ธรรมน่ารู้ จากท่านพุทธทาสภิกขุ

ธรรมน่ารู้ จากท่านพุทธทาสภิกขุ

ข้าพเจ้ามอบชีวิตและร่างกายนี้ ถวายแด่พระพุทธเจ้าข้าพเจ้าเป็นทาสของพระพุทธเจ้า

ธรรมคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ ล้วนแล้วแต่สอนอย่างถึงแก่นถึงแกน ที่ถูกต้องดีงาม สมดั่งพระพุทธประสงค์
ท่านทำหน้าที่ได้สมดังฉายาขององค์ท่านว่า “พุทธทาส” โดยบริบูรณ์
ผู้เขียนได้เลือกLink ไปยังWeb พุทธทาส.คอม ที่เห็นว่าเกื้อหนุนให้เกิดความเข้าใจในธรรม อันเนื่องกับธรรมในWebนี้
นอกจากLinkเหล่านี้แล้ว ยังมีธรรมะต่างๆที่น่ารู้ น่าศึกษา เป็นแก่นเป็นแกนของท่านอีกเป็นจำนวนมาก
ใน พุทธทาส.คอม และที่ พุทธทาสศึกษา
การศึกษาข้อธรรม,ข้อเขียนของท่านนั้น ควรศึกษาอย่างพิจารณา วางใจเป็นกลาง วางความเชื่อ ความยึดเดิมๆ ชั่วขณะ
พิจารณาตามเหตุตามผล เพราะข้อธรรมคำสอนของท่านนั้น เป็นการสอนอย่างตรงไปตรงมาเป็นที่สุด
จึงมักขัดแย้งกับความเชื่อ(ทิฏฐุปาทาน) ความยึดเดิมๆ(สีลัพพตุปาทาน)ตามที่ได้สืบทอด อบรม สั่งสมมา
อันแอบซ่อน,แอบเร้นอยู่ในจิตโดยไม่รู้ตัว จึงทำให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ และยอมรับได้ยาก
ต้องใช้การโยนิโสมนสิการในการพิจารณาในข้อธรรมบรรยายของท่านด้วยใจเป็นกลาง อย่างหาเหตุหาผล จึงจักได้รับประโยชน์สูงสุด
อ่านเพิ่มเติม

ตามรอย “พุทธทาส” ในมุมที่คุณอาจไม่เคยรู้!

ตามรอย “พุทธทาส” ในมุมที่คุณอาจไม่เคยรู้!

“พุทธทาสภิกขุ” นามนี้ดังก้องโลก หลายคนอาจเคยมีโอกาสเดินตามรอยท่าน จากบทธรรมคำสอนที่ฝากเอาไว้อย่างมากล้น มากเสียจนแม้กระทั่งผู้ที่ไม่เคยก้าวย่ำลงไปศึกษาพระธรรมด้วยตนเอง คงเคยได้รับอานิสงส์แห่งความเมตตาไปแล้วหลายต่อหลายครั้ง ผ่านตัวอักษรในหน้าหนังสือ ผ่านคำเทศน์ที่ยังถูกเปิดซ้ำๆ ดั่งเจ้าของสำเนียงไม่เคยลาลับไปไหน
ในวาระครบรอบ 20 ปีมรณกาล และรำลึกเดือนแห่งการเกิดของท่าน (พ.ค.) จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ตามรอย ปัดฝุ่นอดีตผู้ยิ่งใหญ่ จากปากคำของคนใกล้ชิด ในอีกหลายแง่มุมที่คุณอาจไม่เคยรู้!

เลือด “ศิลปิน” จากโยมพ่อ
“เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา
จงเลือกเอา ส่วนที่ดี เขามีอยู่
เป็นประโยชน์ โลกบ้าง ยังน่าดู
ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลย
จะหาคน มีดี โดยส่วนเดียว
อย่ามัวเที่ยว ค้นหา สหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหา หนวดเต่า
ตายเปล่าเลย ฝึกให้เคย มองแต่ดี มีคุณจริง”

