ในสมาธิก็ดี ทุกอย่างเราทำความพอดี ความพอใจก็นำออกเสีย เวลานี้เราจะพักจิต ทำกายของเรา ทำใจของเราให้รู้แจ้งในกายในใจของเรานี้ รู้ความเป็นมา วางให้หมด วางอารมณ์ วางอดีตอนาคตทั้งปวง

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://muangput.com/webboard/index.php/topic,62.0.html

เรื่องเล่า หลวงปู่แหวน , หลวงปู่หลุย กับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

เรื่องเล่า หลวงปู่แหวน , หลวงปู่หลุย กับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

คัดจากหนังสือชีวประวัติ หลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต วัดอรัญญวิเวก (ป่าลัน) บ.ป่าลัน ต.ปงน้อย กิ่ง อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย

เรื่องของหลวงปู่หลุย
มีอยู่ครั้งหนึ่ง หลวงปู่หลุยท่านได้มาพักที่วัดดอยแม่ปั๋ง กะว่าจะอยู่กับหลวงปู่แหวนไปสักพักนึงก่อน เพราะว่าเป็นคนจังหวัดเลยด้วยกัน พออยู่ต่อมาหลวงปู่หลุยได้ยินข่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จมากราบหลวงปู่แหวน หลวงปู่หลุยได้ยินดังนั้นก็รีบไปอยู่ที่อื่น ไปอยู่ที่อำเภอแม่แตง หลวงปู่หลุยท่านกลัวพูดกับพระราชามหากษัตริย์ไม่เป็น หลวงปู่หลุยท่านพูดว่า “พูดกับพระราชาไม่เป็น นี่คอขาดบาดตายนะเรา เป็นพระป่าพระดงไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร” ท่านพูด
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมากราบหลวงปู่แหวนแล้ว หลวงปู่แหวน ท่านก็พูดกับในหลวงว่า “ท่านหลุยก็มาอยู่นี่แหละ แต่หนีไปอยู่ที่แม่แตงแล้ว กลัวพูดกับพระราชามหากษัตริย์ไม่เป็น กลัวคอขาดบาดตาย ว่าอย่างนั้น” สมเด็จพระราชินีก็พูดออกมาว่า “ไม่เป็นอย่างนั้นดอกพระเจ้าข้า พวกดิฉันไม่ได้ถือยศฐาบรรดาศักดิ์อะไรหรอกเจ้าข้า พูดแบบนี้เป็นกันเองนี้แหละเจ้าข้า” แล้วพระราชินีก็พูดกับหลวงปู่แหวนว่า “เมื่อดิฉันกลับจากที่นี้ไปแล้ว จะไปกราบหลวงปู่หลุยให้ได้ ไม่ต้องกลัวเจ้าข้า” ในหลวงท่านเสด็จมากราบหลวงปู่แหวนแต่ละครั้ง ตั้งแต่บ่ายสองโมง จนถึงหนึ่งทุ่มสองทุ่มเป็นประจำ การเสด็จมาวัดดอยแม่ปั๋ง แต่ละครั้ง ถือเป็นการส่วนตัวพระองค์เอง อ่านเพิ่มเติม

นายโคฆาต หลวงปู่จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย จ.พิจิตร

นายโคฆาต หลวงปู่จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย จ.พิจิตร

นายโคฆาต
จากเทปเรื่อง ป่าช้า ๙ กอง (๑ ก.ย.๓๓)

การฝึกจิตให้มีสติปัญญาฉลาดรู้ ก็ต้องมาพิจารณาร่างกายนี้นั้น เปรียบเหมือน นายโคฆาต นายเพชฌฆาตฆ่าโค เมื่อฆ่าโคลงไปแล้ว เขาก็ปาดหนังไว้กองหนึ่ง หัวไว้กองหนึ่ง กระดูกน้อยใหญ่ไว้อีกกองหนึ่ง ตับ ไต ไส้น้อย ไส้ใหญ่ ปอด พุง เอาไว้คนละกอง ๆ ชิ้นเนื้อไว้คนละกอง ๆ นั่นแหละ ลูกมือเขาก็แยกแยะเป็นอย่าง ๆ ไป จำหน่ายซื้อจ่ายขายกิน นั่นแหละ เขาก็ต้องทำอย่างนั้น

ทีนี้ พระโยคาวจรเจ้าทั้งหลาย ก็จงแยกแยะพิจารณาร่างกาย เปรียบเหมือนตัวโคนะ ใจเปรียบเหมือนนายเพชรฆาตผู้ฆ่าโคนั่นแหละ เราก็ต้องแยกแยะออกเป็นส่วน ๆ ให้มันเป็นอัน ๆ เป็นชิ้น ๆ ให้มันรู้อะไรเป็นอะไร กำหนดแยกแยะออกด้วยการเอามีดถาก เถือ สับ ฟัน นั่นแหละ กำหนดคาดหมายไปเสียก่อนตอนแรก ก็เพื่อว่าเป็นการศึกษา เป็นการฝึกจิตให้รู้ต่อซากโค คือ ร่างกายนี้
อ่านเพิ่มเติม

. . . . . . .