ทำอย่างไรจึงจะไม่เป็นทุกข์ โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

ทำอย่างไรจึงจะไม่เป็นทุกข์ โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – เรื่องกลางดิน
ท่านผู้เป็น อคัณตุกะทั้งหลาย บรรดาที่ประชุมกันอยู่ที่นี้ บัดนี้เป็นโอกาสกำหนดไว้ ที่จะมีการพูดจากัน และก็บังเอิญมาพร้องกันหลายระดับ เป็นชนขั้นทางจิตจิต ทางวิญญาณชนิดที่เป็นประโยชน์และเกี่ยวข้องด้วยทุกระดับจึงจะได้ ถ้าพูดถึงระดับต่ำ ระดับเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ก็สนใจฟัง โดยพื้นความหมายที่มันสูงกว่านั้น หรือว่าเป็นการศึกษาเรื่องของ วัยเด็ก รุ่นเด็ก สำหรับเด็ก พร้อมกันไปก็ได้ ถ้าไม่อย่างนั้น มันก็จะไม่มีประโยชน์อะไรกันได้ จะมีประโยชน์น้อยเกินไปก็ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นมันก็จะไม่มีประโยชน์อะไรกันได้ จะมีประโยชน์น้อยเกินไปก็ได้ ไม่คุ้มค่ามา จึงขอให้ทุกคนเด็กเล็กที่สุด ก็พยายามทำให้ดี ฟังให้ได้ ถ้าสู้ไม่ไหวก็หลับไปเสียเลย จะได้หมดปัญหา
อ่านเพิ่มเติม

สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงเคารพ โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงเคารพ โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้
ท่านสะมะทุชนทั้งหลายมีท่านผู้แทนมหาวิทยาลัยท่านผู้แทนประชาชนชาวจังหวัดสุราษฎร์เป็นประธาน อาตมาขอกล่าวธรรมะปฏิสันถาร คำนี้เป็นคำเก่าแก่คือการต้อนรับด้วยธรรมะ ให้มีธรรมะเป็นของฝากเรียกว่าธรรมะปฏิสันถาร อาตมาขอกล่าวธรรมะปฏิสันถารแก่ท่านทั้งหลาย หัวข้อที่จะกล่าวมีว่า ปัญหาทั้งหมดในโลกแก้ได้ด้วยการเคารพสิ่งที่พระพุทธเจ้าเคารพ โปรดฟังให้ดี ๆ สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงเคารพเราต้องเคารพสิ่งนั้น และจะแก้ปัญหาทั้งหมดในโลกได้ไม่ว่าปัญหาอะไรจะเป็นปัญหาทั้งโลก หรือปัญหาของประเทศหยิบมือเดียว จงโปรดจำคำว่าปัญหาทั้งปวงจะแก้ได้ด้วยเราพากันเคารพสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงเคารพ และท่านก็คงจะประหลาดใจในการที่จะได้ฟังว่าสิ่งนั้น คือหน้าที่ บางคนจะไม่เคยฟัง ไม่เคยคิด ไม่เคยฝันว่าพระพุทธเจ้าทรงเคารพหน้าที่
อ่านเพิ่มเติม

สิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตาในฐานะเป็นหัวใจของพุทธศาสนา โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

สิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตาในฐานะเป็นหัวใจของพุทธศาสนา โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – สิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตาบาลี
นิสิตนักศึกษาครูบาอาจารย์ทั้งหลายการบรรยายในครั้งนี้จะได้บรรยายโดยหัวข้อว่าสิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตาบาลีว่าธรรมทั้งปวงธรรมแปลว่าสิ่งนี้สิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตาในฐานะที่เป็นหัวใจของพุทธศาสนาเราได้ใช้เวลาไม่มากมายอะไรแต่จะพูดถึงสิ่งที่เป็นหัวใจของพุทธศาสนาคือหลักการที่ว่าทุกสิ่งนั้นมิได้เป็นตัวตนตามธรรมชาติมิได้เป็นตัวตนเมื่อไปยึดถือเอาเป็นตัวตนมันก็เปลี่ยนรูปเป็นของหนักขึ้นมาระบบขบกัดผู้ที่ยึดถือว่าเป็นตัวตนนั่นแหละให้มีความทุกข์มีความลำบากใจความมันก็มีเท่านี้ทุกสิ่งตามธรรมชาติเป็นไปตามธรรมชาตินั้น
อ่านเพิ่มเติม

การเห็นและการมีพระพุทธเจ้าอยู่กับเนื้อกับตัว โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

การเห็นและการมีพระพุทธเจ้าอยู่กับเนื้อกับตัว โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – อานาปาณสติสูติ
ก่อนอื่นทั้งหมดขอแสดงความรู้สึก ยินดี พอใจ อนุโมทนา ในการที่ท่านทั้งหลาย ได้มาสู่สถานที่นี้ ในลักษณะอย่างนี้ โดยสรุปในแง่หนึ่งก็ว่า เป็นเกียรติสูงสุดสถานที่นี้ กระผมในเวลานี้อยู่ในลักษณะทุพพลภาพ สบายดีไม่มีอะไรแต่ว่าไม่มีแรง บางเวลาจะลุกจากที่นอนก็ยังลุกไม่ค่อยจะไหว ไม่มีแรงแค่นั้นเอง มันถึงคราวที่หมดแรง แต่มันไม่มีโรคภัยไข้เจ็บอะไรที่ ปรากฏรบกวนไม่มีแรงก็ขอแสดงความยินดี อนุโมทนาไป ตามแบบผู้ที่ไม่มีแรง