อ่านเพิ่มเติม

พุทธทาสภิกขุ

พุทธทาสภิกขุ

ท่านพุทธทาสภิกขุ เป็นพระภิกษุสงฆ์ชาวไทยผู้มอบคำสอนทางพุทธศาสนาไว้มากมาย โดยคำสอนจำนวนมากเป็นธรรมะระดับโลกุตระ อันมีนิโรธเป็นรส และมีนิพพานเป็นอารมณ์ ซึ่งพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นธรรมะขั้นสูง และไม่เหมาะกับฆราวาสผู้ยังเวียนว่ายอยู่ในวังวนแห่งโลกียะ แต่ท่านพุทธทาสภิกขุตระหนักว่าธรรมะเหล่านี้คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา และพุทธมามกะไม่ว่าจะระดับชั้นใดก็ควรจะได้รับรู้ ได้รับปฏิบัติ และได้รับผลจากธรรมะเหล่านี้ ซึ่งถึงแม้จะเป็นธรรมะที่ละเอียดลึกซึ้ง แต่ท่านพุทธทาสภิกขุก็ได้ถ่ายทอดให้อยู่ในรูปแบบที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงและเข้าใจ โดยยังคงเนื้อหาสำคัญไว้ได้อย่างครบถ้วน คำสอนทั้งหลายของท่านพุทธทาสภิกขุ แท้จริงแล้วก็คือการสกัดพระสูตรให้ออกมาเป็นภาษาพูด และพระอภิธรรมให้ออกมาเป็นภาษาชาวบ้านนั่นเอง โดยข้อธรรมที่ท่านพุทธทาสภิกขุเน้นย้ำมากที่สุดคือเรื่องสุญญตา จนทำให้ผู้ศึกษาพระพุทธศาสนาหลายคนเรียกท่านว่า นักรบเพื่อความว่าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุยังรวมไปถึงเรื่องพื้นฐาน เช่น เรื่องการทำงาน และเรื่องการศึกษา ซึ่งคนทั่วไปสามารถนำธรรมะเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ทันที
นอกจากพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทแล้ว ท่านพุทธทาสภิกขุยังมีใจเปิดกว้างทำการศึกษาคำสอนของต่างศาสนาและต่างนิกาย ด้วยความคิดว่าศาสนาทั้งหลายล้วนมุ่งหมายในสิ่งเดียวกัน ในสมัยที่ท่านพุทธทาสภิกขุจำพรรษาอยู่ที่สวนโมกขพลาราม นอกจากสาธุชนคนไทยผู้สนใจในธรรมะทั้งหลายจะแวะเวียนมาสนทนา และฟังเทศน์ฟังธรรมจากท่านพุทธทาสภิกขุอย่างไม่ขาดสายแล้ว ยังมีชาวต่างชาติผู้ต้องการเรียนรู้พระพุทธศาสนา นักศึกษาและอาจารย์ทางด้านศาสนศาสตร์จากต่างประเทศ รวมถึงประมุขของศาสนจักรต่างๆ แวะเวียนมาพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติความคิดเห็น รวมทั้งสนทนาธรรมกับท่านเป็นอันมาก ทำให้สวนโมกขพลารามเปรียบเสมือนตักศิลาสำหรับผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา และทำให้วงการพระพุทธศาสนากลับมาตื่นตัวอีกครั้ง
อ่านเพิ่มเติม

พระธรรมโกศาจารย์ (เงื่อม อินฺทปญฺโญ)

พระธรรมโกศาจารย์ (เงื่อม อินฺทปญฺโญ)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

พระธรรมโกศาจารย์
(เงื่อม อินทปญฺโญ)
พุทธทาสภิกขุ

เกิด 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2449
มรณภาพ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2536
อายุ 87
อุปสมบท 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2469
พรรษา 67
วัด ธารน้ำไหล (สวนโมกขพลาราม)
ท้องที่ สุราษฎร์ธานี
สังกัด มหานิกาย
วุฒิการศึกษา ป.ธ.๓, น.ธ.เอก
รางวัล บุคคลสำคัญของโลกชาวไทยโดยยูเนสโก
ลายมือชื่อ

พระธรรมโกศาจารย์ (เงื่อม อินทปัญโญ) หรือรู้จักในนาม พุทธทาสภิกขุ (27 พฤษภาคม พ.ศ. 2449 — 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2536) เป็นชาวอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2449 เริ่มบวชเรียนเมื่ออายุได้ 20 ปี ที่วัดบ้านเกิด จากนั้นได้เข้ามาศึกษาพระธรรมวินัยต่อที่กรุงเทพมหานคร จนสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค แต่แล้วท่านพุทธทาสภิกขุก็พบว่าสังคมพระพุทธศาสนาแบบที่เป็นอยู่ในขณะนั้นแปดเปื้อนเบือนบิดไปมาก และไม่อาจทำให้เข้าถึงหัวใจของพระพุทธศาสนาได้เลย ท่านจึงตัดสินใจหันหลังกลับมาปฏิบัติธรรมที่อำเภอไชยา ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิมของท่านอีกครั้ง พร้อมปวารณาตนเองเป็น พุทธทาส เนื่องจากต้องการถวายตัวรับใช้พระพุทธศาสนาให้ถึงที่สุด
ผลงานเด่นของทาสพุทธทาสคืองานหนังสือ อาทิ หนังสือพุทธธรรม, ตามรอยพระอรหันต์ และคู่มือมนุษย์ และเป็นสงฆ์ไทยรูปแรกที่บุกเบิกการใช้โสตทัศนูปกรณ์สมัยใหม่สำหรับการเผยแพร่ธรรมะ และท่านมีสหายธรรมคนสำคัญ คือ ปัญญานันทภิกขุ แห่งวัดชลประทานรังสฤษฎ์ และ ท่าน บ.ช. เขมาภิรัตน์ [1]
อ่านเพิ่มเติม

คำคมธรรมะสอนใจ พระพุทธทาสภิกขุ (พุทธทาส อินทปัญโญ)

คำคมธรรมะสอนใจ พระพุทธทาสภิกขุ (พุทธทาส อินทปัญโญ)

ท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุ (พุทธทาส อินทปัญโญ) มีนามเดิมว่า เงื่อม นามสกุล พานิช ท่านถูกปลูกฝั่งเรื่องธรรมะมาตั้งแต่สมัยเด็ก ด้วยพ่อแม่ของท่านสนใจในเรื่องของธรรมะอย่างลึกซึ้ง ครั้งเมื่ออายุท่านได้ 20 ปีก็ได้ออกบวชตามเจตนารมณ์ของพ่อและแม่ตามความเชื่อของคนไทยที่ต้องให้ลูกบวชทดแทนพระคุณพ่อแม่ ท่านจึงได้ออกบวชที่วัดโพธาราม ไชยา ได้รับฉายาว่า “อินทปัญโญ” แปลว่า ผู้มีปัญญา อันยิ่งใหญ่ ตลอดชีวิต ของ ท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุ ท่านบอกเสมอว่า “ธรรมะ” นั้น คือหน้าที่…ท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุได้ทำหน้าที่ ในฐานะ ทาสผู้ซื่อสัตย์ ของพระพุทธเจ้า ทุกอณูแห่งลมหายใจ เข้าออก ผลงานของท่านที่ท่านได้สร้างสรรค์ไว้ให้แก่พระพุทธศาสนานั้นมีมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ท่านจะเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก…

” ธรรมะมีอยู่แล้ว ไม่ต้องสร้างขึ้น ไม่ต้องวิ่งหา
เพียงแต่ทำให้ปรากฏแก่จิต ที่อบรมอยู่แล้วอย่างถูกต้อง
เดี๋ยวนี้มัวสร้างมัวหา เลยไม่พบทั้งที่มีอยู่แล้ว ”
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว
“พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องฤทธิ์ทางจิตใจ
แต่ทรงขยะแขยงที่จะแสดงฤทธิ์ในทางจิตใจชนิดนั้น เพราะเป็นมายาเท่านั้นเอง”
โลกนี้เป็นโรงละครอันแปลกประหลาด
ที่ตัวละครมีสิทธิ์แสดงบทบาทได้ตามใจตัว.
ในโบสถ์หรือพระพุทธรูปยิ่งสำคัญหรือศักดิ์สิทธิ์เท่าใด
ก็ยิ่งมีเซียมซีมากเท่านั้น. อ่านเพิ่มเติม

หลักธรรมคำสอน ท่านพุทธทาสภิกขุ

หลักธรรมคำสอน ท่านพุทธทาสภิกขุ

พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาส อินทปัญโญ) วัดธารน้ำไหล (สวนโมกขพลาราม) อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งสวนโมกขพลารามเพื่อให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและสถานที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา นอกจากนี้ผลงานของท่านพุทธทาสภิกขุยังมีปรากฏอยู่มากมายทั้งในรูปพระธรรมเทศนา และในงานเขียน โดยท่านตั้งใจทำการถ่ายทอดพระพุทธศาสนาให้อยู่ในฐานะที่เป็นพุทธะศาสนาอย่างแท้จริง นั่นคือเป็นศาสนาแห่งความรู้ ไม่เจือปนไปด้วยความหลงผิดที่เข้าแทรกจนกลายเป็นเนื้อร้ายที่คอยกัดกิน ได้แก่เรื่อง พุทธพาณิชย์, ไสยศาสตร์ และเรื่องความหลงใหลในลาภยศของพระสงฆ์ ฯลฯ อีกทั้งคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุก็ได้ถูกถ่ายทอดให้อยู่ในรูปแบบที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงและเข้าใจได้ โดยที่ยังคงเนื้อหาสำคัญไว้ได้อย่างครบถ้วน ซึ่งคำสอนของท่านยังรวมไปถึงเรื่องทั่วๆ ไปด้วย เช่น การทำงาน, การเรียน ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับชีวิตประจำวันปสามารถเข้าถึงและเข้าใจได้ โดยที่ยังคงเนื้อหาสำคัญไว้ได้อย่างครบถ้วน ซึ่งคำสอนของท่านยังรวมไปถึงเรื่องทั่วๆ ไปด้วย เช่น การทำงาน, การเรียน ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับชีวิตประจำวัน

วันนี้เอาคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุมาให้อ่านกันค่ะ

โลกกลมๆ ใบนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ
ของฟรีไม่เคยมี ของดีไม่เคยถูก

อยู่ให้ไว้ใจ ไปให้คิดถึง
คนเราต้องเดินหน้า เวลายังเดินหน้าเลย
ไม่ต้องสนใจว่าแมวจะสีขาวหรือดำ ขอให้จับหนูได้ก็พอ
ยิ่งมีใจศรัทธา ยิ่งต้องมีสายตาที่เยือกเย็น
อ่านเพิ่มเติม

108 คำคม พุทธทาส อินฺทปญฺโญ

108 คำคม พุทธทาส อินฺทปญฺโญ

108 คำคม พระธรรมโกศาจารย์ (เงื่อม อินฺทปญฺโญ) หรือ พระพุทธทาสภิกขุ เป็นชาว สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ท่านเกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๙ พออายุได้ 20 ปี ท่านก็ได้บวชเรียนที่วัดบ้านเกิด วัดอุบล หลังจากนั้นก็ได้เข้าไปศึกษาพระธรรมที่กรุงเทพ จนได้เปรียญธรรม 3 ประโยค จากนั้นก็ได้กลัับมาปฏิบัติธรรมที่บ้านเกิดอีกครั้ง พร้อมทั้งปวารณาตัวท่านเองว่า พุทธวาส ผู้ถวายชีวิตรับใช้พระพุทธศาสนา หลังจากนั้นก็มีผลงาน ทั้งงานนิพนธ์ งานเขียนมากมาย ผลงานที่โดนเด่นและทำให้ท่านเป็นที่รู้จักคือ นิพนธ์ชุด ”ธรรมโฆษณ์”