ขออนุโมทนาไป ขออภัย ที่ไม่มี อมิสะสติสัญฐาน ขอต้อนรับด้วยธรรมะ ปฏิสัญฐานตามที่จะทำได้ด้วยการพูดจา และขอถวายหนังสือเล็กๆ องค์ละเล่มทุกองค์ กว่าทุกคนจะเป็นอุบาษก อุบาสิกา ในฐานะเป็นธรรมะปฏิสัญฐาน ขอให้อ่านหลายๆเที่ยว จะเข้าใจ อ่านครั้งอาจจะไม่เข้าใจ เมื่ออ่านหลายเที่ยวก็จะเข้าใจ ถ้าเข้าใจแล้วก็ปฏิบัติตามทีละนิดๆ ไม่ใช่ทีเดียวตลอดไป แล้วก็ทำให้ได้ด้วย ทีละนิดๆ เป็นขั้นๆไป ตอนนี้มันจะสอนดีที่สุดเพียงแต่อ่านหรือฟัง แล้วได้นิดเดียวคือจำได้แล้วก็ลืม คิดๆจนเข้าใจมันก็ได้ในขั้นที่ว่าเข้าใจ ต่อเมื่อใส่ลงไปในการปฏิบัติแล้วมันก็จะมาถึงขั้นที่เรียกว่ารู้แจ้ง จำได้ต่ำที่สุด เข้าใจเป็นกลาง รู้แจ้งอยู่สูงสุด ซึ่งมีความหมายอย่างเดียวกับคำว่า วิปัสสนา แปลว่าเห็นแจ้ง ในที่นี้ในการรู้แจ้งเป็นเรื่องเดียวกัน รู้แจ้งด้วยความรู้สึก ก็มันเดความรู้สึกมันรู้แจ้งต่อความรู้สึก ไม่ใช่แค่เพียงแต่เข้าใจนะ ก็ขออภัยว่าไม่ได้ต้อนรับด้วยอมิปฏิสันฐานใดๆ มีแต่ธรรมะปฏิสัญฐาน เท่าที่จะทำได้ ทีนี้ผมก็ขอแสดงความยินดี ปรีดาปราโมช อนุโมทนา อ่านเพิ่มเติม

ทุกข์และความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

ทุกข์และความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – ทุกข์
จะให้พูดเรื่องอะไรเป็นเรื่องแรก ถ้าเรื่องศีล ป่วยการไม่ใช่ตัวปัญหา การศึกษาพุทธศาสนาจะต้องพูดเรื่องทุกข์เป็นคำแรก เพราะปัญหามันอยู่ที่นั้น คำนวณใคร่ครวญ ดูสังเกตดูปัญหาทั้งหมดทั้งสิ้นทั้งโลก ปัญหามันอยู่ที่ปัญหานั้นแหละ และปัญหาก็คือความทุกข์ ที่เราทนไม่ได้ ถ้าเราทนได้ก็ไม่เป็นปัญหา

เดี๋ยวนี้สิ่งที่ทนอยู่ไม่ได้ก็ต้องจัดการนั้นคือปัญหา ถ้าเราไม่มีความทุกข์ก็ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องขนฝายเกี่ยวกับธรรมะหรือศาสนานี้เลย เรื่องทางโลกก็เหมือนกัน ถ้ามันไม่เกี่ยวกับปัญหาความทุกข์มันก็ไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวนี้มันก็ไม่มีจะกิน ไม่มีจะใช้มันจะตายเป็นต้น เป็นปัญหาและก็ต้องจัดการกับปัญหาแบบโลก ๆ ไม่มีกินไม่มีใช้ เรื่องธรรมะเป็นเรื่องสูงขึ้นไปปัญหาก็คือว่าไม่ต้องเป็นทุกข์ แม้ว่าจะมีกินมีใช้หมดทุกข์ไปในส่วนหนึ่ง แล้วยังมีอีกส่วนหนึ่ง ที่มันยังเป็นความทุกข์ ทางจิตใจนี้ก็เป็นปัญหาที่ ๒ ปัญหาที่ ๑ คือจะทำอย่างไรให้มีกินมีใช้ ให้รอดตายนี้เราไม่พูดกันหรอก อ่านเพิ่มเติม

สนทนาปัญหาบ้านเมือง โดย ท่าน พุทธทาส ภิกขุ

สนทนาปัญหาบ้านเมือง โดย ท่าน พุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – วัดล้ออายุวันเกิด 84
ถาม: แต่แพทย์ก็ยังถวายการรักษาอย่างปกติเป็นประจำครับผม ท่านเจ้าคุณอาจารย์: หมอช่วยดูแลอยู่เป็นประจำ ถาม: มีญาติโยมปรารภมาว่า เมื่อตอนที่ท่านเจ้าคุณอาจารย์ทำงานวัดล้ออายุวันเกิด 84 ท่านปรารภว่า จะหยุดการทำบุญวันเกิดเอาไว้แต่เพียงแค่นั้น ก็มีเสียงออกมาว่า เดี๋ยวนี้จะเป็นการปลงอายุสังขารหรืออย่างไร พระเดชพระคุณมีความหมายอย่างไรครับ กับคำที่ว่าจะหยุดการทำอายุไว้แต่เพียงเท่านั้น ท่านเจ้าคุณอาจารย์: คำพูดนั้นไม่ตรงทีเดียว ก็คือ เราเรียกว่าการทำบุญล้ออายุ พอมาปีสุดท้าย 84 ปี นี้เราเรียกว่าทำบุญเลิกอายุ คือไม่ยุ่งกับอายุอีกต่อไป ให้มันเป็นพิธีรีตองให้ยุ่งยากลำบาก เลิกมีปัญหาเกี่ยวกับอายุ ถ้าพอมีเวลาว่างอยู่ก็ไปทำในความสงบ หรือทำสิ่งที่มันไมเกี่ยวกับอายุ ไม่ใช่ว่าเป็นการปลงสังขารนะ ไม่ได้ปลงสังขาร ทำงานสนองพระพุทธประสงค์ต่อไปๆ เลิกเรื่องยุ่งๆเกี่ยวกับอายุเสีย แล้วก็มีเวลามาทำงานสนองพระพุทธประสงค์ให้มากขึ้น เลิกอายุ ถ้าจะทำต่อไปอีกเรียกว่า อยู่กับความว่างไม่ล้อไม่เลิกอะไรอยู่กับความว่าง ศึกษาเผยแพร่เกี่ยวกับความว่าง พิธีรีตองเกี่ยวกับอายุอย่าเข้ามายุ่งให้เสียเวลา
อ่านเพิ่มเติม

การงานคืออะไร จะสนุกและเป็นสุขในการทำงานได้อย่างไร โดย ท่าน พุทธทาส ภิกขุ

การงานคืออะไร จะสนุกและเป็นสุขในการทำงานได้อย่างไร โดย ท่าน พุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – ละเมอเพ้อฝัน
สำหรับความรู้สึกที่ได้นั่งกลางดิน ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความหมายอะไรอย่างน้อยก็มีความหมายถึงการที่พระพุทธเจ้าท่านประสูติกลางดิน ท่านตรัสรู้กลางดิน ท่านปรินิพพานกลางดินท่านอยู่กลางดินตลอดเวลาแผ่นดินนี้ชั่งเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าเหลือเกิน แผ่นดินมีความหมายเป็นที่รองรับในสิ่งทั้งปวง มีความหมายอย่างเดียวกับคำว่าธรรมหรือธรรมะซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นเครื่องรองรับสิ่งทั้งปวงทางด้านจิตและด้านวิญญาณให้เราเตรียมใจได้ง่ายโดยการนั่งกลางดินซึ่งโดยมาเขาจะบรรยายในห้องบรรยายในมหาวิทยาลัยในอะไรต่างๆ ซึ่งไม่ได้นั่งกลางดินไม่มีโอกาสนั่งกลางดินเพื่อฟังธรรมะก็เหมือนกับแผ่นดินการที่เรานั่งกลางดินเพื่อฟังธรรมมันก็เข้ารูปการขอให้มีจิตเหมือนแผ่นดินฟังธรรมมีอุปมาเหมือนแผ่นดินด้วยการคิดค้นอาตมาจะสนองความประสงค์โดยการแสดงธรรมะตามหัวข้อที่ท่านขอร้องมาคือเรื่องการงาน
อ่านเพิ่มเติม

การสืบต่อความประสงค์ของบรรพบุรุษ โดย ท่าน พุทธทาส ภิกขุ

การสืบต่อความประสงค์ของบรรพบุรุษ โดย ท่าน พุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – รักด้วยความรู้ด้วยสติปัญญาที่ถูกต้อง
แต่ว่าประเพณีมีอยู่สำหรับอย่างนั้น เราก็ปฏิบัติให้ดีที่สุด และก็มาสำเร็จประโยชน์เต็มที่แก่ทุกคนหรือแก่ทุกฝ่าย ตายายมาก็ต้อนรับก็ยินดีต้อนรับ ทำให้พอใจด้วยคามรักด้วยความกตัญญู ที่นี่วันส่งตายาย ก็ทำให้ตายายยินดีในการกลับไป เมื่อมาก็ให้ได้ยินดีเพราะการมา ในการมา เมื่อไปก็ให้ได้รับประโยชน์ยินดีเพราะการไป ถ้าทำได้ดังนี้ก็เป็นการปฏิบัติธรรมะใหญ่หลวงอยู่ในตัวการกระทำนั้นๆ ขอให้สนใจให้ตั้งใจให้ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ควรจะทำให้ทุกขั้นตอนถูกต้อง บริสุทธิ์ ผุดผ่องสำเร็จประโยชน์ ตามความหมายนั้นๆ ขั้นแรกก็จะต้อง ก็จะต้องพูดถึงเรื่องจริงในจริงเสียก่อนว่าในหัวใจนี้มันรู้สึกเป็นลูกหลานของตายายจริงหรือไม่ ถ้าว่าเป็นลูกหลานของตายายจริง มันก็จะได้ทำให้สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกหลานของตายายจริงๆ เดี๋ยวกลัวจะเล่นตลก เล่นตลก เป็นลูกหลานแต่เพียงรับมรดกเท่านั้น ตายายจะไปตายโหงไปตายที่ไหนก็ไม่รู้ไม่ชี้ นี่กูเอาแต่มรดกก็แล้วกันนี่กลัวมันจะเป็นลูกหลานซะอย่างนี้นะ ขอให้คิดดูให้ดีว่าเป็นลูกหลานที่แท้จริงหรือไม่ ดูให้ดีว่ามันเกิดมาจากโพรงไม้ มันเกิดได้เองหรือว่ามันต้องเกิดมาจากบิดามารดาหรือปู่ย่า ตายาย ถ้าว่ามันเกิดมาจากปูย่าตายายมันก็ควรจะรัยรองในความเป็นลูกหลาน เป็นลูกหลานกันให้ถูกต้อง ควรจะสอนเด็กๆ ลูกเล็กเด็กๆให้มันรู้ความหมายข้อนี้ ว่ามันไม่ได้เกิดเอว่ามันไม่ได้เกิดจากโพรงไม่หรอทางอื่นใด
อ่านเพิ่มเติม

ศิลปะแห่งการใช้สติในทุกกรณี โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