ค่ามีที่ตรงไหน
ค่ากระดาษ แผ่นหนึ่ง ไม่ถึงสตางค์
พอวาดวาง ด้วยอักษร ประเสริฐศรี
มีเนื้อหา แห่งพระธรรม คำดี ๆ
มันกลับมี ค่าอนันต์ เหลือพรรณนา
เพียงกระดาษ ลายเซ็น เป็นที่ระลึก
คนโง่ยึก แย่งกัน ซื้อสรรหา
ส่วนผู้ฉลาด มาตร์ใหญ่ ใฝ่ธรรมา
แผ่นกระดาษ สูงค่า มาเพราะธรรม
แม้กระดาษ ห่อของ ตรองดูเถิด
ค่ามันเกิด เพราะอะไร ไยมิขำ
แม้กายเน่า ที่คู่เคล้า เฝ้าลูบคลำ
เมื่อมีธรรม ก็หมดเน่า ไม่เศร้าเอย
พุทธทาสภิกขุ
————————————————————————- อ่านเพิ่มเติม

รวม 309 หัวข้อธรรมคำสอนของท่านพุทธทาส

รวม 309 หัวข้อธรรมคำสอนของท่านพุทธทาส

ที่ลิงค์นี้: http://www.tamdee.net/main/read.php?tid-1506.html

ได้ รวมธรรมคำสอนของท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุ รวม 309 หัวข้อ

ขอเชิญชวนทุกท่านศึกษาครับ

1. พระพุทธเป็นพ่อ พระธรรมเป็นแม่ พระสงฆ์เป็นพี่
2. พุทธะเป็นใครก็ได้ ถ้าเป็นผู้รู้ – ตื่น – เบิกบาน
3. นิพพานในทุกความหมาย ไม่เกี่ยวกับความตาย
4. นิพพานเป็นของได้เปล่า เมื่อสลัดตัวกูออกไปเสีย
5. นิพพานในความหมายของชาวบ้าน (นิพฺพุโต) ก็มีอยู่
6. นิพพานในปัจจุบัน (เมื่อจิตว่าง) เรียกสามายิกนิพพาน เป็นสิ่งควรสนใจ
7. นิพพานหาพบได้ที่วัฏฏสงสาร
8. นิพพานคือ “ตัวกู” ตายเสียก่อนแต่ร่างกายตาย
9. ทำงานและมีชีวิตอยู่ด้วยจิตว่างจากตัวกู
10. ทุกเรื่องและทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับจิตสิ่งเดียว อ่านเพิ่มเติม

๑๐๐ คำคม วาทะธรรม อาจารย์พุทธทาส ภิกขุ

๑๐๐ คำคม วาทะธรรม อาจารย์พุทธทาส ภิกขุ

1. ปณิธาน 3 ประการของท่านพุทธทาส
1. การเข้าถึงหัวใจของศาสนาของตนๆ
2. การทำความเข้าใจระหว่างศาสนา
3. ออกมาเสียจากอำนาจวัตถุนิยม

2. คติพจน์ของสวนโมกข์ 1
• กินข้าวจานแมว (กินง่าย)
• อาบน้ำในคู (ใช้สอยคุ้มค่า)
• นอนกุฏิเล้าหมู (นอนง่าย)
• ฟังยุงร้องเพลง (จิตสงบเย็น)
• อยู่เหมือนตายแล้ว (ตายจากความยึดมั่นถือมั่น)

3. คติพจน์ของสวนโมกข์ 2
• กินข้าวจานแมว (กินง่าย)
• อาบน้ำในคู (ใช้สอยคุ้มค่า)
• เป็นอยู่อย่างทาส (อยู่ง่าย)
• มุ่งมาดความวาง (แบกหนักวางเบา)
• ทำอย่างตายแล้ว (ให้ตัวกูตายกิเลสตาย)
• กุมแก้วในมือ(อริยทรัพย์อันล้ำค่า)
• คือดวงจิตว่าง (นิพพาน)
• คืนหมดทุกอย่าง(คืนสู่ธรรมชาติ)
• แจกของส่องตะเกียง(พระโพธิสัตว์)
อ่านเพิ่มเติม

ความสุข: ท่านพุทธทาสภิกขุ

ความสุข: ท่านพุทธทาสภิกขุ

สุขสำราญคู่กับ ทุกข์ทรมาน
ความสุขสำราญที่ไม่มีธรรมะเป็นรากฐาน ก็คือความทุกข์ทรมานที่กำลังรอเวลาอยู่ !
สุขสงบ – สุขสนุก
สุขแท้ เกิดจากความสงบเท่านั้น ส่วนที่เกิดจากความวุ่นวายนั้น เป็นเพียงความสนุก หาใช่ความสุขไม่ !
สุขแท้ – สุขเทียม
ความสุขที่แท้จริง เป็นสิ่งที่ต้องได้มาเปล่าๆ โดยไม่ต้องเสียสตางค์ เหมือนดั่งที่ตรัสว่า ถอนความรู้สึกว่าตัวตนเสียได้แล้ว ก็ได้นิพพานมาเปล่าๆ ไม่ต้องเสียมูลค่าอะไร
ส่วนความสุขเทียม หรือความเพลิดเพลินที่หลอกลวงนั้น ใช้เงินื้อมาเท่าไรก็ไม่รู้จักพอ จนตัวตาย ก็ไม่พบกับความสุขที่แท้จริง!
ความสุขอันประเสริฐ
อย่ามุ่งหมาย ความสุขอันประเสริฐอะไรๆ ให้มากไปกว่าความปกติของจิต ที่ไม่ยินดียินร้าย ไม่ขึ้นไม่ลงไปตามออารมณ์ที่กระทบเพราะไม่มีสุขอะไรประเสริฐยิ่งไปกว่าความปกติของจิตนั้น