ศิลปะแห่งการใช้สติในทุกกรณี โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – ศิลปะคืออะไร
ขอให้ท่านทำความเข้าใจในความมุ่งหมายของการบรรยายนี้ให้ถูกต้อง เพราะมีความกำกวมบางอย่างที่อาจจะเข้าใจผิดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก็คือคำว่า ศิลปะ นั่นเอง ในภาษาไทยคำนี้มันกำกวมไม่ได้รัดกุม เพราะไม่มีคำรัดกุม อาตมาจึงต้องกำกัดความ ของคำว่าศิลปะ ให้เป็นที่แน่นอน อย่าให้กำกวมมากเกินไปด้งที่ได้กล่าวมาแล้วในครั้งก่อนๆ ว่า ศิลปะนั้น ความหมายสำคัญอยู่ที่ความงาม และความเป็นสิ่งที่ต้องใช้ฝีมือ คือทำยาก และให้สำเร็จประโยชน์จนถึงที่สุดในความมุ่งหมายแห่งเรื่องนั้นๆ เพราะว่าศิลปะบนสุดต้องเป็นอย่างนี้
อ่านเพิ่มเติม

ความประสงค์อันแท้จริงเกี่ยวกับการจัดงานล้ออายุ โดย ท่าน พุทธทาส

ความประสงค์อันแท้จริงเกี่ยวกับการจัดงานล้ออายุ โดย ท่าน พุทธทาส

หน้าที่ 1 – รักอายุ ล้ออายุ หลงอายุ
อาตมาไม่ทราบเรื่องที่จะจัดและก็ไม่ได้พูดอะไรโดยประการทั้งปวง บัดนี้ได้กลายเป็นว่ามีผู้จะขอจัดอีก อย่างที่กล่าวเมื่อตะกี้นี้ว่า ท่านปัญญาหรือใครจะเป็นตัวการ ตัวประธานจัด แล้วก็ไม่ได้มา แล้วก็ให้มาประชุมกันเอง ก็ลองประชุมกันว่าจะประชุมอย่างไร ถ้าให้อาตมาพูดก่อนก็จะขอพูด ความประสงค์เกี่ยวกับการที่จะจัดต่อไปนี้ ขอได้โปรดฟังให้ดี อาตมาขอขอบพระคุณท่านทั้งหลายที่มาประชุม ถึงจะเคยจัดกันมาแล้ว แต่หนหลังมันเหน็ดเหนื่อยกันมาก ก็ขอขอบพระคุณที่วันนี้ก็มากันอีก ขอทำความเข้าใจเป็นพิเศษ ในฐานะเป็นเรื่องสำคัญ ปรารภโดยส่วนรวม ก็อยากจะพูดว่า ที่จัดแล้วปีกลายนั้นเป็นเรื่องโลภ พระพุทธเจ้าท่านมาเห็นท่านจะสั่นพระเศียรหรือหน้าเบ้ หรือถ้าคนธรรมดาก็จะถมน้ำลายรด คือมันเป็นเรื่องโลภเกินไปจัดกันงานใหญ่ยิบ กินกันใหญ่ รับเงินกันใหญ่ แสดงบทบาทกันใหญ่ไม่มีดนตรี มีรำ มีอะไรนี่ นี่เรียกว่าเป็นอย่างจัดงานต่ออายุ หรืฉลองอายุ มีความรู้สึกว่าพระพุทธองค์ สมมุติว่ามาเห็นแล้วทรงว่าไอ้พระพุทธธาตุบ้า จัดงานอะไรอย่างนี้
อ่านเพิ่มเติม

แผ่นดินธรรม – แผ่นดินทอง เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามหลักแห่งศาสนา โดย ท่าน พุทธทาส ภิกขุ

แผ่นดินธรรม – แผ่นดินทอง เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามหลักแห่งศาสนา โดย ท่าน พุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – อิทัปปัจจยตา
ข้อนี้เป็นสิ่งที่ต้องสนใจคือว่าถ้ามันถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของธรรมชาติแล้ว มันเป็นสิ่งที่จะเป็นไปได้ เป็นสิ่งที่มีเหตุผลที่ควรจะทำให้เป็นไป ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของธรรมชาติในที่นี้ก็คือธรรมชาติสร้างมนุษย์มาให้มีทั้งกายและใจ หรือตามหลักพระพุทธศาสนาก็คือมีรูปและมีนามเป็นสิ่งที่ประกอบกันเป็นชีวิตอัตภาพหนึ่งๆ โดยหลักพระพุทธศาสนาก็คือหลักของธรรมชาติ พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ความจริงของธรรมชาติหรือทรงทราบความลับของธรรมชาติ ทรงนำมาเปิดเผย ทรงนำมาแสดงให้มนุษย์ทั้งหลายได้รับทราบและปฏิบัติให้สำเร็จประโยชน์ พระองค์ได้ตรัสโดยหลักกลางๆ ที่เรียกว่า อิทัปปัจจยตา คือ การที่สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเป็นไปตามเหตุ เป็นไปตามปัจจัย เดี๋ยวนี้สิ่งทั้งปวงนั้นมันมี 2 เรื่อง คือ เรื่องกายและเรื่องใจ เราก็จะต้องทราบทั้ง 2 เรื่องประพฤติกระทำให้ถูกต้องทั้งสองเรื่องจึงจะเป็นไปได้ ดังนั้นการจะแยกหน้าที่ออกเป็น 2 เรื่อง คือหน้าที่สำหรับกายและหน้าที่สำหรับใจจึงเป็นสิ่งที่ชอบด้วยเหตุผล หรือยิ่งกว่าเหตุผลคือถูกต้องตามความจริงของธรรมชาตินั่นเอง เมื่อธรรมชาติสร้างมาให้มนุษย์มีทั้งกายและใจ มนุษย์จึงมีหน้าที่ที่จะทำความรอดให้เกิดขึ้นทั้งทางกายและทางใจ หรือว่ามนุษย์ก็มีหน้าที่ที่จะพัฒนาทั้งทางกายและทางใจ
อ่านเพิ่มเติม