http://www.dharma.in.th/

ประวัติท่านพุทธทาสภิกขุ

ประวัติท่านพุทธทาสภิกขุ

ประวัติท่านพุทธทาสภิกขุ
๑. กำเนิดแห่งชีวิต
ท่านอาจารย์พุทธทาส มีนามเดิมว่า เงื่อม นามสกุล พานิช
เกิดเมื่อ วันอาทิตย์ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะเมีย
วันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ ในสกุลของพ่อค้า
ที่ตลาด พุมเรียง ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
บิดา ชื่อ เซี้ยง มารดาชื่อ เคลื่อน มีน้องสองคน
เป็นชายชื่อยี่เก้ย และเป็นหญิงชื่อกิมซ้อย
บิดาของท่านมีเชื้อสายจีน ประกอบอาชีพหลักคือ
การค้าขายของชำ เฉกเช่น ที่ชาวจีนนิยมทำกันทั่วไป
แต่อิทธิพลที่ท่านได้รับจากบิดา กลับเป็นเรื่องของ
ความสามารถทางด้านกวี และทางด้านช่างไม้
ซึ่งเป็นงานอดิเรกที่รักยิ่งของบิดา
อ่านเพิ่มเติม

“ยูเนสโก”ยกย่อง”ท่านพุทธทาส” 1ใน63บุคคลสำคัญของโลก

“ยูเนสโก”ยกย่อง”ท่านพุทธทาส” 1ใน63บุคคลสำคัญของโลก

(หมายเหตุ) – การประชุมสมัยสามัญองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(ยูเนสโก) ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา พิจารณาการยกย่องเฉลิมฉลองบุคคลสำคัญ หรือผู้มีผลงานดีเด่นและเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ ประจำปี 2549-2550 รวม 63 คน/สถาบัน รวมถึงท่านพุทธทาสภิกขุ

บุคคลและสถาบันที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโก เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบปีต่างๆ ระหว่างปี 2549-2550 จำนวน 63 ท่าน/สถาบัน

1.ไฮน์ริช ไฮน์ (เยอรมนี) เนื่องในวาระครบรอบ 150 ปี ของการถึงแก่อสัญกรรม
2.ดีทริช บอนฮอฟเฟอร์ (เยอรมนี) เนื่องในวาระครบรอบวันเกิดปีที่ 100
3.แบร์โธลต์ เบรชต์ (เยอรมนี) เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปี ของการถึงแก่อสัญกรรม
4.ยีน คาร์ซู (การ์นิก ซูลูเมียน) (อาร์เมเนีย) เนื่องในวาระครบรอบวันเกิดปีที่ 100
5.โนราอีร์ ซีซาเกียน (อาร์เมเนีย) เนื่องในวาระครบรอบวันเกิดปีที่ 100
6.โวฟ์ลกัง อมาเดอุส โมซาร์ต (ออสเตรีย) เนื่องในวาระครบรอบวันเกิดปีที่ 250
7.ซิกมุนด์ ฟรอยด์ (ออสเตรีย) เนื่องในวาระครบรอบวันเกิดปีที่ 150
8.เบอร์ธา ฟอน ซุตต์เนอร์ (ออสเตรเลีย) เนื่องในวาระครบรอบ 100 ปี ของการรับรางวัลโนเบล อ่านเพิ่มเติม

งานศพของท่านพุทธทาส อินทปัญโญก็ยังแฝงไว้ด้วยการสอนธรรมของตัวท่านใน พินัยกรรม

งานศพของท่านพุทธทาส อินทปัญโญก็ยังแฝงไว้ด้วยการสอนธรรมของตัวท่านใน พินัยกรรม

ด.ต.ปิยะวัฒน์…(ดาบต้น):
งานศพท่านพุทธทาส ยึดแนวทางปฏิบิติ “เป็นอยู่อย่างต่ำ มุ่งกระทำอย่างสูง”

แม้แต่งานศพของท่านพุทธทาส อินทปัญโญก็ยังแฝงไว้ด้วยการสอนธรรมของตัวท่านใน พินัยกรรม ของท่านที่ทำไว้ก่อนมรณภาพ ท่านเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า ให้เผาศพท่านในสามเดือนโดยจัดการอย่างง่ายที่สุด ไม่จัดงานพิธี โดยให้เผาศพในบริเวณเขาพุทธทอง โดยปักเสาสี่มุมและคาดผ้าขาวเป็นเพดานเท่านั้น นี่เป็นเจตนาของท่านที่ต้องการให้งานศพของท่านเป็นแบบอย่างเหมือนสมัยพุทธกาล โดยมุ่งหวังให้สงฆ์รุ่นหลังยึดถือปฏิบัติต่อไปในภายหน้า

งานศพแบบสวนโมกข์ได้ปรากฏขึ้นแก่สายตาของพระ และฆราวาสจำนวนมากที่มาร่วมงานตามจุดประสงค์ของอินทปัญโญทุกประการ นี่เป็นการจัดการ ศพโดยวิธีเผากลางแจ้ง โดยตั้งโลงศพบนกองฟืน แล้วจุดไฟเผาต่อหน้าสายตาของผู้มาร่วมรับการสอนธรรมอย่างไม่มีสิ่งปิดบัง

ในประเทศนี้มีชาวพุทธจำนวนนับไม่ถ้วนที่ได้พยายามด้วยวิธีการต่างๆ ตาม “ความจริง” และ “ความเชื่อ” ของตน เพื่อที่จะเข้าใกล้พระพุทธเจ้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่จะมีใครสักกี่คนกันที่สามารถเป็นผู้อยู่ใกล้พระพุทธองค์อย่างที่สุด เหมือนอย่างท่านผู้ที่กำลังถูกเผาไหม้อยู่เบื้องหน้านี้
/\ /\ /\
อ่านเพิ่มเติม

พินัยกรรม”กลับคืนสู่ธรรมชาติของท่านพุทธทาส”

พินัยกรรม”กลับคืนสู่ธรรมชาติของท่านพุทธทาส”ตามความเข้าใจของผู้เขียน

เนื่องในโอกาส 106 ปี ชาตกาลพุทธทาสภิกขุ และ ผู้เขียนตั้งใจไว้มาตั้งแต่เริ่มทำ เวป เมืองคอน.com ว่าจะย้อนรอยเกี่ยวกับพินัยกรรมของท่านพุทธทาส เมื่อท่านกลับคืนสู่ธรรมชาติ ตามความเข้าใจ ถ้าหากว่าไม่ถูกต้องตรงประเด็น ไม่ตรงจุดมุ่งหมายของท่านพุทธทาส ขอให้ท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะ เพื่อความถูกต้อง ผู้เขียนขอขอบคุณครับ
ตามคำสอน บทความ บทกลอน พระนิพนธ์ รวมทั้งปริศนาธรรมภาพต่างๆ ของท่านพุทธทาสแต่ละ คำสอน บทความ บทกลอน พระนิพนธ์และปริศนาธรรมภาพต่างๆ ปุถุชนเช่นผู้เขียน อาจเข้าใจไม่ลึกซึ่ง-ไม่เห็นแจ้ง ถึงแก่นจริงๆ แต่ก็พยายามที่จะตามรอยแม้นจะห่างไกลและใช้เวลาตลอดไป(ถึงแม้นว่าพระท่านที่เคารพเคยบอกว่าผู้เขียนเป็นได้แค่คนปลูกต้นไผ่และรอฟังเสียงขลุ่ยจากผู้อื่นที่นำต้นไผ่ไปทำขลุย)
ถ้าถามว่า www.gotonakhon.com จุดประสงค์เดิมจะเขียนเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเมืองคอนเป็นหลัก ผู้เขียนได้ศึกษาประวัติของท่านพุทธทาสและปรากฎว่า เดิมเครือญาติของท่านพุทธทาส รุ่นปู่ย่า ตาทวด สมัย รัชกาลที่ 2 รัชกาลที่ 3 ครอบครัวท่านย้ายมาจากอำเภอปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช(จากหนังสือ “ธรรมสำหรับแก้ปัญหาเมืองนคร ธรรมะคือหน้าที่ “และสารนครศรีธรรมราช)และได้โยกย้ายไปอยู่ที่อำเภอไชยาและได้บวชในพระพุทธศาสนาที่อำเภอไชยา ดังที่ทราบแล้วครับ “ชาวเมืองคอน”ก็เท่ากับเป็นญาติของท่านพุทธทาสโดยปริยายและเวป”เมืองคอน.com”ก็สามารถที่จะเขียนเรื่องที่เกี่ยวกับท่านได้ทุกกรณีในฐานะ”ชาวเมืองคอน” อ่านเพิ่มเติม

ปณิธานของท่านพุทธทาสภิกขุ

ปณิธานของท่านพุทธทาสภิกขุ

ท่านพุทธทาสภิกขุได้ตั้งปณิธานไว้ 3 ประการคือ
ประการที่ 1 ให้ทุกคนที่นับถือศาสนาของตนได้เข้าถึงธรรมะของศาสนาที่ตนนับถือ
ประการที่ 2 ต้องการทำความเข้าใจระหว่างศาสนา เพื่อไม่ให้เกิดการแตกแยกแตกร้าว
ประการที่ 3 มีความต้องการที่จะพรากจิตของชาวโลกให้ห่างจากวัตถุนิยม

สวนโมกขพลาราม

ท่านเป็นผู้ก่อตั้งสวนโมกขพลาราม แปลว่า สวนเป็นกำลังแห่งความหลุดพ้น เป็นสวนที่ตั้งขึ้นเพื่อการศึกษาค้นคว้าธรรมะ เพื่อปฏิบัติธรรมะให้เป็นตัวอย่างแก่ผู้อื่นต่อไป สวนโมกขพลารามไม่ใช่มีเพียงชาวพุทธที่เป็นคนไทยเท่านั้นที่ไปปฏิบัติธรรม ยังมีชาวต่างประเทศมากมากเข้ามาศึกษาธรรมะกับท่านด้วย ท่านปัญญานันทะเล่าประวัติของท่านไว้ตอนหนึ่งเกี่ยวกับสวนโมกขพลารามว่า “เวลานี้ฝรั่งมาอยู่ที่สวนโมกข์มากมาย บางเดือนถึง 100 ทุกเดือนนี่ท่านต้องพูดกับฝรั่ง 10 วันตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 10 ทุกวันเวลาบ่าย” สวนโมกขพลารามของท่านจึงเป็น “สวนโมกข์นานาชาติ”
อ่านเพิ่มเติม