ความไม่ยึดมั่นถือมั่นในฐานะเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา โดย ท่าน พุทธทาส ภิกขุ

ความไม่ยึดมั่นถือมั่นในฐานะเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา โดย ท่าน พุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – นักปราชญ์
ถ้าไม่เกี่ยวกับเรื่องทุกข์กับเรื่องดับทุกข์ก็ไม่ใช่เรื่องที่เราบัญญัติ อย่างนี้ก็พอจะจับได้สักชั้นหนึ่งก่อนว่าเรื่องความดับทุกข์นั่นแหละเป็นหัวใจของศาสนา ที่นี่ความดับทุกข์จะดับได้อย่างไรยังไม่รู้ เลยพูดออกไปได้ชัดเลยว่า ไอ้ความไม่ยึดมั่นถือมั่นอะไรโดยความเป็นตัวตนของตนนั่นแหละเป็นการดับทุกข์ จะพูดให้สั้นก็ว่าความไม่ยึดมั่นถือมั่นขยายความออกไปความไม่ยึดมั่นถือมั่นโดยความเป็นตนของตนหรือเป็นของ ของตน เป็นตนข้างในก็คือเป็นตน เป็นตนข้างนอกก็คือของตน เรียกกันทั่วๆไปว่าการไมยึดมั่นถือมั่น ที่นี่ก็มีปัญหาที่จะต้องบอกให้ทราบว่าคนเป็นอันมากที่เป็นนักปราชญ์ที่เรียกกันว่าเป็นนักปราชญ์ ก็คัดค้านว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดกับคนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนทั้งหลายด้วยยิ่งไม่ต้องพูดและคนทั่วไปก็ไม่ต้องพูด พูดเพียงแต่กับคนไม่กี่คนที่จะบรรลุมรรคผลเป็นพระอรหันต์จึงจะพูดเรื่องความไม่ยึดมั่นถือมั่นอย่างนี้เสีย แต่อาตมาก็ยังยืนยันว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องพูดแก่ทุกคนทุกระดับตามสมควรแก่สถานของเขา เอาเป็นว่าเราไม่พูดถึงเรื่องความยึดมั่นถือมั่นที่ทำบุคคลให้เป็นพระอรหันต์นั่นแหละแก่ทุกคนเพราะมันเป็นเรื่องเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ทุกคนดับทุกข์ได้ ถ้ามีความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งใดโดยความเป็นตนของตน มันก็จะเป็นทุกข์เพราะความยึดมั่นถือมั่นนั่นเองเหมือนกับถืออะไรไว้ในมือจับอะไรไว้ในมือมันก็หนักมือ เป็นต้น ก็เข้าใจกันได้ง่ายๆอย่างนี้
อ่านเพิ่มเติม

ความกระหายต่อธรรม : ธัมมกามยตา โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

ความกระหายต่อธรรม : ธัมมกามยตา โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – สัตตา
ในครั้งที่แล้วมาได้พูดถึงสิ่งที่เราพากันมองข้ามมาตามลำดับและคงเข้าใจในสิ่งเหล่านั้นว่า เป็นสิ่งที่มองข้ามอย่างไร แล้วก็จะเข้าใจต่อไปโดยง่ายแต่ความที่เราเป็นเสมือนโง่อย่างหลับหูหลับตา มองข้ามสิ่งที่ไม่ควรจะมองข้าม นี่เป็นอันตรายอย่างยิ่งก็มี เป็นการทำให้ไม่ก้าวหน้าในทางธรรมตรงนี้ ไม่ได้รับประโยชน์จากสิ่งที่ควรจะได้รับก็มี แต่ขอทบทวนสำหรับผู้ที่มาใหม่ แต่หัวข้อ อีกซักครั้งหนึ่งว่าสิ่งที่พากันมองข้ามนั้น

สิ่งแรกก็คือ ความจริงที่มนุษย์จะสิ้นสุดมนุษยธรรมตัวโลกทั้งโลกกำลังหมดความเป็นมนุษย์ยิ่งๆขึ้นทุกที มัวไปสนใจอยู่ในสิ่งที่ทำจิตใจให้ต่ำทรามไม่สนใจในสิ่งที่ทำจิตใจให้สูงให้สมกับความเป็นมนุษย์ และสิ่งถัดมาที่พากันมองข้ามก็คือว่าโลกพระศรีอานนั้น อยู่แค่ปลายจมูก คือเมื่อใดมนุษย์มีศีลธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้อที่ว่ารักผู้อื่นเท่านั้นเองปฏิบัติต่อกันในฉันเป็นผู้ที่รักใคร่แก่กันและกันฆ่ากันไม่ได้ขโมยกันไม่ได้ร่วมของรักกันไม่ได้ โกหกลอกหลวงกันไม่ได้ ไม่มึนเมา แม้แต่เพื่อนยังรำคาญ โลกนี้ก็เป็นโลกพระศรีอาน คือไม่มีความทุกข์ อยู่กันด้วยความสามัคคี อ่านเพิ่มเติม