อารมณ์ขันของท่านพุทธทาส

อารมณ์ขันของท่านพุทธทาส

โดยสันติเทพ ศิลปบรรเลง

พระธรรมโกศาจารย์ หรือในนาม “พุทธทาสภิกขุ” ท่านเป็นปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ในวงการพระพุทธศาสนา ผลงานเขียนและการแสดงธรรมของท่านมีมากมายมหาศาล แต่ละเรื่องก็ล้วนแต่เป็นหลักธรรมขั้นสูงที่เรียกว่า “ปรมัตถ์” แทบทั้งสิ้น ท่านเป็นพระภิกษุผู้ประเสริฐเลิศด้วยปัญญาและเมตตา อีกทั้งปฏิปทาการประพฤติปฏิบัติก็เป็นแบบอย่างที่ดีของพระภิกษุที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบหรือ “สุปฏิปันโน” อันหาที่ติไม่ได้ บุคลิกภาพ จรรยามารยาทอันงดงาม น้ำเสียงอันอ่อนโยนนุ่มนวลยังคงประทับใจผู้พบเห็นมิรู้วาย ส่วนผลงานของท่านที่พิมพ์ออกมาเป็นเล่มให้เราได้อ่านกันก็เหมือนกับได้ฟังธรรมอันทรงคุณค่าและเป็นอมตะประดับไว้ในบรรณพิภพ แม้ว่าไปไหน เหมือนกับคำกลอนที่ท่านเขียนไว้ให้เป็นปริศนาข้อคิดว่า………
“พุทธทาสจักอยู่ไปไม่มีตาย….”
ในที่นี้จะไม่กล่าวถึงประวัติของท่านแต่จะกล่าวถึงอารมณ์ขันของท่านพุทธทาสที่แฝงไว้ในบทธรรมคำกลอนบางเรื่อง เพื่อให้เห็นว่าถึงแม้ท่านจะเป็นปราชญ์ระดับอัจฉริยะก็ตาม ท่านก็ยังมีอารมณ์ขันเหมือนกัน แต่ไม่ใช่อารมณ์ขันครื้นเครงตลกคะนองแบบคนทั่วไป กลับเป็นอารมณ์ขันอันแฝงเร้นไว้ซึ่งธรรมะในชั้นลึกเลยทีเดียว
เช่น หัวข้อธรรมคำกลอน เรื่อง “ความสุข” ท่านประพันธ์ไว้ดังนี้
ความเอ๋ย ความสุข ใคร ๆ ทุก คน,ชอบเจ้า เฝ้าวิ่งหา
“แกก็สุข ฉันก็สุข ทุกเวลา แต่ดูหน้า ตาแห้ง ยังแคลงใน” อ่านเพิ่มเติม

มรดกของท่านพุทธทาสภิกขุ

มรดกของท่านพุทธทาสภิกขุ

มรดกของท่านพุทธทาสภิกขุ
พระไพศาล วิสาโล
พฤษภาคม ๒๕๔๙

ด้วยวุฒิการศึกษาเพียงชั้น ม.๓ นักธรรมเอก และเปรียญธรรม ๓ ประโยค พระมหาเงื่อม อินทปัญโญ ภิกษุหนุ่มวัย ๒๖ ปี ได้ริเริ่มทำสิ่งซึ่งต่อมาได้กลายเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของพุทธศาสนาในประเทศไทย ในทางรูปธรรมสิ่งนั้นได้แก่สวนโมกขพลาราม ในทางนามธรรมสิ่งนั้นคือพุทธศาสนาอย่างใหม่ที่สมสมัย แต่มีพื้นฐานมาจากการปฏิบัติอย่างสมัยพุทธกาล

พระมหาเงื่อม อินทปัญโญ หรือที่โลกรู้จักในนามพุทธทาสภิกขุ เป็นบุคคลสำคัญที่สุดผู้หนึ่งซึ่งได้นำพุทธศาสนาไทยออกมาสัมพันธ์เชื่อมโยงกับโลกสมัยใหม่ได้อย่างมีพลัง และสามารถนำปัญญาชนที่ได้รับการศึกษาอย่างใหม่กลับไปหารากเหง้าทางภูมิปัญญาอันมีพระบรมศาสดาเป็นแรงบันดาลใจ แม้ท่านจะมีการศึกษาตามระบบไม่มากนัก แต่ก็รู้ลึกในศาสตร์สมัยใหม่ไม่ว่าวิทยาศาสตร์หรือปรัชญา จนไม่เพียงเห็นจุดอ่อนของศาสตร์เหล่านั้น หากยังสามารถนำศาสตร์เหล่านั้นมาใช้อธิบายพุทธศาสนาได้อย่างจับใจปัญญาชน ในอีกด้านหนึ่งแม้ท่านมิใช่เปรียญเอก (แถมยังสอบตกประโยค ๔ ด้วยซ้ำ) แต่ก็เชี่ยวชาญเจนจัดในพระไตรปิฎก และรู้ซึ้งถึงคัมภีร์อรรถกถา จนสามารถเข้าถึงแก่นพุทธศาสน์ และนำมาอธิบายให้คนร่วมสมัยได้อย่างถึงใจชนิดที่กระเทือนไปถึง “ตัวกู ของกู” อีกทั้งยังสามารถวิพากษ์สังคมร่วมสมัยและเสริมเติมศาสตร์สมัยใหม่ให้มีความลุ่มลึกมากขึ้น
อ่านเพิ่มเติม