ความเป็นหนี้เป็นสินและความไม่เป็นหนี้เป็นสิน โดย ท่าน พุทธทาส

ความเป็นหนี้เป็นสินและความไม่เป็นหนี้เป็นสิน โดย ท่าน พุทธทาส

หน้าที่ 1 – บรรพชิต
มีแต่รับเอาๆ มันก็ถือเป็นหนี้ไม่เคยมีให้เลย ดีแต่เอาไม่เคยให้เลย นั่นแหละคนเป็นหนี้ แต่คนนั้นมันเล่ารู้สึกตัวว่า เราได้ เราได้เปรียบอะไรอยู่คนเดียว ก็กลายเป็นไม่มีธรรมะ ก็คือไม่มี หิริโอตปะ นั่นเอง ถ้ามันมี หิริโตปะ อยู่บ้างมันจะทำอย่างไม่ได้ การที่ไม่รู้ตอบแทนคุณเขานั้นก็คือ ความไม่มีหิริโอตปะ มักจะเรียกกันอย่างหนึ่งว่า เป็นคน อกตัญญู เป็นคนอกตัญญูก็คือ เป็นคนที่ไม่ใช้หนี้ ถ้าเกิดดูให้ดีว่าเราเป็นหนี้กันอย่างไร หลีกไหวไหมที่จะไม่เป็นหนี้ จะเป็นหนี้เรื่อยไปๆใช้กันไปมา หรือไม่ใช้ก็แล้วแต่ จนกว่าจะเป็นพระอรหันต์ รวมตัวตนให้หลุดพ้นจากความเป็นหนี้ ตลอดยังมีตัวตนยังไม่เป็นพระอรหันต์มันก็ยังมีการเป็นหนี้ ก็ยังเป็นหนี้โดยธรรมชาตินี่ก็อย่างหนึ่ง เป็นหนี้ตามสมมติขึ้นมา ตามพระบัญญัติ ตามกฎหมาย ตามประเพณี ก้อย่างหนึ่ง มันมีอยู่ 2 หนี้ เป็นหนี้ตามกฎหมาย ตามประเพณีนั้น มันจำเป็นต้องใช้ ไปทำสัญญากู้ไปทำสัญญายืมเขาไว้ ไม่ใช้เขาก็ฟ้องร้องให้มันยุ่ง มันก็ใช้ มันก็รู้จักกันดี กับหนี้ชนิดนี้ แต่หนี้ที่เป็นโดยธรรมชาตินี้ ไม่ค่อยจะรู้จักกัน แล้วก็ไม่ค่อยสำนึกกัน กลายเป็นคนที่ไม่มี หิริโอตปะ
อ่านเพิ่มเติม

เรื่องเป้าหมายของชีวิต โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

เรื่องเป้าหมายของชีวิต โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – จิตของวิญญาณ
ทีนี่ผู้ให้หัวข้อนี้มันก็บอกหรือแสดงอยู่แล้วว่าไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางนั้นคืออะไรเราก็ต้องพูดถึงกันเรื่องจุดหมายปลายทางนั้นเองของชีวิตหรือเป้าหมายของชีวิตคือจุดหมายปลายทางชีวิตที่นี่มันก็มามีปัญหาอยู่ตรงที่ว่าในชีวิตนี้คืออะไรแต่ดูกันตามทางวัตถุคือทางร่างกายนี่ชีวิตมีนก็มีความหมายอย่างหนึ่ง ถ้าดูกันทางของจิตของวิญญาณชีวิตมีความหมายอีกประการหนึ่งดูกันในแง่วัตถุในแง่ร่างกายหญ้าบอนมันก็มีชีวิตสัตว์เดรัจฉานมันก็มีชีวิตคนก็มีชีวิตตลอดเวลาที่มันยังไม่ตายทางร่างกายมันยังไม่ตายชีวิตทางกายล้วนๆอย่างนี้มันก็มีอยู่ระบบหนึ่งเป้าหมายของมันก็คือจุดสูงสุดแห่งวิวัฒนาการด้วยเหมือนกันวิวัฒนาทางกายจะเป็นไปได้อย่างไรมันก็เป็นไปจนกว่าจะถึงที่สุดเราจึงเห็นได้ตามที่เคยศึกษาเล่าเรียนสั่งสอนกันมาว่าวิวัฒนาการทางกายทางรูปร่าง อ่านเพิ่มเติม

ความมีจุดหมายปลายทาง โดย ท่าน พุทธทาส

ความมีจุดหมายปลายทาง โดย ท่าน พุทธทาส

หน้าที่ 1 – อวิชชา
ท่านสาธุชนผู้มีความสนใจในธรรมทั้งหลาย การบรรยายประจำวันเสาร์ ในครั้งที่ 12 แห่งภาควิสาฆบูชาในวันนี้อาตมาก็ยังคงกล่าวในเรื่อง สิ่งสำคัญที่พากันมองข้ามต่อไปตามเดิม และเนื่องจากครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายด้วย ก็จะถือโอกาส สรุปใจความทุกครั้งด้วย สำหรับในวันนี้จะได้กล่าว โดยหัวข้อเฉพาะว่า ความมีจุดหมายปลายทาง เป็นสิ่งที่พากันมองข้าม เราไม่ให้ความสำคัญแก่จุดหมายปลายทาง จึงไม่ได้สนใจ ว่าจะมีใครมีจุดหมายปลายทางกันอย่างไร เช่น ไม่รู้ว่า เกิดมาทำไม เพื่อจะได้อะไร ในฐานะเป็นสิ่งที่ดี ที่สุด ของมนุษย์ หรือว่าเราจะต้องทำอย่างไรจึงจะได้สิ่งนั้น เป็นอันไม่รู้กันเสียทั้งหมด ก็เลยไม่รู้ว่ามีจุดหมายปลายทางอย่างไร
อ่านเพิ่มเติม

ความรักดี โดย ท่าน พุทธทาส

ความรักดี โดย ท่าน พุทธทาส

หน้าที่ 1 – ปริยติธรรม
ในวันนี้ได้มีพระคณาธิการที่เป็นครูบาอาจารย์ สอนปริยติธรรมทั้งหลาย มาเพื่อประกอบพิธีปิดการประชุมในวันนี้ และขอร้องให้อาตมากล่าวสิ่งที่เป็นประโยชน์ แก่ท่านครูบาอาจารย์เหล่านั้นด้วย นี้ประการหนึ่ง และก็อีกประการหนึ่งมีนักเรียนจำนวนใหญ่ จำนวนหนี่งก็มาพ้องกันในวันนี้ เพื่อฟังธรรมะเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เป็นประโยชน์แก่หน้าที่การงานของตน จึงถือเอาเป็นโอกาสรวมกันเข้าเป็นเรื่องเดียว คือการบรรยายประจำสัปดาห์ซึ่งจะต้องติดต่อกันไปตามเนื้อหาของเรื่องนั้นก็ดี คำพูดที่จะฝากไว้ กับคณาธิการครูบาอาจารย์ทั้งหลายก็ดี

คำบรรยายที่จะกล่าวแก่นักเรียนทั้งหลายก็ดี สามเรื่องนี้ขอบรรยายรวมกันในเรื่อง ว่าความรักดี และฐานะเป็นสิ่งที่พากันมองข้าม ขอทำความเข้าใจแก่ท่านทั้งหลายที่พึ่งมาฟังในวันนี้ ให้เป็นที่เข้าใจสักเล็กน้อยก่อนว่า เรากำลังพูดกันถึงเรื่องสิ่งสำคัญที่พากันมองข้าม หมายความว่าเราสร้างความเจริญให้แก่ตัวไม่ได้ ให้แก่สังคมไม่ได้ให้แก่ประเทศชาติศาสนาก็ไม่ได้ คือมันไม่มีความก้าวหน้าในทางศีลธรรมหรือวัฒนธรรมนั้นเอง โทษอันนี้มันเกิดขึ้นเพราะเราพากันมองข้ามสิ่งสำคัญ ที่ไม่ควรจะพากันมองข้าม และก็พากันมามองข้ามเสียหมด จึงขอเตือนว่าให้ดูกันเสียดี ๆ อ่านเพิ่มเติม

ธรรมะคือหน้าที่ โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

ธรรมะคือหน้าที่ โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – ธรรมะคือกฎของธรรมชาติ
แต่เดี๋ยวนี้เรามักจะเข้าใจกันแต่เพียงว่าธรรมะคือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้านี้ส่วนมากก็ไม่ติดตามหลอกว่าพระพุทธเจ้าท่านสอนอะไรที่จริงพระพุทธเจ้าท่านก็สอนสิ่งที่เป็นหน้าที่ขอให้เต็มใจ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งนี้ธรรมะคือหน้าที่เป็นเรื่องของธรรมชาติเป็นของธรรมชาติ แม้จะเคยพูดว่าธรรมะมี 4 ความหมายมันก็รวมอยู่ใน 4 ความหมายนั้นแหละธรรมะ 4 ความหมายได้แก่ธรรมะตัวธรรมชาติ ธรรมะคือกฎของธรรมชาติ ธรรมะคือหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติแล้วธรรมะก็คือผลที่จะได้รับจากการปฏิบัติหน้าที่ความหมายที่ 3 คือหน้าที่โดยตรงอยู่แล้วความหมายนี้สำคัญที่จะเอามาใช้ทั่วๆไปมันก็เลยพูดเรื่องนี้ในความหมายอันนี้ธรรมชาติเป็นสิ่งทั้งปวงที่เกิดตามธรรมชาติมันเป็นเรื่องรูปธรรมหรือร่างกายหรือวัตถุ ไม่ได้เป็นนามธรรมคือจิตใจนั้นก็มีเขาเรียกว่าธรรมชาติมีทั้งกายและจิตใจเรียกว่าธรรมชาตินี่ในธรรมชาติเหล่านี้มีกฎของธรรมชาติสิงอยู่ ควบคุมอยู่ บังคับอยู่ให้ธรรมชาติเหล่ารี้เป็นไปตามคนจึงมีกฎธรรมชาติที่ตายตัวเรามีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติให้ถูกตามกฎของธรรมชาตินี่มันจะเกิดปัญหาขึ้นก็มีความทุกข์กันเองนี่คือตัวธรรมะนี่เราพูดถึงระบบวิชามี 4 ความหมายเป็นความหมายที่ 3
อ่านเพิ่มเติม