ท่านพุทธทาสภิกขุ มรณภาพ

ท่านพุทธทาสภิกขุ มรณภาพ

08 กรกฎาคม พ.ศ. 2536 : ท่านพุทธทาสภิกขุ มรณภาพ

8 กรกฎาคม 2536 ท่านพุทธทาสภิกขุ (2449-2536) มรณภาพอย่างสงบที่สวนโมกขพลาราม วัดธารน้ำไหล อ. ไชยา จ. สุราษฎร์ธานี

พระธรรมโกษาจารย์ (พุทธทาส ภิกขุ) เดิมชื่อเงื่อม เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2449 ที่ตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นบุตรคนแรกของนายเซี้ยงและนางเคลื่อน พานิช มีน้องชายชื่อนายยี่เกย (นายธรรมทาส พานิช) และน้องสาวชื่อนางกิมช้อย เหมะกุล ครอบครัวมีอาชีพค้าขาย บิดาเป็นคนจีน ส่วนนามสกุล “พานิช” นั้นเป็นนามสกุลที่ นายอำเภอตั้งให้ มรณะภาพเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2536

เมื่ออายุได้ 8 ปี ท่านได้เรียนหนังสือโดยหัดอ่านจากทางบ้าน ครั้นอายุได้ 9 ปี จึงเข้าเรียนในชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียน โพธิพิทยากร วัดโพธาราม จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่โรงเรียนแห่งนี้ แล้วไปเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่โรงเรียนมัธยม ประจำอำเภอไชยา จนจบการศึกษาชั้นต้นในปี พ.ศ.2463 แล้วลาออกมาช่วยบิดาค้าขายและศึกษาด้วยตนเองอยู่ตลอดเวลาเมื่อบิดา ถึงแก่กรรมในปี พ.ศ. 2465 ได้เลิกค้าขายที่ไชยาแล้วกลับมาค้าขายที่พุมเรียงตามเดิมโดยทำหน้าที่เป็นผู้จัดการร้านจนกระทั่งอายุได้ 20 ปี บริบูรณ์จึงได้อุปสมบทเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2463 โดยมีพระครูโสภณเจตสิดาราม (คง วิมาโล) เจ้าอาวาสวัดโพธาราม และรองเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับฉายาว่า “อินทปัญโญ” จำพรรษาอยู่ที่วัดใหม่
อ่านเพิ่มเติม

คำสอนท่านพุทธทาสภิกขุ

คำสอนท่านพุทธทาสภิกขุ

รวมคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ

เรือของธรรมลอยลำสบายมา…ท่ามกลางห่าฝนไฟได้เยือกเย็น

ความเอ๋ย ความสุข
ใคร ๆ ทุก คนชอบเจ้า เฝ้าวิ่งหา
แกก็สุข ฉันก็สุข ทุกเวลา
แต่ดูหน้า ตาแห้ง ยังแคลงใจ

ถ้าเราเผา ตัวตัณหา ก็น่าจะสุข
ถ้ามันเผา เราก็ “สุก” หรือเกรียมได้
เขาว่าสุข สุขเน้อ! อย่าเห่อไป
มันสุขเย็น หรือสุกไหม้ ให้แน่เอย

*****************

อยู่ให้ไว้ใจ ไปให้คิดถึง

คนเราต้องเดินหน้า เวลายังเดินหน้าเลย

ไม่ต้องสนใจว่าแมวจะสีขาวหรือดำ
ขอให้จับหนูได้ก็พอ
อ่านเพิ่มเติม

สมเด็จพระสังฆราช กับ ท่านพุทธทาสภิกขุ

สมเด็จพระสังฆราช กับ ท่านพุทธทาสภิกขุ

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ สมเด็จพระญาณสังวร
และพระธรรมโกศาจารย์ (ท่านพุทธทาสภิกขุ) สวนโมกขพลาราม

—————————————

คำถาม : เมื่อคราวที่พระอาจารย์พุทธทาสอาพาธหนักนั้น
ฝ่าพระบาทได้เคยไปเยี่ยมท่านอาจารย์พุทธทาสที่ได้ขอละสังขาร
โดยท่านอาจารย์ให้เหตุผลว่า อายุเกินพระพุทธเจ้ามาแล้ว แต่ฝ่าพระบาทได้ขอไว้
หลังจากนั้นอาการของท่านพุทธทาสก็ฟื้นขึ้นมา และมีชีวิตอยู่ต่อมาอีกหลายปี
ขอกราบทูลฝ่าพระบาทเล่าเหตุการณ์ในครั้งนั้น
อ่านเพิ่มเติม

. . . . . . .