ทำวัตรเช้าทำวัตรเย็น โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

ทำวัตรเช้าทำวัตรเย็น โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – วิมุติตาณัตตะนะ
ทีนี้มันยังมีดีกว่านั้นถึงอาจจะไม่เคยได้ยินก็ต้องให้เขาเรียกว่าทางวิมุติตาณัตตะนะทางที่จะติดต่อกับวิมุติ คำว่าภิกษุฟังธรรมอยู่ก็ดี เมื่อบุคคลฟังธรรมอยู่ก็ดี แสดงธรรมอยู่ก็ดี สาธยายธรรมอยู่ก็ดี คิดนึกธรรมอยู่ก็ดี เจริญภาวนาอยู่ก็ดี 5 อย่างนี้มันเป็นทางแห่งวิมุติ ข้อแรกเมื่อภิกษุฟังธรรมเข้าใจธรรม ซึมทราบในธรรม เกิดปราโมทย์ เกิดปิติ เกิดสุข เกิดสมาธิ ตามลำดับเกิดสมาธิ เกิดยะถาโพธะญาณทัศนะเห็นธรรมตามที่เป็นจริงถึงที่เป็นทาน เป็นราคะ เป็นวิมุติภิกษุเป็นผู้ฟังธรรม บุคคลฟังธรรมจิตไปตามแนวนั้นทีนี้ ถ้าบุคคลแสดงธรรมให้ผู้อื่นฟังอยู่ไม่ใช่ฟังธรรมแต่เป็นผู้แสดงซะเอง แสดงไปคิดนึกไปอย่างลึกซึ้งมันถึงจุดที่ว่าเข้าใจธรรมที่แสดงพอใจมีปราโมทย์ มีปิติ มีความสุข มีสมาธิขึ้นมาโดยความพอใจ แล้วก็มียะถาโพธะญาณทัศนะเห็นธรรมที่เป็นจริงเพราะจิตเป็นสมาธิแล้วก็เกิดปิติถา เบื่อหน่าย ราคะ กายหนัก และจิตจะหลุดพ้นจากสิ่งที่ยึดถือนี่อย่างที่ 2 เป็นผู้แสดงธรรมอย่างที่ 3 สาธยายธรรมเมื่อเขาสาธยายธรรมอยู่ซึมทราบในธรรมมะนั้นโดยเฉพาะเกิดความ ปิติ ปราโมทย์ ก็เป็นสุขชนิดที่ทำให้เกิดจิตเป็นสมาธิ สมาธิมันเห็นตามที่เป็นจริงคือยะถาโพธะญาณทัศนะเกิดความเบื่อหน่ายคลายกำหนัดและหลุดพ้นเมื่อสาธยายธรรมอยู่แท้ๆก็เป็นโอกาสที่บุคคลมีจิตชนิดนั้นที่แจ่มแจ้งโดยธรรมมีปราโมทย์ มีปิติ มีสุขมีสมาธิแล้วก็มียะถาโพธญาณทัศนะมีมีพิทาน มีราคะ และก็มีวิมุติ
อ่านเพิ่มเติม

ธรรมะคืออะไร? จะมีธรรมะได้อย่างไร โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

ธรรมะคืออะไร? จะมีธรรมะได้อย่างไร โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

หน้าที่ 1 – วิวัฒนาการ
เป็นอันว่าอาตมาขอถือเอาว่าท่านทั้งหลายมานี่ต้องการธรรมะจะไม่คำนึงถึงว่าบางคนรู้บางคนยังไม่รู้บางคนรู้มากบางคนรู้น้อยแต่จะขอสรุปความที่จะใช้ได้สำหรับทุกคนซึ่งเสมือนหนึ่งว่าจะเป็นของขวัญปีใหม่เพราะอีกสองสามวันก็จะถึงวันปีใหม่แล้วก็ถือโอกาสซะเลยว่าจะให้ความรู้ในวันนี้ในฐานะเป็นของขวัญสำหรับวันปีใหม่แล้วก็คือสิ่งที่เรียกว่าธรรมะนั่นเองให้ธรรมะในฐานะเป็นของขวัญวันปีใหม่มันจะแปผลกอะไรมันจะแปลกก็ตรงที่ว่าท่านทั้งหลายจะต้องทำให้มันมีธรรมะมากขึ้นกว่าปีที่แล้วมาอย่าให้มันซ้ำซากวนเวียนเลยให้มันก้าวหน้าขึ้นไปตามรำดับตามเวลาที่มันร่วงไปปีหนึ่งมันก็ล่วงไปๆเราจะมาย่ำท้าวซ้ำรอยอยู่นี่มันก็ไม่ไหวนี่ก็เพื่อจะให้สามารถก้าวหน้าไปไม่ต้องซ้ำรอยนั่นเองจึงต้องพูดถึงสิ่งที่เรียกว่าธรรมะนั้นให้เป็นที่เข้าใจ แจ่มแจ้ง ยิ่งๆขึ้นไป อาตมาก็เคยพูดมาหลายครั้งหลายหนแล้วว่าธรรมะคืออะไรแต่เกรงว่าบางคนไม่เคยได้ยินบางคนก็ลืมเสียแล้วบางคนก็จำได้ครึ่งๆกลางๆบางคนก็จำได้ แต่ยังไม่เข้าใจความหมายโดยสมบูรณ์นั้นเรามาพูดถึงสิ่งที่เรียกว่าธรรมะกันอีกสักครั้งหนึ่งเป็นข้อแรกธรรมะคืออะไรเวลานี้ท่านทั้งหลายบางคนก็คงจะนึกอยู่ในใจแล้วว่าธรรมะคืออะไรแล้วก็นึกได้นึกไปตามที่เคยได้ยินได้ฟังแล้วก็ได้ยึดถืออยู่เช่นว่าธรรมะคือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเป็นต้นธรรมะคือสิ่งที่แสดงอยู่บนทำมาตรดังนี้เป็นต้นถ้าอย่างนี้แล้วยังไม่พอยังไม่ถูกตัวธรรมะอันแท้จริงธรรมะคืออะไรขอให้ลูกหลานเหล่านี้รวมทั้งคุณ คุณป้าคุณน้าคุณลุงทั้งหลายด้วยช่วยจำกันไว้เป็นหลักจนตลอดชีวิตจะดีกว่าถ้าจำไว้อย่างถูกต้องและเป็นหลักแล้วมันจะง่ายจะสะดวกแก่การจะมีธรรมะยิ่งๆขึ้นไป เมื่อถามว่าธรรมะคืออะไรจงตอบว่าธรรมะคือการกระทำที่ถูกต้องคือการกระทำที่ถูกต้อง ถูกต้องแก่ความเป็นมนุษย์ของตนทุกขั้นทุกตอนแห่งวิวัฒนาการช่วยจำกันไว้ให้แม่นยำเป็นบทจำกัดความเป็นบทนิยามว่าธรรมะคือการกระทำที่ถูกต้อง ถูกต้องแก่อะไรถูกต้องแก่ความเป็นมนุษย์ความเป็นมนุษย์ของใครของแต่ละคนละคนถูกต้องอย่างไรถูกต้องทุกๆขั้นตอนแห่งวิวัฒนาการของตนๆ
อ่านเพิ่มเติม

. . . . . . .